ตะลุยเที่ยวญี่ปุ่น 7 วัน 7 เมือง (Kawaguchiko , Okayama , Kurashiki , Miyajima , Hiroshima , Osaka)

ตะลุยเที่ยวญี่ปุ่น 7 วัน 7 เมือง (Kawaguchiko , Okayama , Kurashiki , Miyajima , Hiroshima , Himeji , Osaka)

บทความบันทึกการเดินทางของผม ผมเขียนไว้ใน Blogger เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา พอดีเพื่อนบอกว่าให้เอาลงมา share ในพันทิปด้วยสิ ผมก็เลยทำตามดู นี่เป็นกระทู้ในพันทิปกระทู้แรกของผม มีอะไรผิดพลาดก็ขอคำแนะนำด้วยครับ

ก่อนอื่นขอเกริ่นก่อนว่า ผมมีโอกาสได้เข้าร่วมโครงการฝึกงานวิจัยร่วมกับมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น จึงทำให้มีโอกาสได้ไปเที่ยวญี่ปุ่นแบบจริงๆจังๆ เลยอยากจะแบ่งปันประสบการณ์ท่องเที่ยวญี่ปุ่นไว้บ้าง
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------


วันที่ 1 (金沢 Kanazawa  >> 河口湖 Kawaguchiko)

เนื่องจากผมฝึกงานอยู่ที่เมือง Kanazawa ในจังหวัด Ishikawa ผมเลยได้มีโอกาสท่องเที่ยวใน Kanazawa ค่อนข้างเยอะพอสมควร ดังนั้นหลังฝึกงานที่ๆแรกที่ผมอยากจะไปเลยคือ ภูเขาไฟฟูจิ 富士山 (อ่านว่า ฟูจิซัง) จริงๆแล้วอยากจะไปปีนฟูจิซังเลยด้วยซ้ำแต่ด้วยเวลาที่จำกัดเลยขอไปเห็นฟูจิซังใกล้ๆแล้วกัน



ผมออกเดินทางจาก Kanazawa ประมาณ 10 โมงครึ่ง โดยนั่งรถไฟทั้งหมด 5 ต่อด้วย (Kanazawa - Nagano - Shiojiri - Kofu - Otsuki - Kawaguchiko) โดยที่จาก Kanazawa ถึง Otsuki เป็นรถไฟที่สามารถใช้บัตร JR Pass ได้ แต่จาก Otsuki เข้า Kawaguchiko เป็น Local line ต้องซื้อตั๋วเองราคาอยู่ที่ 1140 yen นั่งตั้งแต่ต้นสายที่ Otsuki ยันสุดสายที่ Kawaguchiko พอดี กว่าจะมาถึง Kawaguchiko ก็ปาเข้าไปบ่าย 4 กว่าๆแล้ว

พอมาถึงก็รีบไปติดต่อ Information center ก่อนเลยเพื่อขอ แผนที่เมือง แผนที่รถบัส แผนที่ท่องเที่ยว สารพัดที่จะขอได้ หลังจากที่เช็ครอบรถ เช็คตำแหน่งที่พักก็ได้ว่า รถผ่านไปที่พักยังพอมีวิ่งอยู่ กับ รถรอบแรกที่ออกจากสถานที่เริ่มวิ่ง 9 โมงเช้า (สายมากสำหรับผม) จึงตัดสินใจซื้อตั๋ว 2 Days Pass เพื่อนั่งรถบัสทันที ผมเลือกที่พักฝั่งตรงข้ามทะเลสาบเพื่อที่อยากจะเห็นวิวของฟูจิซังกับทะเลสาบคาวางุชิ ดังนั้นเลยต้องนั่งบัสสายแดงเพื่อไปยังที่พัก ระหว่างทางก็ดูแผนที่ท่องเที่ยวไปด้วยแล้วก็เจอว่า ช่วงนี้ดอกลาเวนเดอร์บานพอดีและมีอยู่เยอะที่สวนโออิชิ Oishi Park (ไม่เกี่ยวอะไรกับร้านอาหารญี่ปุ่นในไทยนะ) พอดีว่าสวนนี้อยู่สุดทางของบัสสายแดงพอดี ก็เลยไม่รีรอที่จะไปชมดอกลาเวนเดอร์สักหน่อยก่อนเข้าที่พัก ที่สวนนี้ปลูกลาเวนเดอร์มากมายมหาศาลไว้ริมทะเลสาบ นี่ถ้าไม่ติดว่าท้องฟ้าครึ้มก็จะได้เห็นพูจิซังด้วย(ช่วงที่ไปเป็นหน้าฝนพอดี TT) น่าจะเป็นวิวที่สวยมาก





