__เรื่องนี้มันเกิดขึ้นมาตั้งแต่ 2553 ผมจบ ป.ตรี มหาวิทยาลัยราชภัฏแห่งหนึ่งในภาคอีสาน ไม่ระบุสาขา และ จบปวส. ด้านคอมพิวเตอร์ธุรกิจ วิทยาลัยเอกชนในภาคอีสาน ตอนผมจบ ผมจะเข้าทำงานบริษัทแห่งหนึ่ง แต่เป็นบริษัทเกี่ยวกับการบริการอินเตอร์เน็ต ในภาคอีสาน ช่วงนั้นเป็นงานสมัครเจ้าหน้าที่การตลาด ซึ่งตอนนั้นผมก็เคยเรียนมาและมีความรู้พื้นฐานของการตลาด และการตลาดขั้นสูง มาแล้ว ผมเลยไปสมัครงาน ฝ่ายบุคคลเรียกผมเข้ามาสัมภาษณ์งานถามผมว่า
ฝ่ายบุคคล : แนะนำตัวหน่อย และแนะนำประวัติการศึกษาล่าสุดที่คุณจบมาด้วยครับ
ผม : ผมชื่อ ..... จบ ปวส. เอกชน วิทยาลัย ..... และจบการศึกษา ปริญญาตรี มหาวิทยาลัยราชภัฏ .....
ฝ่ายบุคคล : คุณมาทำงานในตำแหน่งนี้ คิดว่าจะทำได้หรอ ?
ผม : ผมทำได้ครับ ผมมั่นใจ
ฝ่ายบุคคล : ทางบริษัทเราต้องการจบสาขาที่ตรงกับตำแหน่งของบริษัทเท่านั้น
ผม : ผมเลยคิดในใจว่า (มันบอกว่าสาขาวิชาที่เกี่ยวข้องแล้วมันไม่เกี่ยวตรงไหน ? วิชาการตลาดเราก็มี หลักการตลาดก็มี การจัดการตลาดก็มี) ผมเลยตอบไปว่า บริษัทนี้บอกว่า "สาขาที่เกี่ยวข้อง" ไม่ใช่หรอ ? ไม่ได้ระบุว่าสาขาวิชาการตลาดอย่างเดียว (ฝ่ายบุคคลหัวเราะ)
ฝ่ายบุคคล : แล้วทำไมถึงอยากทำตำแหน่งการตลาด ?
ผม : ผมชอบงาน marketing เป็นงานที่ผมอยากทำมากที่สุด (ตอบแบบไม่คิด)
ฝ่ายบุคคล : รู้ไหมว่าการตลาดของบริษัทเป็นยังไง ? จะอธิบายให้ฟังเกี่ยวกับบริษัท....จนจบ และบอกว่า มีคำถามอะไรเพิ่มเติมไหมครับ ?
ผม : .........ไม่มีครับ(ผมดูสีหน้าของฝ่ายบุคคลแล้วเหมือนจะไม่เอาผมทำงานแน่นอน) จากนั้นผมออกจากห้องสัมภาษณ์ ผมได้ยินฝ่ายบุคคลพูดว่า "ผมไม่ต้องการคนที่จบราชภัฏ" แค่นั้นผมรู้เลยว่าทีหลังถ้าไปสมัครงานผมจะไม่เอาวุฒิป.ตรี สมัครอีก ครั้งนี้เข็ดเลย ทีหลังถ้าไปสมัครงาน ผมเลยต้องเอาวุฒิ ปวส. มาสมัครแทน ส่วนวุฒิ ป.ตรี เอาไว้จนกว่าผมจะทดลองงานเสร็จ และผมคิดเลยว่า "ผมจะไม่มาเหยียบบริษัทที่นี่อีก เพราะถือว่าเขาดูถูกสถาบันราชภัฏ"
__ 1 เดือนหลังจากนั้น ผมได้สมัครงานที่ร้านถ่ายรูปแห่งหนึ่งในภาคอีสาน ทางร้านได้รับผมเข้าทำงานโดยทางร้านไม่จำกัดวุฒิ(เอาล่ะว๊ะ โชคมันมาหาเราแล้ว) ผมทำงานได้เดือนละ 7500 บาท(ปกติถ้าพักด้านนอกจะให้ผม 9500 บาท) รวมค่าห้องนอน/น้ำ/ไฟ/อาหาร พร้อม จนผมทำงานได้เต็มที่ และผมเป็นคนที่ทำงานหนักที่สุดในร้าน เพราะ พนง.ในร้านปริ้นรูปไม่เป็น/แต่งภาพไม่ได้ ผมเลยรับหน้าที่คนเดียว หลังจากปี 2557 ทางร้านเริ่มมีปัญหาขัดแย้งระหว่างเจ้าของร้านกับพนง. ส่วนใหญ่มีปัญหา เช่น
1. พนักงานในร้านทำงานไม่เต็มที่ ขาดงาน/ลางาน/มาสาย บ่อย ซึ่งผมก็พักอยู่ที่ร้านทำงานตรงเวลา(เปิดร้านก่อนเวลา) และผมก็โดนด้วยแต่ไม่มากนัก
