เกือบดัง ! วันเดียวกัน เจอเหตุการณ์แบบเหรียญสองด้าน แต่ว่าดีทั้งคู่ (บันทึกเรื่องของเรื่อง 1.)
เมื่อช่วงปี 51 ผมมีโอกาสได้พูดคุยกับ ผอ.ใหญ่ฝ่ายประชาสัมพันธ์ ของ สคบ. สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค เรื่องรณรงค์ จรรยาบรรณโหรฯ หรือเรียกง่ายๆว่า "จัดระเบียบหมอดู" จริงๆแล้วตัวผมไม่ได้มีความพร้อมที่จะทำเรื่องนี้ แต่ก็รู้เห็นถึงประโยชน์ที่จะเกิดกับผู้บริโภคและหมอดูเองด้วย คือถ้าลงเอยสำเร็จ ก็เท่ากับว่าได้กันทุกฝ่าย ใจตอนนั้น อยากทำไปแล้วเต็มร้อย
คุยกะ สคบ. เสร็จแวะเข้าอาณาจักรสยาม คุยกับ บก.หนังสือพิมพ์บันเทิง เล่มใหญ่ คือ บก.สย..บันเทิง (ไม่ขอเอ่ยนามท่านครับ)
สำหรับผมท่านผู้นี้เป็นผู้ยิ่งใหญ่ ที่สมกับการนับถือจริง ด้วยวิสัยทัศน์และการมองการไกล
เมื่อผมคาบข่าวเรื่องการจัดระเบียบหมอดู มาบอก ! ท่านก็เล็งเห็นว่า คนที่เหมาะสมทำเรื่องแบบนี้ต้องเป็นคนมีชื่อเสียงติดตัว ก็เลยหวังดีหยิบยื่นโอกาสให้งานเขียนแบบทำเงินหรือสร้างชื่อเสียง ให้กับผมและผมคิดว่าท่านคงหวังให้ผมเติบโตจากจุดนี้ อันนี้ผมเข้าใจดีและซาบซึ้งเสมอ
งานเขียนที่ว่าดูเสี่ยง ทั้งกับตัวท่านเองและผม คือ เขียนดวงดารา ที่จริงก็คือมันกลายเป็นสิ่งที่ขัด กับการจัดระเบียบหมอดู ว่าด้วยการ "ไม่รบกวนสาธารณะ" ท่านไม่เคยทำ ผมก็ไม่เคยทำและดูว่าจุดจบจะเสื่อมเสียถึงท่านเปล่าๆ ผมก็เลยไม่กล้าเขียน
แต่ถ้าเขียนช่วงนั้น ตัวกระผม ก็ดังอย่างแน่นอนครับ แถมยังมีความเสี่ยงน้อยมาก เพราะกระแสเรื่องทายดวงดารายังไม่ค่อยถูกต่อต้านเท่าไหร่
สมัยก่อนเขียนดวงดารา 10 คนถูกซัก 1-2 คนก็ดังแล้ว ทฤษฎีตอนนั้นเป็นแบบนั้น ไม่มีใครจำเรื่องพวกนี้ได้นาน เพราะไม่ใช่ญาติโกโหติกาอะไรของเค้า วคนอ่าน สนุก อยากติดตาม คนเขียนก็ดังระเบิดระเบ้อ
เรื่องของเรื่องก็เป็นแบบนี้ คือผมไม่กล้าเอาเรื่องของคนอื่นที่เราทึกทักในมุมของเรามา "โพทะนา" จับปากกาเขียน ยิ่งเป็นเรื่องเสื่อมเสีย ยิ่งไม่ควร
นั่นหละ ! ที่ว่าเกือบดัง มีโอกาสแต่ไม่กล้าหยิบฉวยเอาไว้
ปล. ตอนนี้ผมรู้ตัวแล้วว่าเลือกเดินมาผิดทาง การไม่รับงานเขียนดวงดาราครั้งนั้น เพื่อแลกกับการมีชื่อเสียง ช่างผิดมหันต์ การเป็นหมอดูธรรมดาแบบผมตอนนี้ไม่สามารถช่วยอะไรให้กับโครงการจัดระเบียบหมอดูได้ สังคมตีค่า ตีราคา คนเด่นคนดังไว้สูง จนน่าเสียดายยยย
เสือ(เขตร์)ผู้แนะนำให้มีการจัดระเบียบหมอดู
