[CR] m2 note มือถือจอใหญ่ในราคาเบา ๆ

                        ผมขอย้อนกลับไปนิดนึงนะครับ ว่าทำไมถึงกล้าสั่งมือถือแบรนด์จีนมาใช้ เพราะวันก่อนผมปล่อยเจ้า M1 note ไปให้คนอื่นใช้ต่อก็มีการพูดคุยกันครับ

          
                  อย่างแรกเลย ผมศึกษาและหาข้อมูลว่าแบรนด์ไหนดี ไม่ดี จุดเด่น จุดด้อยของแต่ละแบรนด์ การตอบรับจากต่างประเทศ เป็นอย่างไร ลองเปรียบเทียบดูว่าคุ้มค่ากับเงินที่เสียไหม (ผมเคยสั่งเจ้า zen5 honor3c m1note docomof08d bb9000) รับได้ไหมกับการไม่มีประกัน ซึ่งผมไม่ค่อยสนใจประกันเท่าไหร่ครับ ลองสักเกตุจากหลาย ๆเคสในสินค้าในไทยผมแทบหาข้อมูลความประทับใจไม่ได้เลย แม้กระทั้งแบรนด์ใหญ่ ๆ ก็ตาม เมื่อก่อนผมใช้ไอโฟน ไอแพท ก็แทบไม่เคยเข้าศูนย์เลยครับ จอแตกทั้งคู่ ผมก็ลองสั่งอุปกรณ์มาลองเปลี่ยนเองครับ (หลาย ๆ คนถ้าไม่กล้าเสี่ยง หรือ ซ่อมเองแนะนำเข้าศูนย์ดีกว่าครับ) หิ้วเอง สั่งเอง ราคาที่นั้นอาจจะถูกกว่าไม่มาก แต่ก็ถูกกว่าครับ และได้ของเร็วแน่นอน (ผมเป็นคนไม่ชอบรอนานด้วยแหละครับ)



มาเริ่มกันเลยดีกว่าครับ

        เมื่อช่วงต้นเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา Meizu ได้เปิดตัวมือถือรุ่นใหม่ออกมา ซึ่งนั้นก็คือ m2 note ซึ่งเป็นตัวทายาทของเจ้า m1 note เพิ่งจะเปิดตัวไปเมื่อปลายปีที่แล้ว ซึ่งก่อนจะสั่งเจ้าตัวนี้มา ผมก็ตัดสินใจอยู่นานว่าจะซื้อดีไหม เพราะผมเพิ่งใช้เจ้า M1 note ได้ไม่ถึงเดือน แต่เพื่อสนองความอยากของผมในที่สุดก็ตัดสินใจสั่งเจ้า M2 note มาเมื่อช่วงกลางเดือนที่ผ่านมาครับและใช้เวลารอเพียงไม่กี่วันครับ เจ้า M2 Note ก็มาถึงมือผมโดยผ่านการส่งของ DHL ครับ (ราคาเมื่อรวมค่าจัดส่งแล้วก็ยังถูกว่าตอนผมสั่ง M1 note ครับ )



เจ้า M2 note ถูกห่อมาอย่างดี  


มาดูอุปกรณ์ในกล่องกันครับ


เจ้า M2 note นั้นด้วยราคาเปิดตัวที่ไม่สูงนักอุปกรณ์ในกล่องก็เลยมีเพียงแค่ 3 ชิ้นครับ

1.Adapter 2A
2.สายUSB
3.ตัวจิ้มซิม หมดแล้วครับ ก็ราคาไม่แพงเลยต้องลดต้นทุน ซึ่งหลาย ๆ แบรนด์ก็ทำเช่นนี้ครับ





