[CR] การเดินทางของฉัน 14 วันในญี่ปุ่น [PART 1 : TOKYO / TAKAYAMA / SHIRAKAWAGO / KANAZAWA ]




ในที่สุดก็ได้ไปญี่ปุ่น!!   เห็นรีวิวคนอื่นมานานมากกกกกกกก
แต่ดูแบบผ่านๆ ตลอด เพราะไม่งั้นจะสติแตกด้วยความอยากไป
จนเหมือนสวรรค์เป็นใจเพราะทั้ง Free Visa + Low Cost Airline ที่เปิดเส้นทางใหม่
ทำให้ได้มีโอกาสไปเที่ยวที่นี่กับเค้าบ้างซักที เที่ยวแต่ประเทศโลกที่สามจนเบื่อแล้ว
อยากเห็นความศิวิไลกับเค้าบ้างไรบ้าง


กระทู้นี้ตั้งใจรีวิวข้อมูล ที่เที่ยว ที่พัก ที่กิน และการเดินทางนะคะ
เพราะตอนหาข้อมูลก่อนเดินทางจากพันทิพให้ข้อมูลเราเยอะมากกกกก
เลยต้องมาตอบแทนซักหน่อย คิดว่าน่าจะมีประโยชน์กับนักเดินทางท่านอื่นๆ
แต่ถ้าออกทะเลเรื่อยเปื่อยไปหน่อย หรือข้อมูลเบาไปก็ได้โปรดอภัยน๊า


การเดินทางครั้งนี้จะเขียนเป็น 3 PART ค่ะ
[PART 1 : TOKYO / TAKAYAMA / SHIRAKAWAGO / KANAZAWA ]
[PART 2 : KAWAGUCHIKO / GUMMA / TAKARAGAWA ONSEN / KAMAKURA ]
[PART 3 : TOKYO]


ช่วงเวลาเดินทาง : 12 - 26 ก.พ. 2015  [ 14 วันบนแผ่นดินญี่ปุ่น ]
งบประมาณ : ตั๋วเรือบิน Low Cost : Thai Air Asia X ราคาโปรเปิดตัว
ไป-กลับ + กระเป๋า 20Kg + จองที่นั่ง : ประมาณ 10,000 บาท / คน
ค่ากิน-เที่ยว-เดินทาง-ช๊อปปิ้ง+ที่พัก : ประมาณ 50,000 บาท / คน
สไตล์การเดินทาง : Backpack [ แบกเป้จริงๆ นะเออ ]
สไตล์การเที่ยว : เที่ยวชิว เที่ยวช้า เดินเยอะ อ้อยอิ่ง เลยเที่ยวได้น้อย แถมยังเที่ยวไม่ครบ !! แหะๆ
เรทเงินที่แลกได้ : 0.277


ภาพถ่ายส่วนมากถ่ายจากมือถือเรา และกล้องคอมแพคของผู้ร่วมทาง
เบลอบ้าง เอียงบ้างโปรดอภัย [ เราสายตาเอียงมาก ]
ปรับแสงสี ตามอำเภอใจด้วย app VSCOcam ค่ะ


เห็นภาพรวมกันไปแล้วหลายๆคนอาจจะรู้สึกว่าแหม่ไปน้อยจัง
อยู่เป็นกำลังใจกันก่อนน๊า ..เพราะมีเรื่องราวมาเล่าให้ฟังเยอะแยะเลย
เดี๊ยวเราตามไปเที่ยวพร้อมๆ กันนะคะ ตามมากันเลยค่า
อมยิ้ม17อมยิ้ม17



13.02.15 : ญี่ปุ่นจ๋า .. ฉันมาแล้ว !!



ถึงสนามบินนาริตะ ประมาณ 8:00 น. ตามกำหนดการ
ผ่านกระบวนการทุกสิ่งอย่างเรียบร้อยแล้ว
ก็เปิด Pocket wifi [ samurai wifi ] ออนไลน์กันซะก่อน
** ยี่ห้อนี้ข้อดีคือ ถูก และ แบตก็อึด
** ข้อเสียคือ สัญญาณชอบหาย ต้องปิดเครื่องและเปิดใหม่ค่อนข้างบ่อย



จากนั้น..ก็ไปซื้อตั๋วทุกสิ่งอย่าง
- ตั๋วรถไป N'ex เข้าเมืองลงชินจูกุ 1500 เยน / คน [ แต่รู้สึกตอนนี้จะไม่มีราคานี้แล้ว ]



- Kanto 3 day pass
ตอนแรกต่อคิวนานมากเพื่อซื้อที่เคาท์เตอร์ JR ที่สนามบิน
สุดท้ายรอไม่ไหว เพราะ N'ex ที่ซื้อตั๋วไว้กำลังจะมาแล้ว
เลยไปหาซื้อที่เคาท์เตอร์ JR สถานีชิจูกุได้เหมือนกัน แทบไม่ต้องต่อคิวด้วยนะเออ
แผนที่ไปเคาท์เตอร์ JR ที่เทอร์มินัล 2



