เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2558 ที่ผ่านมา M-PASS ได้เริ่มเปิดให้ใช้งาน ในทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง วงแหวนรอบนอกฝั่งตะวันออก และ Motorway กรุงเทพ-ชลบุรี
ซึ่งทำให้ผมคิดว่า เมืองไทยเราได้มี Technology ใหม่เพิ่มมากขึ้นมาอีกหนึ่งรายการซึ่งไม่รู้ว่าจะเป็นเรื่องที่น่ายินดีหรือเปล่า ซึ่งการมี Technology เพิ่มมากขึ้น อาจไม่ได้หมายความว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดี เสมอไป...
ถ้าหากมองย้อนกลับไป เมืองไทยเรามี Technology เพิ่มมากขึ้นมาโดยตลอด
-
BTS
-
MRT
-
Airport-Link
-
Easy Pass
- และที่สดๆร้อนๆ ล่าสุดเลยก็คือ
M-Pass
ซึ่ง กรณีของ M-Pass เกิดขึ้นใหม่มาอย่างไร ใครไปคุยกัน หรือไปตกลงกันที่ไหน ยังไง ด้วยเงื่อนไขข้อตกลงอะไรกันก็ไม่ทราบ
แต่ถ้าหากลองคิดดูดีๆ ความเหมือนกันของละบริการนั้น คือจะเป็นบริการในรูปแบบ Debit ซึ่งเราต้องเติมเงินเข้าไปก่อน ซึ่งแน่นอน ผู้ให้บริการแต่ละที่ก็สามารถนำเงินก้อนโตจากประชาชนไปหมุน หรือ กินดอกเบี้ยได้กันได้อย่างสบายๆ ซึ่งไม่ทราบว่านี่คือหนึ่งในเหตุผลรึเปล่า ที่ ใครๆ ก็อยากที่จะเปิดการให้บริการ Technology ใหม่บนผลประโยชน์ของตัวเอง โดยที่ไม่ได้มองถึงความยุ่งยาก และไม่สะดวกของประชาชนจริงๆสักที ?
ส่วนข่าวการรวมกันของแต่ละที่ก็เป็นเรื่องที่น่าขัน เพราะแต่ละที่ล้วนมีแต่โครงการ ตั้งแต่ BTS กับ MRT ก็ไม่รู้กี่ปีแล้วที่ได้ยินมา ส่วน M-PASS กับ Easy-Pass ก็น่าจะเป็นเช่นเดียวกัน ตามระเบียบ
ไว้อาลัยขั้นตอนการเดินทางไปได้เลยครับ
ไม่ทราบด้วยเหตุผลประการใด ที่
- Easy-Pass สามารถใช้งานที่วงแหวนทิศใต้ได้(บางนา-สุขสวัสดิ์-พระราม2) แต่ไม่สามารถใช้งานที่ วงแหวนตะวันออกได้ (บางนา-บางปะอิน)
- ผมเคยเห็นการวางแผนที่จะใช้งาน Easy-Pass (จำได้ว่าเห็นป้าย Easy-Passชัดเจน แต่บอกว่ายังไม่เปิดให้บริการ) ตั้งแต่ปลายปี 2556 ครั้งเมื่อเปลี่ยนระบบการเก็บเงินของ Motorway ไปเป็นการเก็บเงินปลายทาง แต่จนปัจจุบัน(ผ่านมาปีครึ่งแล้ว) ก็ยังใช้การไม่สามารถเปิดให้บริการได้ จนแล้วจนรอดก็เปลี่ยนไปเป็น M-PASS
หากเรื่องที่กล่าวถึงข้างต้น เป็นความสามัคคีของหน่วยงานต่างๆที่จะกำหนดแนวทางการให้บริการประชาชนกันแบบต่างคนต่างคิด ต่างคนต่างเก็บเงิน ต่างคนต่างบริการ ในรูปแบบที่ปราศจากความสามัคคี และไม่คำนึงถึงความสะดวกประชาชน จากภาคบริการสังคม
ประเทศไทยของเราคงจะต้องรอคอยความสามัคคีของคนในชาติกันอีกแสนนาน...
ปล.
