เนื่องจากเที่ยวปารีสด้วยตัวเอง รายละเอียดยาวมาก กลัวว่าถ้าเขียนต่อเรื่อยๆ เพื่อนๆที่มาไล่อ่านกลัวว่าตาจะลายกันคะ บัวเลยแยกทริปเที่ยวเกาะซานโตรินี่ออกมาตั้งรีวิวใหม่คะ ส่วนใครที่ยังไม่เคยอ่านรีวิวเที่ยวปารีสด้วยตัวเอง สามารถไปนั่งอ่านเพลินๆได้ที่ลิ้งค์นี้คะ
http://pantip.com/topic/33981897 งั้นเรามาต่อกันเลยคะ
Day 6 Paris - Santorini Island
เช้าวันสุดท้ายในเมืองปารีส เราตื่นกันเช้าหน่อยคะ เพื่อลงมาทานอาหารเช้าของโรงแรม อาหารเช้าที่โรงแรมจัดไว้อย่างสวยงาม ตามรูปที่ลงไว้ เป็นภาพจากเวปไซน์คะ พอดีบัวไม่ได้ถ่ายเพราะง่วงที่ต้องตื่นเช้า
ที่นี่เราสั่งไข่ลวกกับทางพนักงานคะ เค้าจะถามเราเลยว่าเอาแบบไหน สุก ปานกลาง หรือกึ่งสุกกึ่งดิบ บัวสั่งมาแบบปานกลางคะ แล้วก็จะนำมาเสริฟให้ที่โต๊ะแบบนี้เลยคะ ภาพจากเวปคะ
ส่วนอาหารอย่างอื่นเราค่อยเดินไปตักคะ บัวชอบครัวซองที่นี่คะ เนื้อแป้งด้านนอกกรอบด้านในนุ่มหอมเนย ทานคู่กัยแยมแล้วอร่อยมากคะ
หลังจากที่เราทานอาหารเช้าเสร็จ บัวก็เช็คเอ้าท์ออกจากโรงแรม และนั่งรอรถที่บัวจองไว้ ตอน 9 โมง ให้ไปส่งที่สนามบิน CDG คะ ที่บัวเลือกจองรถเพื่อไปส่งที่สนามบินเพราะ
- ระยะทางจากโรงแรมเดินไปจุดขึ้น รถบัส Roissy Bus ค่อนข้างไกลและก็เสียเวลาในการเดินลากกระเป๋าใบใหญ่ไปตรงนั้น
- ส่วนที่ไม่เรียก Taxi ในปารีสเพราะว่าช่วงเวลาที่เราเดินทางเป็น Rush hours ชั่วโมงรีบเร่งในปารีส (ประมาณ 9 โมงเช้าจนถึง 10 โมงกว่า) ราคามิเตอร์จะคิดเรทที่แพงกว่าปกติคะ
ดังนั้นบัวเลยตัดสินใจจองรถผ่านทางเวปไซน์ ในราคา 60 ยูโร สำหรับ 2 ท่านคะ กับเวปไซน์
http://www.city-airport-taxis.com/airporttransfers/city/Paris-taxi?gclid=CNzf7oK9hMcCFQSTjgod6l4CuQ ราคาอาจสูงหน่อย แต่มั่นใจได้ว่าไม่ต้องรอเรียกรถให้เสียเวลาคะ พอถึงเวลา 9 โมงตรงก็มีคนขับรถของบริษัทที่บัวจอง มาติดต่อบัวที่ล๊อบบี้ รถที่มารับเป็นรถตู้ขนาด 8 - 12 คนนั่ง ภายในรถสะอาดและใหม่มากคะ คนขับก็อัธยาศัยดีสุภาพและขับรถปลอดภัย ใช้เวลาในการเดินทางเพียง 30 -45 นาทีเราก็ถึงสนามบินคะ
จากนั้นเราสองคนเดินไปเชคอินที่เคาเตอร์สายการบิน Aegean Airlines คะ แล้วก็ไปนั่งรอขึ้นเครื่องที่ gate คะ (ภาพสายการบินจากเวปไซน์คะ)
