กว่าจะเป็นดาวของสาวเสียงทรงพลัง 'แก้ม' วิชญาณี

กว่าจะเป็นดาวของสาวเสียงทรงพลัง 'แก้ม' วิชญาณี : บันเทิงวันเสาร์ เรื่อง... มงคง บุญคุ้ม ภาพ วริศรา วุฒิกุล


          เป็นหนึ่งในผลผลิตจากบ้านเดอะสตาร์ แถมยังเป็นแชมป์ผู้หญิงหนึ่งเดียวอีกด้วย สำหรับนักร้องสาวเสียงดี อย่าง "แก้ม" วิชญาณี เปียกลิ่น  ซึ่งโลดแล่นอยู่ในวงการบันเทิงมากว่า 7 ปี  วันนี้เธอได้พิสูจน์ตัวเอง ให้คนได้รับรู้แล้วว่า เธอคือเดอะสตาร์หญิงหนึ่งเดียว ที่ครบเครื่องไม่ใช่เพียงแค่เสียงร้องที่โดดเด่น เพราะเธอทำได้มากกว่านั้น ทั้งร้อง เล่น เต้น ล่าสุดเธอมีโอกาสได้มาทำหน้าที่พิธีกร ร่วมกับ 3 เดอะสตาร์รุ่นน้องอย่าง "กัน" นภัทร อินทร์ใจเอื้อ  "โดม" จารุวัฒน์ เชี่ยวอร่าม และ "ตั้ม" วราวุธ โพธิ์ยิ้ม ในรายการวาไรตี้สุดฮา ในนาม "4โพดำ" ที่ออกอากาสทางช่อง วัน งานนี้หน้าบันเทิงคมชัดลึก ไม่รีรอคว้าตัวสาวแก้ม มานั่งพูดคุยแบบเปิดใจ จะเป็นอย่างไรต้องตามมาดู


รายการ 4 โพดำ
000จุดเริ่มต้นของรายการนี้ รู้สึกอย่างไรที่ได้มาทำหน้าพิธีกร
          จริงๆแล้วมันก็มาจากคอนเสิร์ต4 โพดำ ครั้งที่แล้ว และผู้ใหญ่คงเห็นว่าสี่คนนี้มันน่าจะอยู่ด้วยกันได้ มันเข้าขากันได้ดี พอพี่บอย(ถกลเกียรติ วีรวรรณ) เห็นว่าเราอยู่ด้วยกันแล้วมันฮา  เลยคิดโปรเจกท์รายการนี้มาตั้งแต่ปีที่แล้ว ถามว่าพอมาทำเป็นรายการเป็นอย่างไรบ้าง พอมาทำเป็นรายการด้วยกันทุกสัปดาห์ คือจริงๆ แล้วหลังจากคอนเสิร์ตก็ได้ติดต่อกันตลอด ทำงานด้วยกันอยู่แล้วแต่ว่ามันก็จะสนิทกันมากกว่าเดิมอีก เพราะมันหาเจอว่าแก๊งค์นี้อยู่ด้วยกันได้ ความรู้สึกคือเรากลายเป็นพี่น้องกัน สนิทกันเลย ไม่ใช่ว่าไม่คบคนอื่นนะ หมายถึงเวลาที่เรามีอะไรเราก็ปรึกษากัน คุยกัน ไปเที่ยวก็ไปด้วยกัน มันกลายเป็นครอบครัวอีกครอบครัวหนึ่งไป ผูกพันธ์กันมากกว่าเดิมเยอะ


