คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 32
จากเป็น ยังมีโอกาสได้เจอกัน แต่จากตายนี่สิ........
ทำไมผมคิดวนเวียนอยู่แต่เรื่องพี่สิงห์ เดี๋ยวผมจะเล่าให้ฟัง
สมัยปี 2547 ยุคเรืองรอง Gen2 ของวงการอินดี้ สมัยนั้นผมยังคงเรียนและเป็นดีเจให้กับคลื่นหนึ่ง ได้มีโอกาสฟังเพลง "ฉันไม่เหงา" ด้วยสไตล์ดนตรีที่เศร้าจับใจ เสียงร้องที่สื่ออารมณ์ของคนประชดเรื่องความรัก มันทำให้คนอกหักบ่อยๆ ที่เรียกว่าบ่อยมากแบบซ้ำซ้อนต้องอินไปกับเพลงนี้แบบถอนตัวไม่ขึ้น ช่วงนั้นผมยังไม่รู้จักวงนี้เลย ไม่รู้จักนักร้องด้วยซ้ำ
เวลาผ่านไป ในที่สุดผมก็ได้มีโอกาสฟังผลงานเพลงของ Sqweez Animal ผมจึงได้รู้ว่าเขาทั้งสองคนเป็นใคร และได้มีโอกาสซื้ออัลบั้มเต็มแบบถูกกฏหมาย ไม่ดาว์นโหลด ซื้อซีดีในราคาที่แพงในสมัยนั้นโดยมีน้องชายที่น่ารักซื้อให้เป็นของขวัญวันเกิดผม
ผมให้คำนิยามของวงนี้เป็น "สัญลักษณ์ของความเศร้า" เพราะทั้งอัลบั้มแรกนั้นมีเพลงเศร้ามากกว่าครึ่งจากทั้งหมด 13 เพลง และที่สุดยอดไปกว่านั้นคือ ทั้งเพลงเช้าเพลงเร็วมันเพราะหมดทุกเพลง ผมร้องตามได้หมด รู้จังหวะโน๊ตและดนตรีทุกพาร์ต แต่น่าเสียดายที่ผมไม่เคยได้เอามาแกะซ้อมดนตรีเลยสักเพลง
สมัยนั้นเพลงตลาดกำลังฮิต แต่หมู่คนฟังเพลงอินดี้ในจังหวัดชลบุรีมีน้อย ผมจึงไม่มีผู้ร่วมอุดมการณ์ในการฟังเพลง จึงส่งสารต่อไปยังคนหมู่กว้างด้วยเรดิโอ จัดรายการวิทยุทุกครั้งต้องมี Sqweez Animal ร่วมอยู่ด้วยเสมอ แม้จะแหกกฏเรื่องค่ายในสถานี แต่ผมชอบเป็นการส่วนตัว จะเปิดดึกๆ ตลอด จนคนชลบุรีเริ่มรู้จัก Scrubb ฟัง Armchair และชื่นชอบเพลงของ Sqweez Animal
สัญลักษณ์แห่งความเศร้าของผมได้เดินทางมาถึงจุดที่สร้างความพลัดพรากจากกันไปอีก ตัวผมเองถึงแม้จะไม่เคยได้ดูการแสดงสดๆ ของพี่เขาทั้งสองเลย แต่เชื่อไหมว่าถ้าผมได้ยินเสียงกีต้าร์ของพี่สิงห์เมื่อไหร่ จะรู้ทันทีว่าฝีมือใคร เพราะมันเป็นเอกลักษณ์ที่ไม่เคยมีมือกีต้าร์คนไหนในไทยแสดงเอกลักษณ์ได้โดดเด่นเท่านี้มาก่อน
ยุคนั้น Sqweez Animal ได้รับรางวัล ผมยังคงจำสับสนอยู่เลยว่าคนไหนพี่วิน คนไหนพี่สิงห์ แต่สิ่งที่จำได้ไม่ลืมคือเนื้อร้อง ทำนอง และเพลงเศร้าๆ ที่ผมชอบฟังเวลาอกหัก และร้องไปร้องไห้ไปในเพลง "Let's Cry"