มาดูตัวสเปคและหน้าตาของเจ้า M2 note กันดีกว่าครับ

ซึ่งต้องยอมรับเลยครับว่าเจ้าตัว M2 note นั้นมีความคล้ายและใกล้เคียงกับ M1 note มาก แต่ก็ยังมีส่วนที่แตกต่างอย่างเห็นได้ชัดครับโดยตัวเครื่องนั้นใช้ระบบปฏิบัติการ Flyme Os ครับ ซึ่งรุ่นที่มากับตัวเครื่องนั้นคือ 4.5 UI โดยมีฐานจาก Lollipop 5.0 ครับ (ตอนนี้เป็น 4.5.2A  ครับ lollipop 5.1 เหมือนมีการอัพเดทเมื่อวานนี้เองครับ) นอกจากนี้หน้าจอยังคงใช้ หน้าจอของ Sharp IGZO ขนาด 5.5 นิ้วครับ ใช้ CPU ชิบของMediaTek MT6753 1.3GHz octa-core RAM 2GB ROM 16GB รองรับ microSD (แต่ต้องเลือกระหว่างเพิ่มเมมหรือจะใช้สองซิมนะครับ) กล้องหลัง 13 ล้าน และส่วนกล้องหน้าอยู่ที่  5 ล้าน แบตเตอรี่ให้มาที่ขนาด 3100mAh รองรับ 3G ทุกระบบในไทยครับและยังรองรับ 4G ระบบ 2100/1800/2600 ซึ่งรองต้องรอดูครับว่าอนาคตจะ 4G ในไทยจะเป็นอย่างไร






โดยในส่วนที่แตกต่างนั้นก็มีการย้ายตำแหน่งของปุ่มเพาเว่อร์ที่ย้ายจากด้านบนมาไว้ด้านกับปุ่มเพิ่ม-ลดเสียงครับ และปุ่มโฮมที่ไม่ได้เป็นแบบM1 note แต่ใช้ปุ่มโฮมที่มีลักษณะเหมือนกับ Mx4 แต่ไม่รองรับระแบบสแกนลายนิ้วมือครับ ก่อนการเปิดตัวผมแอบนึกว่าจะใส่ฟังชั่นสแกนนิ้วมาแล้วครับ แต่ราคาระดับนี้แค่สัมผัสได้แค่นี้ก็คุ้มค่าตามราคาแล้วครับ ด้านบนของหน้าจอตัวเครื่องมีช่องลำโพงสนทนา ไฟแจ้งเตือน (ซึ่งใน M1 note นั้นไม่มีแต่จะไปอยู่ในวงกลมที่เป็นตัวโฮม) และกล้องหน้าสำหรับการ Selfie และส่วนบนของเครื่องจะเหลือเพียงช่องเสียบหูฟัง และไมค์ตัดเสียงครับด้านล่างก็จะมี mic ช่อง MicroUsb และ Speakerด้านหลังของตัวเครื่องจะเห็นโลโก้ Meizu และมีกล้อง Flash รุ่นนี้แกะฝาหลังไม่ได้นะครับ

ตำแหน่งของปุ่มเพาเว่อร์เทียบกันระหว่างเจ้า M1 note (สีฟ้า) และ M2 note (สีขาว)




ปุ่มเพิ่ม-ลดเสียง และปุ่มเพาเว่อร์





การเปลี่ยนมาใช้ปุ่มโฮม




เครื่องที่ซื้อมาสีขาวครับ ฝาหลังขาวเงามันวาวมาก







ระบบปฏิบัติการ Flyme Os


โดยทาง Meizu นั้นมีระบบปฏิบัติการของตัวเอง โดยมีพื้นฐานมาจากระบบ Android โดย Flyme Osนั้นหน้าโฮมนั้นจะไม่มี App Drawer หรือ หน้ารวมแอพแต่ทุกแอพจะถูกเรียงอยู่บนหน้า Homescreen ซึ่งมีความคล้ายกับทาง iOS เลยครับ