ซึ่งเราจะเดินทางจากปารีส - เอเธนส์ - ธีรา (เกาะซานโตรินี่) ใช้เวลาเดินทาง 3 ชั่วโมง 15 นาที ออกจากปารีส 12.15น. ไปลงที่สนามบินนานาชาติเอเธนส์เวลา 16.30น. (เวลาที่กรีซเร็วกว่าปารีส 1 ชั่วโมงคะ) และเราก็รอเครื่องต่อเครื่องอีก 3 ชั่วโมง พอดีวันนั้นไฟล์ทดีเลย์อีก 1 ชั่วโมงคะ ได้ขึ้นเครื่องตอนเวลา 20.30น. ถึงเวลา 21.15 น. ใช้เวลาเดินทางเพียง 45 นาทีแต่บนเครื่องบัวรู้สึกเร็วมากคิดว่าไม่ถึง 45 นาทีคะ
บัวขอให้ข้อมูลกันนิดนึงจร้า เผื่อจะไปเที่ยวกัน Santorini มีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า Thera ตั้งอยู่ในทะล Aegean ซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของประเทศกรีซ Santorini เป็นเกาะที่มีชื่อเสียงมากเกาะนึงของกรีซ เพราะเกิดมาจากการระเบิดของภูเขาไฟใต้น้ำครั้งใหญ่ ทำให้เกิดเกาะขึ้นมา 3 เกาะ (Santorini, Therasia และ Aspronisi) และปากปล่องภูเขาไฟ 2 ปล่อง (Nea Kameni และ Palea Kameni) ขึ้นมาเหนือน้ำซึ่งเรียกว่า Santorini caldera โดย Santorini เป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุด มีรูปทรงของเกาะมีคล้ายพระจันทร์เสี้ยว โดยมีอีก 2 เกาะเล็กๆตั้งอยู่ตามแนววงของพระจันทร์ แล้วมีภูเขาไฟ Nea Kameni และ Palea Kameni อยู่ตรงกลางของของหมู่เกาะ ซึ่งลักษณะภูมิประเทศที่เป็นเอกลักษณ์อันเกิดจากพื้นผิวปากปล่องภูเขาไฟ ทำให้แตกต่างไปจากเกาะอื่นๆที่เราเคยเห็นนั่นเองจร้าาาา
สำหรับทริปเที่ยวเกาะซานโตรินี่ บัวเพิ่งมาเพิ่มวินาทีสุดท้าย เป็นเพราะพี่ที่รู้จักแนะนำให้มาเที่ยว พอบัวลองหาข้อมูลในเวป ก็หลงใหลในความสวยของทะเลเอเจี้ยน วิว และโรงแรมที่พักที่เป็นเอกลักษณ์ เลยคิดว่าเจียดวันสัก 2-3 วัน ไปนอนทะเลชิวๆ ไม่ต้องอะไรมาก แค่พักผ่อน พร้อมกับชมวิวสวยๆ ก็พอ ซานโตรินี่เป็นเหมือนเกาะสวรรค์ที่เหมาะกับการพักผ่อนมากๆ คะ เพราะด้วยวิวของบ้านพักสีขาวตามไหล่เขา ล้อมรอบด้วยท้องทะเลเอเจี้ยนสีครามมันช่างแสนวิเศษคะ ลองชมภาพที่บัวหาข้อมูลในเวปนะคะ เห็นแว่บแรกก็ตัดสินใจได้เลยว่าต้องไปคะ
นี่แค่น้ำจิ้มนะคะ อย่าให้พูดถึงตอนเลือกโรงแรมที่เราจะพักเลย ตัดสินใจนานมากอยากพักไปซะทุกที่เลยคะ เพราะว่าแต่ละที่สวยๆ ทั้งนั้นคะ บัวศึกษาข้อมูลเกียวกับที่พักในเวปนี้คะ
http://santorinidave.com/best-hotels-santorini ในระยะเวลาอันสั้นเรียบเรียงได้ว่า นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เลือกที่จะพักบน caldera (แนวผาบนปากปล่องภูเขาไฟ ซึ่งลาดเอียงลงสู่ท้องทะเลคะ) มากกว่าพักที่ชายหาดคะ โซนที่นักท่องเที่ยวนิยมไปพักกันที่ caldera จะมีอยู่ที่ 4 เมืองนี้คะ
