ใบขับขี่หมดอายุมาได้สองสามวัน แต่เพิ่งได้ไปต่อเอาเมื่อวานตอนเช้า
เดินทางไปถึงสำนักงานขนส่ง พอเข้าไปก็งงนิดหน่อย
จำได้ว่าแต่ก่อนต่อบัตรชั้นล่าง เจ้าหน้าที่บอกว่าเดี๋ยวนี้แยกขึ้นไปชั้นสอง
เดินขึ้นไปพอหลุดโค้งบันได ก็พบกับผู้มาใช้บริการจำนวนมหาศาลจนล้นออกประตู ลามออกมาถึงบันไดซี่บนๆ
ที่สังเกตได้ก็คือ ส่วนใหญ่ที่ขึ้นมาถึงมักไปไม่ถูกว่าควรเริ่มตรงไหนก่อน
ไม่รู้ลำดับก่อนหลัง จึงพากันยืนงงๆ ชะเง้อชะแง้ จะถามก็ไม่กล้าถาม
กลายเป็นสัมภเวสีกลุ่มใหญ่ที่ไหลตามกันไปมา เหมือนรอเจ้าหน้าที่มาชี้ทางให้ไปผุดไปเกิด
จนต้องมีผู้กล้าเข้าไปถามเจ้าหน้าที่ด้วยน้ำเสียงเจียมตัว หลังจากได้คำตอบ รู้ที่จะไปแล้วจึงค่อยไปติดต่อวางเอกสาร
จากนั้นก็สลายตัวหาที่สิงสถิตย์กันตามเก้าอี้และที่ว่างกันตามสะดวก
แต่เมื่อมีกลุ่มใหม่เดินขึ้นมาก็เหมือนเป็นตัวตายตัวแทน
สัมภเวสีน้องใหม่จะพบกับสายตายิ้มเยาะจากผีรุ่นพี่ที่รู้ที่จะไปและมีที่สถิตย์เรียบร้อย
เหมือนจะมีข้อความเป็นรหัสส่งมาทางสายตาว่า
"พวกกูก็เป็นมาแล้วเว้ย แต่อย่ามาถามนะ ติดต่อหาทางกันเอาเอาเถอะ "
คนมาเก่าดูคนมาใหม่ วนๆเวียนๆอยู่อย่างนี้ไม่จบไม่สิ้น
เมื่อรอนานเข้าก็เริ่มเบื่อ หลายคนจึงเริ่มหาอะไรทำ
บ้างเช็คเฟส บ้างโทรศัพท์ บ้างนั่งหลับ บ้างนั่งกอดอกถอนหายใจดังฮื่อๆ
แต่สิ่งที่น่าสนใจกว่านั้น มีอยู่ตรงหน้านี่เอง
เจ้าหน้าที่สามคน หญิงเดี่ยวผสมชายคู่
คนแรกขวาสุดหน้าเหมือนเฮียหมูในเรื่องบางรักฯ เจนจัดในการตอบคำถามโดยไม่ต้องฟังจนจบประโยค
ทั้งที่มือยุ่งกับเอกสารกองพะเนินแต่สามารถตอบได้โดยไม่ติดขัดแต่อย่างใด
"อ๋อเตรียมสำเนาทะเบียนบ้าน บัตรประชาชน แล้วก็ฯลฯ ไปติดต่อเจ้าหน้าที่โต๊ะ...ได้เลยครับ"
"อ๋ออันนี้ต้องมีใบรับรองแพทย์ด้วยนะครับ ไปขอมาแล้วมาติดต่อใหม่นะครับ"
ถ้ามีใครอุตริไปถามว่าห้องน้ำไปทางไหน คำตอบคงเป็น
"อ๋อเตรียมสำเนาทะเบียนบ้าน บัตรประชาชน...." คงประมาณนี้เพราะพูดแนวเดิมทั้งวัน
ถัดมาคนกลาง
เป็นเจ้าหน้าที่หญิงวัยกลางคนค่อนไปทางปลาย
เธอสวมแว่นวงใหญ่พร้อมคิ้วที่ขมวดตลอดเวลา
ท่ามกลางใบหน้าที่เคร่งขรึมสงบนิ่งแทบไม่กระดิก
แต่มือและแขนทั้งสองข้างของเธอประหนึ่งของเล่นที่ไขลานจนตึง
พอปล่อยลานปั๊บ ความเร็วมหาโหดก็ถูกปลดปล่อยในทันที
ตัดนั่น แปะนี่ ฉีกนู่น ตอกโน่น เซ็นนู่น ปริ๊นนี่
ทุกข้อที่ว่า ห้าวินาทียังนานไป
ถ้าเกิดควันขึ้นนี่คงต้องรีบหาน้ำมาสาด
ป้ากินเอ็มร้อยก่อนทำงานรึไง หรือเป็นผลข้างเคียงจากกาแฟเซเว่น
ผมให้ฉายาป้า นางพญาฝ่ามือไร้เงา
คนสุดท้ายนั่งซ้ายสุด
หลังจากผ่านความเร็วนรกมาแล้ว ก็จะถูกสยบด้วยความนิ่ง เงียบ
ด้วยเจ้าหน้าที่ชายวัยดูจะอ่อนกว่าป้าฝ่ามือไร้เงา
พูดน้อย แต่มือแม่น ตอกตราปั๊มปังๆเป็นสิบแผ่นไม่มีพลาด
