เห็นกระแสต่อต้านประเพณีรับน้องมาแรงเรื่อยๆ ไม่ว่าจะมีการทำร้ายร่างกาย หรือให้เล่นกิจกรรมอันตรายหรือไม่ก็ตาม ก็ถูกต่อต้านหมด
ล่าสุดก็มีคำถามว่า
"การฝึกโดนว้าก-โดนกดดันทางใจ" ( ไม่ถึงกับทำร้ายร่างกาย ) มีประโยชน์กับการทำงานจริงอย่างที่อ้างกันหรือไม่? หลายคนไม่เชื่อเช่นนั้น ก็ยกว่าจบมาแล้ว ทำงานดีเด่น เจอเจ้านายดี เพื่อนร่วมงานดี ฯลฯ เลยไม่เห็นความจำเป็นก็ว่ากันไป
แต่ถ้าถามผม ผมว่าการฝึกพวกนี้มีประโยชน์อยู่บ้างจริงๆ ครับ แต่เฉพาะเชิงคำพูดและบรรยากาศในที่ทำงานนะ ไม่ถึงกับทำร้ายร่างกาย
------------------
เอาง่ายๆ ผมรวบรวมจากเรื่องที่หลายๆ คนมาระบายในพันติ๊ป เท่าที่จำได้นะครับ
- สัมภาษณ์งาน คนสัมภาษณ์ใช้คำพูดกดดัน ปั่นประสาท
- เข้าทำงานช่วงแรกๆ ไม่มีพนักงานเก่าคนไหนใจดีสอนงานเลย หรือถึงสอนก็สอนไปจิกกัดไป
- เจอหัวหน้างาน เจอเจ้านาย โยนงานมาให้ทั้งๆ ที่บางทีก็ไม่ใช่งานถนัด ไม่เคยเรียนรู้มาก่อน แถมจะเอาด่วนด้วยนะ
- บางครั้งก็เจองานด่วน ต้องทำเกินเวลาปกติ OT ก็ไม่ได้
- เจอเพื่อนร่วมงานขี้เมาท์ ช่างนินทา
- หนักกว่านั้น ดันเจอเจ้านาย เจอหัวหน้างานหูเบา เชื่อพวกบ่างช่างยุอีก
- ถ้าเป็นงานบริการ งานที่เจอคนมากๆ เจอลูกค้าแนวบ้าๆ บอๆ อีก
-------------------
ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นได้ทั่วไปสำหรับการทำงานในบ้านเราครับ ( ไม่รู้บ้านอื่นเมืองอื่นมีแบบนี้ไหม? )
พวกนี้ไม่ว้าก ไม่ด่าหยาบๆ คายๆ ( ยกเว้นลูกค้าและเถ้าแก่-อาซ้อบางราย ) แต่พูดมาที แสดงออกมาที มันจิกกัดไปถึงหัวใจครับ บั่นทอนขวัญกำลังใจได้เลย
บางคนทนไม่ได้ ไปด่าแรงๆ กลับ หรือทำร้ายร่างกาย ก็พลาดทันที Game Over หรือเสียกำลังใจมากๆ ท้อแท้ ขอลาออก ก็ Game Over อีก
ทำไมการฝึกทหารหรือสายลับ-จารชนถึงมี Part ฝึกการโดนทรมาน โดนดูถูกดูหมิ่นเหยียดหยาม ก็เพราะแบบนี้แหละ เวลาไปรบ ไปหาข่าว ความกดดันมันเยอะ เหนื่อย หิว บางทีถูกจับได้ก็ถูกซ้อมเพื่อรีดความลับ
ชีวิตคนธรรมดาก็ไม่ได้ต่างกันหรอกครับ Ok อาจจะไม่มีการทำร้ายร่างกายหรือด่าหยาบๆ คายๆ แต่การกดดันด้วยสงครามน้ำลาย-สงครามจิตวิทยาพวกนี้ พบเห็นได้ทั่วไป
