ก็ไม่ใช่อะไรครับ ดราม่าร้อนๆที่เกิดจาก โฆษณามันฝรั่งยี่ห้อหนึ่ง
http://drama-addict.com/2015/08/04/%E0%B8%A1%E0%B8%A7%E0%B8%A2%E0%B8%9C%E0%B8%A1%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B9%80%E0%B8%A8%E0%B8%A9/
ที่มาจากกระทู้นี้
http://pantip.com/topic/33999055
ทำไมผมถึงขึ้นคำว่า ลหายมุมทั่วโลก เพราะในต่างประเทศก็เคยมีเคสคนออกมาโวยวายแบบนี้
เช่นในอังกฤษ ก็เคยมีรายการชื่อ Detective BullS**t ออกมาตั้งประเด็นว่า โรงหนังcineplexในประเทศพวกเขา(โรงหนังแฟรนไชน์จำพวกเดียวกับ SF, Major ของไทยเรา) ตั้งราคาของกินแพงเวอร์ไปไหม ฟันกำไรเกินไปหรือเลป่า เพราะราคามันต่างจากซ์้ขอา้งนอกเยอะมากๆ ทีมงานรายการถึงขั้นไปตั้ง food truck ขายของกินแบบเดียวกันกับในโรงหนังถึงหน้าโรงหนังพวกนั้นเพื่อเป็นการประชดกันเลยทีเดียว จำได้ว่าหนึ่งในโรงหนังพวกนั้นให้เหตุผลว่าที่ห้ามเพราะของกินอย่างฮอทด็อก แฮมเบอร์เกอร์ มันทำให้เกิดกลิ่น
รายการนี้ยังเคยจับผิดในหลายเรื่องมาแล้ว เช่น ราคาแพงเวอร์ของน้ำดื่มบรรจุขวดเมื่อเทียบกับต้นทุนและก็ไม่ได้มีอะไรเริศเลอร์ตามที่โฆษณา // ดีวีดีสอนออกกำลังกายด้วยชื่อทฤษฎีแปลกๆที่ส่วนมากไม่ถูกหลักการการออกำลังกายที่ถูกต้องตามที่กล่าวอ้าง แต่ผลิตออมกาขายกันเกลื่อน // ร้านเฟอร์นิเจอร์ร้านหนึ่ง(เป้นร้านแฟรนไชน์แบบพวกIKEAหรือIndex Livingmall)ที่ชวนสงสัยเรื่องโปรโมชั่นลดราคาที่มีตลอดปีตลอดชาติ โดยราคาก่อนลดที่อยู่ในโฆษณานั้นไม่เคยมีใครเห็นเลย จนดูเหมืนอว่านี่คือเซลล์หลอกหรือเปล่า // การจองทัวร์แบบออนไลน์ที่ตอนจองราคาหนึ่ง พอมาถึงบริษัทดันบอกอีกราคาหนึ่งแล้วบอวก่ามีค่านูนนี่นั่นเพิ่มเข้ามา // ซุปเปอร์มาเก็ตที่ขายพวกผลไม้หรือผักแบบใส่แพ็คพลาสคิกที่ราคาแพงมาก ทัง้ที่ตัวผักและผลไม้ก็ขนิดเดียวกันกบัตามพวกร้านของชำข้างนอก....และคงใีอีกลหายตอนแต่ผมได้ดูแค่พวกนี้กับไม่ได้จำรายละเอียดทั้งหมด
ข้มอูลของรายการนี้
http://www.imdb.com/title/tt1013863/
กับนานหลายปีแล้ว ผมเคยอ่านข่าวของ Yahoo ที่พูดถึงเรื่อง สินคา้ที่ราคาส่วนมากนั้นเกินจริง ซึง่มี ของกินหน้าโรงหนัง บัตรอวยพร หนังสือเรียนระดับมหาวิทยาลัย/วิทยาลัย น้ำดื่มบรรจุขวด หมึกprinter และพวกสินค้าแฟชั่นที่มีbrand name...และนี่คือเนื้อข่าว ที่ผมเคยโพสไว้ในเว็บฯหนึง่เมื่อนานมาก
Unless you're filthy rich, you've probably noticed that movie theater popcorn costs an arm and a leg. Still, for some unknown reason, countless consumers shell out the big bucks for this greasy flick-food.
Of course, movie theater snacks aren't the only budget busters. Just think about the exorbitant cost of greeting cards, printer ink and bottled water. The sky-high price tags on those products are enough to send today's cash-strapped consumers spiraling into debt. Yet, we continue to cough up the cash for these absurdly expensive items.