ก็ไม่เคยอัพอะไรที่ยืดยาวแบบนี้มานาน กลัวว่าหลายๆ คนจะไม่เข้าใจว่าผมจะอะไรนักหนากับวงนี้ ผมก็ขอใช้พื้นที่ตรงนี้เลยว่า ผมเติบโตมากับ Sqweez Animal ผมเรียนรู้ชีวิตและความรักจากพวกเขา พี่ๆ เขาคือส่วนหนึ่งในชีวิตของผม
ตั้งแต่รู้ข่าว (ที่ล่าช้ากว่าคนอื่น) ผมไม่หยุดที่จะติดตามข่าว ทั้งวันเหมือนคนบ้า ไม่มีจิตใจจะทำอะไร ช็อคมาก ไม่คิดฝันว่าจะเกิดเรื่องนี้กับพี่สิงห์ ผมไม่ขอ RIP แบบฝรั่ง แต่จะขอให้พี่หลุดพ้นจากความเจ็บปวดโดยไว และไปสร้างความสุขด้วยเสียงดนตรีบนสวรรค์ต่อไป สิ่งหนึ่งที่สำคัญคือ พี่สิงห์ต้องอย่าลืมส่งใจมาให้พี่วินด้วย ถึงแม้พี่สิงห์จะไม่ได้มาอ่าน แต่ก็ขออุทิศให้พี่ได้ยินนะครับ
ทำไมผมคิดวนเวียนอยู่แต่เรื่องพี่สิงห์ เดี๋ยวผมจะเล่าให้ฟัง
สมัยปี 2547 ยุคเรืองรอง Gen2 ของวงการอินดี้ สมัยนั้นผมยังคงเรียนและเป็นดีเจให้กับคลื่นหนึ่ง ได้มีโอกาสฟังเพลง "ฉันไม่เหงา" ด้วยสไตล์ดนตรีที่เศร้าจับใจ เสียงร้องที่สื่ออารมณ์ของคนประชดเรื่องความรัก มันทำให้คนอกหักบ่อยๆ ที่เรียกว่าบ่อยมากแบบซ้ำซ้อนต้องอินไปกับเพลงนี้แบบถอนตัวไม่ขึ้น ช่วงนั้นผมยังไม่รู้จักวงนี้เลย ไม่รู้จักนักร้องด้วยซ้ำ
เวลาผ่านไป ในที่สุดผมก็ได้มีโอกาสฟังผลงานเพลงของ Sqweez Animal ผมจึงได้รู้ว่าเขาทั้งสองคนเป็นใคร และได้มีโอกาสซื้ออัลบั้มเต็มแบบถูกกฏหมาย ไม่ดาว์นโหลด ซื้อซีดีในราคาที่แพงในสมัยนั้นโดยมีน้องชายที่น่ารักซื้อให้เป็นของขวัญวันเกิดผม
ผมให้คำนิยามของวงนี้เป็น "สัญลักษณ์ของความเศร้า" เพราะทั้งอัลบั้มแรกนั้นมีเพลงเศร้ามากกว่าครึ่งจากทั้งหมด 13 เพลง และที่สุดยอดไปกว่านั้นคือ ทั้งเพลงเช้าเพลงเร็วมันเพราะหมดทุกเพลง ผมร้องตามได้หมด รู้จังหวะโน๊ตและดนตรีทุกพาร์ต แต่น่าเสียดายที่ผมไม่เคยได้เอามาแกะซ้อมดนตรีเลยสักเพลง
สมัยนั้นเพลงตลาดกำลังฮิต แต่หมู่คนฟังเพลงอินดี้ในจังหวัดชลบุรีมีน้อย ผมจึงไม่มีผู้ร่วมอุดมการณ์ในการฟังเพลง จึงส่งสารต่อไปยังคนหมู่กว้างด้วยเรดิโอ จัดรายการวิทยุทุกครั้งต้องมี Sqweez Animal ร่วมอยู่ด้วยเสมอ แม้จะแหกกฏเรื่องค่ายในสถานี แต่ผมชอบเป็นการส่วนตัว จะเปิดดึกๆ ตลอด จนคนชลบุรีเริ่มรู้จัก Scrubb ฟัง Armchair และชื่นชอบเพลงของ Sqweez Animal