000ทั้งสามคนใครน่าหนักใจที่สุด และให้พูดถึงแต่ละคน
          เริ่มจาก หนักใจสุดคือโดมเขาเป็นคนดี นิสัยชอบช่วยเหลือคนอื่น เห็นเขาลุคแบบนี้ไม่ใช่คนธรรมดานะ เขารู้เรื่องเยอะแต่ไม่ค่อยพูด โดมเป็นคนเก่ง รู้ทัน รู้เรื่องรอบตัวเยอะมาก ตั้ม สำหรับแก้มเขาเป็นคนเก่งอยู่แล้ว เขาโชคดีที่ได้มาทำอะไรตรงนี้ได้มาเจอพวกเราที่คอยบอกคอยสอน  เขาหาทางของเขาเจอ ว่ามันคือเส้นทางนี้ น้องจะเป็นแนวตลกแล้วก็เฮฮา แต่ตั้มเขาไม่ค่อยทันคน   มาถึงกัน นภัทร จริงๆ คนภายนอกมอง ก็จะแบบดูหล่อเก๊กๆ มีมาด แต่จริงๆเขาเป็นคนตลกนะ อีกอย่าง เขาเป็นคนขี้น้อยใจมาก ไม่มีใครไม่โดน ถ้ารู้จักแล้ว แถมเป็นคนชอบแกล้ง ส่วนหนู ตอนแรกรู้สึกว่าต้องเป็นแม่แน่ๆ เพราะอาวุโสสุด แต่พออยู่มาเรื่อยๆ ก็ได้ประสบการณ์มากขึ้น เพราะอยู่กับทั้ง 3 คน มันสบายใจ เวลาไปไหนไม่ต้องแต่งตัวแต่งหน้าเยอะก็สวยสุดแล้วในนั้นอะ(หัวเราะ)


000หลังฉากของการทำงานในแต่ละสัปดาห์เป็นอย่างไร สนุกแค่ไหน
          คือเบื้องหลังเราบอกตัวเองเลยนะ ว่าต้องไม่ตั้งใจ เพราะถ้าตั้งใจมันจะออกมาไม่ตลก คือเล่นและทำทุกอย่างให้เป็นตัวเราที่สุด แต่สำคัญคือมันจะทำยังไงให้คนรู้สึกว่าไม่ยัดเยียด มีบางทีพวกเราสี่คนเล่นมุกออกไปมันก็เงียบกริบก็มี  หรือรอบแรกเล่นไปแล้ว ขอถ่ายใหม่ก็มี คือต้องมีไหวพริบดี ต้องเปลี่ยน ต้องหารูปแบบต่างๆออกมาเล่นให้คนขำตลอด ถามว่าที่ทำมา เทปไหนเครียดสุดน่าจะเป็น เทปแรกคือ พี่บี้(สุกฤษฏิ์ วิเศษแก้ว) มันคือเทปแรก ที่อัดรายการนะ อะไรหลายๆ อย่าง มันยังไม่ลงตัว  จริงๆ ไม่คิดว่าตัวเองจะได้มาทำอะไรแบบนี้ ด้วยความตลก เราต้องมาครีเอทกันทุกสัปดาห์ อย่างช่วงละคร ลองคิดดูถ้าทำไปเรื่อยๆ สักวีกต้องมีตันบ้าง มันก็ยากตรงนั้นแหละ แต่มันก็ไม่เกินความสามารถนะ ทุกคนน่าจะหาอะไรแปลกใหม่ได้อยู่ตลอดอยู่แล้ว เราเชื่ออย่างนั้น


เส้นทางในวงการมายา
000ชีวิตการทำงานในวงการบันเทิงผ่านมาเกือบ 7 ปีแล้วรู้สึกอย่างไรบ้าง
          แก้มว่ามันหลากหลาย ไม่ได้หยุดนิ่งกับที่ ตอนประกวดเป็นช่วงที่พีคที่สุด ตอนนั้นคนรู้จักแก้ม สุดยอดมากไปที่ไหนมีคนรู้จัก คือมันเป็นความภูมิใจมันไม่ใช่จบแค่การประกวด แก้มว่ามันอยู่ที่จังหวะและเวลาชีวิตของแต่ละคน แต่มันไม่ใช่มีแต่เรื่องดีๆ เข้ามาอย่างเดียว เรื่องที่เราต้องแก้ไขก็มี


