การรับน้อง กับ การคอร์รัปชัน

คอร์รัปชันในประเทศไทยเกิดขึ้นมาตั้งแต่ก่อนที่ใครก็ตามที่อ่านจะเกิดเสียอีก
พูดได้ว่าเราลืมตาขึ้นมา คอร์รัปชันก็กลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของเราโดยไม่รู้ตัวเสียแล้ว
เราต้องมาทำความเข้าใจกันก่อนว่าคอร์รัปชันคืออะไร
คอร์รัปชันถูกให้ความหมายไว้มากมาย แต่จะกล่าวได้ง่ายๆคือ การใช้อำนาจ และ/หรือ การกระทำอันไม่ชอบด้วยกฎหมาย เพื่อให้ได้มาซึ่งประโยชน์ส่วนตน ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายรับหรือฝ่ายให้

สิ่งที่น่ากลัวบนโลกใบนี้ ไม่ใช่อะไรที่เห็นได้ชัดอย่างสีขาวหรือสีดำหรอกครับ
แต่มันคือ สีเทา

คนหลายคนทำการคอร์รัปชันไป ทั้งๆที่ตัวเองก็ไม่รู้ว่ามันเป็นเรื่องที่เข้าข่ายการคอร์รัปชัน หรืออาจจะรู้ แต่หลับตาข้างนึง นี่แหละครับ สีเทา

สังคมไทยเป็นสังคมแห่งการให้ ความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ง่ายๆ สบายๆ
เราอยู่กับมันมา จนเป็นเรื่องปกติ
ทั้งการโกง การติดสินบน การทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น การเล่นพรรคพวก ฯลฯ
เราอยู่กับมันมา ตั้งแต่เด็กจนโต จนมันได้กลายมาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตไปแล้ว

แล้วการรับน้องคืออะไร
การรับน้องมีหลายรูปแบบมาก
ตั้งแต่การแนะนำน้องถึงมหาลัย คณะ  การเล่นเกม เต้น ร้องเพลงเชียร์ ฝึกบูม ฯลฯ

และการทำกิจกรรมเหล่านั้น ก็มีทางมากมายที่จะทำได้ ตั้งแต่การชักชวน พูดดีๆ ขอร้อง ดราม่า กดดัน ตะคอก บังคับ

ในที่นี้จะขอพูดถึงการรับน้องแบบที่กำลังเป็นปัญหาถกเถียงกันอยู่ในทุกวันนี้ นั่นก็คือการรับน้องแบบที่มีการตะคอก บังคับให้ทำในสิ่งที่ คนทำ ทำแล้วจะไม่สบายใจลำบากใจ อึดอัดใจ ขัดต่อเจตนารมย์ของคนทำ และการรับน้องแบบที่อาจนำไปสู่อันตรายของผู้ถูกกระทำได้

จุดมุ่งหมายของการรับน้องในรูปแบบนี้ (กล่าวโดยคนที่ถูกกระทำและก้าวขึ้นมาเป็นผู้กระทำ)
คือการทำให้น้องมีความอดทนต่ออุปสรรคและแรงกดดันที่จะเผชิญต่อไปในชีวิตการงานข้างหน้า
ทำให้น้องๆรักกัน
สร้างความสามัคคีในหมู่คณะ
สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นเรื่องที่ดี

แต่ จริงๆแล้วก็ยังมีเหตุผลอื่นๆ ที่เป็น hidden agenda อย่างอื่นอีก
นั่นคือการเคารพผู้ใหญ่, การเชื่อฟัง(ห้ามเถียง), การสร้างความเกรง(กลัว)ต่อกลุ่มรุ่นพี่
ซึ่งก็มีทั้งข้อดีและข้อเสีย
ข้อดีคือ ใครๆก็ชอบคนที่อ่นน้อมถ่อมตน ไม่แข็งกระด้างอยู่แล้ว

แต่ข้อเสียที่ตามมา คือการที่บังคับให้น้องๆต้องฟัง ห้ามพูด ห้ามเถียง ทำตาม instructions ทุกอย่าง
มันจะโอเคถ้านี่คือการฝึกทหาร, ตำรวจ เพราะอาชีพนั้นๆ ต้องการวินัยในการปฏิบัติหน้าที่ คำสั่งของ
เจ้านายถือเป็นคำขาด

แต่การนำวิธีเหล่านี้มาใช้กับนิสิตนักศึกษาใหม่ที่พึ่งเข้าปีหนึ่งนั้น เหมาะสมจริงแล้วหรือ

สิ่งนี้เป็นหนึ่งในการการสร้างคนรุ่นต่อๆไปจากตัวเอง ให้เข้าสู่ระบบอุปถัมถ์หรือเปล่า
การฟังรุ่นพี่
เกรงใจพี่
สั่งยังไง ทำตามอย่างนั้น โดยไม่ใช้จิตสำนึกของตัวเองไตร่ตรองดูก่อน ว่าทำไปเพื่ออะไร ทำแล้วได้อะไร

แล้วตกลงฉันกำลังทำสิ่งที่ถูกต้องอยู่ไหม

ไม่รู้หรอกว่ามันผิดหรือถูก ดีหรือไม่ดี
แต่เพราะคนส่วนใหญ่เค้าทำกัน เราก็เลยต้องทำตาม
เพราะถ้าไม่ทำ เราก็จะกลายเป็นแกะดำ
ถ้าไม่ทำ เราจะแปลก พี่ไม่เอา เพื่อนไม่ยุ่ง ไม่มีรุ่น หรอ?

connection เป็นสิ่งที่ดีสำหรับการทำงานนะครับ
แต่ผมก็ไม่ทราบว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ที่ connection กลายมาเป็น “ สิ่งที่สำคัญที่สุดในการทำงาน”
การใช้ connection มันไม่ขาวหรอกนะครับ

“สิ่งที่ถูกต้องคือถูกต้อง แม้ไม่มีใครทำสิ่งนั้น สิ่งที่ผิดคือผิด แม้ทุกคนทำสิ่งนั้น”
ศ.ดร.สังเวียน อินทรวิชัย


อยากให้ลองมาพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันนะครับ
อยากให้ใช้เหตุผลกันครับ
ขอบคุณครับ ยิ้ม

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่