สัญลักษณ์แห่งความเศร้าของผมได้เดินทางมาถึงจุดที่สร้างความพลัดพรากจากกันไปอีก ตัวผมเองถึงแม้จะไม่เคยได้ดูการแสดงสดๆ ของพี่เขาทั้งสองเลย แต่เชื่อไหมว่าถ้าผมได้ยินเสียงกีต้าร์ของพี่สิงห์เมื่อไหร่ จะรู้ทันทีว่าฝีมือใคร เพราะมันเป็นเอกลักษณ์ที่ไม่เคยมีมือกีต้าร์คนไหนในไทยแสดงเอกลักษณ์ได้โดดเด่นเท่านี้มาก่อน
ยุคนั้น Sqweez Animal ได้รับรางวัล ผมยังคงจำสับสนอยู่เลยว่าคนไหนพี่วิน คนไหนพี่สิงห์ แต่สิ่งที่จำได้ไม่ลืมคือเนื้อร้อง ทำนอง และเพลงเศร้าๆ ที่ผมชอบฟังเวลาอกหัก และร้องไปร้องไห้ไปในเพลง "Let's Cry"
ก็ไม่เคยอัพอะไรที่ยืดยาวแบบนี้มานาน กลัวว่าหลายๆ คนจะไม่เข้าใจว่าผมจะอะไรนักหนากับวงนี้ ผมก็ขอใช้พื้นที่ตรงนี้เลยว่า ผมเติบโตมากับ Sqweez Animal ผมเรียนรู้ชีวิตและความรักจากพวกเขา พี่ๆ เขาคือส่วนหนึ่งในชีวิตของผม
ตั้งแต่รู้ข่าว (ที่ล่าช้ากว่าคนอื่น) ผมไม่หยุดที่จะติดตามข่าว ทั้งวันเหมือนคนบ้า ไม่มีจิตใจจะทำอะไร ช็อคมาก ไม่คิดฝันว่าจะเกิดเรื่องนี้กับพี่สิงห์ ผมไม่ขอ RIP แบบฝรั่ง แต่จะขอให้พี่หลุดพ้นจากความเจ็บปวดโดยไว และไปสร้างความสุขด้วยเสียงดนตรีบนสวรรค์ต่อไป สิ่งหนึ่งที่สำคัญคือ พี่สิงห์ต้องอย่าลืมส่งใจมาให้พี่วินด้วย ถึงแม้พี่สิงห์จะไม่ได้มาอ่าน แต่ก็ขออุทิศให้พี่ได้ยินนะครับ
แสดงความคิดเห็น
ตอนนี้พี่วิน Sqweez Animal เป็นยังไงบ้างครับ หลังพี่สิงห์เสียชีวิต
ตอนนี้เป็นห่วงพี่เขามากๆ เพราะในคืนเกิดเหตุ คุณพ่อพี่สิงห์ก็มา แต่ตอนนี้ยังไม่มีข่าวคราวของพี่วินเลย
ผมว่าพี่วินน่าจะเป็นคนที่เสียใจมากอีกคนหนึ่งเลยนะ อยู่ร่วมวงกันมาตั้งแต่ปี 2547 หรืออาจจะก่อนหน้านั้นอีก
นั่งติดตามข่าวทั้งวัน แต่ยังไม่มีความคืบหน้าเรื่องพี่วินเลย
ต่อจากนี้ไป...พี่สิงห์จะไม่ได้ยืนอยู่เคียงข้างพี่วินบนเวทีอีกแล้ว
ใครที่รู้ข่าวความเคลื่อนไหวของพี่วิน ก็มาบอกกันด้วยนะครับ
เป็นห่วงและสงสารพี่วินมากๆ
จดหมายลาสุดท้ายของพี่สิงห์
เพิ่มเติม #1
รอติดตามข่าวช่วงเย็น ยังไม่มีอะไรคืบหน้าเกี่ยวกับพี่วินครับ (17.23 น.)
เพิ่มเติม #2 (เวลาประมาณเกือบๆ 5 ทุ่มของวันนี้ 30 กรกฎาคม 2558)
พี่วินอัพ IG แล้วนะครับ ความยาวพอประมาณ
ประโยคที่พี่วินเขียน...
"พี่จะพยายามสานฝันของเราต่อไปให้ได้นะ ถึงแม้ว่าการเดินไปคนเดียวคงจะแปลกพิลึกยังไงช่วยเป็นกำลังใจให้พี่ด้วยนะน้องรัก"
ประโยคนี้.....................ทำผมน้ำตาไหล..........