Friend with Benefits*เมื่อฉันต้องสอนเพื่อนสนิท...ใส่ถุงยาง...

สวัสดีนะเพื่อนๆพันทิป นี่เป็นกระทู้แรกที่คิดอยากจะเอาเรื่องมาเล่า (ทำไมทุกคนที่ลงพันทิปต้องพิมพ์แบบนี้?!?!!! 555)  จริงๆเรื่องของเรามันเป็นเรื่องที่อาจเกิดขึ้นได้กับทุกคน แต่เราอยากจะเล่าเพราะถือว่ามันเป็นประสบการณ์ที่อ่านเอาสนุกล่ะกัน จากใจเลยตอนตั้งกระทู้มันมีให้เลือกว่าเรื่องที่จะพิมพ์เกี่ยวกับอะไรบ้าง บอกเลยว่าเึลือกไม่ถูก! เอาเป็นว่าลองอ่านดู ว่าในสังคมนี้ มีเหตุกาณ์แบบนี้เกิดขึ้นจริง สัมบัติสำนวนอาจจะดูนิยายบ้าง เพราะมีความรู้ด้านการเขียนนิดๆหน่อยๆ แต่อยากให้สนใจในเนื้อหา ที่ยังคงยืนยันว่าอิงจากเรื่องจริงที่เกิดขึ้นกับตัวเองค่ะ

  "คู่เหมือน"

         เราขออนุญาต เล่าย้อนกลับไปเมื่อ7-8ปีที่แล้ว สมัยเอ๊าะๆเลยค่ะ เรามีแฟนที่คบกันมาตั้งแต่ม.ต้น เรารักกันดีค่ะ จนมหาลัยเราอยู่กันคนละม. แต่ก็ยังใกล้กัน เจอกันได้แทบทุกวัน เราเป็นเด็กกทม.เนี่ยแหละค่ะแต่บ้านไกล แล้วปีหนึ่งเรียนหนัก เข้าเช้าเลิกดึกเพราะเรียนเป็นปฏิบัติซะส่วนมาก เลยตัดสินใจอยู่หอ ซึ่งก้เป็นหอในค่ะ เป็นหอรวมแต่แยกขั้นชายหญิงอย่างดีมีอาจารย์นอนคุมทางไว้ และวันแรกที่เราได้เจอเพื่อนคนใหม่ของเรา น่าแปลกมากค่ะ  ไม่ถูกชะตาเอาซะเลย หน้ามันกวนตีนมากค่ะ (เรียกเพื่อนว่า มัน นี่ไม่แปลกใช่ไหมคะ ไม่ดราม่าเนาะ) ตอนแรกคิดในใจ ไม่อยากจะรู้จักมันเลยค่ะ ผอมๆสูงๆก้างๆ ปากหมาหน้ากวนตีน ไม่ใช่สเปคผญดีๆเลยค่ะ(มโนว่ากุนี่ล่ะผญดีๆสวยๆ!) เรารุ้จักกันก่อนเปิดเรียนได้2อาทิตย์ ด้วยความที่เป็นเพื่อนของเพื่อนอีกที แล้วก็รู้จักกันกลุ่มใหญ่ แต่เป็นแค่มันกับเราที่เรียนสาขาเดียวกัน เราเลยต้องจำใจรู้จักกับมันไปด้วยค่ะ เราตกลงกันว่าช่วงก่อนเปิดเทอม เราจะไปเที่ยวบ้านเพื่อนที่ต่างจังหวัดกันค่ะ เหมือนเป็นการละลายพฤติกรรม งานนี้มีพ่อแม่ผู้ปกครองไปด้วยนะคะ ไม่ต้องห่วงค่ะ เหมือนเป็นการไปเที่ยวแบบครอบครัว แล้วมีเด็กๆอายุเดียวกันไปด้วย ทริปนั้นก็สนุกเลยค่ะ เป็นการเที่ยวครั้งแรกกับเพื่อนมหาลัย และแล้วก็มาถึงวันเปิดเทอมค่ะ....