Fira – จะเป็นแหล่งชุมชน แหล่งรวมร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึก คึกคักไปด้วยผู้คนและกิจกรรมต่างๆ ทั้งกลางวันและกลางคืนคะ มีวิวที่สวยงามคะ
Firostefani – ติดกับตัวเมือง Fira คะ สามารถเดินถึงกันได้ และก็เงียบสงบกว่า มีวิวที่สวยงามเช่นเดียวกันคะ
Imerovigli – โซนนี้จะค่อนข้างเงียบคะ จะเหมาะสำหรับคนที่ต้องการความโรแมนติกและความส่วนตัว ต้องนั่งรถเพื่อที่จะไปเมือง Fira หรือ Oia คะ เป็นโซนที่มีวิวที่สวยที่สุดในเกาะคะ มีร้านอาหารที่สวยงามคะ
Oia – เป็นโซนที่โรแมนติกเช่นเดียวกันคะ มีร้านอาหาร และก็มีวิวที่สวยงามเช่นเดียวกันคะ Oia จะเป็นโซนที่ไกลที่สุดจะอยู่ด้านบนของเกาะคะ (พอดีตัว O ในแผนที่หายไป เหลือแต่ ia)
** เพิ่มเติมนิดนะคะ ชายหาดที่นี่ จะเป็นหาดทรายหินภูเขาไฟค่ะ ทรายที่นี่จะเม็ดใหญ่และมีสีค้ำจนดำสนิทคะ นักท่องเที่ยวจึงนิยมพักที่ Caldera มากกว่าคะ **
พอเครื่องบินลงบัวถึงกับเงิบไปสักพักคะ มองออกไปนอกกระจก พบว่าลมพัดแรงมากกกกกกกกก มากจนต้นไม้บริเวณนั้นโน้มตามแรงลมคะ เห็นแล้วแอบเครียดว่าที่เราเชคอากาศมา ไหนบอกว่าอุ่นกว่าปารีส 3-4 องศา อุณหภูมิน่าจะ 18-20 องศา อากาศกำลังดี แต่ในความเป็นจริงคือ 10 องศาปลอบใจตัวเองว่าเพราะตอนนี้มันเป็นเวลากลางคืน แต่แรงลมที่เห็นมันไม่ใช่ป่ะ ลงเครื่องเพื่อต่อนั่งรถบัสไปอาคารผู้โยสารระหว่างที่เดินตัวบัวแทบปลิว หนาวมากจนฟันบัวขบ 55555 พอเรารับกระเป๋าเสร็จ เราก็พบกับคนขับรถของโรงแรมที่บัวแจ้งกับทางโรงแรมไว้ตอนจองห้องพักคะ ว่าให้มารับเราที่สนามบินเนื่องจากเราไฟล์ทบินเราไปถึงค่ำ หลังจากชขึ้นรถก็สอบถามคนขับว่าอากาศที่นี่หนาวแบบนี้เลยหรอ เค้าบอกว่าเพิ่งมามีลมแรงช่วงวันสามสี่วันนี้ ก่อนหน้านี้ยังไม่มีลม เค้าบอกว่าพรุ่งนี้น่าจะดีขึ้น แอบภาวนาในใจคะขอให้ลมสงบไม่งั้น ทริปซานโตรินี่ต้องมีอันหมดสนุกแน่ๆ
จากสนามบินมายังโรงแรมไม่เกิน 10 นาทีคะ บัวพักที่ El Greco Resort Hotel ในตัวเมือง Fira คะ ซึ่งเราจองห้องพักแบบ Superior Room (ราคาคืนละ 4,245 บาท รวมภาษีและอาหารเช้า ฟรี WIFI ) ซึ่งห้องพักที่เราได้อยู่โซนด้านหน้าของโรงแรมคะภายในห้องพักสะอาด กว้างขวางมากๆเลยคะ ห้องน้ำมีอ่างอาบน้ำ อุปกรณ์อาบน้ำเป็นผลิตภัญฑ์จากน้ำมันมะกอก มีอ่างล้างจาน โต๊ะอาหาร เตาแก็ส จาน ชาม ช้อนส้อมคะ ทั้งนี้ยังมีระเบียง ส่วนด้านหน้าห้องพักเป็นวิวสระว่ายน้ำคะ
