สับสน...สถานะคือพี่ชายกับน้องสาว แต่ที่พี่ทำให้เรามีแต่คนบอกไม่ใช่แค่'พี่ชาย'?

สวัสดีค่ะ ....เปิดกระทู้นี้เพราะมีคำถาม สงสัยมากๆ สับสนมากๆเช่นกัน
สารภาพค่ะว่าไม่เคยมีแฟนมาก่อน จนดูไม่ออกว่าคนๆนั้นเข้ามาคิดยังไงกับเราบ้าง
เมื่อก่อนก็มีเพื่อนชายนะคะ แต่สุดท้ายก็เกย์ไม่ก็กระเทย
จนตอนนี้มี'ผู้ชาย'คนหนึ่งเข้ามาในชีวิตค่ะ...
ก็คิดว่าเป็นเกย์แน่ๆเพราะเข้ากับเราได้ แต่จากสภาพแวดล้อมและอะไรหลายๆทำให้ยืนยันว่าพี่เขาเป็นผู้ชายที่รักผู้หญิง

ด้วยความที่เราสุขภาพไม่ดี เข้าออกโรงบาลราวกับเป็นบ้านหลังที่สอง การมีคนดูแลไม่ว่าจะผู้ใหญ่ หรือเพื่อน หรือพี่ไม่ก็น้อง เป็นเรื่องที่กลายเป็นปกติไปแล้วสำหรับเรา แม้จะต่างพ่อต่างแม่ แต่ทุกคนชอบว่าเราน่าเอ็นดู น่าสงสารอะไรทำนองนี้ ทำให้ทุกคนห่วงเรามาก ไม่อยากให้ทำอะไรหักโหม พอจะวิ่งออกกำลังกายก็ต้องมีสักคนที่อาสามาดูหรือวิ่งด้วยกลัวหน้ามืดเข้าโรงบาล หรือจะทานอะไรก็จะมีคนบอกให้ทานอาหารอ่อนๆ ย่อยง่ายๆ ชีวิตดำเนินแบบนี้มาได้ 2 ปีตั้งแต่อยู่มหาลัย เมื่อก่อนอยู่หอในตอนนี้อยู่หอนอกได้ 2 เดือนกว่าๆแล้วค่ะ

เพื่อนๆพี่ๆพันทิปคะ?...

เรื่องมันเริ่มจากที่เราย้ายเข้ามาอยู่หอนอกใกล้ๆมหาลัยเหตุเพราะชอบอยู่คนเดียว โลกส่วนตัวสูงมาก ช่วงสัปดาห์แรกๆเลยติดห้องไม่ออกไปไหน หลังจากนั้นเริ่มอยากเดินดูแถวๆบริเวณหอเลยเริ่มจากร้านกาแฟเล็กๆใต้หอก่อน

ร้านโทนสีชมพูอ่อน
ร้านที่มีไฟสีส้มดูนวลตา
ร้านที่มีโต๊ะ เก้าอี้ ตุ๊กตา ตกแต่งอย่างน่ารัก
ทั้งร้านมีเพียงคุณป้าเจ้าของร้านนั่งเล่นมือถือคนเดียว...

เราได้มีโอกาสรู้จักกับเจ้าของร้านในเย็นวันนั้น ทักทาย พูดคุย มีเพียงเรากับป้าสองคน

บ่าย 2 ของวันนั้น ก็มีคนๆหนึ่งเดินเข้ามาในร้าน เสื้อนักศึกษากับกางยีนส์สีซีดและรองเท้าผ้าใบสีเขียวตุ่นๆ

พี่เขาสั่งน้ำกีวี่โซดาแล้วนั่งอยู่บนเคาเตอร์ในร้าน คุณป้าพูดคุยตามประสาคนอัธยาศรัยดี พาเราคุยร่วมด้วยเพื่อให้บรรยากาศไม่อึดอัด

และเราก็ได้รู้จักผู้ชายที่อายุแก่กว่าเรา 1 ปี  

เมื่อรู้จักชื่อกัน...ผู้ชายคนหนึ่ง ก็กลายเป็น 'พี่ชาย' ส่วนเราก็กลายเป็น 'น้องสาว' ตั้งแต่วินาทีนั้นเป็นต้นมา...