           เพราะว่ามันกับเรา รู้จักกันมาก่อนเพื่อนคนอื่นในชั้น เราเลยต้องเป็น Partner กันไปโดยปริยาย เวลานั่งเรียน เราต้องนั่งข้างกัน กินข้าว(สมัยที่ยังไม่เจอเพื่อนใหม่) ก็ต้องนั่งกินด้วยกัน เดินมาจากหอก็ต้องออกมาพร้อมกันเพราะดันอยู่หอเดียวกัน คนอื่นคิดว่าเราสองคนเป็นแฟนกันค่ะในช่วงอาทิตย์แรกๆเพราะอยู่ด้วยกันตลอด แล้วที่แปลกกว่านั้นคืออะไรรู้มั้ยคะ.... บ้านเราสองคนอยู่ใกล้กันมาก ขี่จักรยานไปได้เลย แต่เวลามองหน้ามันทีไร มันจะไม่ชอบทุกที คนบ้าอะไรหน้ามันกวนตีนมาก ทำหน้าเฉยๆก็กวนตีนแล้ว ไม่ชอบเลย เรื่องบังเอิญของเราสองคนยังไม่หมดนะคะ มีครั้งนึงตอนเรียนด้วยกันใหม่ๆ จะต้องมีถามรายละเอียด Partner เอากระดาษมาจด คุณเชื่อไหมคะ.... Partnerอิฉัน เกิดเดือนเดียวกัน ปีเดียวกัน ห่างกันเจ็ดวัน มันเกิดก่อน นั่นจึงทำให้เราเกิดวันอาทิตย์เหมือนกัน และดันกรุ๊ปเลือดเดียวกัน น่าขนลุกไหมคะคุณ??? ตอนแรกที่ถามข้อมูลกันไปมา เราเองก็ขนลุกค่ะ มันก้อึ้งๆเหมือนกันค่ะ แต่เราไม่รู้ว่ามันคิดยังไง มันเป็นผู้ชายประเภทไม่คิดไรอะคะ แบบ..ไม่คิดเชี่ยอะไรเลยยยยย! สนุกไปวันๆ เลิกเรียนหาข้าวกิน ขับรถเที่ยว เรื่องรถก็เหมือนกันค่ะ เพราะว่าเราอยู่หอ แล้วต้องขับจากบ้านมาหอ เราเลยต้องมีรถ เราก็บ้านพอมีตังค่ะ ก็เลยมีรถยี่ห้อดีหน่อย เก่าแต่เก๋า รุ่นคลาสสิคค่ะ2ประตู หาคนเหมือนยาก แย่หน่อยตรง อยากขับรถคลาสสิคต้องรู้จักซ่อม เสียกลางทางเมื่อไหร่ก็สนุกค่ะ ซึ่งเสียบ่อยๆไปค่ะ อ้อ Partner เราหรอคะ...ใช่ค่ะ อย่างที่คุณคิด มันขับรุ่นเดียวกัน สีคล้ายเราเป๊ะค่ะ!!!! เวลาจอดใต้หอสองคันแทบแยกไม่ออก บางวันเราเสียบรูกุญแจผิดคันก็มี แต่รถมันสภาพดีกว่าหน่อยค่ะ เพราะมันรู้เรื่องรถ มันดูแลดีกว่า เวลารถเราเจ้ง ก็มีมันแหละค่ะ คอยจั๊มพ์รถให้ แนะนำอู่ เช็คน้ำรถ เช็คน้ำมันเครื่อง



             มาถึงจุดนี้ คงมีคนสังสัย ว่าแฟนเราไปอยู่ไหนใช่มั้ยคะ...ช่วงปี1ปี2ค่ะ แฟนก็มีเพื่อนใหม่ สังคมใหม่ เรายังคบกันดีนะคะ แต่เพราะอยู่คนละมหาลัย เราต่างก้ให้เวลากันค่ะ เรายังคงเจอกัน ไปเที่ยวกินข้าวกันค่ะ แม้จะไม่ได้บ่อย เพราะตั้งแต่สมัยเรียนม.ปลายแล้ว เราก็ไม่ได้เจอกันบ่อยค่ะ แต่เราก็ยังรักกันดีค่ะ ครั้งนึงแฟนมารับเราที่หอ บังเอิ้นนนน!! เจอPartner เราเข้าค่ะ กำลังยืนอยู่ที่รถมัน คือ แฟนเราเค้าไม่เคยรู้จักผชคนนี้ เค้าไม่เคยเห็นหน้า แต่พอเราขึ้นรถปุ้ป คำถามแรกที่แฟนเราถามเราคือ "ไอ้กากนั่นใคร" ตอบไม่ถูกเลยค่ะ จะบอกว่า อ๋อเพื่อนสนิทเค้าเองตัววว ก็สังสัยจะได้ตายคารถ ก็ได้แต่ตอบเลี่ยงๆค่ะ ว่าเพื่อนเรียนคลาสเดียวกัน บังเอิญอยู่หอเดียวกัน แฟนเราค่ะ บอกว่าไม่ชอบหน้ามันมากๆ มันทำหน้ากวนตีนใส่ แฟนเราถามเลยค่ะว่า "กิ๊กตัวหรือไง?!" เรานี่งงเลยค่ะ มึนหัว บอกว่าไม่ใช่เพื่อนกันโว้ยยยหน้ามันกวนตีนแบบนั้นอยู่แล้ว แฟนเราเลยออกกฎเลยค่ะ "ห้ามอยู่ใกล้มัน เกิน150ม." อะไรของพ่อคุณคะ เรานี่มองหน้าแฟนแบบอึ้งๆ คือ... ปล่อยไว้อย่างนั้นแล้วกันค่ะ ให้เค้าสบายใจในแบบของเค้า ถ้าจะให้บอกว่า อ๋อเรียนเป็น Partner ทำงานคู่ด้วยกัน ปฏิบัติก็คู่กัน งานกลุ่มก็กลุ่มเดียวกัน ถ้าบอกขนาดนั้นก็เตรียมตัวย้ายก้นลงจากรถได้เลยค่ะ ดูท่าทางแฟนเราจะไม่ชอบเพื่อนสนิทเราคนนี้เอาซ้ะมากๆ นี่แค่เจอกันครั้งเดียวนะคะ....



