ทำไมดาวเคราะห์วงในเป็นหินวงนอกถึงกลายเป็นดาวแก๊สยกเว้นพลูโต

มันเกิดอะไรขึ้นตอนกำเนิดระบบสุริยะของเรา ทำไมดาวเคราะห์วงในส่วนใหญ่เป็นหินวงนอกเป็นแก๊ส แต่สุดขอบของระบบกลับมีพลูโตและวัตถุอวกาศที่เป็นของแข็งโคจรเต็มไปหมด
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 1
มันเกิดอะไรขึ้นตอนกำเนิดระบบสุริยะของเรา ทำไมดาวเคราะห์วงในส่วนใหญ่เป็นหินวงนอกเป็นแก๊ส
แต่สุดขอบของระบบกลับมีพลูโตและวัตถุอวกาศที่เป็นของแข็งโคจรเต็มไปหมด


   เป็นเพราะว่า  เมื่อครั้งกำเนิดระบบสุริยะ  การรวมตัวของมวลสารจะเกิดขึ้นในรูปสสารแข็งก่อน
เช่น  หิน  เหล็ก  โลหะอื่น ๆ  และเมื่อการรวมตัวนั้นมีขนาดใหญ่มากพอก็จะเกิดแรงโน้มถ่วงที่สูงพอ
ที่จะ เริ่มสามารถจับ GAS Hydrogen , Helium เข้ามาได้  และในกระบวนการนี้เอง  ที่ดาวเคราะห์ชั้นใน
จะได้รับพลังงาน และ ลมสุริยะ (Solar wind) จากดวงอาทิตย์อย่างรุนแรงต่อเนื่อง  จนชั้นบรรยากาศ หรือ GAS
ที่มันพยายามจับเข้ามานั้น  สลายตัวออกไปในอวกาศเรื่อย ๆ ครับ  จนในที่สุดก็มีความสมดุลย์ที่สภาพปัจจุบัน

   ตรงกันข้ามกับดาวเคราะห์ชั้นนอก  ที่กระบวนการจับ GAS ยังสามารถดำเนินต่อไปเรื่อย ๆ จากเริ่มต้น
เพราะพลังงานจากดวงอาทิตย์ส่งมา นั้น  ไม่มากพอที่จะทำให้ชั้นบรรยากาศที่กำลังจับอยู่สลายตัวไปได้
และในเวลาต่อมาอันยาวนาน ..... การรวมตัวของ GAS ก็มากพอที่จะทำให้เกิด มวลมหาศาล
ทำให้เกิดการกดดันชั้นบรรยากาศ Hydrogen ให้หนาแน่นขึ้นไปอีก  จนตัวดาวมีมวลมาก  และก็สามารถจับ GAS
เข้ามาได้อีก  เป็นแบบนี้ไปเรื่อย ๆ ครับ  จนดาวพฤหัส  ดาวเสาร์  ดาว Uranus  ดาว Neptune  พองแก้สแบบนั้น

   สำหรับ Pluto  และวัตถุในย่าน Kuiper Belt นั้น  เป็นการก่อตัวที่ไม่สำเร็จของระบบตั้งแต่แรก  ซึ่งเหมือนกับ
แถบดาวเคราะห์น้อย นั่นเองครับ  Pluto นั้นมีขนาดเล็กมาก  มวลน้อย  จึงไม่มีนัยสำคัญในการจับ gas ใว้ได้
แบบดาวเคราะห์ทั้ง 4 ดวงนี้  ซึ่งดาว 4 ดวงนี้  แกนกลางของพวกเธอที่เป็นของแข็ง นั้น  ใหญ่กว่าโลก 2 - 3 เท่าได้ครับ
จึงมีมวลมาก  และมีนัยสำคัญในการจับ gas เข้ามาครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่