[CR] " ภูสอยดาว " หากขาทั้งสองข้างยังเดินไหว

" ภู ส อ ย ด า ว "

" หากขาทั้งสองข้างยังเดินไหว "

" R u n a w a y "




สวัสดีครับ เรากลับมาเจอกันอีกแล้ว 55555 ^ ^
สำหรับใครที่เพิ่งจะมาอ่านบทความนี้เป็นครั้งแรกของผมหรือช่วงนี้เวลาว่างเหลือนี้ครับ
http://pantip.com/topic/33948210  " สังขละบุรี " กับชีวิตที่ Slow จนแทบ Stop
บทความตอนไปสังขละบุรีของผม ถ้าคุณได้อ่านคุณจะรู้ว่าไอ่ที่ผมหายไป 3 วันก็เพื่อบทความนี้นี่แหละครับ ^ ^

มันเป็นเหตุการณ์ต่อเนื่องจากทริปสังขละหลังจากที่ผมกลับมาได้ 3 วัน ทริปภูสอยดาวถือเป็นทริปใหญ่ในกลางปีของผมเลยนะ จริงๆผมวางแพลนไว้จะไปพวกขึ้นเขาขึ้นดอยตอนหน้าหนาว ส่วนหน้าฝนเป็นเวลาที่ผมจะนอนเปลื่อยๆอยู่บ้านรอหน้าหนาว แต่ย้อนไปเมื่อเดือน 2 เดือนก่อน พี่หนึ่งพี่แกมาบบอกผมว่าจะไปภูสอยดาว เขาก็ชวนผมนะผมนั่งฟังพี่หนึ่งสักแปบนึงก่อนจะหยิบมือถือเข้า google หารูปดู สวยโคตร !! ผมตอบตกลงโดยไม่หาข้อมูลอะไรเพิ่มเติมทั้งสิ้น เอาเป็นว่ารู้แค่มันสวยพอ (หนูๆอย่าเอาเป็นเยี่ยงอย่างนะครับ)
ผมออกเดินจากบ้านตอน ทุ่ม 1 ครึ่ง เพียงแค่เริ่มเดินทางแม่ผมก็โทรมาอวยพรแบบเบาๆแล้ว
" ฮัลโหลวครับแม่ "
" อยู่ไหนนลูก "
" อยู่บนรถเมล์แล้วครับแม่ มีอะไรรึ "
" ป่าวแม่แค่ได้ยินรถหว๋อหลังบ้าน นึกว่าลูก "
" แม่ -*-  "  แม่ผมเป็นคนน่ารักกก

ทริปนี้มีกันแค่ 3 คน คือผม พี่หนึ่ง และเพิ้ลแบงค์ พอเดินเข้ามาในหมอชิตพี่หนึ่งสะกิดผมให้ดู กลุ่มเด็กวัยรุ่นประมาณ 5 คนนั่งสุมหัว เอ๊ย นั่งอยู่ตรงเก้าอี้พร้อมกับข้าวของเหมือนคนจะไปต่างประเทศ
" พี่ว่าเขาไปภูสอยดาวเหมือนกับเรา "  ผมก็ตอบไปว่า
" พี่ผมว่าไม่น่าใช่ อะไรเราจะดวงดีขนาดนั้น "
" แต่พี่ว่าใช่วะ ของเยอะขนาดนี้พี่ว่าที่เดียวกับเราชัว หน้านี้ไม่เที่ยวภูสอยดาวจะเที่ยวไหนวะ "
" เขาอาจจะนั่งรถจากหมอชิตไปอินเดียก็ได้พี่ "
" ถุ๊ย !!  "
แต่ผมก็ยังไม่เข้าทักนะวางมาดอยู่ 55555 ป่าวหรอกคือจริงๆหิวข้าวข้าวสำคัญกว่า แต่พอขากลับมาผมก็เดินไปถามเขานะว่าไปเที่ยวไหนกัน คือหน้าพี่แกแบบ " ไอ่แว่น เอ็ง เมิง เป็นใคร " ส่วนผม หึ ในใจคิดอะไรไม่รู้กุยิ้มอย่างเดียว รอยยิ้มชนะทุกสิ่งเว้ยยยยย แต่พอเขาตอบผมว่าไปภูสอยดาว ผมดีใจมากนะจริงๆทุกๆทริปผมมักจะเจอเพื่อนใหม่เสมอและมักจะเจอตอนที่ตัวเองกำลังลำบาก แต่ไม่คิดว่าจะเจอตั้งแต่เนิ้นๆแบบนี้นี่(หรือกุกำลังจะลำบาก -*- ) ผมหันไปสบตาพี่หนึ่งเพื่อส่งขอความ " พี่หนึ่งเราเจอเหยื่อแล้วครับพี่ " อมยิ้ม15