- ซื้อตั๋ว Tokyo Subway 3-Day Ticket [ ราคา 1,500 เยน ]
- ซื้อตั๋ว Tokyo Subway 1-Day Ticket [ ราคา 800 เยน ]
เป็นตั๋ว unlimited rides on all Tokyo Metro and Toei Subway lines.
ไม่ต้องระบุวันที่ใช้ตั๋ว เริ่มใช่วันไหนก็นับวันกันตั้งแต่วันนั้น จนครบอายุตั๋ว
เคาท์เตอร์นี้คือ หายากมากกกกกกกก หรือเราโง่เองก็ไม่รู้
เดินวกไปวนมา 2-3 รอบ ใครที่ต้องซื้อ ลองดูแผนที่นะคะ .. โชคดีค่ะ 55



ถึงเวลาออกไปหาแสงสว่างที่ปลายอุโมงกันแล้ว


อาหารญี่ปุ่นมื้อแรก ซื้อใน Family Mart กินบน N'ex
ฟองเต้าหู้ห่อข้าว นี่อร่อยกว่าที่คิดมากๆ ที่ไทยไม่เคยกินเลยค่ะ
ได้กินของที่นี่แล้วรู้สึกว่ามันอร่อยมากๆๆๆ ค่ะ



ถึงสถานีชินจูกุ .. เป้าหมายต่อไปคือ ไปเก็บกระเป๋ายังที่ซุกหัวนอน คืนแรก คืนเดียวในชินจูกุ
Apartment Hotel Shinjuku
web : http://ap-shinjuku.com/
Address : 4-4-10 Shinjuku Shinjuku-ku Tokyo 160-0022
Phone : 03-62730991
E-mail : hotel@ap-shinjuku.com


ช่างเป็นโรงแรมที่ Hipster มากๆ.. แคบก็แค๊บบบบ แคบ ห้องอยู่ชั้น 4 ไม่มีลิฟท์
แบกขึ้นกันไปค่ะ เป้หนัก 10 กว่ากิโล.. แต่มู้ดมันติสดี คิดว่าถ่ายรูปลงเฟสแล้ว
คนน่าจะชมว่ากิ๊บเก๋ กิ้วก๊าว ..อิฉันยอมมม และก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ .. ฟินน 555
[ จริงๆ แล้ววันถัดไปต้องขึ้นรถจากแถวๆ ชินจูกุไปทาคายาม่า เลยเลือกพักที่นี่จ๊ะ ]


คือที่นี่นอกจากจะเป็น Hostel แล้ว ก็ยังขายเฟอร์นิเจอร์สไตล์วินเทจด้วย... เก๋ๆ ทั้งนั้น
แต่ดูราคาแล้ว... เอิ่มม แรงงง .. เจ้าของดูติสมากๆๆๆ ด้วย [ ดูจากการแต่งตัวนะ ]
อ้อ.. ที่นี่ (และหลายๆที่) เค้าให้ Check in บ่าย 3 นะคะ เราตั้งใจเอากระเป๋าไปฝากก่อน
แต่เดชะบุญ ห้องว่างพอดี เค้าเลยให้ Check in ได้เลย..เฮ้!!



ภารกิจแรกหลังจาก Check in แล้ว ..คือการ....กิน!! นั่นเองงง
เป้าหมายคือ Sushi Midori สาขาชิบูย่า ที่ตึก Mark city
แน่นอนว่าต้องเดินทางไปที่ ชิบูย่า .. วันนี้ใช้วิธีหยอดตังซื้อตั๋วเอาเพราะไม่ได้ไปไหนมาก
JR Yamanote Line(Inner loop) : ลง SHIBUYA : ราคา 160 เยน


ข้อมูลเริศๆ : แผนที่ท่องเที่ยว Zone SHIBUYA + MAP เริศมากๆ
ดาวน์โหลดไฟล์ PDF. ได้ที่
http://shibuyakukanko.jp.e.ea.hp.transer.com/mappdf/mappdf/shibuya_english.pdf




และแล้วก็มาถึงชิบูย่า .. 5 แยกยอดฮิต กับน้องฮาจิโกะ รอไปก่อนนะจ๊ะ
ณ.จุดนี้หิวมาก .. พุ่งตัวไป Sushi midori โดยพลัน
ตามข้อมูลที่ได้จากในพันทิพ คือ อยู่ชั้น 4 ของตึก Mark city
หาตึก Mark city ให้เจอก็จบ ไม่ยากเลยจริงๆ [แต่ตอนออกจากรถไฟมามีหลงทิศเล็กน้อย เหอๆ ]
ไปถึงร้านก็พบว่าคนตรึมมมมม พนักงานมาช่วยกดบัตรคิว แล้วก็รอ ร้ออออ รอ