เนื่องจากมาถึงดึกและก็เหนื่อยจากการเดินทางตลอดทั้งวันบัวเลยรีบเข้านอนคะ ส่วนพี่จ๋านั่งต้มมาม่าทานก็อาบน้ำและก็เข้านอนคะ
Day 7 เมือง Fira Santorini
เช้าวันต่อมาตื่นสายหน่อยคะ เพื่อมาทานอาหารเช้าที่ห้องอาหารแบบบุฟเฟต์คะ ระหว่างเดินทางก็ถ่ายรูปหน้าโรงแรม วิวสระน้ำหน้าห้องพัก อากาศเย็นคะและก็มีลมแต่ไม่แรงเท่าเมื่อคืนแต่แดดที่นี่แรงมาก ได้แดดแรงๆ นี่ละคะที่ช่วยให้ร่างกายอบอุ่นขึ้นมาก
เป็นภาพทางลงไปห้องอาหารคะ
ส่วนโซนนี้เป็นโซนห้องพักที่ราคาสูงขึ้นคะ สวยมากกกกกเลย
อาหารเช้าที่นี่เป็นบุฟเฟ่ต์เหมือนตามโรงแรมทั่วๆไปคะ ที่ชอบมากคือโยเกิร์ตที่นี่อร่อยคะ เหนียวนุ่ม ข้นและรสชาติอร่อยมากคะ ทานกับผลไม้สดๆ ช่วยให้ร่างกายสดชื่นมากคะ ลืมถ่ายรูปนะคะเพราะหิวมากเมื่อคืนไม่ได้ทานอะไรเลย ทานเสร็จก็กลับมาที่ห้องพักเก็บของเพื่อเช็คเอ้าท์คะ ก่อนออกจากห้องก็ถ่ายรูปตรงวิวระเบียงสักหน่อย
จากนั้นก็มารอที่ Lobby เพื่อเช็คเอ้าท์และรอรถแท๊กซี่มารับให้ไปส่งอีกโรงแรมคะ
คนขับรถมารับเราไปที่โรงแรมถัดไปใช้เวลาเดินทางไม่ถึง 5 นาทีก็ถึงโรงแรมคะ โรงแรมที่สองที่บัวเลือกคือ petit palace เป็นบูติครีสอร์ทระดับ 5 ดาว ในตัวเมือง Fira พอเราลงจากรถ พนักงานต้อนรับของโรงแรมก็ขึ้นมาต้อนรับเราทั้งสองคน พาเราลงไปเชคอินที่ล๊อบบี้ อัธยาศัยของผู้คนที่นี่บอกเลยว่าดีมากๆ เลยคะ (ตั้งแต่พนักงานที่โรงแรมที่เราพักเมื่อคืน) ยิ้มแย้ม แจ่มใส ช่วงระหว่างรอเชคอิน พนักงานก็มาให้ข้อมูลของตัวเกาะ สถานที่ท่องเที่ยว แผนที่ภายในเกาะและตัวเมือง Fira สอบถามเราว่าต้องการเที่ยวตรงไหนเป็นพิเศษไหม บัวเลยขอให้ทางโรงแรมช่วยหาทัวร์ล่องเรือครึ่งวัน และทัวร์ครึ่งวันภายในเกาะให้เราคะ บัวขอเข้าทัวร์แบบกลุ่มเล็กๆคะ ซึ่งทางโรงแรมเชคราคาให้กับเราอย่างรวดเร็วคะ บัวเลยจองล่องเรือช่วงบ่ายวันพรุ่งนี้ ราคาสำหรับ 2 ท่าน 270 ยูโร (ถูกกว่าที่บัวหาในอนเตอร์เนทอีกคะ เจอราคา 500 ยูโรต่อ 2 ท่าน) กับ ทัวร์ภายในเกาะช่วงบ่ายของวันถัดไป ราคาสำหรับ 2 ท่าน 150 ยูโรคะ ทางพนักงานแจ้งว่าบัวสามารถจ่ายกับบริษัททัวร์ก่อนออกเดินทางตรงได้เลย รับทั้งเงินสดเเละเครดิตการ์ดคะ โดยทั้งสองทัวร์จะมารับเราที่หน้าโรงแรมเลยคะ สุดยอดมากๆ
ภาพหน้าโรงแรมคะ มีแต่ประตูต้องเดินบันไดลงไปเพราะ โรงแรมสร้างตามความลาดเอียงของแนวหิน Caldera คะ (เป็นภาพจากเวปไซของโรงแรมคะ)
