THE GIVER (Phillip Noyce,2014) สังคมอุดมคติปลอมๆและบทที่ปลอมยิ่งกว่า
การมาถึงของหนังเรื่องนี้อาจจะเป็นสัญญาณบางอย่างที่น่าจะบอกได้แล้วว่าเราควรจะเพลาการสร้างหนัง "โลกดิสโทเปีย" และ "ตัวเอกวัยรุ่นที่กลายเป็นพลังปฎิวัติ" สักที และบางทีหนังอย่าง TOMOROWLAND (ประมาณว่าโลกสวยด้วยมือเรา) กับบทที่ควรจะดีกว่านั้นควรได้รับการสร้างออกมาบ้าง
ความน่าเบื่อและจำเจของโลกอนาคตจอมปลอมทั้งนิยายและภาพยนตร์ถูกโขลกออกมาเป็นพิมพ์เดียวกันหมด โลกอนาคตมักล้ำหน้าแต่ผู้คนมักถูกจำกัดกรอบความเป็นมนุษย์เอาไว้ทั้งหมด เช่น The Hunger Game - Divergent - The Host รวมไปถึง The Maze Runner และตัวละครที่มาปลดแอกความเป็น "มนุษย์" นั้นจะต้องเป็นตัวละครวัยทีนที่พวกเขาคิดว่า "ระบบ" ไม่มันดีพอ
สำหรับ The Giver ระบบที่ว่านั้นคือการที่โลกอนาคตผู้คนจะต้องถูกฉีดยาและทำหน้าที่ตามที่คอมมิวนิตี้มอบหมายให้พวกเขาเป็น (คล้ายๆกับ Divergent นั่นแหละ) ปัญหาคือโจนาส กลายเป็นคนที่ระบบเลือกให้เขาเป็นคนรับช่วงต่อความทรงจำของมนุษย์คนต่อไป และนี่เองเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เขาได้เรียนรู้ความรัก ความเจ็บปวด อารมณ์ความรู้สึกอย่างที่ไม่เคยเป็นมา
ปัญหาคือหนังผูกเรื่องด้วยแกนหลวมๆทุกอย่าง หลวมจนเราไม่เชื่อว่าระบบที่น่าจะมีมานานพอควรกลับปราศจากระบบรักษาความปลอดภัยและวิธีการตรวจสอบ "ความผิดปกติของระบบ" จนทุกอย่างเลยเถิดแบบในหนัง
ยิ่งไปกว่านั้นเรายิ่งกังขาว่าถ้าหากระบบมันมีมานานขนาดนั้นแล้วผู้รับการถ่ายทอดความรู้สึกคนอื่นๆ มันไม่มีไดนามิคที่จะลุกขึ้นมา "ขบถ" แบบอีตัวเอกบ้างรึไง เอาจริงๆความเมคเซนส์ของหนังมันก็ไม่ค่อยเป็นเหตุเป็นผลเท่าไหร่ด้วยซ้ำ
แถมฉากตอนจบโลกสวยพาฝันความทรงจำคัมแบคทุกคนน้ำตารินไหลนี่ก็เป็นอะไรที่ดู Fake พอๆกับสถาปัตยกรรมโลกอนาคตในหนังทีเดียว
แม้หนังจะต้องการเชิดชูประเด็นความเป็นมนุษย์ที่ต้องมี "อารมณ์ความรู้สึก" แต่เรากลับรู้สึกกลับด้านกันอย่างสิ้นเชิงเลยทีเดียว
ปล. เกลียดวิกผมของป้าเมอร์รี สตรีฟมากทำป้าแก่ไปหลายร้อยปี
[CR] [หนังเก่าที่เราคิดถึง] THE GIVER (Phillip Noyce,2014) สังคมอุดมคติปลอมๆและบทที่ปลอมยิ่งกว่า
THE GIVER (Phillip Noyce,2014) สังคมอุดมคติปลอมๆและบทที่ปลอมยิ่งกว่า
