...สวัสดีค่ะ...
เราเพิ่งกลับจากทริปช่วงวันหยุดยาวมา...
เลยมีเรื่องราวจากจังหวัดพะเยาอยากจะมาเล่าให้ฟัง
แต่เราไม่ใช่คนที่ชอบถ่ายรูปเท่าไหร่
เพราะงั้นเลยไม่มีรูปถ่ายมาลงประกอบแบบคนอื่น(นึกแล้วก็โมโหตัวเอง)
แต่ถ้าเล่ามีแต่ตัวหนังสือก็กลัวจะน่าเบื่อไปซักหน่อย
เลยขอใช้การวาดรูปตลกๆ เล่าเรื่องไปด้วยแล้วกันนะคะ
วาดไม่ค่อยสวยน้าา >< ( ดูเอาฮาไปละกัน 555)
อาจจะเขียนเหมือนเรื่องเล่าไปหน่อย แต่ก็เป็นเรื่องจริงที่ประสบมาแล้วทำให้รู้สึกประทับใจมากๆ
ยังไงก็ลองอ่านดูนะคะ ^ ^
เริ่มกันเลยเนอะ...
.
.
.
.
กับ...
เคยไปเที่ยวแบบไม่มีแผนกันไหม?
31 กรกฎาคม...
เรากับเพื่อนนั่งรถเมล์มาพะเยาโดยที่ไม่รู้อะไรเลย..
พวกเราไม่มีแผน พวกเราไม่มีที่พัก พวกเราไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเมืองนี้มีอะไร...
รู้แค่ว่า.. อยากหาที่เที่ยวซักที่ ที่อยู่ติดกับจังหวัดเชียงรายเท่านั้น (เรามาฝึกงานที่เชียงราย)
"พะเยา! พะเยา 45 บาท น้องเป็นนักศึกษาเดี๋ยวพี่ให้ 40 "
กระเป๋ารถเมล์ต้อนรับพวกเราด้วยตั๋วราคาพิเศษ
ที่สามารถพาเราเดินทางข้ามจังหวัดได้
ด้วยอัตราค่าโดยสารเดียวกับการนั่งรถไฟฟ้าจากสยามไปหมอชิต
เขาส่งเราขึ้นรถเมล์สีฟ้าคันเก่า ที่แล่นออกจากตัวเมืองเชียงราย ผ่านเมืองพาน ออกสู่จังหวัดพะเยา
เรามาถึงพะเยาในอีก 2 ชั่วโมงถัดมา
ตอนนั้นประมาณบ่ายสาม เราสองคนยืนนิ่งอยู่หน้าสถานีขนส่ง
พวกเราไม่รู้ว่าจะเริ่มยังไง ก็แน่ล่ะ.. พวกเราไม่รู้อะไรเลย
แต่แล้วน้ำใจแรกก็ถูกหยิบยื่นมา...
คุณลุงคนขับรถเมล์คันที่เรานั่งเดินมาหาพวกเรา
และใจดีพอจะบอกทางเดินไปเที่ยวกว๊านพะเยาให้
รีวิวในอินเตอร์เน็ต และ Google map พาเรามาถึงโรงแรมในเวลาต่อมา
และพี่พนักงานต้อนรับก็ทำให้เรารู้ว่าพะเยาก็มี "ถนนคนเดิน" เหมือนกัน
เรากับเพื่อนเดินหาถนนคนเดินที่ว่านั่น...
โดยมีร้านกาแฟเล็กๆ ชื่อ "นิทาน บ้าน ต้นไม้" เป็นจุดแวะพัก
และมีคนท้องถิ่นคอยช่วยบอกทางให้เป็นระยะๆ
ไม่นานนักพวกเราก็เดินทางมาถึง
และได้รู้ว่า... ถนนคนเดินพะเยาเล็กและเงียบเหงากว่าที่เชียงรายมาก
แต่ถึงอย่างนั้น... ของที่ขายและน้ำใจของคนที่นี่กลับไม่เล็กตามไปด้วย
เราสองคนได้วาฟเฟิลชิ้นใหญ่มาในราคา 10 บาท
ที่ซึ่งคุณลุงคนขายใส่ทอปปิ้งให้เยอะซะจนเราทึ่ง
แถมของอีกหลายๆอย่าง ก็ราคาถูกจนน่าตกใจ
แต่โชคร้ายที่จู่ๆฝนก็เทลงมา...
ตอนนั้นเราสองคนนั่งกินก๋วยเตี๋ยวกันอยู่กลางแจ้ง และเป็นลูกค้าโต๊ะเดียวในร้าน
ที่ไม่อยากเชื่อคือ...
