เมื่อฉันเคยคิดจะฆ่าตัวตาย ผู้หญิงคนนี้ก็ทำให้ฉันตัดสินใจอยากอยู่ต่อไปอีกครั้ง

เราเป็นเด็กวัยรุ่นคนนึงที่เกิดมาในครอบครัวฐานะยากจน  ตอนเด็กชีวิตรันทดมากเลยแหล่ะ  ที่บ้านมีคนทะเลาะกัน แต่พ่อแม่ไม่เคยแยกทางกันนะ  พ่อกะแม่เราไปทำงาน  บางทีก็ถูกทิ้งให้อยู่กะยายบ้าง  พ่อบ้าง ครอบครัวไม่มีใครดื่มสุรา  แต่พ่อสูบบุหรี่จัดมาก  เรามักจะทะเลาะกะพ่อบ่อย  เพราะเราไม่ชอบบุหรี่  และพ่อเป็นคนอารมณ์ร้อน พ่อระเบียบจัดมาก เราเลยมีอคติกะพ่อ  ชีวิตเรามีแต่คนมองว่าเป็นเด็กสกปรก  ไม่เนี้ยบ คงจะใช่แหล่ะ  เพราะไม่มีพ่อแม่คอยทำโน่นนี่นั่นให้นี่  บางทีก็อิจฉาเพื่อนนะ  เพราะเค้าแค่มีหน้าที่เรียนอย่างเดียว  แต่เราต้องซักผ้าเอง  ทำกับข้าวกินเอง  รีดผ้าเอง  บางวันก็เรียบ บางวันก็ไม่เรียบ  บางวันเรียบจนไหม้ก็มี  กับข้าวก็มียายทำให้บางมื้อ  กินชะอมเกือบทุกวัน  เรามีนิสัยอย่างนึง  เป็นคนชอบอ่านมาก  อ่านทุกอย่าง  เปิดทีวีทำการบ้าน   เพราะไม่ค่อยมีเพื่อนเล่น  เพราะครอบครัวเราไม่ค่อยอยากให้ไปเล่นบ้านคนอื่น  แต่ถ้าเพื่อนมาเล่นที่บ้านก็อย่าส่งเสียงดัง  วันหยุดก็เลยมีแต่ทีวีเป็นเพื่อน  เคยแอบหนีพ่อไปเล่นน้ำในแม่น้ำนะ  กลับบ้านมานี่ตูดเป็นรอยเลย  น้ำตาไหลคิดถึงแม่มาก  อยากให้แม่กลับมาอยู่ด้วย  แต่ไม่นานแม่ก็กลับมาอยู่ด้วย   อิสระล่ะงานนี้  แต่ก็โดนพ่อตีแบบเดิม  เพราะแบบนี้มั้งเลยทำให้เราเป็นคนเงียบและยอมคน  เป็นคนมีอะไรในใจเยอะนะ  จนบางทีเก็บกดมากอ่ะ  เวลาพ่อลงโทษเราก็มักจะประท้วงแล้วไม่ยอมทานข้าว หนีเข้าห้องนอนชกหมอนข้าง  ร้องไห้  แต่แม่ก็มาเรียกให้ไปทานตอนพ่อทานข้าวเสร็จแล้ว  จนวันนึงเจอดัดนิสัยเข้าให้ คือ พอบ่อยไม่ทาน  พ่อก็เอาข้าวที่เหลือไปให้หมูเลยจ้า อดเลยงานนี้  หลังจากนั้นก็ทำได้แค่ร้องไห้และไม่ประท้วง  จนโตมาเรื่อยๆ ประมาณ ม.3 มั้ง  เพื่อนเราไปแอบชอบญาติเรา  เค้าก็เอาเราไปเป็นเพื่อนตอนคุยกะพี่เค้า  แล้วแม่พี่เค้ามาฟ้องพ่อ  คือโดนตีหนักมาก  พ่อด่าแรงมาก  ถึงขั้นไล่ออกจากบ้าน  คืออารมณ์เราตอนนั้นคือไม่เข้าใจอ่ะ  พ่อด่าเราทำไม?  เราไปทำอะไร  พ่อไม่ฟังเราเลย  เราอยากฆ่าตัวตายมาก   พอแม่กลับมา  แม่ก็ถามว่าเป็นไร  เราเลยบอกว่าเจอพ่อไล่ออกจากบ้าน  แม่ก็ไม่พูดอะไรต่อ  ซักพักก็แอบถามเราว่าเราทำจริงไหม  เราเลยบอกแม่ว่า หนูไม่ได้ทำ  เพื่อนมันแอบชอบพี่เค้า  เค้าคุยกันแต่หนูไม่ได้คุย  นี่คือเหตุการณ์แรกที่แม่ช่วยชีวิตเราจากความคิดที่ทรมาน