การมาถึงของหนังเรื่องนี้อาจจะเป็นสัญญาณบางอย่างที่น่าจะบอกได้แล้วว่าเราควรจะเพลาการสร้างหนัง "โลกดิสโทเปีย" และ "ตัวเอกวัยรุ่นที่กลายเป็นพลังปฎิวัติ" สักที และบางทีหนังอย่าง TOMOROWLAND (ประมาณว่าโลกสวยด้วยมือเรา) กับบทที่ควรจะดีกว่านั้นควรได้รับการสร้างออกมาบ้าง
ความน่าเบื่อและจำเจของโลกอนาคตจอมปลอมทั้งนิยายและภาพยนตร์ถูกโขลกออกมาเป็นพิมพ์เดียวกันหมด โลกอนาคตมักล้ำหน้าแต่ผู้คนมักถูกจำกัดกรอบความเป็นมนุษย์เอาไว้ทั้งหมด เช่น The Hunger Game - Divergent - The Host รวมไปถึง The Maze Runner และตัวละครที่มาปลดแอกความเป็น "มนุษย์" นั้นจะต้องเป็นตัวละครวัยทีนที่พวกเขาคิดว่า "ระบบ" ไม่มันดีพอ
สำหรับ The Giver ระบบที่ว่านั้นคือการที่โลกอนาคตผู้คนจะต้องถูกฉีดยาและทำหน้าที่ตามที่คอมมิวนิตี้มอบหมายให้พวกเขาเป็น (คล้ายๆกับ Divergent นั่นแหละ) ปัญหาคือโจนาส กลายเป็นคนที่ระบบเลือกให้เขาเป็นคนรับช่วงต่อความทรงจำของมนุษย์คนต่อไป และนี่เองเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เขาได้เรียนรู้ความรัก ความเจ็บปวด อารมณ์ความรู้สึกอย่างที่ไม่เคยเป็นมา
ปัญหาคือหนังผูกเรื่องด้วยแกนหลวมๆทุกอย่าง หลวมจนเราไม่เชื่อว่าระบบที่น่าจะมีมานานพอควรกลับปราศจากระบบรักษาความปลอดภัยและวิธีการตรวจสอบ "ความผิดปกติของระบบ" จนทุกอย่างเลยเถิดแบบในหนัง
ยิ่งไปกว่านั้นเรายิ่งกังขาว่าถ้าหากระบบมันมีมานานขนาดนั้นแล้วผู้รับการถ่ายทอดความรู้สึกคนอื่นๆ มันไม่มีไดนามิคที่จะลุกขึ้นมา "ขบถ" แบบอีตัวเอกบ้างรึไง เอาจริงๆความเมคเซนส์ของหนังมันก็ไม่ค่อยเป็นเหตุเป็นผลเท่าไหร่ด้วยซ้ำ
แถมฉากตอนจบโลกสวยพาฝันความทรงจำคัมแบคทุกคนน้ำตารินไหลนี่ก็เป็นอะไรที่ดู Fake พอๆกับสถาปัตยกรรมโลกอนาคตในหนังทีเดียว
แม้หนังจะต้องการเชิดชูประเด็นความเป็นมนุษย์ที่ต้องมี "อารมณ์ความรู้สึก" แต่เรากลับรู้สึกกลับด้านกันอย่างสิ้นเชิงเลยทีเดียว
ปล. เกลียดวิกผมของป้าเมอร์รี สตรีฟมากทำป้าแก่ไปหลายร้อยปี
รีวิวเรื่องอื่นๆที่เข้าฉาย
Mission: Impossible - Rogue Nation > > http://urll.us/DidSB7
Ted 2 > > http://urll.us/8EqXIU
Poltergeist > > http://urll.us/FMDAwQ
คืนนั้น > > http://urll.us/WbKyqh
พี่ชาย My Hero > > > http://urll.us/QcPfzm
ANTMAN > > > http://urll.us/BXNpcT
Magic Mike XXL > > > http://urll.us/G6M85Z
Danny Collins > > > http://urll.us/luBi4U
MINNIONS > > > http://urll.us/5rp4qm
Terminator Genisys > > > http://urll.us/dgWjFl