Here are six outrageously overpriced products that consumers can't seem to live without.
1. ป๊อบคอร์นที่ขายหน้าโรงหนัง
At the grocery store, microwave popcorn runs about $3 per box, and each box includes three 3.5 ounce bags. So why on earth would consumers even consider paying a whopping $6 for a single medium-sized bag of popcorn in the movie theater? No one knows exactly why - but for some bizarre reason, movie-goers continue to drain their wallets to crunch on a bag full of those greasy little nuggets during their favorite film.
After considering that movie theaters purchase popcorn in bulk, the average markup of movie theater popcorn is a whopping 1275%! At that steep price, you'd think those buttery bags were laced with gold.
2. บัตรอวยพร
Since when does a folded up piece of paper cost $2.99? Since someone slaps a precious kitty picture and a cleverly written message on it and then stamps the back of it with a well-known logo. That's right - we're talking about those pricey greeting cards. Many consumers spend hours poring over the neatly arranged stacks in the greeting card aisle, searching for the perfect message for their sister's birthday, their parent's anniversary or "Just Because."
The average greeting card costs between $2 and $4, and we consumers don't seem to think twice about paying that precipitous price. The markup is between 100 and 200% - which is not quite as shocking as movie theater popcorn, but it adds up quickly. When you consider how many of those paper jewels you buy each year, it's enough to send you running for the construction paper and markers. After all, it only costs a few cents to create a home-made card.
3.หนังสือเรียนระดับ college
In 2010, the annual in-state cost for the typical state university soared to more than $15,000, and private colleges now charge an average of $35,600 a year. As if college kids (and their parents) aren't financially drained enough, there's yet another inflated price they face: college textbooks. College students pay an average of $900 a year on textbooks and other supplies.
College textbook prices have skyrocketed by 186% since 1986, and these expensive volumes of knowledge now account for 26% of the overall cost of college. Unfortunately, broke college students are required to purchase these costly books for their classes. At least they can try to sell their books back to local book store at the end of the semester - for a few measly bucks.
4. น้ำดื่มบรรจุขวด
You've probably heard that "Evian" is simply "naïve" spelled backwards. OK, so the well-known company probably did not choose their name for that reason - but many people believe that consumers who buy bottled water are certainly naïve. After all, water is one of the most abundant resources in the world and is available for free from countless water fountains and sinks across the nation. Yet, many consumers are still willing to pay $3 a bottle of it.
In 2009, the U.S. Congress revealed that about 45% of bottled water comes from municipal taps - and then the bottled water company may or may not do some additional filtering before pouring it in their logo-stamped bottles. Still, Americans continue to buy more than 500 million bottles every week, making it the second most popular purchased drink (after soda).
5. หมึก printer
You may be able to buy a surprisingly affordable printer at your local office supply store, but don't start celebrating just yet. The printer companies make their biggest bucks on ink.
Over the life of your printer, you'll probably pay more than 500% of the total price of the printer itself on ink refill cartridges. At $30, a 42ml cartridge of black printer ink comes out to 71 cents per ml. On the other hand, the Red Cross charges $200 for 500 ml of blood, which comes out to about 40 cents per ml.
6. สารพัด Brand-Name Fashions
How much did you pay for those True Religion jeans, that Burberry scarf and those towering Louboutin stilettos? Probably a small fortune. But it was worth every penny, right? Not so much. When it comes to designer clothes, it's pretty obvious that you are paying for the label.
As a matter of fact, brand-name clothes are often marked up by 500 to 1000%. Yet, fashion-conscious consumers continue to drain their bank accounts and pile up massive amounts of debt to stay on the cutting edge of couture.
Broke Consumers Are Saying No
The recession has hit many households hard, and thousands of broke consumers are passing on these and other overpriced products. So, does that mean the inflated prices of these items will eventually fall? Only time will tell. In the meantime, you may want to check your bank account before you hit the movie theater snack bar.