เหตุการณ์ที่สอง ตอนเราจะเข้ามหาวิทยาลัย   เราตัดสินใจมาเรียนต่างจังหวัด ด้วยความที่อยากลองเรียนรู้  อยากหาประสบการณ์ด้วยตัวเอง  เป็นไงล่ะเจอปัญหาตั้งแต่ทีแรกเลย  ประเด็นคือเรายืมตังเพื่อนจ่ายค่าลงทะเบียน ค่าประกันโน่นนี่นั่นมา 5,000 บาท กำหนดใช้หลังเปิดเทอมสามเดือน  เพราะคิดว่าเงินกู้ กยศ.เข้า  ก็กะจะเอาให้เพื่อนเลย  เราก็ไปหาหอเพื่อที่จะอยู่กะเพื่อน  แต่เจ้าของห้องเค้าย้ายออกสิ้นเดือน เพื่อนก็โทรมาว่าหาหอได้ยัง  เราก็บอกว่าหอได้แล้ว จ่ายค่ามัดจำแล้ว ย้ายเข้าต้นเดือนหน้า  แล้วเพื่อนมันดันถามว่า  แล้วคืนนี้จะนอนที่ไหน  รู้ไหมฉันต้องอาศัยคนอื่นนอนทำไมไม่หาหอที่มีคนย้ายออก  เราเลยบอกว่า  นอนนั่นไปก่อนละกัน  เพราะมันยังย้ายเข้าไม่ได้  เพื่อนก็โวยวายใหญ่ว่า  ทำไมไล่กันแบบนี้  ทีตอนยืมตังนี่พูดดี๊ดี  ตอนนี้ทำไมไล่กัน  เราก็ด้วยอารมณ์หงุดหงิดเลยบอกว่า  ถ้าจะอยู่ด้วยกันก็ต้องรอหน่อย  เพราะตอนนี้มันย้ายเข้าไม่ได้  เรายังอาศัยคนอื่นอยู่เลย  หลังจากนั้นก็แตกหักกะเพื่อนเลย  หลังจากนั้นอีกหนึ่งเดือน  นางทวงตังจ้า   เราก็บอกว่ายังไม่มี  โทรขอพ่อแม่ที่บ้าน ก็ไม่มีให้   โดนหวงหนักมาก  เราเลยบอกว่า  ขอให้ทีละกันสองพันได้ไหม  ตอนนี้ไม่มีจริงๆ นางบอกจะเอาเป็นก้อน  เราเครียดมาก  เพื่อนเราที่สนิทกะนางมาด่าเราในเฟส ด่าเต็มไปหมดเลย  ด่าในเฟสกลุ่ม  ปัญหายังไม่จบแค่นั้น  เราอาศัยอยู่กะเพื่อน  ซึ่งอยู่ด้วยกันสามคน  อีกคนเป็นเพื่อนตอน ม.ปลาย  อีกคนเป็นญาติกะเพื่อน  แล้ววันหนึ่งญาติของเพื่อนเราดันทะเลาะกะแฟน   ขว้างโทรศัพท์ทิ้งเฉียดหน้าเราไปนิดนึง  เราก็เก็บกรอบโทรศัพท์และเศษนั้นมากองให้ตรงหน้าเค้า  ก็ไม่ได้คิดไรมาก  จนซักพัก  รูมเมทคนนี้ก็เริ่มบ่นว่าเราเป็นตัวปัญหา  เบียดเบียน  เราอยู่ห้องนั้นเราจ่ายเท่าเขา  แต่นอนพื้น  