ผมยกภาระหน้าที่ติดต่อสื่อสารทั้งหมดทั้งปวงให้พี่หนึ่งประสานงานส่วนผมกับตาแบงค์ก็นั่งมองหญิง เอ๊ย! ไม่ใช่ ไปเซเว่นหาอะไรกินละหว่างรอคนที่ผมไปทักตอนแรกชื่อตั้มกับจอยกลุ่มตั้มจะออกเดินทางตอน 4 ทุ่มและจองรถจากชาตกาลไปอุทยานแห่งชาติภูสอยดาวต่อ ประจวบเหมาะพอดีแต่เดิมแพลนของพวกเรานั้นจะไปหารถต่อที่ชาติตระการและมันเสี่ยงมากเพราะมันไม่มีรถที่ไปอุทยานโดยตรง มันหมือนกับเราไปลุ้นเอาข้างหน้ามากกว่า พี่หนึ่งเลยขอเบอร์ไว้ตามนโยบายที่ว่า " ทางเดียวกัน อย่าทิ้งกันนะ T T "

ตอนนี้พวกเราอยู่บนรถทัวส์ไปพิษณุโลก รถออกประมาณ 5 ทุ่มที่นั่งบนรถนี้ผมถือว่านั่งสบายดีนะ ผมชอบบรรยาศการเดินทางตอนกลางคืนนะ มันเงียบมาก มากพอที่เราจะได้ยินเสียงของหัวใจเราชัดเจนมากขึ้น พรุ่งนี้ผมจะเจออะไรนะ มันจะสวยเหมือนอย่างที่ผมเห็นในรูปมั้ย ผมหยุดที่จะคิดไม่ได้เลยจนผมเผลอหลับไปตอนไหนก็ไม่รู้ ขณะที่ผมกำลังเคลิ้มกับการนอน ไฟในรถก็ถูกเปิดขึ้น แม่เจ้าาา มันจ้ายิ่งกว่าซีนอลลลล ผมสะลืมสะลือตื่นขึ้นได้ความอารมณ์เสียหน่อยๆ เหมือนลุงคนขับแกรู้ผู้โดยสารจะหงุดหงิดเลยจัดซิงเกิลหมอลำแบบนอลสต็อป เอ้า!! ยาวไป ยาวไปปปป ฟังแล้วอารมณ์ดีจังเลยยยยย



เรามาถึง บขส.พิษณุโลกตอนตี 4 ต่อแถวซื้อตั๋วไปชาตกาลต่อเราเปลี่ยนเสื้อและกางเกงเป็นขายาวเพื่อเตรียมพร้อมที่จะเดินป่าส่วนกลุ่มตั้มมาถึงตั้งแต่ตี 3 แล้วรถมาถึงตอนตี 5 ตรงเวลาเป๊ะ ทุกคนวิ่งกรูขึ้นไปบนรถแบบไม่คิดชีวิต เชื่อมั้ย 70 เปอร์เซนต์บนรถไม่ได้ต่อแถวซื้อตั๋วเพราะบนรถมีพนักงานเดินขายตั๋ว แล้วจะให้ผมต่อแถวทำไมเนี่ยยยย  ค่าตั๋วไปชาติตระการราคา 92 บาทเป็นรถแอร์ สะอาด เบาะนั่งสบาย ผมชอบมากถือว่าปลื้มเลยแหละ 3 ชม.กับการการนั่งรถไปชาติตระมันเลยเป็นอะไรที่ฟินมาก ติดอย่างเดียวคือ " กุยืน "