ดีใจค่ะที่มีพี่ชายบ้างอะไรบ้าง เพราะเราเป็นลูกสาวคนโต อ้อนใครก็ไม่ได้มีแต่น้องมาอ้อน พอเราอ้อนก็ดูแก่(ฮ่าๆๆๆ) พอมีพี่กับเขาบ้างก็ชอบค่ะ เจอกันที่ร้านกาแฟใต้หอเป็นครั้งๆ เจอกันก็คุยกันเรื่อยๆแบบทำความรู้จักกันไป ยิ้ม หัวเราะแห้งเมื่อไม่รู้จะพูดอะไร โดยมีคุณป้าเจ้าของร้านช่วยสร้างบรรยากาศให้อารมณ์ดี รื่นเริง (ป้าเจ้าของร้านเป็นคนตลกมาก น่ารักและแมนฝุดๆ) เพราะเราเป็นคนนิ่งๆ ป้าเลยชอบแหย่พี่ชายและดูถูกคอกันมาก คุยกันไปแหย่กันมา น่ารักดีค่ะ เล่นจักกะจี้บ้าง จิ้มบ้าง เรามีหน้าที่ดูก็ฮากันไป เล่นเป็นเด็กทั้งป้าและพี่ชาย  ....เป็นอย่างนี้มาอีกสัปดาห์ค่ะ



สัปดาห์ที่ 3 ... คุณป้าไม่อยู่ค่ะ มีธุระจำเป็นทำให้ต้องปิดร้าน 2 สัปดาห์ ร้านกาแฟเลยเงียบกริบ เราก็ไม่มีที่ไปเลยไปช่วยงานคณะ แต่แจ็กพอตวันหนึ่งฝนตก บวกกับเป็นคนนอนยากมากเพราะยาที่ทานประจำ สุขภาพอันแข็งแรง(นิดๆ)เลยทรุดในวันต่อมา กลายเป็นสตรีเฝ้าหอหลับๆตื่นๆ ไข้ขึ้นๆลงๆแบบนั้นอีกหลายวัน  จนคุณแม่ทนไม่ไหว (เป็นคนโทรหาครอบครัวทุกวันค่ะ พ่อแม่และน้องเลยจับผิดน้ำเสียงได้ว่าแย่ลง) บอกจะให้พ่อไปประชุมและรวดรับกลับบ้าน ไปรักษาตัวที่บ้านดีที่สุด อยู่คนเดียวกลัวเราช็อคทำนองนี้ เลยนั่งรถ 6 ชั่วโมงกลับสู่บ้านเกิดเพื่อรักษากายให้หายดีค่ะ


สัปดาห์ที่ 4 .... ยังคงรักษาตัวอยู่บ้าน รำมวยไทเก๊ก โยคะ ตีแบต อ่านหนังสือ บางทีก็ไปช่วยคุณแม่สอนหนังสือเด็กประถมเพราะเป็นช่วงที่มหาลัยปิด แต่โรงเรียนเปิด ก็ได้ประสบการณ์และเทคนิคการสอนมาเพียบเลย ....เวลาจะใช้เน็ตต้องวิ่งออกมานอกบ้านนะคะ เพราะสัญญาณไปไม่ถึงในบ้าน ต้องออกมานั่งที่สนามหญ้าแล้วเล่นค่ะ เน็ตถึงจะแรงและดี ประมาณว่า...ซึมซับธรรมชาติ ตบยุง กินถั่ว พิมพ์คอมตามประสาเด็กชายขอบแผนที่ประเทศไทย เป็นอย่างนี้วนๆกันไป จนถึงวัน อ. ของสัปดาห์นี้ ...คุณพ่อก็กำหนดวันที่พ่อสะดวกส่งเรากลับสู่หอหลังมหาลัย  ฤกษ์คือวันที่ 8 ของเดือนหน้า  เพื่อให้เรามีเวลาไปทำกิจกรรมของคณะและปรับตัวอีกมากมาย ด้วยความที่แถวๆบ้านขึ้นชื่อสินค้ามีคุณภาพแท้จากป่า... เลยอดนึกถึงคนที่หอไม่ได้ เลยไลน์ไปหาคุณป้าที่แลกกันไว้ กับพี่ๆผู้หญิงบางคนที่มีไลน์ ก็ถามว่าจะเอาอะไรไหม...อยากได้น้ำผึ้ง หรืออะไร ทุกคนบอกว่าเราเอาอะไรไปก็รับหมดแหล่ะ...คุณป้าเลยถามว่าเราได้ถามพี่ชายหรือยังว่าจะเอาอะไรไหม ... ก็สารภาพว่าไม่ได้ขอการติดต่ออะไรของพี่ชายไว้สักอย่าง  คุณป้าเลยส่งไลน์พี่ชายมาให้เพื่อให้เราเป็นคนถามเองค่ะ...(จะว่าเป็นการปัดไม่ถามให้จะง่ายกว่า 5555)  เราก็ยังไงก็ได้ เลยรับมาแล้วแอดไปหาพี่ชาย ข้อความแรกที่ส่งไปก็สไตล์กวนๆนิดนึง...คือไม่เคยไลน์หาผู้ชายก่อนค่ะ (ฮา)

