ศาลไม่รับฎีกา “สมชาย ไพบูลย์” อดีต ส.ข.บางบอน พรรคเพื่อไทย ปลุกระดมเสื้อแดงชุมนุมแยกคอกวัว ปี 2553 ทำให้นอนคุกต่ออีก 4 เดือน หลังโดนจำคุกไปแล้ว 8 เดือน ตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
ที่ห้องพิจารณา 906 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก วันนี้ (28 ก.ค.) ศาลนัดอ่านคำสั่งในคดีหมายเลขดำ อ.2543/2553 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 4 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายสมชาย ไพบูลย์ อายุ 46 ปี อดีต ส.ข.เขตบางบอน พรรคไทยรักไทย และแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เป็นจำเลยฐานร่วมกันกระทำให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจาเพื่อให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน, มั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไปใช้กำลังประทุษร้ายให้เกิดความวุ่นวายขึ้นในบ้านเมืองโดยมีอาวุธ ซึ่งเจ้าพนักงานสั่งให้เลิกแล้วไม่เลิก ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116, 215, 216 และร่วมกันชุมนุมฝ่าฝืน พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 มาตรา 5, 9, 11, 18
โจทก์ฟ้องเมื่อวันที่ 11 ส.ค. 2553 สรุปว่า เมื่อระหว่างวันที่ 8-10 เม.ย. 2553 ภายหลังที่รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง จำเลยกับพวกซึ่งมีจำนวนตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ร่วมกันชุมนุมและมั่วสุมที่เวทีผ่านฟ้าลีลาศ และเวทีราชประสงค์ โดยจำเลยกับพวกทราบคำสั่งเจ้าพนักงานแล้วยังขัดขืนคำสั่งของเจ้าหน้าที่ไม่เลิกการชุมนุม และยังใช้กำลังทำร้ายเจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจ โดยมีอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิดไม่ทราบชนิด ขนาด มีด ดาบ ท่อนไม้ ท่อนเหล็ก หนังสติ๊กหลายชิ้น ไม่ทราบจำนวนแน่ชัด เป็นอาวุธ เป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่ทหาร ประชาชนได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก รวมทั้งทรัพย์สินของทางราชการและประชาชนเสียหาย เหตุเกิดที่แขวงตลาดยอด, แขวงวัดโสมนัส, แขวงบวรนิเวศ เขตพระนคร, แขวงและเขตดุสิต, แขวงลุมพินี แขวงและเขตปทุมวัน กทม. จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาเมื่อวันที่ 27 ธ.ค. 2555 ว่า จำเลยเจตนาขัดคำสั่งและขัดขวางเจ้าหน้าที่ที่สั่งให้เลิกชุมนุม เพื่อปลุกระดมกลุ่มผู้ชุมนุมให้ใช้กำลังต่อสู้กับเจ้าหน้าที่จนมีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต ไม่ใช่การแสดงความคิดเห็นโดยสุจริต จึงให้จำคุกจำเลยเป็นเวลา 1 ปีโดยไม่รอลงอาญา ต่อมาจำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นให้จำคุกจำเลยเป็นเวลา 1 ปีโดยไม่รอลงอาญา ขณะที่จำเลยยื่นคำร้องขอให้รับรองฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงและอนุญาตให้จำเลยยื่นฎีกาได้ แต่ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่าฎีกาของจำเลยไม่เป็นปัญหาสำคัญอันควรส่งศาลฎีกา อีกทั้งเป็นการยื่นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ศาลจึงมีคำสั่งไม่รับฎีกาของจำเลย เมื่อไม่ได้รับอนุญาตให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง และให้ออกหมายจำคุกจำเลยตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังฟังคำสั่งศาล เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ได้คุมตัวนายสมชาย ไพบูลย์ จำเลยไปคุมขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ทั้งนี้ นายสมชายถูกจำคุกไปแล้ว 8 เดือน จึงยังเหลือโทษจำคุกอีกประมาณ 4 เดือน