การใช้งานก็ไม่ได้ยุ่งยากอะไรครับ ถ้าอยู่ในโหมดพักหน้าจอเลื่อนนิ้วปัดลงมาก็จะเป็นการแสดง Notification เลื่อนทางด้านซ้ายเป็นการเข้าโหลดกล้องส่วนทางขวาเป็นการเลื่อนเข้าสู่โหมดแอพที่ตั้งค่าไว้ ด้านล่างขึ้นบนเป็นการปลดล๊อคหน้าจอ นอกจากหน้าถ้ามือถืออยู่ในหน้าจอก็สามารถเคาะหน้าจอสองครั้งเพื่อทำการเปิดหน้าจอแทนกดปุ่มเพาเว่อร์ที่ข้างตัวเครื่อง



ฟังชั่นปุ่มโฮม


การแตะปุ่มโฮมนั้นจะเป็นฟังชั่น Back หรือการย้อนกลับ และการกดปุ่มลงไปจะเป็นการออกจากโปรแกรมครับ จากการใช้งานตอนนี้ 3-4 วันผมบอกเลยว่ายังไม่ชินครับ เพราะติดการใช้งาน M1 note ที่จะเป็นการเลื่อนนิ้วมือไปตำแหน่งต่าง ๆ ครับ แต่คิดว่าใช้ไปเดียวก็ชินครับ



SmartTouch


ฟีเจอร์อีกอย่างหนึ่งที่มีความคล้ายกับปุ่ม Assistive ของทางไอโฟนครับ โดยการใช้งาน SmartTouch จะมีลักษณะเป็นปุ่มกลมๆสีขาวบนหน้าจอโดยเราจะต้องเข้าไปตั้งค่าการใช้งานว่าจะใช้การแตะปุ่ม SmartTouch ทิศทางไหนจะเป็นฟังชั่นใด โดยใช้ฟังชั่นนี้แทนการกดปุ่มโฮมครับ






Notification

การแจ้งเตือนนั้นจะเป็นการรวมเอาเครื่องมือต่าง ๆ มารวมไว้ให้เกิดการใช้งานที่ง่ายขึ้นครับ โดยฟังชั่นก็จะมีทั้ง Wifi 3G การเปิด-ปิดเสียง เพิ่มระดับหน้าจอ เป็นต้น







เครื่องเล่นเพลง



เจ้า m2 note นั้นจะมีตัวMusic ของทาง Meizu มากับเครื่อง ซึ่งเราสามารถฟังเพลงออนไลน์และโหลดเก็บไว้ในเครื่องได้ครับ และที่สำคัญฟรี โดยจะมีทั้งเพลงจีน ญี่ปุ่น สากล และเพลงไทย(แต่น้อยมากครับ ซึ่งอาจจะเป็นศิลปินที่คนจีนนิยม)นอกจากนี้ตัว Music ยังมีระบบค้นหาที่ใช้การฟังจากเพลงที่ได้ยินและค้นหา ซึ่งคล้าย ๆ กับ Shazam ครับ












กล้องถ่ายรูป



โดยเจ้า m2 note นั้นจะมีฟังชั่นมาพอสมควรไม่เท่ากับรุ่นใหญ่อยากพวกตระกูล Mx ของทาง Meizu

Auto ซึ่งเป็นโหมดพื้นฐานที่ตัวกล้องจะคำนวนทุกอย่างให้อัตโนมัติ
Manual โหมดที่การถ่ายรูปแบบปรับค่าได้เองโดยมีทั้งการปรับค่า  Shutter Speed, ISO, Exposure และ Focal
Beauty ที่เป็นโหมดหน้าสวยที่หลาย ๆ คนในยุคแห่งการ Selfie ติดใจกับเจ้าโหมดนี้ในแบรนด์มือถือจีน ที่ช่วยให้ถ่ายภาพออกมาดูหน้าเนียนและสวยวิ้งโดยไม่ต้องแต่งหน้านอกจากนี้ยังมีโหมด Panorama ,Light field ,Scan และ Slowmotion.