ล๊อบบี้(เป็นภาพจากเวปไซของโรงแรมคะ)
ภาพสระว่ายน้ำส่วนกลางของโรงแรมคะ (เป็นภาพจากเวปไซของโรงแรมคะ)
[CR] เที่ยวเกาะซานโตรินี่ HONEYMOON TRIP (PARIS – SANTORINI ISLAND / 4 - 13 Apr 15 ) ด้วยตัวเอง
Day 6 Paris - Santorini Island
เช้าวันสุดท้ายในเมืองปารีส เราตื่นกันเช้าหน่อยคะ เพื่อลงมาทานอาหารเช้าของโรงแรม อาหารเช้าที่โรงแรมจัดไว้อย่างสวยงาม ตามรูปที่ลงไว้ เป็นภาพจากเวปไซน์คะ พอดีบัวไม่ได้ถ่ายเพราะง่วงที่ต้องตื่นเช้า
ที่นี่เราสั่งไข่ลวกกับทางพนักงานคะ เค้าจะถามเราเลยว่าเอาแบบไหน สุก ปานกลาง หรือกึ่งสุกกึ่งดิบ บัวสั่งมาแบบปานกลางคะ แล้วก็จะนำมาเสริฟให้ที่โต๊ะแบบนี้เลยคะ ภาพจากเวปคะ
ส่วนอาหารอย่างอื่นเราค่อยเดินไปตักคะ บัวชอบครัวซองที่นี่คะ เนื้อแป้งด้านนอกกรอบด้านในนุ่มหอมเนย ทานคู่กัยแยมแล้วอร่อยมากคะ
หลังจากที่เราทานอาหารเช้าเสร็จ บัวก็เช็คเอ้าท์ออกจากโรงแรม และนั่งรอรถที่บัวจองไว้ ตอน 9 โมง ให้ไปส่งที่สนามบิน CDG คะ ที่บัวเลือกจองรถเพื่อไปส่งที่สนามบินเพราะ
- ระยะทางจากโรงแรมเดินไปจุดขึ้น รถบัส Roissy Bus ค่อนข้างไกลและก็เสียเวลาในการเดินลากกระเป๋าใบใหญ่ไปตรงนั้น
- ส่วนที่ไม่เรียก Taxi ในปารีสเพราะว่าช่วงเวลาที่เราเดินทางเป็น Rush hours ชั่วโมงรีบเร่งในปารีส (ประมาณ 9 โมงเช้าจนถึง 10 โมงกว่า) ราคามิเตอร์จะคิดเรทที่แพงกว่าปกติคะ
ดังนั้นบัวเลยตัดสินใจจองรถผ่านทางเวปไซน์ ในราคา 60 ยูโร สำหรับ 2 ท่านคะ กับเวปไซน์ http://www.city-airport-taxis.com/airporttransfers/city/Paris-taxi?gclid=CNzf7oK9hMcCFQSTjgod6l4CuQ ราคาอาจสูงหน่อย แต่มั่นใจได้ว่าไม่ต้องรอเรียกรถให้เสียเวลาคะ พอถึงเวลา 9 โมงตรงก็มีคนขับรถของบริษัทที่บัวจอง มาติดต่อบัวที่ล๊อบบี้ รถที่มารับเป็นรถตู้ขนาด 8 - 12 คนนั่ง ภายในรถสะอาดและใหม่มากคะ คนขับก็อัธยาศัยดีสุภาพและขับรถปลอดภัย ใช้เวลาในการเดินทางเพียง 30 -45 นาทีเราก็ถึงสนามบินคะ
จากนั้นเราสองคนเดินไปเชคอินที่เคาเตอร์สายการบิน Aegean Airlines คะ แล้วก็ไปนั่งรอขึ้นเครื่องที่ gate คะ (ภาพสายการบินจากเวปไซน์คะ)
ซึ่งเราจะเดินทางจากปารีส - เอเธนส์ - ธีรา (เกาะซานโตรินี่) ใช้เวลาเดินทาง 3 ชั่วโมง 15 นาที ออกจากปารีส 12.15น. ไปลงที่สนามบินนานาชาติเอเธนส์เวลา 16.30น. (เวลาที่กรีซเร็วกว่าปารีส 1 ชั่วโมงคะ) และเราก็รอเครื่องต่อเครื่องอีก 3 ชั่วโมง พอดีวันนั้นไฟล์ทดีเลย์อีก 1 ชั่วโมงคะ ได้ขึ้นเครื่องตอนเวลา 20.30น. ถึงเวลา 21.15 น. ใช้เวลาเดินทางเพียง 45 นาทีแต่บนเครื่องบัวรู้สึกเร็วมากคิดว่าไม่ถึง 45 นาทีคะ