http://manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID=9580000085379
ศาลไม่รับฎีกา “สมชาย ไพบูลย์” นอนคุกต่อ 4 เดือน ฐานปลุกม็อบเสื้อแดงปี 53 เข้าใจไรผิดเปล่า แม้วอยู่ ฮ่องกง ไม่ใช่ ห้องกรง
ที่ห้องพิจารณา 906 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก วันนี้ (28 ก.ค.) ศาลนัดอ่านคำสั่งในคดีหมายเลขดำ อ.2543/2553 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 4 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายสมชาย ไพบูลย์ อายุ 46 ปี อดีต ส.ข.เขตบางบอน พรรคไทยรักไทย และแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เป็นจำเลยฐานร่วมกันกระทำให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจาเพื่อให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน, มั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไปใช้กำลังประทุษร้ายให้เกิดความวุ่นวายขึ้นในบ้านเมืองโดยมีอาวุธ ซึ่งเจ้าพนักงานสั่งให้เลิกแล้วไม่เลิก ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116, 215, 216 และร่วมกันชุมนุมฝ่าฝืน พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 มาตรา 5, 9, 11, 18
โจทก์ฟ้องเมื่อวันที่ 11 ส.ค. 2553 สรุปว่า เมื่อระหว่างวันที่ 8-10 เม.ย. 2553 ภายหลังที่รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง จำเลยกับพวกซึ่งมีจำนวนตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ร่วมกันชุมนุมและมั่วสุมที่เวทีผ่านฟ้าลีลาศ และเวทีราชประสงค์ โดยจำเลยกับพวกทราบคำสั่งเจ้าพนักงานแล้วยังขัดขืนคำสั่งของเจ้าหน้าที่ไม่เลิกการชุมนุม และยังใช้กำลังทำร้ายเจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจ โดยมีอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิดไม่ทราบชนิด ขนาด มีด ดาบ ท่อนไม้ ท่อนเหล็ก หนังสติ๊กหลายชิ้น ไม่ทราบจำนวนแน่ชัด เป็นอาวุธ เป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่ทหาร ประชาชนได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก รวมทั้งทรัพย์สินของทางราชการและประชาชนเสียหาย เหตุเกิดที่แขวงตลาดยอด, แขวงวัดโสมนัส, แขวงบวรนิเวศ เขตพระนคร, แขวงและเขตดุสิต, แขวงลุมพินี แขวงและเขตปทุมวัน กทม. จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาเมื่อวันที่ 27 ธ.ค. 2555 ว่า จำเลยเจตนาขัดคำสั่งและขัดขวางเจ้าหน้าที่ที่สั่งให้เลิกชุมนุม เพื่อปลุกระดมกลุ่มผู้ชุมนุมให้ใช้กำลังต่อสู้กับเจ้าหน้าที่จนมีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต ไม่ใช่การแสดงความคิดเห็นโดยสุจริต จึงให้จำคุกจำเลยเป็นเวลา 1 ปีโดยไม่รอลงอาญา ต่อมาจำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นให้จำคุกจำเลยเป็นเวลา 1 ปีโดยไม่รอลงอาญา ขณะที่จำเลยยื่นคำร้องขอให้รับรองฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงและอนุญาตให้จำเลยยื่นฎีกาได้ แต่ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่าฎีกาของจำเลยไม่เป็นปัญหาสำคัญอันควรส่งศาลฎีกา อีกทั้งเป็นการยื่นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ศาลจึงมีคำสั่งไม่รับฎีกาของจำเลย เมื่อไม่ได้รับอนุญาตให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง และให้ออกหมายจำคุกจำเลยตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังฟังคำสั่งศาล เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ได้คุมตัวนายสมชาย ไพบูลย์ จำเลยไปคุมขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ทั้งนี้ นายสมชายถูกจำคุกไปแล้ว 8 เดือน จึงยังเหลือโทษจำคุกอีกประมาณ 4 เดือน
http://manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID=9580000085379