หลังจากเดินทั่วสวนถ่ายรุปจนพอใจซื้อของฝากเล็กๆน้อยๆแล้ว ก็นั่งบัสกลับมาที่ที่พัก ผมพักที่ Orange Cabin เป็น guest house ที่ตั้งอยู่ห่างจากป้ายรถบัสพอสมควร เดินเข้าไปประมาณ 10 นาที ระหว่างทางผ่านบ้านของชาวญี่ปุ่นที่เขาทำสวนทำไร่ทำนาอยู่ เขาทำการเกษตรกันในพื้นที่เล็กๆข้างๆบ้าน มีทั้ง มะเขือเทศ ข้าวโพด ดอกกะหล่ำ ข้าว แล้วก็อะไรอีกเยอะแยะ ดูไม่ออก รู้สึกโชคดีมากที่เลือกที่พักที่นี่เพราะได้เห็นวิถีชีวิตในอีกมุมมองนึงของชาวญี่ปุ่น พอมาถึงที่พักเจ้าของพูดภาษาอังกฤษไม่ได้(ยากละทีนี้) แต่เจ้าของเป็นคนใจดีมาก แถมยังเป็นกันเองสุดๆ เวลาเขาพูดเขาจะเอามือชี้ๆ แล้วก็หลุดภาษาอังกฤษออกมาบ้างนานๆคำ ก็พอรู้เรื่องบ้างว่าเขาหมายถึงอะไร เริ่มจากพาไปอธิบายของในห้องพัก ห้องอาบน้ำ ห้องส้วม ห้องนั่งเล่น อ๋อลืมบอกไป ที่พักนี่นอกจากห้องนอนแล้ว อย่างอื่นจะเป็นส่วนกลางที่ทุกคนใช้รวมกันนะครับ แต่ที่นี่เจ้าของดูแลดีมากสะอาดน่าอยู่สุดๆ








พอเก็บกระเป๋าเข้าที่พักเสร็จก็ถึงเวลาออกหาอะไรกิน (ที่บ้านพักไม่มีบริการ TT) แต่เพราะว่าเลือกที่พักชนบทเกินไปบวกกับมาถึงเย็นมาก (เกือบ 1 ทุ่ม) ทำให้หาของกินยากมากกกกกกกกก เดินตั้งแต่บ้านพักมาจนเกือบถึงสะพานข้ามทะเลสาบยังหาของกินไม่ได้ ตอนนั้นคิดว่าถ้ายังไม่เจออะไรอีกจะเดินข้ามฝั่งมาหาไรกินแถวๆสถานี(เห็นมี 7-11อยู่) แต่บังเอิญเห็นร้านๆนึงยังเปิดไฟอยู่เลยไม่รอที่จะลองเดินไปดู แล้วก็ได้ว่ายังขายอยู่ สบายตัวละทีนี้ไม่ต้องเดิน ร้านนี้ชื่อ 紅鶴 Benitsuru ร้านนี้มีเมนูอยู่ไม่กี่อย่างแต่ละอย่างราคาแพงๆทั้งนั้น TT เลยสั่งของที่ถูกที่สุดในร้านไป เป็นชุดข้าวหน้าสเต็กเนื้อ ตอนแรกว่าจะสั่งเมนูเนื้อม้าว่าจะลองสั่งมากินดูสัดหน่อยแต่หมด ระหว่างรอก็ได้ยินโต๊ะข้างๆคุยกันเลยรู้ว่าเป็นคนไทย เลยคุยกันพักใหญ่เพื่อรออาหารมา (รอนานม๊ากก จะพิถีพิถันอะไรขนาดนั้นนนน ถ้าเป็นเมืองไทยก็จะบ่นว่า กำลังปลูกข้าวอยู่ -*-) แต่อาหารก็คุ้มกับเวลาที่รอ





หลังจากกินข้าวเสร็จกลับมาที่พักก็มาดูโต๊ะที่วางโบรชัวร์ที่เที่ยวในเมืองเพื่อหาที่ไปในวันพรุ่งนี้ บังเอิญไปสุดดุดตาเอา 2 อย่างคือ Onsen กับ ร้านTempura มันไม่ได้เกี่ยวกันเล๊ยยย แต่เห็นแล้วมันต้องไปให้ได้เลยเรียกเจ้าของมาถามว่า 2 ที่นี้อยู่ไหน พอดีว่า Onsen ที่อยากไปอยู่ใกล้ๆที่พักพอดีเดินไม่เกิน 10 นาที แต่มันไม่มีอยู่ในแผนที่ภาษาอังกฤษที่เอามาตอนแรก เจ้าของที่พักเลยเอาแผนที่ที่เป็นภาษาญี่ปุ่นมาอธิบายให้แล้วก็วงๆสถานที่ไว้พอรู้เรื่อง กับ ร้าน Tempura อยู่ใกล้ๆสถานีรถไฟเลย เดินไม่เกิน 5 นาที
สบายตัวละพรุ่งนี้ เท่านั้นไม่พอ เจ้าของเขาบอกให้รอแปปนึง แล้ววิ่งไปหยิบบัตรลดราคา Onsen ให้อีก อะไรจะดีขนาดน๊านนน จากนั้นก็มาวางแผนเที่ยวในวันพรุ่งนี้



--------------------------------------------------------------------------------------

Blogger : http://sirawichv.blogspot.com/2015/07/7-7-1.html
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่