แบตเตอรี่



การใช้งานแบตเตอรี่นั้นถือว่าอยู่ในระดับยอมรับได้ครับ ไม่ใช่ใช้และแบตลดแบบ Zenfone อันไหนไหลอย่างกับน้ำ ถ้าไม่ได้ใช้งานอะไรมากไปทำงานไปกลับบ้านก็อยู่ได้สบาย ๆ เหลือ 20 % แต่ด้วยความที่เจ้าตัว M2 note นั้นมีฟังชั่นการใช้งานแบตเตอรี่มาให้ 3 ฟังชั่นก็ช่วยยืดระยะเวลาแบตได้อีกนานครับ (โหมดได้แก่ Performence , Balance , Power Saving )







ประสิทธิภาพและความอึด



เจ้า M2 note ตัวนี้ใช้ CPU MediaTek MT6753 1.3GHz octa-core รุ่นใหม่กว่า M1 Noteโดยลดความเร็วของจาก 1.7 มาเป็น 1.3 ซึ่งมาดูคะแนนจากโปรแกรม Benchmark กันดีกว่า



















ซึ่งถ้าเทียบกับตัว M1 note นั้นถือว่าน้อยกว่าแต่ก็ไม่ได้ทำให้การใช้งานดูช้ากว่าเดิมเท่าไหร่ครับ แต่ตัวเลขพวกนี้ก็ไม่ได้สามารถจะบอกอะไรมากมายครับ ว่าเครื่องช้าเร็วขนาไหน นอกจากคุณลองจากการใช้งานจริงครับ ซึ่งตัวเลขพวกนี้ก็จะใช้บอกแค่ว่าเครื่องของเรานั้นจัดอยู่ในกลุ่มเดียวกับเครื่องรุ่นไหน โดยรวมนั้นการใช้งาน เล่นเฟส เล่นอินเตอร์เน็ต ดูหนัง ฟังเพลงไม่มีการกระตุกนะครับ สามารถใช้งานได้อย่างสบาย ๆ ครับ




ตัวอย่างภาพที่ได้จากกล้องครับ ผมแค่ลดขนาดครับ


โหมด auto














ไฟล์ต้นฉบับ

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

สรุปการใช้งานครับ

    
จากการใช้งาน M2 note มา 3 วันผมค่อนข้างประทับใจซึ่งก่อนหน้านี้ผมเคยใช้ M1 note การใช้งานแทบไม่ต่างกันมาก M2 note ถือว่าเป็นสมาร์ทโฟนที่ราคาไม่แพง และมีฟังชั่นการใช้งานพื้นฐานที่ครบและได้สเปคสูงเมื่อเทียบราคาในระดับเดียวกันในแบรนด์อินเตอร์ แต่ก็ต้องแลกกับการไม่มีประกัน (เหมือนเร็ว ๆ นี้จะมีการนำเข้ามาขายอย่างเป็นทางการ แต่ก็ยังไม่มีการยืนยันจากแหล่งที่แน่นอน) นอกจากนี้อาการค้างต่าง ๆ  หรือการเล่นแล้วกระตุกแทบจะไม่พบเลยครับสำหรับแบรนด์นี้ โดยเฉพาะตัวรอมที่ถูกการออกแบบมาให้ใช้งานง่าย การประกอบของเครื่องแน่นหนาดีครับ ถึงแม้จะเป็นพาสติกแต่ก็ดูดีอยู่ครับ ข้อเสียคือยังมีแอพจีนติดมากับเครื่องต้องเออออกเองแต่ก็ไม่ใช่ปัญหาครับ บางแอพใช้ในไทยไม่ได้เพราะเหมือนล๊อคไว้กับทางจีนครับ สุดท้ายนี้อยากให้ทุก ๆ ปรับมุมมองว่าสินค้าที่มาจากจีนมีทั้งดีและไม่ดี มีคุณภาพไม่มีคุณภาพ อยากให้เพื่อน  ๆ ที่ยังไม่เคยใช้ลองเปิดใจดูครับเก็บไว้เป็นหนึ่งทางเลือก
ชื่อสินค้า:   Meizu M2 Note LTE
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่