เคยเจอมั๊ยคะ เข้ามาชาร์จแบตในร้านอาหาร เกือบ 8 ชั่วโมง

เรื่องมีอยู่ว่า เราเปิดร้านอาหารในคอนโดแห่งหนึ่งย่านปิ่นเกล้า มีลูกค้าผู้หญิงเดินเข้ามาสองคน ประมาณ 10 โมงเช้า มีอุปกรณ์ครบมือ เช่น โน๊ตบุ๊ค มือถือ แท็บเล็ต พร้อมสายชาร์จ เข้ามาสั่งอาหาร 1 จาน น้ำปั่น สองแก้ว พอซักพักบอกให้เราเปิดแอร์ เราบอกว่าแอร์เปิดไม่ได้ค่ะ ถ้าร้อนก็ออกไปนั่งริมสระน้ำก็ได้ค่ะ ลูกค้าบอกว่า นั่งข้างนอกไม่ได้ ไม่สะดวก เพราะต้องการชาร์จแบตในร้าน เราก็บอกว่า โอเครค่ะ (ในใจคิดว่าคงแป๊บเดียว เพราะมีป้ายบอกไว้ให้ชาร์จได้ไม่เกิดน 1 ชั่วโมง หลังจาก 1 ชั่วโมงจะเก็บเงินชั่วโมงละ 20 บาท) แล้วลูกค้าก็นั่งต่อไปจนเที่ยง ลูกค้าเต็มร้าน โต๊ะไม่พอ เลยต้องให้ลูกค้าที่เข้ามาใหม่ไปนั่งริมสระน้ำแทน แล้วคุณลูกค้าสองคนก็ยังคงสั่งอาหาร อีกสองจาน แล้วก็น้ำดื่ม สำหรับตอนเที่ยง แล้วนั่งต่อไปจนถึง 6 โมงเย็น เราจะเก็บร้าน เราก็เดินไปบอกเค้าว่า ร้านจะปิดแล้วค่ะ รบกวนขอเช็คบิลนะคะ ลูกค้าก็บอกว่าโอเค เราก็ส่งบิลไป ค่าอาหารสองร้อยกว่าบาท ค่าชาร์จไฟ 7 ชั่วโมง ๆ 20 เป็นเงิน 140 บาท คุณลูกค้าเดินมาที่เค้าท์เตอร์ถามเราว่านี่อะไร ทำไมชั้นต้องจ่าย ไม่เห็นแจ้งว่าจะคิดค่าไฟ เราก็บอกว่าป้ายก็มีค่ะ แปะไว้ที่เต้าเสียบ เค้าบอกว่า แปะอะไร ตรงไหน ไม่เห็นมี เราก็ชี้ไปให้เค้าดู เค้าบอกว่าตัวเล็ก มองไม่เห็น เราว่ามองไกลๆ ยังเห็นเลยนะ ใช้ตัวอักษรขนาดใหญ่ เต็มแผ่น A4 เค้าก็ยืนยันคำเดิมว่าจะไม่จ่าย จะฟ้องนิติบุคคลให้ไล่เราออกไป ไม่ให้เราขายของในคอนโดนี้ บอกว่าเราโกงบ้าง บอกว่ารู้มั๊ยว่าเค้าเป็นใคร แล้วรู้จักเจ้าของร้านคนเก่ามั๊ย เค้าบอกว่าเค้าอยู่คอนโดนี้มาสิบปีแล้ว ไม่เคยมีใครมาเก็บค่าไฟเค้า เราก็บอกว่า มีห้องอยู่ในคอนโด แล้วไม่ไปใช้ไฟที่ห้องหรอคะ  แล้วก็อ้างว่าเป็นตัวเองเป็นนักกฎหมาย จะฟ้องหมิ่นประมาทเรา ทั้งที่เรายังไม่ได้ตอบโต้อะไรซักคำ แล้วก็บอกว่าเค้าไปนั่งกินสตาร์บั๊ค ไปชาร์จไฟนั่งนานๆ แบบนี้ เค้ายังไม่คิดเงินเลย อยากรู้ว่า สตาร์บั๊คนั่งนานขนาดนี้ เค้าไม่ชาร์จเพิ่มจิงๆ หรอคะ