คำว่า "เรียนหนังสือ" ของพวกคุณคืออะไร

แก้ไขข้อความเมื่อ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 3
เรียนเยอะมากเกินไปจริง ๆ เช่น
- วิชาคณิตศาตร์ จะให้เรียนแต่ละเรื่องมากไปทำไม เช่น สูตรคณิตศาสตร์เป็นร้อย ๆ สูตร
ถามว่าเราจำเป็นต้องรูู้จักสูตรมาก ๆ ขนาดนั้นเพื่ออะไร รู้ไปก็ไม่ได้ใช้ รู้เพื่อสอบอย่างเดียวจริง ๆ  
สอบเสร็จก็ลืมเพราะไม่รู้จะเอาไปใช้ตอนไหนในชีวิตประจำวัน ต้องเอาูสูตรพวกนั้นไปคำนวณอะไรในชีวิตประจำวัน ?
- วิชาชีววิทยา ต้องเรียน ต้องท่องจำชื่อไฟลัม ชื่อเซลล์สารพัด ชื่อวิทยาศาสตร์จำนวนมากมาย เพื่อสอบ สอบเสร็จก็ลืม ไม่ได้ใช้ในชีวิตประจำวัน
- วิชาเคมี ต้องนั่งท่องตารางธาตุ ท่องจำชื่อธาตุ ท่องจำคุณสมบัติธาตุเป็นร้อย ๆ ตัว แล้วยังมีสูตรคำนวณเคมีอีกเป็นร้อยสูตรไว้ทำข้อสอบ
- วิชาฟิสิกส์ สูตรและกฎ มีเป็นร้อยที่ต้องท่องจำให้ได้เวลาทำข้อสอบ ถึงจะมีอธิบายเหตุผลก็จริงแต่เป็นเรื่องรอง

ทั้งหมดนี้ยังไม่นับ เทคนิค สูตรลัด อะไร ๆ ต่าง ๆ ในแต่ละวิชาที่ต้องท่องจำไว้เพื่อทำข้อสอบจำนวนมาก ๆ ในเวลาสั้น ๆ เพื่อให้ได้คะแนนเยอะ ๆ อีก

ไปถามคนเรียนสายวิทย์ทุกคนเลยว่าเรียนจบมาทำมาหากินทุกวันนี้เนี้ย ยังจำได้ไหม ? แล้วได้เอามาใช้ในชีวิตประจำวันไหม ?
คำตอบคือจำไม่ได้เลย หรือคุ้น ๆ ชื่อว่าเคยเรียนมา และไม่เคยเอาสูตรอะไร ๆ มาใช้ในชีวิตประจำวันเลย

เขาอ้างว่าต้องเรียน เพื่อให้รู้ไม่โง่ เรียนเพื่อฝึกการคิดให้มีเหตีมีผลให้ฉลาดไง ? แต่มันไม่จริงเลย
จริง ๆ ทุกวิชาก็ต้องเรียนมันสำคัญ  แต่ตัดเนื้อหาออกไปให้เหลือน้อย ๆ ก็ได้ แล้วเน้นที่การวิเคราะห์ค้นหาข้อมูลเอาเอง
ตัวอย่าง วิชาคณิตศาสตร์ก็เรียนเฉพาะสูตรสำคัญ ๆ ส่วนที่เหลือเป็นในแง่ศึกษาเพิ่มเอาเองก็พอ ใครอยากรู้สูตรเยอะ ๆ ก็ไปหาอ่านเอาเอง
นี่คือเหตุผลที่เด็กไทยไม่เก่งการพิสูจน์ในวิชาคณิตศาสตร์ เพราะการพิสูจน์ต้องใช้การอ้างเหตุผลเพื่อหาคำตอบ มันคือหลักคิดในทุกวิชาเลย
แต่เด็กไทยเก่งจำสูตร จำเทคนิคแต่ละวิชาไปแก้สูตรแทนค่าหาคำตอบเป็นตัวเลข แต่พิสูจน์ ให้คำอธิบายเป็นเหตุเป็นผลไ่ม่เก่งหรือไม่เป็นเลย !

สรุปคือเราไม่ได้เรียนมากวิชาไป แต่เรียนเนื้อหาในแต่ละรายวิชามากเกินไป เกินความจำเป็นต้องรู้ต้องใช้เหมือนกับว่าจบ ม.ปลาย ไปแล้วจะไปเป็นหมอหรือนักวิทยาศาสตร์ทำงานได้ทันเลย ?
เน้นการคิดแบบให้เหตุผลเป็นพื้นฐานจะดีกว่าไหม ? เพราะต้องไปเรียนมหาลัยต่ออีกอยู่ดีแหละ ต้องไปรื้อฟื้นอีกตอนปี 1 อยู่ดี
แต่หลักสูตรมัธยม ก็ไปอัดเนื้อหาเยอะ ๆ สูตรเยอะ ๆ ให้รู้มาก ๆ จำให้ได้มาก ๆ ก็เลยต้องบ้าเรียนกวดวิชาจนปวดหัวอย่างที่เห็นเพื่อเนื้อหาัมันมากเกินจะต้องรู้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่