                สมัยตอนเรียนเราสองคนก็ต้องช่วยกันค่ะ เราจะเรียนเก่งกว่าหน่อย เพราะม่ีสติและสมาธิกว่า เวลาลงปฏิบัติจริงก็ต้องช่วยๆแบ่งงานกันทำค่ะ เราว่า ตอนเรียนเราสองคนเป็น Partnerที่ดีและเข้ากันมากค่ะ เราจะมีความเป็นผู้นำมากกว่า จะManageงานได้ดีกว่า ส่วนมันจะเน้นเรื่องการ Support แบบ สั่งมาเลยลวกเพ่ ผมทำได้! แบบนั้น เวลาที่ต้องใช้ไอเดียเพื่อ Creativeผลงาน ก็จะมีมันที่คิดอะไรแปลกๆออก บางอย่างมันก้แปลกจริงๆค่ะ แต่เรากล้าที่จะทำมันออกมา อาจเป็นเพราะว่าเราเชื่อใจมัน แล้วเราก็รู้ว่ามันก็เชื่อใจเรา ว่าเราจะทำมันได้ หลายๆครั้งเราสองคนเป็นคู่หูม้ามืดค่ะ ทำงานได้ดีกว่าคู่อื่น แต่ข้อเสียมันก็มีนะคะ เพราะว่ามันรู้ว่าเราเป็นคนรับผิดชอบ เรียนไม่เก่งแต่ขยัน มันก้จะใช้ข้อนี้ ในการขี้เกียจค่ะ ง่ายๆนะคะ งานเดี่ยวแบบ Theoryมัน มันยังไม่ทำเลยค่ะคู๊ณณณณ!! งานคู่จะไปเหลืออะไรรรร!! เราก้ทำสิคะ มันรู้ค่ะ ว่าเราไม่ปล่อยให้มันลำบากหรอก เอาจริงๆนะคะ เราเคยค่ะ ไม่ช่วยมัน เราทำการบ้านทำงานให้มันมามากแล้วค่ะ ทั่งงานคู่งานเดียวงานกลุ่ม เราเคยทิ้งมันนั่งหน้าคอมในห้องสมุด มันหันไปขอให้เพื่อนคนอื่นช่วย แต่ก็ไม่มีใครช่วยมันทำการบ้านเลยค่ะ เพราะทุกคนก็รู้ค่ะ ว่ามันนิสัยยังไง เพื่อนคนอื่นบอกว่า ต้องพยามด้วยตัวเองแล้ว อย่าหวังให้เราช่วยอย่างเดียว ตอนนั้นเพื่อนทุกคนก็ทยอยขึ้นไปเรียนเอาการบ้านไปส่งค่ะ เราอะเดินออกไปแล้ว แต่หันไปเห็นสายตามันนั่งอยู่หน้าคอมแล้วมันสงสารจริงๆค่ะ มันนั่งจิ้มแป้นพิมพ์แบบหมดอาลัยตายอยาก วิชาวันนั้นมันยากจริงๆค่ะ ภาษาอังกฤษมันก็ไม่ได้เก่งขนาดนั้น เราตัดสินใจเดินกลับไปนั่งทำให้มันค่ะ มันทั้งนวด หาน้ำ หาขนม พูดจาหวาน(ทั้งๆที่ปกติไม่เคยยย และไม่ใช่มันเลยค่ะ ขนลุกมาก!) ส่วนเราก้มหน้าไม่พูดไม่จาพิมพ์ๆให้มันจบๆ ใช้เวลาอยู่ครึ่งชั่วโมงค่ะ กดสั่งพิมพ์แล้วบอกให้มันไปเอา เราก็เดินขึ้นไปเรียนเลย ขึ้นเรียนสายด้วยค่ะ!! ตอนนั้นไม่รู้เหมือนกัน แต่เราว่าถ้าเป็นคนอื่น ก็ไม่อยากให้เพื่อนเราต้องนั่งลำบาก ไม่ได้เข้าเรียนเพราะมัวทำการบ้านไม่เสร็จหรอกมั้งคะ ใช่ค่ะ และเป็นอีกครั้ง ที่เรายอมให้เพื่อนคนนี้....





เดี๋ยวมาต่อละกันค่ะ มันต้องท้าวความกันนาน เพราะเรื่องมันยาวจริงๆค่ะ...
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่