2. มาระบายอารมณ์ให้พนักงานฟัง ซึ่งผมก็รับฟังและพอช่วยแก้ปัญหาได้เป็นบางเรื่อง
3. เจ้าของร้านขู่ว่า จะไล่ออกพนง. ทั้งหมด (เจ้าของร้านโวยวาย หรือ โกรธอะไรซักอย่าง)
ผมเลยพูดกับพนง. ที่สนิทกันในร้านว่า "ถ้าผมไม่อยู่แล้ว คุณรับหน้าที่แทนผมแล้วกันแล้วบอกกันต่อๆ เลยนะถ้า พนง.ใหม่เข้ามาทำงาน คุณช่วยสอนการทำงานให้พนง.ใหม่ที่ผมสอนด้วย เช่น วิธีการปริ้นรูปและเอากระดาษใส่ในเครื่องการปรับสีรูป(เพราะในจอกับภาพสีจะไม่เหมือนกัน) และเปลี่ยนกระดาษในห้องมืด ตกแต่งภาพยังไงให้ดูดีแบบธรรมชาติ ถ่ายภาพยังไงให้ดูสวยแบบธรรมชาติ ถ่ายแฟชั่นยังไงให้ภาพมันสด สอนซ่อมเครื่องอัดรูป อันไหนมีปัญหาค่อยๆ แก้ และลองศึกษาดู"
__หลังจากปี 2558 เดือน เมษายน วันที่ 2 ผมลาออก พนง. ทุกคนถามว่า ทำไมถึงลาออก ผมบอกเหตุผลอย่างเดียว "อยากกลับไปอยู่บ้านเพราผมไม่ได้หยุดเลย" เหตุผลที่จริงของผมที่ไม่อยากบอกคือ ผมทำงานหนักกว่าพนง.คนอื่น ตลอด 5 ปี ผมไม่ได้พักเลย ไม่เคยหยุดงานเลย เช่น วันสงกรานต์ - ปีใหม่ ผมทำงานตลอด และเงินเดือนก็คงที่ไม่ขยับเลย ขยับได้เต็มที่ 10100 บาท ในช่วงปีใหม่ หลังจากนั้นก็เงินเดือนเท่าเดิม ผมทำงานก่อนร้านเปิด 1.30 ชม. (ปกติร้านเปิด 7.50 น. ถ้าผมอยู่เปิดประมาณ 6.20 น. เพราะต้องการลูกค้าเข้าร้านก่อนหรือมีงานประเพณีต่างๆ)
__หลังจากผมลาออกแล้ว ประมาณ 2 เดือน ผมอยากหางานทำใหม่ๆ ผมไปหางานหลายที่ในโคราช และบางส่วนในภาคอีสาน (ผมเกิดอยู่ในโคราช) ผมก็ได้สมัครงานไว้ที่ ศูนย์รถยนต์แห่งหนึ่งในขอนแก่น ครั้งนี้ผมใช้วุฒิปวส. สมัคร ไม่ใช้ป.ตรีแล้ว เพราะเข็ดที่ดูถูกสถาบัน ผมไปสมัครงาน ตำแหน่งพนักงานขายรถ (ผมฝากใยสมัครไว้ในเว็บไซด์หนึ่งแล้วทำการสมัครบริษัทนี้ด้วย) หลังจาก 1 อาทิตย์โทรมาให้ไปสัมภาษณ์งาน
__หลังจากผมไปสัมภาษณ์งาน ที่ขอนแก่น สอบข้อเขียนเสร็จ ฝ่ายบุคคล พร้อมผู้จัดการ เรียกให้ผมไปสัมภาษณ์ ฝ่ายบุคคลถามเหมือนที่เราเคยไปสมัครครั้งแรกไว้เป๊ะเลย แต่ครั้งนี้เป็นวุฒิ ปวส. สาขาคอมพิวเตอร์ เลยมีคำถามอื่นๆ เพิ่มเติมว่า
ฝ่ายยุคคล : บ้านอยู่ที่ไหน ?