บัวขอให้ข้อมูลกันนิดนึงจร้า เผื่อจะไปเที่ยวกัน Santorini มีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า Thera ตั้งอยู่ในทะล Aegean ซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของประเทศกรีซ Santorini เป็นเกาะที่มีชื่อเสียงมากเกาะนึงของกรีซ เพราะเกิดมาจากการระเบิดของภูเขาไฟใต้น้ำครั้งใหญ่ ทำให้เกิดเกาะขึ้นมา 3 เกาะ (Santorini, Therasia และ Aspronisi) และปากปล่องภูเขาไฟ 2 ปล่อง (Nea Kameni และ Palea Kameni) ขึ้นมาเหนือน้ำซึ่งเรียกว่า Santorini caldera โดย Santorini เป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุด มีรูปทรงของเกาะมีคล้ายพระจันทร์เสี้ยว โดยมีอีก 2 เกาะเล็กๆตั้งอยู่ตามแนววงของพระจันทร์ แล้วมีภูเขาไฟ Nea Kameni และ Palea Kameni อยู่ตรงกลางของของหมู่เกาะ ซึ่งลักษณะภูมิประเทศที่เป็นเอกลักษณ์อันเกิดจากพื้นผิวปากปล่องภูเขาไฟ ทำให้แตกต่างไปจากเกาะอื่นๆที่เราเคยเห็นนั่นเองจร้าาาา
สำหรับทริปเที่ยวเกาะซานโตรินี่ บัวเพิ่งมาเพิ่มวินาทีสุดท้าย เป็นเพราะพี่ที่รู้จักแนะนำให้มาเที่ยว พอบัวลองหาข้อมูลในเวป ก็หลงใหลในความสวยของทะเลเอเจี้ยน วิว และโรงแรมที่พักที่เป็นเอกลักษณ์ เลยคิดว่าเจียดวันสัก 2-3 วัน ไปนอนทะเลชิวๆ ไม่ต้องอะไรมาก แค่พักผ่อน พร้อมกับชมวิวสวยๆ ก็พอ ซานโตรินี่เป็นเหมือนเกาะสวรรค์ที่เหมาะกับการพักผ่อนมากๆ คะ เพราะด้วยวิวของบ้านพักสีขาวตามไหล่เขา ล้อมรอบด้วยท้องทะเลเอเจี้ยนสีครามมันช่างแสนวิเศษคะ ลองชมภาพที่บัวหาข้อมูลในเวปนะคะ เห็นแว่บแรกก็ตัดสินใจได้เลยว่าต้องไปคะ
นี่แค่น้ำจิ้มนะคะ อย่าให้พูดถึงตอนเลือกโรงแรมที่เราจะพักเลย ตัดสินใจนานมากอยากพักไปซะทุกที่เลยคะ เพราะว่าแต่ละที่สวยๆ ทั้งนั้นคะ บัวศึกษาข้อมูลเกียวกับที่พักในเวปนี้คะ http://santorinidave.com/best-hotels-santorini ในระยะเวลาอันสั้นเรียบเรียงได้ว่า นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เลือกที่จะพักบน caldera (แนวผาบนปากปล่องภูเขาไฟ ซึ่งลาดเอียงลงสู่ท้องทะเลคะ) มากกว่าพักที่ชายหาดคะ โซนที่นักท่องเที่ยวนิยมไปพักกันที่ caldera จะมีอยู่ที่ 4 เมืองนี้คะ