ผมประทับใจเส้นทางเดินรถเส้นนี้มาก มีวิวทิวทัศของทะเลอยู่หมอกไกลๆ ให้เห็นแทบตลอดทาง ทำให้เวลา 3 ชม.ที่ต้องนั่งอยู่บนรถผ่านไปเร็วมาก จนบางทีก็อดนึกอิจฉาคนที่นี้ไม่ได้จริงๆหรือผมเกิดมาพร้อมตึกคอนกรีตและความวุ่นวายกันแน่ ผมถึงโหยธรรมชาติและความสงบบางอย่างที่ใจผมต้องการ แต่ถ้าให้ผมเลือกว่าจะอยู่นี้ตลอดชีวิตมั้ยผมคงไม่เลือก " ถึงผมจะหลงรักธรรมชาติมากแค่ไหน แต่ความวุ่นวายก็ยังคงถูกเรียกว่าบ้านเสมอ " ผมเลยหนีจากมันไม่ได้ ไม่ซิผมเลือกที่จะไม่หนีมากกว่า







เรามาถึงชาติตระการตอน 8 โมง อาศัยนั่งรถกระบะที่กลุ่มตั้มเช่าไว้นั้งไปที่ตลาดชาตกาลซื้อพวกของสดเนื้อไก่ เนื้อหมู ข้าวเหนียวขึ้นไปกินเรื่องราวบนเส้นทางจากชาติตระการไปอุทยานในหัวผมเลือนลางมากเพราะผมเล่นหลับตั้งแต่เนิ้นๆรู้แต่ว่าเป็นถนน 2 เลน  มีอยู่ช่วงนึงที่ผมจำได้คือ ผมเผลอตื่นขึ้นมาตอนเรถเลี้ยวโค้งหักศอกบนเขา เราไม่มีทางเห็นรถเลนตรงข้ามที่กำลังจะมาได้เพราะภูเขามันบัง ส่วนใหญ่โค้งมักจะไม่ค่อยมีต้นไม้มาบัง วิวสวยสวยมากสายลมเย็นๆกับภูเขานี้มันช่างเข้ากันจริงๆ อย่างกับหนังเรื่อง walter mitty แหน่ะ ผมมองทอดออกไปความรู้สึกเหมือนอยากจะทิ้งบางอย่างไว้ตรงนี้ แต่เหมือนธรรมชาติบอกว่า " เฮ้ยท้งทิ้งอะไรเมิงเก็บขึ้นไปก่อน " พอรถเลี้ยวโค้งผมหันกลับมามองข้างหน้าเท่านั้นแหละไอ่รถที่สวนกลับมาเป็นรถบรรทุก สต่งสติไอ่ที่ว่าเคลิ้มๆ จากหนังแนวปรัชญากลายเป็นหนังแอคชั่นเฉยเลย ผมกรี๊ดในใจดังมว๊ากกก เหมือนนั่งดูหนังแอ็คชั่น 3มิติ มือ 2 ข้างจิกเบาะข้างหน้าแน่น มันใกล้มาก ยิ้มใกล้เกินไป ตายกุตายยยย ผมนั่งตัวแข็งจนทุกอย่างผ่านไป คุณพระ กุนึกว่ากุหลุดเข้าไปใน Die hard T T  







ชื่อสินค้า:   เที่ยวไทย จังหวัดอุตรดิตถ์ ภูสอยดาว บันทึกนักเดินทาง ภาพถ่าย
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่