ผม : นครราชสีมาครับ
ฝ่ายบุคคล : ทำไมถึงมาสมัครที่นี่ ? แล้วทำไมถึงรู้ว่าที่นี่รับสมัครงานล่ะค่ะ ?
ผม : ฝ่ายบุคคลเป็นคนโทรมาหาผมให้มาสัมภาษณ์งานวันนี้ครับ และฝากใบสมัครไว้ในเว็บไซด์ด้วยครับ
ฝ่ายบุคคล : ทำไมมาไกลจัง ในโคราชก็มีสมัครงานไม่ใช่หรอ ?
ผม : งานที่โคราชตอนนี้หางานยากครับ ผมเลยต้องเข้ามาต่างจังหวัดด้วย
ฝ่ายบุคคล : มาทำงานในตำแหน่งนี้ คิดว่าทำได้ไหม ? และจะขายได้หรอ ? ปิดการขายเป็นไหม ? เงินเดือนก็น้อยนะ ?
ผม : (คำถามยาววุ้ยฟังไม่ทัน) ผมตอบว่า ทำได้ครับ และมั่นใจกับการทำงานในตำแหน่งที่ผมทำครับ / ขายได้ครับ ต้องขายได้ / ผมปิดการขายยังไม่เป็น(ตอบด้วยความซื่อตรง) / เงินเดือนน้อยผมสามารถอยู่ได้ครับ และผมเต็มใจกับการทำงานของผม
ฝ่ายบุคคล : นี่ใช้ลายมือเขียนใช่ไหม ?
ผม : ผมตอบว่า ในข้อสอบมันให้เวลา 30 นาที 40 ข้อ พร้อมกรอกใบสมัครงาน ภายใน 10 นาที และมีกระดาษ A4 อีก 4 หน้า ผมต้องทำเวลานะครับ ไม่งั้นเค้าจะเรียกว่าสมัครงานให้ตรงเวลาหรือไม่ ? (ผมตอบแบบตรงไปตรงมา) ฝ่ายบุคคล และ ผจก. หัวเราะใส่ผม
ฝ่ายบุคคล : ขับรถยนต์เกียร์ธรรมดาได้ไหม ? คล่องไหม ?
ผม : ขับได้ครับ และ คล่องด้วย
ฝ่ายบุคคล : มีอะไรสอบถามไหม ? ถ้าไม่มี เดี๋ยวบริษัทจะติดต่อกลับไป
ผม : ... ครับ
หลังจาก 2 อาทิตย์ ก็ไม่มีคำตอบเลย ผมเลยไปสมัครงานที่อื่นๆ โดยใช้วุฒิปวส. ในโคราชด้วย แต่ก็มีหลายบริษัทรถจักรยานยนต์ และบริษัทรถทัวร์ ให้คำตอบว่า "เดี๋ยวบริษัทจะติดต่อกลับไป" ผมรอมา 2 อาทิตย์แล้วยังไม่ได้คำตอบเลย ผมเลยไปหาที่ต่างจังหวัดในภาคอีสานด้วยเช่น บริษัทคอมฯ และบริษัทอื่นๆ ในอีสาน เช่น ร้อยเอ็ด ขอนแก่น อุบลราชธานี บุรีรัมย์ อุดร ล่าสุดที่ นครพนม แต่ละที่ก็ไม่ได้คำตอบเลย (ส่วนใหญ่จะอ้างว่า รับคนที่มาสมัครในพื้นที่ ทั้งๆ ที่ผมก็เต็มใจอยากจะทำ)
ผมอยากทราบว่างานเดี๋ยวนี้หายากจริงหรอครับ ? ทำไมงานเดี๋ยวนี้ต้องการคนที่มีประสบการณ์ด้วย แล้วคนที่ไม่มีประสบการณ์ก็หมดสิทธิ์มากกว่าคนที่มีประสบการณ์หรือไม่ ? สมัครทิ้งไว้รอติดต่อกลับก็เท่ากับตกงานใช่ไหม ? มีใครหางานทำแล้วไม่ได้งาน ช่วยแชร์ประสบการณ์กันหน่ยครับ
การสมัครงานเดี๋ยวนี้ ต้องการแค่สมัครงานทิ้งไว้หรือไม่ ? หรือต้องการพนักงานที่เคยมีประสบการณ์อย่างเดียว
ฝ่ายบุคคล : แนะนำตัวหน่อย และแนะนำประวัติการศึกษาล่าสุดที่คุณจบมาด้วยครับ
ผม : ผมชื่อ ..... จบ ปวส. เอกชน วิทยาลัย ..... และจบการศึกษา ปริญญาตรี มหาวิทยาลัยราชภัฏ .....
