ใครเคยเจอเพื่อนบ้านจอมดูถูกนินทาแบบเราบ้าง

สวัสดีค่ะ วันนี้เรามาเล่าเรื่องราวของเราให้ฟังเนื่องจาก มีเพื่อนในเฟสคนนึง ได้โพสเรื่องราวถึงเรื่องเพื่อนของเค้ามันทำให้เรานึกถึงตัวเราเองว่าเคยผ่านเรื่องราวอะไรมาบ้าง เราอยู่ม.6 ค่ะ ครอบครัวของเราเป็นครอบครัวเล็กๆ4คนพ่อแม่ลูก ไม่มีญาติพี่น้องหรือผู้อุปถัมภ์ค้ำชู พ่อแม่เคยเล่าให้ฟังว่าพวกเขาเข้ามากทม.ทั้งที่ชีวิตไม่มีอะไรเลย มาตายเอาดาบหน้า พยายามหาเงินสร้างเนื้อสร้างตัวทำทุกอย่าง จนกระทั่งเราเกิดมา และพ่อแม่ก็ได้ย้ายเข้ามาอยู่ในซอยบ้านปัจจุบันนี้ เมื่อ 17 ปี บ้านที่พ่อแม่อาศัยอยู่อยู่ติดกับชุมชน ขนาดย่อมๆ มีห้องเช่าประมาณ 30 หลัง และก็เลี้ยงดูเรามาอย่างดีตลอด พ่อแม่เราเป็นพวกรักสันโดดรักครอบครัว เลยไม่ค่อยไปสุงสิงกับใครในซอย จนตอนนั้นคนก็มองว่าพ่อแม่หยิ่ง แถวบ้านเรามีรร.เอกชนและรัฐบาล พ่อแม่ก็ยอมทำงานหนักหาเงินมาให้เราได้เรียนเอกชน เพื่อให้มีชีวิตที่ดี อนาคตที่ดี จนเราโตเป็นเด็กอนุบาลตอนนั้น 4-5 ขวบ เรากำลังซน อยากมีเพื่อนเล่น และในอพาร์ตเมนท์มีเราเป็นเด็กอยู่คนเดียว แต่ในชุมชนนั้นมีเด็กรุ่นราวคราวเดียวกับเราประมาณ 7-8 คน แต่พวกนั้นเรารัฐบาลหมด ด้วยความที่เราไม่ได้คิดอะไรก็เลยไปเล่นไปคลุกคลีกับพวกนั้นตามภาษาเด็กๆ พ่อแม่เราเห็นก็ปล่อยนะ แต่ก็จะเรียกเราไปกินน้ำกินข้าว พักเหนื่อยอยู่ตลอด จะจำกัดเวลาเล่นว่าก่อนมืดต้องรีบเข้าบ้านเดี๋ยวโจรจับไป เราก็เป็นเด็กดีและทำตามนะ แต่ตอนนั้นเรากลับได้ยินในสิ่งที่คาดไม่ถึงเมื่อพ่อแม่ของเด็กพวกนั้นบอกว่า 'ไปๆอย่าไปเล่นกับอีพวกลูกคุณหนู' คือทำไมเขาพูดแบบนี้กับเรา เราไม่เคยคิดดูถูกพวกเขาเลย เราก็ไม่ทำอะไรต่อนะ ก็ยังคงไปเล่นกับพวกนั้นอยู่ตลอด แต่พวกนั้นก็เล่นกันแบบเอาเปรียบเราตลอดแบบหยิกเรา จิกหัวเรา ให้เราเป็นคนใช้ แถมยังพูดคำหยาบ แบบไอ้เห้ ไอ้แอนนิมอล ทั้งๆที่พ่อแม่ก็สอนเราไม่ให้เราพูด ในที่สุดประมาณป.1 พ่อแม่ก็ทนเห็นไม่ไหว จึงสั่งไม่ให้เราไปเล่นกับพวกนั้นอีก ให้มาเล่นกับน้องสาวเราแทน แรกๆเราก็เสียใจนะ แต่พอโตๆไปเราเริ่มเห็นพฤติกรรมของเด็กพวกนั้นชัดขึ้นๆ เพราะเริ่มโตๆกันแล้ว ทั้งซอยผมก็โปรงสั้น ถุงเท้ายาวเวอร์ๆ โดดเรียนใครที่อายุประมาณเราน่าจะเข้าใจ ต่างจากเราที่ทำตามระเบียบรร.ไม่เคยโดดเรียนหนีเที่ยว ผู้ใหญ่คนอื่นเห็นก็ชมเราชมพ่อแม่เรา ต่างจากผู้ใหญ่ในชุมชนนั้นที่เอาแต่จ้องนินทาเหน็บแนมกันตลอด แต่เราก็ไม่สนใจใช่ชีวิตไปตามปกติ จนกระทั่งขึ้นสอบเข้าม.1 ในเขตบ้านเรามีรร.อยู่ 2 รร.ที่ใกล้บ้านมาก รร.A เป็นรร.ชื่อดังในกทม.เลย ไม่มีใครไม่รู้จัก รร.B เป็นรร.ในเขตบ้าน ชื่อเสียงดรอปลงมา และที่สำคัญเด็กเกเรเยอะมาก เราเลยไปสอบรร.