เจ้าของร้านวิ่งมากางร่มกันฝนให้
แล้วยืนถือให้อย่างนั้นจนกระทั่งพวกเราทานเสร็จ
แต่เพราะฝน.. ถนนคนเดินจึงต้องปิดตัวลง
และพอถึงตรงนี้
พวกเราก็หลงทางซะแล้ว...
เราเดินไปถามทางแม่ค้าที่กำลังเก็บร้านอยู่ โชคดีที่โรงแรมของพวกเรามีชื่อพอที่เธอจะรู้จักมัน
และแล้ว Google map กับแบตที่เหลืออยู่ 5% ก็กลับมามีบทบาทอีกครั้ง...
มันนำพาพวกเราเดินเข้ามาในซอยเปลี่ยวมืดๆ
ที่น่ากลัวเกินกว่าที่ผู้หญิงสองคนจะเดินกันเองได้
แต่ตอนนั้นเอง... ที่รถกระบะคันหนึ่งจอดเทียบข้างตัวพวกเรา
และกระจกรถค่อยๆถูกเลื่อนลง
"น้องๆ เดี๋ยวพี่ไปส่ง ดึกแล้วมันอันตราย"
แม่ค้าที่ถนนคนเดินเมื่อกี้บอกกับเรา
แล้วเปิดประตูรถให้พวกเราขึ้นอย่างเป็นมิตร..
"ถนนคนเดินที่นี่ไม่เหมือนกับที่เชียงรายหรอก...
พะเยามันเป็นแค่ทางผ่าน เมืองเล็กๆไม่ค่อยมีคนมาเที่ยวกัน "
น้ำเสียงปนน้อยใจของคุณน้าบอกกับพวกเราเมื่อรู้ว่าพวกเรามาจากไหน
แต่ตอนนั้นเราไม่รู้ว่าจะพูดอะไรตอบเธอดี...
คุณน้ามาส่งพวกเราหน้าโรงแรม
แล้วทิ้งเด็กน้อยสองคนนี้ไว้กับความประทับใจด้วยทุกอย่างที่ได้เจอมาในวันนี้...
....ความจริงเรื่องทั้งหมดมันก็มีเท่านั้น...
เรื่องของเรามันอาจจะไม่ได้น่าตื่นเต้น หรือแปลกใหม่อะไร
แต่ก็เป็นความประทับใจที่เราลืมไม่ลง
ความเป็นมิตรของผู้คน ความใส่ใจ และความอบอุ่นจากคนพื้นที่
มันทำให้ทัศนคติที่เรามีต่อที่นี่เปลี่ยนไป
พะเยาอาจจะเป็นแค่เมืองเล็กๆ แต่มันอบอุ่น มันเต็มไปด้วยน้ำใจของผู้คน
และสำหรับเรา... มันไม่ได้เป็นแค่ "เมืองทางผ่าน" อีกต่อไป
ตอนแรกเรื่องนี้เป็นแค่เรื่องที่เขียนระบายลงเฟสตัวเองเฉยๆ แต่เพื่อนแนะนำว่าน่าจะลองเอามาแบ่งปันที่นี่ด้วย
เลยลองวาดรูปสีน้ำกากๆเท่าที่ตัวเองจะสามารถ แล้วเอามาตั้งกระทู้ดูค่ะ ถ้ามีอะไรผิดพลาด ต้องขอโทษด้วยนะคะ ><
ที่บอกว่าไม่รู้อะไรเลย เพราะเรากับเพื่อนตั้งใจให้การเที่ยวครั้งนี้เป็นไปแบบ "ไม่ได้วางแผน" ค่ะ
เรารู้แค่ที่นี่มีกว๊านพะเยา และพอเดินทางภายในตัวเมืองได้ด้วยรถสองแถว(ถ้าจำเป็น) ซึ่งนั่นเพียงพอแล้ว
ส่วนอย่างอื่นนอกจากนั้น เราปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามทางของมัน...
สุดท้ายนี้ขอทิ้งท้ายไว้ด้วยกว๊านพะเยา จุดเริ่มต้นที่นำมาให้เราเดินทางมาที่นี่แล้วกันเนอะ > <
ขอแถมร้าน นิทานบ้านตันไม้ ด้วยแล้วกันค่ะ
เป็นร้านที่เจอโดยบังเอิญเลยตั้งใจจะเข้าไปนั่งพัก แต่ก็ไม่ผิดหวังค่ะ ไอศครีมโฮมเมดที่นี่อร่อยมาก
ท้ายที่สุด
ขอขอบคุณที่ติดตามอ่านนะคะ ^^
เรื่องเล่าจากพะเยา เมืองที่ใครๆ คิดว่าเป็นแค่ "ทางผ่าน"
...สวัสดีค่ะ...