ฝ่ายบุคคล : คุณมาทำงานในตำแหน่งนี้ คิดว่าจะทำได้หรอ ?
ผม : ผมทำได้ครับ ผมมั่นใจ
ฝ่ายบุคคล : ทางบริษัทเราต้องการจบสาขาที่ตรงกับตำแหน่งของบริษัทเท่านั้น
ผม : ผมเลยคิดในใจว่า (มันบอกว่าสาขาวิชาที่เกี่ยวข้องแล้วมันไม่เกี่ยวตรงไหน ? วิชาการตลาดเราก็มี หลักการตลาดก็มี การจัดการตลาดก็มี) ผมเลยตอบไปว่า บริษัทนี้บอกว่า "สาขาที่เกี่ยวข้อง" ไม่ใช่หรอ ? ไม่ได้ระบุว่าสาขาวิชาการตลาดอย่างเดียว (ฝ่ายบุคคลหัวเราะ)
ฝ่ายบุคคล : แล้วทำไมถึงอยากทำตำแหน่งการตลาด ?
ผม : ผมชอบงาน marketing เป็นงานที่ผมอยากทำมากที่สุด (ตอบแบบไม่คิด)
ฝ่ายบุคคล : รู้ไหมว่าการตลาดของบริษัทเป็นยังไง ? จะอธิบายให้ฟังเกี่ยวกับบริษัท....จนจบ และบอกว่า มีคำถามอะไรเพิ่มเติมไหมครับ ?
ผม : .........ไม่มีครับ(ผมดูสีหน้าของฝ่ายบุคคลแล้วเหมือนจะไม่เอาผมทำงานแน่นอน) จากนั้นผมออกจากห้องสัมภาษณ์ ผมได้ยินฝ่ายบุคคลพูดว่า "ผมไม่ต้องการคนที่จบราชภัฏ" แค่นั้นผมรู้เลยว่าทีหลังถ้าไปสมัครงานผมจะไม่เอาวุฒิป.ตรี สมัครอีก ครั้งนี้เข็ดเลย ทีหลังถ้าไปสมัครงาน ผมเลยต้องเอาวุฒิ ปวส. มาสมัครแทน ส่วนวุฒิ ป.ตรี เอาไว้จนกว่าผมจะทดลองงานเสร็จ และผมคิดเลยว่า "ผมจะไม่มาเหยียบบริษัทที่นี่อีก เพราะถือว่าเขาดูถูกสถาบันราชภัฏ"
__ 1 เดือนหลังจากนั้น ผมได้สมัครงานที่ร้านถ่ายรูปแห่งหนึ่งในภาคอีสาน ทางร้านได้รับผมเข้าทำงานโดยทางร้านไม่จำกัดวุฒิ(เอาล่ะว๊ะ โชคมันมาหาเราแล้ว) ผมทำงานได้เดือนละ 7500 บาท(ปกติถ้าพักด้านนอกจะให้ผม 9500 บาท) รวมค่าห้องนอน/น้ำ/ไฟ/อาหาร พร้อม จนผมทำงานได้เต็มที่ และผมเป็นคนที่ทำงานหนักที่สุดในร้าน เพราะ พนง.ในร้านปริ้นรูปไม่เป็น/แต่งภาพไม่ได้ ผมเลยรับหน้าที่คนเดียว หลังจากปี 2557 ทางร้านเริ่มมีปัญหาขัดแย้งระหว่างเจ้าของร้านกับพนง. ส่วนใหญ่มีปัญหา เช่น
1. พนักงานในร้านทำงานไม่เต็มที่ ขาดงาน/ลางาน/มาสาย บ่อย ซึ่งผมก็พักอยู่ที่ร้านทำงานตรงเวลา(เปิดร้านก่อนเวลา) และผมก็โดนด้วยแต่ไม่มากนัก