Fira – จะเป็นแหล่งชุมชน แหล่งรวมร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึก คึกคักไปด้วยผู้คนและกิจกรรมต่างๆ ทั้งกลางวันและกลางคืนคะ มีวิวที่สวยงามคะ
Firostefani – ติดกับตัวเมือง Fira คะ สามารถเดินถึงกันได้ และก็เงียบสงบกว่า มีวิวที่สวยงามเช่นเดียวกันคะ
Imerovigli – โซนนี้จะค่อนข้างเงียบคะ จะเหมาะสำหรับคนที่ต้องการความโรแมนติกและความส่วนตัว ต้องนั่งรถเพื่อที่จะไปเมือง Fira หรือ Oia คะ เป็นโซนที่มีวิวที่สวยที่สุดในเกาะคะ มีร้านอาหารที่สวยงามคะ
Oia – เป็นโซนที่โรแมนติกเช่นเดียวกันคะ มีร้านอาหาร และก็มีวิวที่สวยงามเช่นเดียวกันคะ Oia จะเป็นโซนที่ไกลที่สุดจะอยู่ด้านบนของเกาะคะ (พอดีตัว O ในแผนที่หายไป เหลือแต่ ia)
** เพิ่มเติมนิดนะคะ ชายหาดที่นี่ จะเป็นหาดทรายหินภูเขาไฟค่ะ ทรายที่นี่จะเม็ดใหญ่และมีสีค้ำจนดำสนิทคะ นักท่องเที่ยวจึงนิยมพักที่ Caldera มากกว่าคะ **
พอเครื่องบินลงบัวถึงกับเงิบไปสักพักคะ มองออกไปนอกกระจก พบว่าลมพัดแรงมากกกกกกกกก มากจนต้นไม้บริเวณนั้นโน้มตามแรงลมคะ เห็นแล้วแอบเครียดว่าที่เราเชคอากาศมา ไหนบอกว่าอุ่นกว่าปารีส 3-4 องศา อุณหภูมิน่าจะ 18-20 องศา อากาศกำลังดี แต่ในความเป็นจริงคือ 10 องศาปลอบใจตัวเองว่าเพราะตอนนี้มันเป็นเวลากลางคืน แต่แรงลมที่เห็นมันไม่ใช่ป่ะ ลงเครื่องเพื่อต่อนั่งรถบัสไปอาคารผู้โยสารระหว่างที่เดินตัวบัวแทบปลิว หนาวมากจนฟันบัวขบ 55555 พอเรารับกระเป๋าเสร็จ เราก็พบกับคนขับรถของโรงแรมที่บัวแจ้งกับทางโรงแรมไว้ตอนจองห้องพักคะ ว่าให้มารับเราที่สนามบินเนื่องจากเราไฟล์ทบินเราไปถึงค่ำ หลังจากชขึ้นรถก็สอบถามคนขับว่าอากาศที่นี่หนาวแบบนี้เลยหรอ เค้าบอกว่าเพิ่งมามีลมแรงช่วงวันสามสี่วันนี้ ก่อนหน้านี้ยังไม่มีลม เค้าบอกว่าพรุ่งนี้น่าจะดีขึ้น แอบภาวนาในใจคะขอให้ลมสงบไม่งั้น ทริปซานโตรินี่ต้องมีอันหมดสนุกแน่ๆ
จากสนามบินมายังโรงแรมไม่เกิน 10 นาทีคะ บัวพักที่ El Greco Resort Hotel ในตัวเมือง Fira คะ ซึ่งเราจองห้องพักแบบ Superior Room (ราคาคืนละ 4,245 บาท รวมภาษีและอาหารเช้า ฟรี WIFI ) ซึ่งห้องพักที่เราได้อยู่โซนด้านหน้าของโรงแรมคะภายในห้องพักสะอาด กว้างขวางมากๆเลยคะ ห้องน้ำมีอ่างอาบน้ำ อุปกรณ์อาบน้ำเป็นผลิตภัญฑ์จากน้ำมันมะกอก มีอ่างล้างจาน โต๊ะอาหาร เตาแก็ส จาน ชาม ช้อนส้อมคะ ทั้งนี้ยังมีระเบียง ส่วนด้านหน้าห้องพักเป็นวิวสระว่ายน้ำคะ
เนื่องจากมาถึงดึกและก็เหนื่อยจากการเดินทางตลอดทั้งวันบัวเลยรีบเข้านอนคะ ส่วนพี่จ๋านั่งต้มมาม่าทานก็อาบน้ำและก็เข้านอนคะ