เสื้อผ้าเก็บในกระเป๋าอย่างเดียว  ไม่ได้เก็บในตู้แบบเข้าหรอก จะซักเสื้อผ้าทีต้องรอให้เพื่อนเรากะรูมเมทคนนี้ซักเสร็จก่อน   รอวันที่เค้าไม่ซักกัน  แล้วเรื่องมันก็แดงขึ้นในวันที่เราถามเค้าว่า  เราไปทำอะไรให้หรอ  เราก็อยู่ของเรานะ  รูมเมทคนนี้ก็บอกว่า  อึดอัด  ย้ายออกไปซักทีสิ  ขนาดเพื่อนยังไม่ต้องการเลย  เรานี่น้ำตาแทบไหลอ่ะ  พอเราเถียงกลับนางก็เปิดเสียงของเราให้แม่นางได้ยิน แต่ตอนนางด่าเรา  นางกลับปิดเสียงนางไว้  เราเลยดูเป็นคนไม่ดีเลยใช่ไหม  หลังจากนั้นเราก็กลับบ้าน กลับนั่งร้องไห้  บางทีถ้าไม่ได้กลับก็นั่งอยู่ตรงไหนซักแห่ง  ไม่คุยกะใคร  จนวันหนึ่งรูมเมททั้งสองไม่อยู่ห้อง  เรานั่งอยู่ตรงระเบียงหลังห้อง มองลงไป  เราอยู่ชั้นห้า เราคิดอยู่นะ  ถ้าโดดลงไปกูจะตายไหม  ถ้าไม่ตายแล้วพิการให้พ่อแม่ต้องเลี้ยงดูอีก บาปหนักกว่าเดิมนะ  นั่งมองอยู่ซักพัก  แล้วโทรหาแม่  บอกแม่ว่าไม่ไหวแล้ว   มีแต่เรื่อง ไม่อยากอยู่แล้ว  แล้วประโยคที่แม่พูดกลับมาคือ  ลูกไม่รักแม่หรอ  ลูกไม่รักตัวเองหรอ  ลูกตายไปแม่จะอยู่ยังไง  กว่าแม่จะเลี้ยงลูกโตขนาดนี้ แม่ก็เจอปัญหาตั้งมากมาย แม่ยังไม่ฆ่าตัวตายเลย  เพราะแม่อยากอยู่กะลูกไง  อยากอยู่จนกว่าลูกจะดูแลตัวเองได้ ลูกเรียนจบมีครอบครัวที่ดีไง  ตอนนั้น  เราร้องไห้หนักมาก  นั่งซึม  ข้าวปลาไม่ทาน  แต่เชื่อไหม  หลังจากนั้นหนึ่งอาทิตย์ปัญหาก็คลี่คลาย  พ่อเราขายที่ได้ ตังพอสมควร  เราเลยได้โน๊ตบุ๊คเป็นของตัวเองด้วย
เหตุการณ์ที่สอง  เกิดที่บ้านตอนไปสังเกตการสอน  สามวันแรกก็ไม่เป็นไร  จนมาถึงเช้าวันพฤหัส  เพื่อนเราอาบน้ำแต่งตัวเสร็จ  แต่เราเพิ่งอาบน้ำกำลังจะนั่งทานข้าว  นางก็บอกว่านางรีบ เดี๋ยวไปสาย  เราเลยบอกใกล้ๆเอง  ไปเจ็ดโมงครึ่งยังทัน ประเด็นคือเราตื่นพร้อมนางนั่นแหล่ะ  แต่เราเป็นเจ้าบ้านไงต้องช่วยแม่ทำกับข้าว  กว่าจะได้อาบก็ต้องรอนางอาบเสร็จก่อน  แล้วมีประโยคหนึ่งที่นางโกรธเราคือ  เราพูดว่า ถ้ารีบไปนักก็เอารถไปก่อนเลย  เดี๋ยวเราไปกะเด็กก็ได้  แล้วนางก็โกรธ  ไม่คุยกะเราเลย จนหนักข้อขึ้นในวันศุกร์นางเดินออกมาก่อน  กะจะเดินกลับ  ประชดเราให้เราง้อ  