2. มาระบายอารมณ์ให้พนักงานฟัง ซึ่งผมก็รับฟังและพอช่วยแก้ปัญหาได้เป็นบางเรื่อง
3. เจ้าของร้านขู่ว่า จะไล่ออกพนง. ทั้งหมด (เจ้าของร้านโวยวาย หรือ โกรธอะไรซักอย่าง)
ผมเลยพูดกับพนง. ที่สนิทกันในร้านว่า "ถ้าผมไม่อยู่แล้ว คุณรับหน้าที่แทนผมแล้วกันแล้วบอกกันต่อๆ เลยนะถ้า พนง.ใหม่เข้ามาทำงาน คุณช่วยสอนการทำงานให้พนง.ใหม่ที่ผมสอนด้วย เช่น วิธีการปริ้นรูปและเอากระดาษใส่ในเครื่องการปรับสีรูป(เพราะในจอกับภาพสีจะไม่เหมือนกัน) และเปลี่ยนกระดาษในห้องมืด ตกแต่งภาพยังไงให้ดูดีแบบธรรมชาติ ถ่ายภาพยังไงให้ดูสวยแบบธรรมชาติ ถ่ายแฟชั่นยังไงให้ภาพมันสด สอนซ่อมเครื่องอัดรูป อันไหนมีปัญหาค่อยๆ แก้ และลองศึกษาดู"
__หลังจากปี 2558 เดือน เมษายน วันที่ 2 ผมลาออก พนง. ทุกคนถามว่า ทำไมถึงลาออก ผมบอกเหตุผลอย่างเดียว "อยากกลับไปอยู่บ้านเพราผมไม่ได้หยุดเลย" เหตุผลที่จริงของผมที่ไม่อยากบอกคือ ผมทำงานหนักกว่าพนง.คนอื่น ตลอด 5 ปี ผมไม่ได้พักเลย ไม่เคยหยุดงานเลย เช่น วันสงกรานต์ - ปีใหม่ ผมทำงานตลอด และเงินเดือนก็คงที่ไม่ขยับเลย ขยับได้เต็มที่ 10100 บาท ในช่วงปีใหม่ หลังจากนั้นก็เงินเดือนเท่าเดิม ผมทำงานก่อนร้านเปิด 1.30 ชม. (ปกติร้านเปิด 7.50 น. ถ้าผมอยู่เปิดประมาณ 6.20 น. เพราะต้องการลูกค้าเข้าร้านก่อนหรือมีงานประเพณีต่างๆ)
__หลังจากผมลาออกแล้ว ประมาณ 2 เดือน ผมอยากหางานทำใหม่ๆ ผมไปหางานหลายที่ในโคราช และบางส่วนในภาคอีสาน (ผมเกิดอยู่ในโคราช) ผมก็ได้สมัครงานไว้ที่ ศูนย์รถยนต์แห่งหนึ่งในขอนแก่น ครั้งนี้ผมใช้วุฒิปวส. สมัคร ไม่ใช้ป.ตรีแล้ว เพราะเข็ดที่ดูถูกสถาบัน ผมไปสมัครงาน ตำแหน่งพนักงานขายรถ (ผมฝากใยสมัครไว้ในเว็บไซด์หนึ่งแล้วทำการสมัครบริษัทนี้ด้วย) หลังจาก 1 อาทิตย์โทรมาให้ไปสัมภาษณ์งาน
__หลังจากผมไปสัมภาษณ์งาน ที่ขอนแก่น สอบข้อเขียนเสร็จ ฝ่ายบุคคล พร้อมผู้จัดการ เรียกให้ผมไปสัมภาษณ์ ฝ่ายบุคคลถามเหมือนที่เราเคยไปสมัครครั้งแรกไว้เป๊ะเลย แต่ครั้งนี้เป็นวุฒิ ปวส. สาขาคอมพิวเตอร์ เลยมีคำถามอื่นๆ เพิ่มเติมว่า
ฝ่ายยุคคล : บ้านอยู่ที่ไหน ?