แรกเพราะเราก็เรียนเก่งพอประมาณ 3.8 ไม่เคยต่ำกว่านั้น วันที่ไปสมัครสอบเจอค่ะ ป้าๆพวกนั้นเอาลูกแกมาสอบแข่งกับเราค่ะ ก็ตามนั้นเลยค่ะ เราสอบไม่ติด เด็กพวกนั้นก็สอบไม่ติด เข้ารร.Bไป ตอนนั้นเสียใจมาก คิดว่าต้องไปอยู่รร.Bแล้ว แต่ไม่ใช่โชคยังดีที่เราได้ไปเรียนที่รร.รองรับเด็กที่สอบไม่ติดจาก รร.A ซึ่งสังคมดีกว่า รร.B มากๆ เราก็ตั้งใจเรียนเพราะจะให้โอกาสตัวเองสอบใหม่ตอนม.4 ทุกเทอมพวกป้าๆก็จะแวะเวียนมาถามเราตลอดว่า 'ได้เกรดเท่าไรล่ะหนู' แต่แอบถามไม่ให้พ่อแม่เราเห็นนะ เราก็ตอบไปทุกเทอม 3.6-3.9 แรกๆป้าแกก็อวดได้นะ หลังเด็กพวกนั้นเริ่มเกเรมากขึ้นเป็นเด็กแว้นขี่มอไซค์ไปมาทั้งวันทั้งหญิงทั้งชายเลย แต่ที่เราทึ่งมากๆคือเราจะทำอะไรป้าแกจะรู้หมดทุกอย่าง แล้วจะเอาไปพูดให้เสียหายกับคนในซอย เช่นรร.ม.ต้นเรามีงานเลี้ยงรุ่นเราก็ไปแล้วกลับบ้านดึก (พ่อไปรับกลับด้วย) ก็เอาไปพูดว่า น้อง D กลับบ้านต้องหนีเที่ยวติดผู้ชายแน่เลย แบบนี้ และคนในซอยก็มาแซวเรา หัดเที่ยวเหรอหนู เราที่เริ่มโต ก้เกิดความรำคาญป้าพวกนั้นที่วันๆไม่ทำอะไรจ้องจะจับผิดเราตลอดอยากเห็นชีวิตเราแย่เราล้มขนาดนั้นเลย ไม่เคยไปทำอะไรให้เลยนะ จน.เราม.4 ก็สอบเข้ารร.ชื่อดังมากๆได้ พ่อแม่ภูมิใจกับเรามากๆ คนในซอยก็รู้ก็ชมเราเช่นเคย คราวนี้พวกป้าๆเงียบไปเลยค่ะไม่กล้ามายุ่งมาเจอะแจะกับเรา เพราะเราโตขึ้นมากๆเราเลยพูดเป็นพูดยังไงไม่ให้มายุ่งกับเราได้ คราวนี้ลูกสาวแกมีแฟนค่ะ พากับแว้นทั้งวันทั้งคืนและพามานอนบ้านมาทุกวัน แรกๆเราเห็นก็ตกใจนะ แต่ทุกคนนี้ชินแล้วค่ะ แต่เราก็มีแฟนบ้าง เป็นเพื่อนในห้องเรา เรากับแฟนคบกันบริสุทธิ์มากๆ ไม่เคยแตะเนื้อต้องตัวกัน ทำอะไรไปที่ไหนพ่อแม่เราและเขารับรู้หมด เราคบกันเพื่ออนาคตจริงๆค่ะ มีความฝันอยากเข้ามหาลัยที่เดียวกันคณะเดียวกัน เราพากันเรียนค่ะ ไปติวที่นู้นที่ตลอด บ้านเขาอยู่เขตปริมณฑล แต่เขายอมนั่งรถเข้าเมืองมาเรียนกับเราในวันหยุด แต่ป้าแกกลับมาแล้วค่ะ แกหูไวตาไวมาก เอาไปพูดกับคนอื่นว่าเราได้เสียกับแฟนคนนี้ล่ะมาบ้านกันทุกอาทิตย์เลย ต่างจากลูกสาวแกที่พามาทุกวัน พ่อแม่เราก็เครียดนะ ที่คนอื่นมองครอบครัวเราแบบนี้ แต่พ่อแม่รู้และเชื่อใจเราเสมอค่ะว่าเราจะไม่เป็นแบบนั้น เรื่องนี้เราก็เล่าให้แฟนฟังนะ เขาก็เข้าใจและเข้าใจสังคมในปัจจุบันดีว่าอะไรมันเปลี่ยนไปแล้ว ตอนนี้เรากำลังจะสอบเข้ามหาลัยค่ะ ก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าแกจะทำยังไงกับชีวิตเราอีก กินเผือกหมดไปเป็นไรแล้วแกยังไม่อิ่มอีกเหรอ เชื่อแล้วค่ะมาคนสมัยนี้เขาไม่ได้ให้ใจกันจริงๆ ต้องอยู่ท่ามกลางคำนินทาแต่เราก็จะสู้ต่อไปไม่สนใจเสียงนกเสียงกาอะไรทั้งนั้น
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่