ก็สไตล์ โย่วๆ...หวัดดีฮับ ทำนองนี้  (บทสนทนาตรงนี้ลงได้ค่ะ....จะนำมาลงในภายหลัง)


แล้วก็ถามว่าพี่อยากได้อะไรไหม...พี่ก็บอกว่าบ้านเรามีอะไรบ้าง ก็เลยบอกว่ามีอันนี้ นั้นโน้น บลาๆๆๆ สุดท้ายพี่ขอถั่ว 2 ถุง ก็บอกว่าใกล้ๆจะกลับจะซื้อไปฝาก เหลืออีกตั้งหลายวัน ...

ช่วงเวลานั้นก็มาสไตล์นี้ค่ะ...ตื่นเช้ามาก็จะมีข้อความพี่ชายส่งมาตลอด  ก็จะเป็นข้อความของเมื่อคืน เราเป็นคนหลับเร็วตื่นเช้าตามประสาเด็กชายขอบ ก็จะทักกลับไปว่า สวัสดีตอนเช้า อากาศดี ฝนไม่ตก ดินฟ้าอากาศจัดเต็มทุกวัน คุยๆกันเรื่องทั่วไปค่ะ จนกระทั่งมาถึงเรื่องน่าปวดหัวที่สุด...

เรื่องเฮนดรีไดรฟ์กับคอมพิวเตอร์...


พี่ชายเรียนเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ค่ะ ทำให้มีความรู้ด้านนี้พอสมควร  วันนั้นเฮนดรีไดรฟ์มีปัญหามาก มีเอกสารราชการที่คุณแม่ต้องใช้เป็นแบบร่างในการพิมพ์ ปรากฎว่าเปิดเครื่องไหนก็ไม่ออก หนำซ้ำเป็นวินโดว์รุ่นเก่า ต้องใช้ด่วนเพราะเกี่ยวกับการเบิกเงิน คุณแม่เห็นว่าเราถนัดคอมพิวเตอร์เลยขอให้ช่วยเปิด เราก็จัดไปค่ะ...เปิดๆ เข้าโน้น คลิ๊กขวา เข้าตรงนี้  ...สุดท้ายก็เข้าไม่ได้ เลยถามคุณป้าทางไลน์ว่าป้าพอจะให้ใครช่วยได้บ้าง ป้าก็แนะนำพี่ชายว่าพี่ชายเรียนทางคอมไม่ใช่เหรอ เราก็เอะใจแล้วยิงคำถามให้พี่ช่วยทันที...ใช้เวลา 3  ชั่วโมงเราก็เอาชนะเฮนดรีได้และข้อมูลก็อยู่ครบ ภูมิใจมากค่ะ...เลยชมพี่ชายและบอกขอบคุณ พี่ก็ตอบกลับมา..."มีอะไรก็บอกพี่ได้ทุกอย่างนะ"

มีพี่ชายดีอย่างนี้นี่เองค่ะ...
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่