- สิ่งที่เขียนข้างต้น เป็นความคิดเห็นส่วนตัว
- ผมเป็นเพียง System Analyst ในบริษัทเล็กๆแห่งหนึ่ง และไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับหน่วยงานใดๆ ที่กล่าวถึงข้างต้นทั้งสิ้น
M-PASS vs Easy-Pass + BTS vs MRT vs Airport-Link ความสะดวกของประชาชน(หรือเปล่า?) บนสาระพัดมาตรฐานของ Technology ของไทย
ซึ่งทำให้ผมคิดว่า เมืองไทยเราได้มี Technology ใหม่เพิ่มมากขึ้นมาอีกหนึ่งรายการซึ่งไม่รู้ว่าจะเป็นเรื่องที่น่ายินดีหรือเปล่า ซึ่งการมี Technology เพิ่มมากขึ้น อาจไม่ได้หมายความว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดี เสมอไป...
ถ้าหากมองย้อนกลับไป เมืองไทยเรามี Technology เพิ่มมากขึ้นมาโดยตลอด
- BTS
- MRT
- Airport-Link
- Easy Pass
- และที่สดๆร้อนๆ ล่าสุดเลยก็คือ M-Pass
ซึ่ง กรณีของ M-Pass เกิดขึ้นใหม่มาอย่างไร ใครไปคุยกัน หรือไปตกลงกันที่ไหน ยังไง ด้วยเงื่อนไขข้อตกลงอะไรกันก็ไม่ทราบ
แต่ถ้าหากลองคิดดูดีๆ ความเหมือนกันของละบริการนั้น คือจะเป็นบริการในรูปแบบ Debit ซึ่งเราต้องเติมเงินเข้าไปก่อน ซึ่งแน่นอน ผู้ให้บริการแต่ละที่ก็สามารถนำเงินก้อนโตจากประชาชนไปหมุน หรือ กินดอกเบี้ยได้กันได้อย่างสบายๆ ซึ่งไม่ทราบว่านี่คือหนึ่งในเหตุผลรึเปล่า ที่ ใครๆ ก็อยากที่จะเปิดการให้บริการ Technology ใหม่บนผลประโยชน์ของตัวเอง โดยที่ไม่ได้มองถึงความยุ่งยาก และไม่สะดวกของประชาชนจริงๆสักที ?
ส่วนข่าวการรวมกันของแต่ละที่ก็เป็นเรื่องที่น่าขัน เพราะแต่ละที่ล้วนมีแต่โครงการ ตั้งแต่ BTS กับ MRT ก็ไม่รู้กี่ปีแล้วที่ได้ยินมา ส่วน M-PASS กับ Easy-Pass ก็น่าจะเป็นเช่นเดียวกัน ตามระเบียบ
ไว้อาลัยขั้นตอนการเดินทางไปได้เลยครับ
ไม่ทราบด้วยเหตุผลประการใด ที่
- Easy-Pass สามารถใช้งานที่วงแหวนทิศใต้ได้(บางนา-สุขสวัสดิ์-พระราม2) แต่ไม่สามารถใช้งานที่ วงแหวนตะวันออกได้ (บางนา-บางปะอิน)
- ผมเคยเห็นการวางแผนที่จะใช้งาน Easy-Pass (จำได้ว่าเห็นป้าย Easy-Passชัดเจน แต่บอกว่ายังไม่เปิดให้บริการ) ตั้งแต่ปลายปี 2556 ครั้งเมื่อเปลี่ยนระบบการเก็บเงินของ Motorway ไปเป็นการเก็บเงินปลายทาง แต่จนปัจจุบัน(ผ่านมาปีครึ่งแล้ว) ก็ยังใช้การไม่สามารถเปิดให้บริการได้ จนแล้วจนรอดก็เปลี่ยนไปเป็น M-PASS
หากเรื่องที่กล่าวถึงข้างต้น เป็นความสามัคคีของหน่วยงานต่างๆที่จะกำหนดแนวทางการให้บริการประชาชนกันแบบต่างคนต่างคิด ต่างคนต่างเก็บเงิน ต่างคนต่างบริการ ในรูปแบบที่ปราศจากความสามัคคี และไม่คำนึงถึงความสะดวกประชาชน จากภาคบริการสังคม
ประเทศไทยของเราคงจะต้องรอคอยความสามัคคีของคนในชาติกันอีกแสนนาน...
ปล.
- สิ่งที่เขียนข้างต้น เป็นความคิดเห็นส่วนตัว
- ผมเป็นเพียง System Analyst ในบริษัทเล็กๆแห่งหนึ่ง และไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับหน่วยงานใดๆ ที่กล่าวถึงข้างต้นทั้งสิ้น