0007 ปีที่ผ่านมามีช่วงเวลามืดมนของชีวิตบ้างไหม
          บอกเลยมีเยอะมาก เพราะว่าแก้มเรียนไปด้วย ทำงานไปด้วย มันจะมีช่วงปี2 ที่แก้มไม่ไหว บอกตัวเองเลยว่ าต้องย้ายคณะเรียน เพราะไม่ไหวแล้ว คือตอนเช้าไปเรียนต้องขับรถจากถนนลาดพร้าว101 ไปเรียนที่มหาวิทยาลัยศิลปกร แถวถนนบรมราชชนนี ปิ่นเกล้า แล้วรถมันติดมากๆ ช่วงนั้นคิดเยอะ มันฟุ้งไปหมด  แต่แก้มโชคดี ที่ได้อยู่กับอาจารย์ดีให้คำปรึกษา ตอนนั้นมีวิชาที่ไม่ถนัดเลย จึงคิดว่าตัวเองเรียนไม่ไหวแน่ๆ จะย้ายคณะ พอทำเรื่องย้ายปุ๊บ เราไปเจออาจารย์คนหนึ่งบอกว่า ให้แก้มหยุดก่อนก็ได้นะ ไปทำงานหน้าที่ตรงนั้นให้เต็มที่ก่อน แล้วค่อยกลับมาเรียนต่อ แต่อย่าทิ้งตรงนี้ไปเลย อาจารย์บอกว่ามันเป็นเส้นทางที่เหมาะกับเรา มันต่ออาชีพได้  แก้มเลยเรียนต่อ จบ 4 ปีเป๊ะ


000ที่ผ่านมาเจอข่าวในวงการบ่อยครั้ง มีครั้งไหนที่ทำให้ท้อบ้าง
          เรื่องข่าวสำหรับแก้วไม่กดดันเลย ถ้าไม่ใช่เรื่องจริงแก้มไม่คิดมาก ดีใจนะที่มีคนยังสนใจเราอยู่ เราไม่มีเรื่องเสียหาย แต่ยังมีพี่สื่อมาถามมาคุย อย่างเรื่องศัลยกรรม ผอมลง อันนี้บอกเลยไม่เคยศัลยกรรมก็เลยไม่ได้คิดมากอะไร  แต่ถ้าบางอันมันมากไป อย่างเรื่องที่เราไม่ได้พูด แต่กลายเป็นเรื่องใหญ่โตน่าตกใจ อันนี้ถ้าเจอเราจะรู้สึกแย่  


000ชีวิตที่มันมีการเปลี่ยนแปลง
          ช่วงแรกเป็นอะไรหนักมาก พี่บอยพูดเลย ต้องผอม จะได้ทำอะไรได้หลายอย่าง ไม่ใช่แค่ร้องเพลง มันเพื่อตัวเราเอง เขาไม่อยากให้เราหายไปไหน อยากให้เราได้ทำหลายๆ อย่าง ก็ผอมไม่ได้ช่วงแรก พยายามมากเลยนะ  แต่ช่วงที่มันเปลี่ยนได้จริงๆ คือเราเปลี่ยนวิธีคิดของตัวเอง ก่อนหน้านั้นเราคิดอะไรในด้านลบตลอดเลย ทำไมเราไม่สวยแบบนั้น แล้วแก้มมาชอบวง เกิร์ลเจเนอเรชั่น รู้สึกว่าเขาดูแลตัวเองดีมากเลย เขามีความสุข แล้วทำไมเราทำไม่ได้ล่ะ ลองดูไหมล่ะ เราจึงเปลี่ยนในความคิดให้เป็นคน ที่เชื่อมั่นตัวเองมากขึ้น แล้วโชคดีมากเจอพี่อ็อฟ (ปองศักดิ์ รัตนพล) พี่โอปอล์(ปาณิสรา อารยะสกุล) คอยบอกว่าแก้มต้องเชื่อมั่นในตัวเองก่อน แก้มต้องมั่นใจในตัวเอง นั่นแหละคือจุดเปลี่ยนในชีวิต อย่างตอนนี้ ก็ต้องออกกำลังกาย อาหารต้องดูแล อย่ากินจุบจิบ