เราเพิ่งกลับจากทริปช่วงวันหยุดยาวมา...
เลยมีเรื่องราวจากจังหวัดพะเยาอยากจะมาเล่าให้ฟัง
แต่เราไม่ใช่คนที่ชอบถ่ายรูปเท่าไหร่
เพราะงั้นเลยไม่มีรูปถ่ายมาลงประกอบแบบคนอื่น(นึกแล้วก็โมโหตัวเอง)
แต่ถ้าเล่ามีแต่ตัวหนังสือก็กลัวจะน่าเบื่อไปซักหน่อย
เลยขอใช้การวาดรูปตลกๆ เล่าเรื่องไปด้วยแล้วกันนะคะ
วาดไม่ค่อยสวยน้าา >< ( ดูเอาฮาไปละกัน 555)
อาจจะเขียนเหมือนเรื่องเล่าไปหน่อย แต่ก็เป็นเรื่องจริงที่ประสบมาแล้วทำให้รู้สึกประทับใจมากๆ
ยังไงก็ลองอ่านดูนะคะ ^ ^
.
.
.
.
กับ...
เคยไปเที่ยวแบบไม่มีแผนกันไหม?
31 กรกฎาคม...
เรากับเพื่อนนั่งรถเมล์มาพะเยาโดยที่ไม่รู้อะไรเลย..
พวกเราไม่มีแผน พวกเราไม่มีที่พัก พวกเราไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเมืองนี้มีอะไร...
รู้แค่ว่า.. อยากหาที่เที่ยวซักที่ ที่อยู่ติดกับจังหวัดเชียงรายเท่านั้น (เรามาฝึกงานที่เชียงราย)
"พะเยา! พะเยา 45 บาท น้องเป็นนักศึกษาเดี๋ยวพี่ให้ 40 "
กระเป๋ารถเมล์ต้อนรับพวกเราด้วยตั๋วราคาพิเศษ
ที่สามารถพาเราเดินทางข้ามจังหวัดได้
ด้วยอัตราค่าโดยสารเดียวกับการนั่งรถไฟฟ้าจากสยามไปหมอชิต
เขาส่งเราขึ้นรถเมล์สีฟ้าคันเก่า ที่แล่นออกจากตัวเมืองเชียงราย ผ่านเมืองพาน ออกสู่จังหวัดพะเยา
เรามาถึงพะเยาในอีก 2 ชั่วโมงถัดมา
ตอนนั้นประมาณบ่ายสาม เราสองคนยืนนิ่งอยู่หน้าสถานีขนส่ง
พวกเราไม่รู้ว่าจะเริ่มยังไง ก็แน่ล่ะ.. พวกเราไม่รู้อะไรเลย
แต่แล้วน้ำใจแรกก็ถูกหยิบยื่นมา...
คุณลุงคนขับรถเมล์คันที่เรานั่งเดินมาหาพวกเรา
และใจดีพอจะบอกทางเดินไปเที่ยวกว๊านพะเยาให้
รีวิวในอินเตอร์เน็ต และ Google map พาเรามาถึงโรงแรมในเวลาต่อมา
และพี่พนักงานต้อนรับก็ทำให้เรารู้ว่าพะเยาก็มี "ถนนคนเดิน" เหมือนกัน
เรากับเพื่อนเดินหาถนนคนเดินที่ว่านั่น...
โดยมีร้านกาแฟเล็กๆ ชื่อ "นิทาน บ้าน ต้นไม้" เป็นจุดแวะพัก
และมีคนท้องถิ่นคอยช่วยบอกทางให้เป็นระยะๆ
ไม่นานนักพวกเราก็เดินทางมาถึง
และได้รู้ว่า... ถนนคนเดินพะเยาเล็กและเงียบเหงากว่าที่เชียงรายมาก
แต่ถึงอย่างนั้น... ของที่ขายและน้ำใจของคนที่นี่กลับไม่เล็กตามไปด้วย
เราสองคนได้วาฟเฟิลชิ้นใหญ่มาในราคา 10 บาท
ที่ซึ่งคุณลุงคนขายใส่ทอปปิ้งให้เยอะซะจนเราทึ่ง
แถมของอีกหลายๆอย่าง ก็ราคาถูกจนน่าตกใจ
แต่โชคร้ายที่จู่ๆฝนก็เทลงมา...
ตอนนั้นเราสองคนนั่งกินก๋วยเตี๋ยวกันอยู่กลางแจ้ง และเป็นลูกค้าโต๊ะเดียวในร้าน
ที่ไม่อยากเชื่อคือ...