ที่ประเทศออสเตรเลีย ก็มีเคสเรื่งอนี้ถูกพูดขึน้มาเช่นกัน ถึงโรงหนังcineplexของ2เจ้าที่นั่น
http://www.businessinsider.com.au/movie-theater-concession-prices-markups-popcorn-2015-4
ซึ่งน่าแปลก ที่บรรดาสาวกเพจคุณจ่า ผู้ชอบบอกว่า เมืองนอกคุม้ครองสิทธิผู้บริโภคกว่าไทยเยอะ เมืงอนอกไม่เอาเปรียบแบบนรี้หรอก และมักจะพูดว่าตัวเองรู้รอบข่าวสารข้อมูลต่างๆเยอะ กลับไม่เคยอ่านเจอบทความแบบที่ผมเจอ หรือดูรายการ แนวแฉความจริงของต่างประเทศแบบที่ผมยกตัวอย่งามา
กับถ้าจะสงสัยเรื่งอของกินหน้าโรงหนัง วพกาแฟแฟนรไชน์ทั้งหลายก็น่าจะคุ้ย สงสัย กันบ้างนะ รวมถึงอาหารที่ขายในร้านพวกนี้ด้วย เพราะดูราคาแล้วมันก็แพงเหลือเกิน เคยได้ยินบางคนพูดว่า เกินครึ่งของกาแฟและขนมในร้านพวกนี้นั้น กำไรล้วนๆ....ไม่นานมานี้ผมไปดื่มกาแฟและทานพัฟแกงกะหรี่ไก้ที่ True Coffee สาขา Robinsonที่อยู่ในจังหวัดที่ผมอยู่ ราคาเครื่งอดื่ม 105บาท แก้วไซส์M (ประมาณครึ่งหนึ่งของแก้วกาแฟพลาสติกของร้านAmazon) ส่วนของกินราคา 55 บาท....รสชาติก็โอเคนะ บริการมาเสิร์ฟถึงที่ที่ผมนั่งด้วย แต่ราคารู้สึวก่ามันแพงไปนิดนะแม้รสชาติจะโอเคก็ตาม บางทีอาจจะเพราะต้นทุนด้านสถานที่ก็ได้
พวกร้านอาหารตามโรงแรมกับสถานบันเทิงก็ด้วย บางที่และบางรายการอาหารก็รู้สึกว่า มันแพงไปถ้าเทียบกับสิง่ที่ได้มา
หรือต่อนี้ร้านค้าต้องทำการร่ายถึงต้นทุนต่ออาหารสักจาน เครื่งอดื่มสักแก้ว สินค้าสักชิ้น ไว้ให้ลูกคา้ทราบตัง้แต่กระบวนการขนส่งจากโรงงานมายันถึงมือลูกค้าด้วยหล่ะมั๊งเนี่ย ถึงจะไม่มีดราม่าเกิดขึ้น (แต่ถ้ามไ่มมีดราม่า แลว้คุณจ่าจะเอาอะไรมาเขียนลงเพจและเว็บฯที่ตัวเองบริหารอยู่หล่ะ)
ของกินหน้าโรงหนังราคามหาโหด ประเด็นชวนขบคิดของไทย..และหลายมุมทั่วโลก
http://drama-addict.com/2015/08/04/%E0%B8%A1%E0%B8%A7%E0%B8%A2%E0%B8%9C%E0%B8%A1%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B9%80%E0%B8%A8%E0%B8%A9/
ที่มาจากกระทู้นี้ http://pantip.com/topic/33999055
ทำไมผมถึงขึ้นคำว่า ลหายมุมทั่วโลก เพราะในต่างประเทศก็เคยมีเคสคนออกมาโวยวายแบบนี้
เช่นในอังกฤษ ก็เคยมีรายการชื่อ Detective BullS**t ออกมาตั้งประเด็นว่า โรงหนังcineplexในประเทศพวกเขา(โรงหนังแฟรนไชน์จำพวกเดียวกับ SF, Major ของไทยเรา) ตั้งราคาของกินแพงเวอร์ไปไหม ฟันกำไรเกินไปหรือเลป่า เพราะราคามันต่างจากซ์้ขอา้งนอกเยอะมากๆ ทีมงานรายการถึงขั้นไปตั้ง food truck ขายของกินแบบเดียวกันกับในโรงหนังถึงหน้าโรงหนังพวกนั้นเพื่อเป็นการประชดกันเลยทีเดียว จำได้ว่าหนึ่งในโรงหนังพวกนั้นให้เหตุผลว่าที่ห้ามเพราะของกินอย่างฮอทด็อก แฮมเบอร์เกอร์ มันทำให้เกิดกลิ่น
รายการนี้ยังเคยจับผิดในหลายเรื่องมาแล้ว เช่น ราคาแพงเวอร์ของน้ำดื่มบรรจุขวดเมื่อเทียบกับต้นทุนและก็ไม่ได้มีอะไรเริศเลอร์ตามที่โฆษณา // ดีวีดีสอนออกกำลังกายด้วยชื่อทฤษฎีแปลกๆที่ส่วนมากไม่ถูกหลักการการออกำลังกายที่ถูกต้องตามที่กล่าวอ้าง แต่ผลิตออมกาขายกันเกลื่อน // ร้านเฟอร์นิเจอร์ร้านหนึ่ง(เป้นร้านแฟรนไชน์แบบพวกIKEAหรือIndex Livingmall)ที่ชวนสงสัยเรื่องโปรโมชั่นลดราคาที่มีตลอดปีตลอดชาติ โดยราคาก่อนลดที่อยู่ในโฆษณานั้นไม่เคยมีใครเห็นเลย จนดูเหมืนอว่านี่คือเซลล์หลอกหรือเปล่า // การจองทัวร์แบบออนไลน์ที่ตอนจองราคาหนึ่ง พอมาถึงบริษัทดันบอกอีกราคาหนึ่งแล้วบอวก่ามีค่านูนนี่นั่นเพิ่มเข้ามา // ซุปเปอร์มาเก็ตที่ขายพวกผลไม้หรือผักแบบใส่แพ็คพลาสคิกที่ราคาแพงมาก ทัง้ที่ตัวผักและผลไม้ก็ขนิดเดียวกันกบัตามพวกร้านของชำข้างนอก....และคงใีอีกลหายตอนแต่ผมได้ดูแค่พวกนี้กับไม่ได้จำรายละเอียดทั้งหมด
ข้มอูลของรายการนี้ http://www.imdb.com/title/tt1013863/
กับนานหลายปีแล้ว ผมเคยอ่านข่าวของ Yahoo ที่พูดถึงเรื่อง สินคา้ที่ราคาส่วนมากนั้นเกินจริง ซึง่มี ของกินหน้าโรงหนัง บัตรอวยพร หนังสือเรียนระดับมหาวิทยาลัย/วิทยาลัย น้ำดื่มบรรจุขวด หมึกprinter และพวกสินค้าแฟชั่นที่มีbrand name...และนี่คือเนื้อข่าว ที่ผมเคยโพสไว้ในเว็บฯหนึง่เมื่อนานมาก