000เพลงไหนที่เราร้องแล้วภูมิใจที่สุด
          แก้มคิดว่า Let It go นะ มันเป็นโปรเจกท์ใหญ่ที่ตอนแรกเกือบไม่ได้ทำ เพราะตอนนั้นคิวหนูไม่ได้ แต่หนูก็หาทางมาทำจนได้ มันเป็นอะไรที่เกินคาดมากเลย ไม่คิดว่าจะประสบความสำเร็จขนาดนี้ โดยเฉพาะเด็กๆ ดีใจมาก เราได้โชว์ความสามารถของเราจริงๆ แล้วมันตรงกับชีวิตด้วย  คือเป็นคนเก็บกดอะไรหลายๆ อย่างเอาไว้ไม่กล้าพูดไม่กล้าแสดงความคิดเห็นออกไป แต่พอได้ร้องเพลงมันเหมือได้ปลดปล่อยตัวเอง


เปิดใจถึงครอบครัว
000ตอนนี้ชีวิตครอบครัวของแก้มเป็นอย่างไรบ้าง
          บอกเลยว่ายังคงเป็นหนี้อยู่นะ คือแม่แก้มจะบอกว่าถ้าซื้ออะไรมาแล้ว เราใช้เงินจ่ายสดเหมือนเราไม่มีภาระอะไรแล้ว แต่พอมีหนี้คือเรายังพอรู้ว่าต้องทำงานเพื่ออะไรอีกอย่างหนึ่งนะ  อีกอย่างตอนนี้ก็เป็นเหมือนเสาหลักให้ที่บ้านด้วย แต่แม่แก้มก็ยังคงทำงานอยู่ ทำงานเป็นหัวหน้าพยาบาลให้กับโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในภูเก็ต คือถามว่าอยากให้แม่พักมั้ย อยากนะ แต่แม่พอแค่ขึ้นมาอยู่กับหนูแป๊บหนึ่งแม่ก็นั่งเบื่อ อารมณ์ไม่ดีตลอดเวลาเลย ให้เขาได้ทำงานอยู่กับเพื่อนบ้าน ในอนาคตต่อไป ถ้าแม่ไม่ทำงานแล้ว เขาก็คิดว่าจะเปิดร้านอาหารใต้ที่กรุงเทพ ใจหนูอยากให้เขามาอยู่เฉยๆเหมือนกัน แต่รู้ว่าทำไม่ได้อยู่แล้ว


000ความสัมพันธ์กับครอบครัว กับสมาชิกในบ้าน 3 คน แม่ และ น้องสาวสนิทกันมากไหม
          แก้มสนิทกับแม่นะ กับเกด (จิณภัค เปียกลิ่น) ก็สนิทแต่ไม่เหมือนเมื่อก่อนเพราะโตแล้ว เกดเขาก็มีวิธีคิดของเขาด้วย และเขาไม่ได้อยู่บ้านกับแก้ม เกดจะขออยู่หอ เพราะมันใกล้มหาวิทยาลัย จริงๆ แล้วเกดเหมือนมีแก้มเป็นไอดอลตั้งแต่เด็กๆ เลย แก้มชอบเต้นชอบร้อง เกดก็ทำตาม เพราะฉะนั้นมาอยู่ตรงนี้ ก็สงสารน้องนะ เราอยากให้เขาได้อะไรในสิ่งที่เราทำได้เหมือนกัน แต่ต้องเข้าใจว่าทุกคนมันเหมือนกันหมดไม่ได้อยู่แล้ว ถามว่าทุกวันนี้เป็นยังไง ต้องบอกว่าเหนื่อย แต่เรื่องการทำงานร้องเพลงแก้มมีความสุขมาก แต่เหนื่อยในการที่ต้องมานั่นเครียดในเรื่องการใช้ชีวิตต่างๆ สิ่งรอบตัวแต่เราจะมายึดติดตัวเองคนเดียวไมได้ เราต้องแชร์คนรอบข้างด้วย เราจะเป็นจุดศูยน์กลางมันไม่ได้อยู่แล้ว เปิดใจ ปล่อยวางบ้าง แก้มเป็นคนอารมณ์ร้อนนะ แต่เราต้องเข้มแข็ง วิธีระบายที่บ้านก็เปิดทีวีดู แป็บเดียวหายแล้ว หรือไม่ก็โทรไปหาแม่แล้วระบายให้แม่ฟัง