เจ้าของร้านวิ่งมากางร่มกันฝนให้
แล้วยืนถือให้อย่างนั้นจนกระทั่งพวกเราทานเสร็จ
แต่เพราะฝน.. ถนนคนเดินจึงต้องปิดตัวลง
และพอถึงตรงนี้
พวกเราก็หลงทางซะแล้ว...
เราเดินไปถามทางแม่ค้าที่กำลังเก็บร้านอยู่ โชคดีที่โรงแรมของพวกเรามีชื่อพอที่เธอจะรู้จักมัน
และแล้ว Google map กับแบตที่เหลืออยู่ 5% ก็กลับมามีบทบาทอีกครั้ง...
มันนำพาพวกเราเดินเข้ามาในซอยเปลี่ยวมืดๆ
ที่น่ากลัวเกินกว่าที่ผู้หญิงสองคนจะเดินกันเองได้
แต่ตอนนั้นเอง... ที่รถกระบะคันหนึ่งจอดเทียบข้างตัวพวกเรา
และกระจกรถค่อยๆถูกเลื่อนลง
"น้องๆ เดี๋ยวพี่ไปส่ง ดึกแล้วมันอันตราย"
แม่ค้าที่ถนนคนเดินเมื่อกี้บอกกับเรา
แล้วเปิดประตูรถให้พวกเราขึ้นอย่างเป็นมิตร..
"ถนนคนเดินที่นี่ไม่เหมือนกับที่เชียงรายหรอก...
พะเยามันเป็นแค่ทางผ่าน เมืองเล็กๆไม่ค่อยมีคนมาเที่ยวกัน "
น้ำเสียงปนน้อยใจของคุณน้าบอกกับพวกเราเมื่อรู้ว่าพวกเรามาจากไหน
แต่ตอนนั้นเราไม่รู้ว่าจะพูดอะไรตอบเธอดี...
คุณน้ามาส่งพวกเราหน้าโรงแรม
แล้วทิ้งเด็กน้อยสองคนนี้ไว้กับความประทับใจด้วยทุกอย่างที่ได้เจอมาในวันนี้...
....ความจริงเรื่องทั้งหมดมันก็มีเท่านั้น...
เรื่องของเรามันอาจจะไม่ได้น่าตื่นเต้น หรือแปลกใหม่อะไร
แต่ก็เป็นความประทับใจที่เราลืมไม่ลง
ความเป็นมิตรของผู้คน ความใส่ใจ และความอบอุ่นจากคนพื้นที่
มันทำให้ทัศนคติที่เรามีต่อที่นี่เปลี่ยนไป
พะเยาอาจจะเป็นแค่เมืองเล็กๆ แต่มันอบอุ่น มันเต็มไปด้วยน้ำใจของผู้คน
และสำหรับเรา... มันไม่ได้เป็นแค่ "เมืองทางผ่าน" อีกต่อไป
ตอนแรกเรื่องนี้เป็นแค่เรื่องที่เขียนระบายลงเฟสตัวเองเฉยๆ แต่เพื่อนแนะนำว่าน่าจะลองเอามาแบ่งปันที่นี่ด้วย
เลยลองวาดรูปสีน้ำกากๆเท่าที่ตัวเองจะสามารถ แล้วเอามาตั้งกระทู้ดูค่ะ ถ้ามีอะไรผิดพลาด ต้องขอโทษด้วยนะคะ ><
ที่บอกว่าไม่รู้อะไรเลย เพราะเรากับเพื่อนตั้งใจให้การเที่ยวครั้งนี้เป็นไปแบบ "ไม่ได้วางแผน" ค่ะ
เรารู้แค่ที่นี่มีกว๊านพะเยา และพอเดินทางภายในตัวเมืองได้ด้วยรถสองแถว(ถ้าจำเป็น) ซึ่งนั่นเพียงพอแล้ว
ส่วนอย่างอื่นนอกจากนั้น เราปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามทางของมัน...
สุดท้ายนี้ขอทิ้งท้ายไว้ด้วยกว๊านพะเยา จุดเริ่มต้นที่นำมาให้เราเดินทางมาที่นี่แล้วกันเนอะ > <
ขอแถมร้าน นิทานบ้านตันไม้ ด้วยแล้วกันค่ะ
เป็นร้านที่เจอโดยบังเอิญเลยตั้งใจจะเข้าไปนั่งพัก แต่ก็ไม่ผิดหวังค่ะ ไอศครีมโฮมเมดที่นี่อร่อยมาก
ท้ายที่สุด
ขอขอบคุณที่ติดตามอ่านนะคะ ^^