คนที่ได้ทำงานในองค์กรที่ดี เจ้านายดี เพื่อนร่วมงานดี ก็ถือว่าโชคดีไป แต่อีกหลายคนไม่ได้โชคดีเช่นนั้น ต้องทนกับเจ้านายและเพื่อนร่วมงานแย่ๆ
เจ้านายจำนวนไม่น้อยไม่สนหรอกว่าคุณจะเป็นยังไง รู้แต่สั่งงานแล้วต้องทำให้ได้เท่านั้น ขณะเดียวกัน เพื่อนร่วมงานอีกไม่น้อย หน้าฉากอาจยิ้มแย้ม แต่เบื้องหลังกลับพร้อมจะเลื่อยขาเก้าอี้คุณได้ทุกเมื่อหากคุณพลาด
เรื่องพวกนี้น่ากลัวและแรงกว่าการโดนว้ากในมหา'ลัยเยอะครับ
อย่าลืมงานไม่ได้หาง่ายๆ นะครับ จะให้ลาออกเปลี่ยนงานบ่อยๆ คงไม่ใช่หนทางที่ดีนัก ทางเดียวคือต้องสู้ ต้องอดทน ต้องอยู่ให้รอด ทำให้คนพวกนี้ยอมรับให้ได้
แต่จะทำแบบนั้นได้ จิตใจต้องเข้มแข็งมากนะครับ ซึ่งการฝึกทนถูกว้าก ถูกสั่งให้ทำอะไรบ้าๆ บอๆ ( ในระดับที่ไม่เป็นอันตรายเกินไป ) มันก็เป็นวิธีการหนึ่งสำหรับการเตรียมตัวเข้าสู่
"โลกอันโหดร้ายของผู้ใหญ่" นั่นแหละ
ตกลงแล้ว..การฝึกพวกนี้มันไร้ประโยชน์จริงๆ หรือเป็นเพราะคนที่บอกว่ามันไร้ประโยชน์ มีเงื่อนไขอื่นๆ ที่ทำให้ไม่ต้องเจอ-ต้องทนกับสิ่งที่ว่ามาข้างต้นกันแน่?
การรับน้องใหม่ เป็นการฝึกรับมือชีวิตวัยทำงานที่ไร้ประโยชน์จริงๆ หรือ?
ล่าสุดก็มีคำถามว่า "การฝึกโดนว้าก-โดนกดดันทางใจ" ( ไม่ถึงกับทำร้ายร่างกาย ) มีประโยชน์กับการทำงานจริงอย่างที่อ้างกันหรือไม่? หลายคนไม่เชื่อเช่นนั้น ก็ยกว่าจบมาแล้ว ทำงานดีเด่น เจอเจ้านายดี เพื่อนร่วมงานดี ฯลฯ เลยไม่เห็นความจำเป็นก็ว่ากันไป
แต่ถ้าถามผม ผมว่าการฝึกพวกนี้มีประโยชน์อยู่บ้างจริงๆ ครับ แต่เฉพาะเชิงคำพูดและบรรยากาศในที่ทำงานนะ ไม่ถึงกับทำร้ายร่างกาย
------------------
เอาง่ายๆ ผมรวบรวมจากเรื่องที่หลายๆ คนมาระบายในพันติ๊ป เท่าที่จำได้นะครับ
- สัมภาษณ์งาน คนสัมภาษณ์ใช้คำพูดกดดัน ปั่นประสาท
- เข้าทำงานช่วงแรกๆ ไม่มีพนักงานเก่าคนไหนใจดีสอนงานเลย หรือถึงสอนก็สอนไปจิกกัดไป
- เจอหัวหน้างาน เจอเจ้านาย โยนงานมาให้ทั้งๆ ที่บางทีก็ไม่ใช่งานถนัด ไม่เคยเรียนรู้มาก่อน แถมจะเอาด่วนด้วยนะ
- บางครั้งก็เจองานด่วน ต้องทำเกินเวลาปกติ OT ก็ไม่ได้
- เจอเพื่อนร่วมงานขี้เมาท์ ช่างนินทา