เคาะประตูหัวใจเจ้าของเสียงทรงพลัง
000มีหลายคนเคยถามเรื่องความรักบางไหม ว่าทำไมแก้มยังโสด
          คือไม่ใช่ไม่อยากมี แต่บอกไม่ถูก ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถึงรู้สึกไม่ค่อยอินเท่าไหร่กับเรื่องนี้ เพราะเหมือนเราได้อยู่กับคนรอบข้างที่เขารักเรากันเยอะอยู่แล้ว ดูซีรีส์เกาหลีแล้วก็จี๊ดนะมันก็รู้สึก แต่แก้มชอบฝรั่งมากกว่า ไม่มีสเปกอะไรนะ  ถามว่าอยากบอกอะไรกับคนที่เขาจะเข้ามาในชีวิตในอนาคตหรือเปล่า เอาเป็นว่า รับเราให้ได้ก็พอ รับครอบครัวเราได้ ทุกอย่างได้หมด กินเหล้าได้แต่อย่าเมา เจ้าชู้ก็ได้นะแต่ต้องมีลิมิต ตอนนี้ก็บอกได้ไม่หมด ไม่เคยเจออะไรแบบนั้น แต่ถ้ากระล่อนมากก็ไม่โอเค ที่ผ่านมาก็คงมีบ้างเรื่องความรักแต่ไม่รู้สึก หล่อมากก็ไม่รู้สึกอะไร แต่ถ้าได้คุยจะรู้สึกได้มากกว่า หนูดูคนที่ใจ


000กับมุมมองความรักของแก้ม
          หนูว่ามันเป็นสิ่งที่ดีนะแก้มว่า ถ้าไม่มีความรักมันก็ไม่มีคนอย่างพวกเราขึ้นมา มันยิ่งกว่าความโรแมนติก เวลาเห็นคนที่เขารักกัน เรารู้สึกดีมีความสุขจังเลย แก้มเคยคิดนะว่าทำไมเขาอยู่ด้วยกันได้แต่ทำไมเราอยู่คนเดียวแล้วรู้สึกดีกว่ามันแปลกมั้ยหนูอยากรู้จริงๆ (หัวเราะ)  แต่ท้ายสุดหนูว่าความรักเป็นสิ่งที่ดี สวยงาม แก้มว่ามันก็ควรเป็นสิ่งที่เราทุกคนควรจะมี

          นี่แหละตัวตนคนแบบแก้ม

.......................................

เธอคนนี้ชื่อ วิชญาณี เปียกลิ่น
ชื่อเล่น แก้ม
เกิดวันที 21 กันยายน พ.ศ. 2532
การศึกษา     จบการศึกษาระดับปริญญาตรีจาก มหาวิทยาลัยศิลปากร คณะดุริยางคศาสตร์ เอก Voice Jazz
ผลงานล่าสุด ละครเรื่อง เงาใจ // พิธีกรรายการ 4 โพดำ
.......................................





แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่