Unless you're filthy rich, you've probably noticed that movie theater popcorn costs an arm and a leg. Still, for some unknown reason, countless consumers shell out the big bucks for this greasy flick-food.
Of course, movie theater snacks aren't the only budget busters. Just think about the exorbitant cost of greeting cards, printer ink and bottled water. The sky-high price tags on those products are enough to send today's cash-strapped consumers spiraling into debt. Yet, we continue to cough up the cash for these absurdly expensive items.
Here are six outrageously overpriced products that consumers can't seem to live without.
1. ป๊อบคอร์นที่ขายหน้าโรงหนัง
At the grocery store, microwave popcorn runs about $3 per box, and each box includes three 3.5 ounce bags. So why on earth would consumers even consider paying a whopping $6 for a single medium-sized bag of popcorn in the movie theater? No one knows exactly why - but for some bizarre reason, movie-goers continue to drain their wallets to crunch on a bag full of those greasy little nuggets during their favorite film.
After considering that movie theaters purchase popcorn in bulk, the average markup of movie theater popcorn is a whopping 1275%! At that steep price, you'd think those buttery bags were laced with gold.
2. บัตรอวยพร
Since when does a folded up piece of paper cost $2.99? Since someone slaps a precious kitty picture and a cleverly written message on it and then stamps the back of it with a well-known logo. That's right - we're talking about those pricey greeting cards. Many consumers spend hours poring over the neatly arranged stacks in the greeting card aisle, searching for the perfect message for their sister's birthday, their parent's anniversary or "Just Because."
The average greeting card costs between $2 and $4, and we consumers don't seem to think twice about paying that precipitous price. The markup is between 100 and 200% - which is not quite as shocking as movie theater popcorn, but it adds up quickly. When you consider how many of those paper jewels you buy each year, it's enough to send you running for the construction paper and markers. After all, it only costs a few cents to create a home-made card.
3.หนังสือเรียนระดับ college
In 2010, the annual in-state cost for the typical state university soared to more than $15,000, and private colleges now charge an average of $35,600 a year. As if college kids (and their parents) aren't financially drained enough, there's yet another inflated price they face: college textbooks. College students pay an average of $900 a year on textbooks and other supplies.
College textbook prices have skyrocketed by 186% since 1986, and these expensive volumes of knowledge now account for 26% of the overall cost of college. Unfortunately, broke college students are required to purchase these costly books for their classes. At least they can try to sell their books back to local book store at the end of the semester - for a few measly bucks.
4. น้ำดื่มบรรจุขวด
You've probably heard that "Evian" is simply "naïve" spelled backwards. OK, so the well-known company probably did not choose their name for that reason - but many people believe that consumers who buy bottled water are certainly naïve. After all, water is one of the most abundant resources in the world and is available for free from countless water fountains and sinks across the nation. Yet, many consumers are still willing to pay $3 a bottle of it.