แต่เราก็ไม่ง้อ แต่ก็ขับรถไปรอนางอีกที่นึง  ซักพักนางก็ซ้อนพี่อีกคนกลับ  พอถึงบ้าน  เราก็ถามเลย นางเอะอะจะกลับๆ  เราเลยบอกว่าเราดูแลเธอไม่ดีหรอ  งั้นเราขอโทษ แล้วเราก็แกะกระปุกยาแก้แพ้เลยจ้า  เทมาทั้งกระปุก  กะจะทานแล้วหลับสบายไปคนเดียวเลย  แต่แม่ดันมาเห็น  แม่บอกว่า ช่างมันเหอะ  อย่าทำร้ายตัวเองเพราะคนไม่รักเราเลย  หกโมงเย็นเราขับรถไปส่งนางบนดอย  บ้านญาตินาง  ประเด็นคือเรายืมรถอามา  แล้วบอกจะคืนเย็นนี้  เพราะอาเราทำงานตอนเช้า ต้องรีบใช้รถ  นางบอกจะรีบลงไปทำไม  นอนนี่สิ  แล้วค่อยลงไปตีสาม  เราบอกว่าไม่ได้หรอก เราบอกอาไว้แล้ว  เกรงใจเขา  แล้วเราก็ขับรถลงมา  ทางประมาณ 40 เกือบ 50โล ลงมาคนเดียว หน้าหนาวมืดๆ ตอนสองทุ่มกว่า  เราอดคิดไม่ได้เลยถ้าไม่ได้แม่เตือนสติ  อาจจะไม่มีเราวันนี้ก็ได้   เพราะหลังจากนั้นเรากะนางก็ไม่คุยกันเลย  นางทำยังไงมา  เราก็ทำกลับ เพราะถือว่านางได้เดินจากชีวิตเราแล้ว  ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องเอานางมามีอิทธิพลกะชีวิตเรา  
      สำหรับใครที่คิดน้อยใจ  คิดว่าชีวิตเรามันมีแต่ทางตัน  ให้ลองคิดถึงหน้าพ่อแม่ไว้  ไม่มีใครรักเราเท่าพ่อแม่แล้ว  ต่อให้เค้าจะดุจะว่าเราแค่ไหน เค้าก็ไม่ทิ้งเราไป  จะดีจะเลวก็ขึ้นชื่อว่าลูก  ตอนนี้เวลาเราจะทำอะไร เราคิดถึงแม่เป็นอันดับแรกเลย กลัวแม่ร้องไห้  กลัวครอบครัวเสียใจ เราฆ่าตัวตายไป คนที่เสียใจที่สุดก็คือพ่อแม่   อย่าทำร้ายตัวเองให้คนที่ไม่รักเราเลย  เราตายไปก็เท่านั้น เค้าก็ให้เราแค่คำว่าอโหสิเท่านั้นเอง  คิดให้ยาวมากขึ้น  แล้วชีวิตจะมีอะไรให้ทำอีกเยอะ  ขอบคุณแม่มากๆนะ  ที่สอนให้รู้จักคำว่าอดทน  เข้มแข็ง  และไม่ทิ้งกันไปไหน  การทำความดีมันต้องเริ่มตั้งแต่ในบ้าน  หลังจากนี้และตลอดไป  จะไม่มีเรื่องฆ่าตัวตายและทำร้ายตัวเองในหัวอีกต่อไป   ชีวิตนี้มีแค่ครอบครัวและคนที่รักเราก็พอ  
      ผู้หญิงคนอื่นเป็นไงไม่รู้  แต่ผู้หญิงคนนี้หนูรักที่สุด
ปล.  เขียนผิดตรงไหนก็ขออภัยผ่านที่นี้ด้วยนะคะ  พิมพ์ไปร้องไห้ไป  เพราะคิดถึงแม่มาก

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่