รอประมาณ 1 ชม. กว่าๆ และแล้วก็ถึงคิวเรา
เรารีเควสนั่งเคาท์เตอร์ พนักงานก็ให้ถอดเสื้อกันหนาว กับฝากกระเป๋าเป้ไว้
สิ่งแรกที่มาเสริฟ ปลื้มปริ่ม อร่อยน้ำตาไหล ..สลัดมันปูนั่นเองงงง



เราสั่ง Set ยอดฮิต [ จำราคาไม่ได้ ] กินอิ่มจนจุกเลยค่ะ
ที่ชอบสุดๆ ในจานนี้คือ ซูชิปูค่ะ



เชฟที่นี่เค้า Entertain ลูกค้าค่อนข้างดี อยากถ่ายรูปได้เลย เดี๊ยวจัดให้เสร็จจะบอก
เรียกเด็กเสริฟมาช่วยถ่ายรูปคู่ให้เรา [ ไม่ได้รีเควสนะ เค้าเรียกมาให้เอง ]



กินเสร็จ อิ่มจุกสุดๆ ก็ต้องไปทำภารกิจหลักคือ หาซื้อเสื้อโค้ทกันหนาวสำหรับไปลุยหิมะ
เดินเข้าร้านนู้น ออกร้านนี้ หาซื้อกันจนค่ำ
[ คือ..เราเยอะอ่ะ 555 เลือกยาก ส่วนมากเจอแบบหวานๆ พองๆ ไม่ใช่แนวอย่างแรง ]
วกกลับมาที่ Mark city อีกรอบก็ใกล้ค่ำละ เลยได้คลิป 5 แยก มา 1 คลิป
ใช้ Mode TIME-LAPSE ถ่ายเอา [ รู้สึกถึงความยั๊วเยี๊ยของผู้คนมากๆๆๆ ]
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

ได้ของเรียบร้อย ก็นั่งรถไฟกลับไปชินจูกุ เพื่อเดินไปดูวิวโตเกียวยามค่ำคืนที่
Tokyo Metropolitan Government Office
Link >> http://www.metro.tokyo.jp/ENGLISH/index.htm
ซึ่งไกลมากกกก อาจเป็นเพราะเดินทางเชื่อมใต้ดินด้วยมั้ง เลยรู้สึกว่าไกลสุดๆ
ตึกนี้ขึ้นฟรีค่ะ เจ้าหน้าที่ดูแลดีมาก เชิญให้มารอขึ้นลิฟท์ จัดคิวอย่างมืออาชีพ
ทั้งที่คนก็ไม่ได้เยอะอะไร พอเราเข้าไปในลิฟท์ เจ้าหน้าที่ยืนคำนับ
และก้มค้างจนลิฟท์ปิดเลยค่ะ เริศมากกกก ..... วิวจากบนตึกค่ะ



ที่เลือกมาดูตอนกลางคืน เพราะวันที่เราไปฟ้าไม่เปิดค่ะ หม่นมาก
ดูตอนกลางวันคงขมุกขมัว เลยเลือกกลางคืนดีกว่า
ที่นี่ถ้าวันไหนฟ้าเปิด ทัศนวิสัยดีๆ ก็จะได้เห็นฟูจิค่ะ .. ดูวิวกันอีกมุม ..



บอกเลยว่าตอนเดินกลับทรมานมาก เพราะไกลมาก เหนื่อยมาก หนาวมาก
ไร้อารมณ์ลั้นลาใดๆ เดินผ่าน Shinjuku Southern Terrace ที่ยังมีประดับไฟอยู่
ก็แทบไม่มีอารมณ์ถ่ายรูป ..มื้อเย็นก็ไม่ได้กินอะไรจริงจัง เพราะ Sushi Midori อิ่มนาน
เลยแค่ซื้อข้าวปั้นใน Family Mart กลับมากิน  

จบวันแรกด้วยการเที่ยวแบบไร้แก่นสาร
หลายๆ คนคงคิดว่า นี่มาเที่ยวหรา.. ไม่เห็นไปไหนเลย 555
เราเที่ยวแบบนี้แหล่ะค่ะ เรื่อยๆ ได้เท่าไหนเท่านั้น
แพลนมีค่ะ ทำเป็นสมุดไกด์บุคส่วนตัว ฉบับตัดแปะ จัดเต็มข้อมูลแน่น



แต่ก็ต้องปรับประยุกต์กันไปเนอะ ทริปนี้มีทิ้งโรงแรมที่จ่ายตังไปแล้ว
เพื่อย้ายเมืองด้วยนะเนี่ย ตามเที่ยวกันในวันที่ 2 ที่ความเห็นต่อไปกันนะคะ
ชื่อสินค้า:   ประเทศญี่ปุ่น บันทึกนักเดินทาง เที่ยวต่างประเทศ
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่