In 2009, the U.S. Congress revealed that about 45% of bottled water comes from municipal taps - and then the bottled water company may or may not do some additional filtering before pouring it in their logo-stamped bottles. Still, Americans continue to buy more than 500 million bottles every week, making it the second most popular purchased drink (after soda).
5. หมึก printer
You may be able to buy a surprisingly affordable printer at your local office supply store, but don't start celebrating just yet. The printer companies make their biggest bucks on ink.
Over the life of your printer, you'll probably pay more than 500% of the total price of the printer itself on ink refill cartridges. At $30, a 42ml cartridge of black printer ink comes out to 71 cents per ml. On the other hand, the Red Cross charges $200 for 500 ml of blood, which comes out to about 40 cents per ml.
6. สารพัด Brand-Name Fashions
How much did you pay for those True Religion jeans, that Burberry scarf and those towering Louboutin stilettos? Probably a small fortune. But it was worth every penny, right? Not so much. When it comes to designer clothes, it's pretty obvious that you are paying for the label.
As a matter of fact, brand-name clothes are often marked up by 500 to 1000%. Yet, fashion-conscious consumers continue to drain their bank accounts and pile up massive amounts of debt to stay on the cutting edge of couture.
Broke Consumers Are Saying No
The recession has hit many households hard, and thousands of broke consumers are passing on these and other overpriced products. So, does that mean the inflated prices of these items will eventually fall? Only time will tell. In the meantime, you may want to check your bank account before you hit the movie theater snack bar.
ที่ประเทศออสเตรเลีย ก็มีเคสเรื่งอนี้ถูกพูดขึน้มาเช่นกัน ถึงโรงหนังcineplexของ2เจ้าที่นั่น
http://www.businessinsider.com.au/movie-theater-concession-prices-markups-popcorn-2015-4
ซึ่งน่าแปลก ที่บรรดาสาวกเพจคุณจ่า ผู้ชอบบอกว่า เมืองนอกคุม้ครองสิทธิผู้บริโภคกว่าไทยเยอะ เมืงอนอกไม่เอาเปรียบแบบนรี้หรอก และมักจะพูดว่าตัวเองรู้รอบข่าวสารข้อมูลต่างๆเยอะ กลับไม่เคยอ่านเจอบทความแบบที่ผมเจอ หรือดูรายการ แนวแฉความจริงของต่างประเทศแบบที่ผมยกตัวอย่งามา
กับถ้าจะสงสัยเรื่งอของกินหน้าโรงหนัง วพกาแฟแฟนรไชน์ทั้งหลายก็น่าจะคุ้ย สงสัย กันบ้างนะ รวมถึงอาหารที่ขายในร้านพวกนี้ด้วย เพราะดูราคาแล้วมันก็แพงเหลือเกิน เคยได้ยินบางคนพูดว่า เกินครึ่งของกาแฟและขนมในร้านพวกนี้นั้น กำไรล้วนๆ....ไม่นานมานี้ผมไปดื่มกาแฟและทานพัฟแกงกะหรี่ไก้ที่ True Coffee สาขา Robinsonที่อยู่ในจังหวัดที่ผมอยู่ ราคาเครื่งอดื่ม 105บาท แก้วไซส์M (ประมาณครึ่งหนึ่งของแก้วกาแฟพลาสติกของร้านAmazon) ส่วนของกินราคา 55 บาท....รสชาติก็โอเคนะ บริการมาเสิร์ฟถึงที่ที่ผมนั่งด้วย แต่ราคารู้สึวก่ามันแพงไปนิดนะแม้รสชาติจะโอเคก็ตาม บางทีอาจจะเพราะต้นทุนด้านสถานที่ก็ได้
พวกร้านอาหารตามโรงแรมกับสถานบันเทิงก็ด้วย บางที่และบางรายการอาหารก็รู้สึกว่า มันแพงไปถ้าเทียบกับสิง่ที่ได้มา
หรือต่อนี้ร้านค้าต้องทำการร่ายถึงต้นทุนต่ออาหารสักจาน เครื่งอดื่มสักแก้ว สินค้าสักชิ้น ไว้ให้ลูกคา้ทราบตัง้แต่กระบวนการขนส่งจากโรงงานมายันถึงมือลูกค้าด้วยหล่ะมั๊งเนี่ย ถึงจะไม่มีดราม่าเกิดขึ้น (แต่ถ้ามไ่มมีดราม่า แลว้คุณจ่าจะเอาอะไรมาเขียนลงเพจและเว็บฯที่ตัวเองบริหารอยู่หล่ะ)