เมื่อดำเนินชีวิตมาถึง ทางสามแพร่ง ถ้าเป็นคุณ จะทำยังไง
เมื่อช่วงปี 51 ผมมีโอกาสได้พูดคุยกับ ผอ.ใหญ่ฝ่ายประชาสัมพันธ์ ของ สคบ. สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค เรื่องรณรงค์ จรรยาบรรณโหรฯ หรือเรียกง่ายๆว่า "จัดระเบียบหมอดู" จริงๆแล้วตัวผมไม่ได้มีความพร้อมที่จะทำเรื่องนี้ แต่ก็รู้เห็นถึงประโยชน์ที่จะเกิดกับผู้บริโภคและหมอดูเองด้วย คือถ้าลงเอยสำเร็จ ก็เท่ากับว่าได้กันทุกฝ่าย ใจตอนนั้น อยากทำไปแล้วเต็มร้อย
คุยกะ สคบ. เสร็จแวะเข้าอาณาจักรสยาม คุยกับ บก.หนังสือพิมพ์บันเทิง เล่มใหญ่ คือ บก.สย..บันเทิง (ไม่ขอเอ่ยนามท่านครับ)
สำหรับผมท่านผู้นี้เป็นผู้ยิ่งใหญ่ ที่สมกับการนับถือจริง ด้วยวิสัยทัศน์และการมองการไกล
เมื่อผมคาบข่าวเรื่องการจัดระเบียบหมอดู มาบอก ! ท่านก็เล็งเห็นว่า คนที่เหมาะสมทำเรื่องแบบนี้ต้องเป็นคนมีชื่อเสียงติดตัว ก็เลยหวังดีหยิบยื่นโอกาสให้งานเขียนแบบทำเงินหรือสร้างชื่อเสียง ให้กับผมและผมคิดว่าท่านคงหวังให้ผมเติบโตจากจุดนี้ อันนี้ผมเข้าใจดีและซาบซึ้งเสมอ
งานเขียนที่ว่าดูเสี่ยง ทั้งกับตัวท่านเองและผม คือ เขียนดวงดารา ที่จริงก็คือมันกลายเป็นสิ่งที่ขัด กับการจัดระเบียบหมอดู ว่าด้วยการ "ไม่รบกวนสาธารณะ" ท่านไม่เคยทำ ผมก็ไม่เคยทำและดูว่าจุดจบจะเสื่อมเสียถึงท่านเปล่าๆ ผมก็เลยไม่กล้าเขียน
แต่ถ้าเขียนช่วงนั้น ตัวกระผม ก็ดังอย่างแน่นอนครับ แถมยังมีความเสี่ยงน้อยมาก เพราะกระแสเรื่องทายดวงดารายังไม่ค่อยถูกต่อต้านเท่าไหร่
สมัยก่อนเขียนดวงดารา 10 คนถูกซัก 1-2 คนก็ดังแล้ว ทฤษฎีตอนนั้นเป็นแบบนั้น ไม่มีใครจำเรื่องพวกนี้ได้นาน เพราะไม่ใช่ญาติโกโหติกาอะไรของเค้า วคนอ่าน สนุก อยากติดตาม คนเขียนก็ดังระเบิดระเบ้อ
เรื่องของเรื่องก็เป็นแบบนี้ คือผมไม่กล้าเอาเรื่องของคนอื่นที่เราทึกทักในมุมของเรามา "โพทะนา" จับปากกาเขียน ยิ่งเป็นเรื่องเสื่อมเสีย ยิ่งไม่ควร
นั่นหละ ! ที่ว่าเกือบดัง มีโอกาสแต่ไม่กล้าหยิบฉวยเอาไว้
ปล. ตอนนี้ผมรู้ตัวแล้วว่าเลือกเดินมาผิดทาง การไม่รับงานเขียนดวงดาราครั้งนั้น เพื่อแลกกับการมีชื่อเสียง ช่างผิดมหันต์ การเป็นหมอดูธรรมดาแบบผมตอนนี้ไม่สามารถช่วยอะไรให้กับโครงการจัดระเบียบหมอดูได้ สังคมตีค่า ตีราคา คนเด่นคนดังไว้สูง จนน่าเสียดายยยย
เสือ(เขตร์)ผู้แนะนำให้มีการจัดระเบียบหมอดู