Day 7 เมือง Fira Santorini
เช้าวันต่อมาตื่นสายหน่อยคะ เพื่อมาทานอาหารเช้าที่ห้องอาหารแบบบุฟเฟต์คะ ระหว่างเดินทางก็ถ่ายรูปหน้าโรงแรม วิวสระน้ำหน้าห้องพัก อากาศเย็นคะและก็มีลมแต่ไม่แรงเท่าเมื่อคืนแต่แดดที่นี่แรงมาก ได้แดดแรงๆ นี่ละคะที่ช่วยให้ร่างกายอบอุ่นขึ้นมาก
เป็นภาพทางลงไปห้องอาหารคะ
ส่วนโซนนี้เป็นโซนห้องพักที่ราคาสูงขึ้นคะ สวยมากกกกกเลย
อาหารเช้าที่นี่เป็นบุฟเฟ่ต์เหมือนตามโรงแรมทั่วๆไปคะ ที่ชอบมากคือโยเกิร์ตที่นี่อร่อยคะ เหนียวนุ่ม ข้นและรสชาติอร่อยมากคะ ทานกับผลไม้สดๆ ช่วยให้ร่างกายสดชื่นมากคะ ลืมถ่ายรูปนะคะเพราะหิวมากเมื่อคืนไม่ได้ทานอะไรเลย ทานเสร็จก็กลับมาที่ห้องพักเก็บของเพื่อเช็คเอ้าท์คะ ก่อนออกจากห้องก็ถ่ายรูปตรงวิวระเบียงสักหน่อย
จากนั้นก็มารอที่ Lobby เพื่อเช็คเอ้าท์และรอรถแท๊กซี่มารับให้ไปส่งอีกโรงแรมคะ
คนขับรถมารับเราไปที่โรงแรมถัดไปใช้เวลาเดินทางไม่ถึง 5 นาทีก็ถึงโรงแรมคะ โรงแรมที่สองที่บัวเลือกคือ petit palace เป็นบูติครีสอร์ทระดับ 5 ดาว ในตัวเมือง Fira พอเราลงจากรถ พนักงานต้อนรับของโรงแรมก็ขึ้นมาต้อนรับเราทั้งสองคน พาเราลงไปเชคอินที่ล๊อบบี้ อัธยาศัยของผู้คนที่นี่บอกเลยว่าดีมากๆ เลยคะ (ตั้งแต่พนักงานที่โรงแรมที่เราพักเมื่อคืน) ยิ้มแย้ม แจ่มใส ช่วงระหว่างรอเชคอิน พนักงานก็มาให้ข้อมูลของตัวเกาะ สถานที่ท่องเที่ยว แผนที่ภายในเกาะและตัวเมือง Fira สอบถามเราว่าต้องการเที่ยวตรงไหนเป็นพิเศษไหม บัวเลยขอให้ทางโรงแรมช่วยหาทัวร์ล่องเรือครึ่งวัน และทัวร์ครึ่งวันภายในเกาะให้เราคะ บัวขอเข้าทัวร์แบบกลุ่มเล็กๆคะ ซึ่งทางโรงแรมเชคราคาให้กับเราอย่างรวดเร็วคะ บัวเลยจองล่องเรือช่วงบ่ายวันพรุ่งนี้ ราคาสำหรับ 2 ท่าน 270 ยูโร (ถูกกว่าที่บัวหาในอนเตอร์เนทอีกคะ เจอราคา 500 ยูโรต่อ 2 ท่าน) กับ ทัวร์ภายในเกาะช่วงบ่ายของวันถัดไป ราคาสำหรับ 2 ท่าน 150 ยูโรคะ ทางพนักงานแจ้งว่าบัวสามารถจ่ายกับบริษัททัวร์ก่อนออกเดินทางตรงได้เลย รับทั้งเงินสดเเละเครดิตการ์ดคะ โดยทั้งสองทัวร์จะมารับเราที่หน้าโรงแรมเลยคะ สุดยอดมากๆ
ภาพหน้าโรงแรมคะ มีแต่ประตูต้องเดินบันไดลงไปเพราะ โรงแรมสร้างตามความลาดเอียงของแนวหิน Caldera คะ (เป็นภาพจากเวปไซของโรงแรมคะ)
ล๊อบบี้(เป็นภาพจากเวปไซของโรงแรมคะ)
ภาพสระว่ายน้ำส่วนกลางของโรงแรมคะ (เป็นภาพจากเวปไซของโรงแรมคะ)