- หนักกว่านั้น ดันเจอเจ้านาย เจอหัวหน้างานหูเบา เชื่อพวกบ่างช่างยุอีก
- ถ้าเป็นงานบริการ งานที่เจอคนมากๆ เจอลูกค้าแนวบ้าๆ บอๆ อีก
-------------------
ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นได้ทั่วไปสำหรับการทำงานในบ้านเราครับ ( ไม่รู้บ้านอื่นเมืองอื่นมีแบบนี้ไหม? )
พวกนี้ไม่ว้าก ไม่ด่าหยาบๆ คายๆ ( ยกเว้นลูกค้าและเถ้าแก่-อาซ้อบางราย ) แต่พูดมาที แสดงออกมาที มันจิกกัดไปถึงหัวใจครับ บั่นทอนขวัญกำลังใจได้เลย
บางคนทนไม่ได้ ไปด่าแรงๆ กลับ หรือทำร้ายร่างกาย ก็พลาดทันที Game Over หรือเสียกำลังใจมากๆ ท้อแท้ ขอลาออก ก็ Game Over อีก
ทำไมการฝึกทหารหรือสายลับ-จารชนถึงมี Part ฝึกการโดนทรมาน โดนดูถูกดูหมิ่นเหยียดหยาม ก็เพราะแบบนี้แหละ เวลาไปรบ ไปหาข่าว ความกดดันมันเยอะ เหนื่อย หิว บางทีถูกจับได้ก็ถูกซ้อมเพื่อรีดความลับ
ชีวิตคนธรรมดาก็ไม่ได้ต่างกันหรอกครับ Ok อาจจะไม่มีการทำร้ายร่างกายหรือด่าหยาบๆ คายๆ แต่การกดดันด้วยสงครามน้ำลาย-สงครามจิตวิทยาพวกนี้ พบเห็นได้ทั่วไป
คนที่ได้ทำงานในองค์กรที่ดี เจ้านายดี เพื่อนร่วมงานดี ก็ถือว่าโชคดีไป แต่อีกหลายคนไม่ได้โชคดีเช่นนั้น ต้องทนกับเจ้านายและเพื่อนร่วมงานแย่ๆ
เจ้านายจำนวนไม่น้อยไม่สนหรอกว่าคุณจะเป็นยังไง รู้แต่สั่งงานแล้วต้องทำให้ได้เท่านั้น ขณะเดียวกัน เพื่อนร่วมงานอีกไม่น้อย หน้าฉากอาจยิ้มแย้ม แต่เบื้องหลังกลับพร้อมจะเลื่อยขาเก้าอี้คุณได้ทุกเมื่อหากคุณพลาด
เรื่องพวกนี้น่ากลัวและแรงกว่าการโดนว้ากในมหา'ลัยเยอะครับ
อย่าลืมงานไม่ได้หาง่ายๆ นะครับ จะให้ลาออกเปลี่ยนงานบ่อยๆ คงไม่ใช่หนทางที่ดีนัก ทางเดียวคือต้องสู้ ต้องอดทน ต้องอยู่ให้รอด ทำให้คนพวกนี้ยอมรับให้ได้
แต่จะทำแบบนั้นได้ จิตใจต้องเข้มแข็งมากนะครับ ซึ่งการฝึกทนถูกว้าก ถูกสั่งให้ทำอะไรบ้าๆ บอๆ ( ในระดับที่ไม่เป็นอันตรายเกินไป ) มันก็เป็นวิธีการหนึ่งสำหรับการเตรียมตัวเข้าสู่ "โลกอันโหดร้ายของผู้ใหญ่" นั่นแหละ
ตกลงแล้ว..การฝึกพวกนี้มันไร้ประโยชน์จริงๆ หรือเป็นเพราะคนที่บอกว่ามันไร้ประโยชน์ มีเงื่อนไขอื่นๆ ที่ทำให้ไม่ต้องเจอ-ต้องทนกับสิ่งที่ว่ามาข้างต้นกันแน่?