ผม : นครราชสีมาครับ
ฝ่ายบุคคล : ทำไมถึงมาสมัครที่นี่ ? แล้วทำไมถึงรู้ว่าที่นี่รับสมัครงานล่ะค่ะ ?
ผม : ฝ่ายบุคคลเป็นคนโทรมาหาผมให้มาสัมภาษณ์งานวันนี้ครับ และฝากใบสมัครไว้ในเว็บไซด์ด้วยครับ
ฝ่ายบุคคล : ทำไมมาไกลจัง ในโคราชก็มีสมัครงานไม่ใช่หรอ ?
ผม : งานที่โคราชตอนนี้หางานยากครับ ผมเลยต้องเข้ามาต่างจังหวัดด้วย
ฝ่ายบุคคล : มาทำงานในตำแหน่งนี้ คิดว่าทำได้ไหม ? และจะขายได้หรอ ? ปิดการขายเป็นไหม ? เงินเดือนก็น้อยนะ ?
ผม : (คำถามยาววุ้ยฟังไม่ทัน) ผมตอบว่า ทำได้ครับ และมั่นใจกับการทำงานในตำแหน่งที่ผมทำครับ / ขายได้ครับ ต้องขายได้ / ผมปิดการขายยังไม่เป็น(ตอบด้วยความซื่อตรง) / เงินเดือนน้อยผมสามารถอยู่ได้ครับ และผมเต็มใจกับการทำงานของผม
ฝ่ายบุคคล : นี่ใช้ลายมือเขียนใช่ไหม ?
ผม : ผมตอบว่า ในข้อสอบมันให้เวลา 30 นาที 40 ข้อ พร้อมกรอกใบสมัครงาน ภายใน 10 นาที และมีกระดาษ A4 อีก 4 หน้า ผมต้องทำเวลานะครับ ไม่งั้นเค้าจะเรียกว่าสมัครงานให้ตรงเวลาหรือไม่ ? (ผมตอบแบบตรงไปตรงมา) ฝ่ายบุคคล และ ผจก. หัวเราะใส่ผม
ฝ่ายบุคคล : ขับรถยนต์เกียร์ธรรมดาได้ไหม ? คล่องไหม ?
ผม : ขับได้ครับ และ คล่องด้วย
ฝ่ายบุคคล : มีอะไรสอบถามไหม ? ถ้าไม่มี เดี๋ยวบริษัทจะติดต่อกลับไป
ผม : ... ครับ
หลังจาก 2 อาทิตย์ ก็ไม่มีคำตอบเลย ผมเลยไปสมัครงานที่อื่นๆ โดยใช้วุฒิปวส. ในโคราชด้วย แต่ก็มีหลายบริษัทรถจักรยานยนต์ และบริษัทรถทัวร์ ให้คำตอบว่า "เดี๋ยวบริษัทจะติดต่อกลับไป" ผมรอมา 2 อาทิตย์แล้วยังไม่ได้คำตอบเลย ผมเลยไปหาที่ต่างจังหวัดในภาคอีสานด้วยเช่น บริษัทคอมฯ และบริษัทอื่นๆ ในอีสาน เช่น ร้อยเอ็ด ขอนแก่น อุบลราชธานี บุรีรัมย์ อุดร ล่าสุดที่ นครพนม แต่ละที่ก็ไม่ได้คำตอบเลย (ส่วนใหญ่จะอ้างว่า รับคนที่มาสมัครในพื้นที่ ทั้งๆ ที่ผมก็เต็มใจอยากจะทำ)
ผมอยากทราบว่างานเดี๋ยวนี้หายากจริงหรอครับ ? ทำไมงานเดี๋ยวนี้ต้องการคนที่มีประสบการณ์ด้วย แล้วคนที่ไม่มีประสบการณ์ก็หมดสิทธิ์มากกว่าคนที่มีประสบการณ์หรือไม่ ? สมัครทิ้งไว้รอติดต่อกลับก็เท่ากับตกงานใช่ไหม ? มีใครหางานทำแล้วไม่ได้งาน ช่วยแชร์ประสบการณ์กันหน่ยครับ