เสียงดังฟังชัดยังกะครูฝึกทหาร
ขานชื่อแต่ละที คนโดนเรียกแทบจะวิ่งมายืนตะเบ๊ะกันเลยทีเดียว
ชื่อในยุทธภพเขาคือ ส.พยัคฆ์คำราม
เพลินกับการทำงานของจอมยุทธทั้งสามได้ไม่นานก็ถูกเรียกไปถ่ายรูป
นั่งเก้าอี้ยังไม่ทันจะยุบเจ้าหน้าที่บอก
"เรียบร้อยครับ"
เฮ้ยๆ แล้วรูปมันจะดีเหรอ รีบถ่ายขนาดนี้
พอเดินอ้อมไปดู เออ ก็ไม่เลว นี่คงเป็นจอมยุทธอีกคน
ฉายาของเขาคือ ชัตเตอร์ตาอินทรีย์
ได้บัตรมาก็จ่ายตังค์ จับยัดใส่ซองที่เค้าให้เลือกสีเองแล้วก็เดินออกมาทางประตูเดิม
ตกใจกับนักศึกษาฝึกงานสองคนที่ยืนข้างประตู
นึกว่าหุ่นขี้ผึ้งขยับได้ ลืมไปเลยว่าตลอดสองชั่วโมงมีพวกเขาอยู่ด้วย
นักศึกษาว่างจัด เพราะเหล่าจอมยุทธทำงานเก่งเสียจนพวกเขาไม่มีอะไรทำ
ยืนเป็นหุ่นขี้ผึ้งประดับสำนักงานดีที่สุด แต่คงจะดีกว่านี้
ถ้าคอยแนะนำผู้เข้ามาติดต่อใช้บริการ ก่อนที่จะกลายเป็นสัมภเวสีเร่ร่อนหาทางไปไม่เจอ
เดินลงมาจนโผล่นอกอาคาร ฟ้ามืดครึ้มสีเทาๆดำๆ ฝนก็เริ่มโปรยปราย
ย้ายตัวเองขึ้นรถ อยากจะเอาใบขับขี่มาแปะไว้ข้างหน้ารถให้รู้แล้วรู้รอด
ทีตอนไม่มีเรียกตรวจได้ตรวจดี ทีมีแล้วไม่ยักจะสนใจ ห้าปีโดนเรียกตรวจไม่เกินสองครั้งไม่คุ้มเลยนะจ่า
เล่ามาเสียยืดยาว อยากจะบอกว่าบางทีแม้ในสถานการณ์ที่เคร่งเครียด
ลองมองดูดีๆ คุณจะพบกับความสนุกซุกซ่อนอยู่เต็มไปหมด
อยู่ที่เรามองเห็นรึเปล่าเท่านั้นเอง
ขอให้สนุกกับการทำงานในวันฟ้าครึ้มครับ
ปล.ทำงานเพลินๆ อย่าเผลอเติมแป้งให้เพื่อนร่วมงานในจินตนาการแล้วหลุดหัวเราะล่ะ เดี๋ยวเขาถามมามันจะหยุดหัวเราะไม่ได้
เฮฮาพอเพลินๆ กับวันต่อใบขับขี่
เดินทางไปถึงสำนักงานขนส่ง พอเข้าไปก็งงนิดหน่อย
จำได้ว่าแต่ก่อนต่อบัตรชั้นล่าง เจ้าหน้าที่บอกว่าเดี๋ยวนี้แยกขึ้นไปชั้นสอง
เดินขึ้นไปพอหลุดโค้งบันได ก็พบกับผู้มาใช้บริการจำนวนมหาศาลจนล้นออกประตู ลามออกมาถึงบันไดซี่บนๆ
ที่สังเกตได้ก็คือ ส่วนใหญ่ที่ขึ้นมาถึงมักไปไม่ถูกว่าควรเริ่มตรงไหนก่อน
ไม่รู้ลำดับก่อนหลัง จึงพากันยืนงงๆ ชะเง้อชะแง้ จะถามก็ไม่กล้าถาม
กลายเป็นสัมภเวสีกลุ่มใหญ่ที่ไหลตามกันไปมา เหมือนรอเจ้าหน้าที่มาชี้ทางให้ไปผุดไปเกิด
จนต้องมีผู้กล้าเข้าไปถามเจ้าหน้าที่ด้วยน้ำเสียงเจียมตัว หลังจากได้คำตอบ รู้ที่จะไปแล้วจึงค่อยไปติดต่อวางเอกสาร
จากนั้นก็สลายตัวหาที่สิงสถิตย์กันตามเก้าอี้และที่ว่างกันตามสะดวก
แต่เมื่อมีกลุ่มใหม่เดินขึ้นมาก็เหมือนเป็นตัวตายตัวแทน
สัมภเวสีน้องใหม่จะพบกับสายตายิ้มเยาะจากผีรุ่นพี่ที่รู้ที่จะไปและมีที่สถิตย์เรียบร้อย
เหมือนจะมีข้อความเป็นรหัสส่งมาทางสายตาว่า
"พวกกูก็เป็นมาแล้วเว้ย แต่อย่ามาถามนะ ติดต่อหาทางกันเอาเอาเถอะ "
คนมาเก่าดูคนมาใหม่ วนๆเวียนๆอยู่อย่างนี้ไม่จบไม่สิ้น
เมื่อรอนานเข้าก็เริ่มเบื่อ หลายคนจึงเริ่มหาอะไรทำ
บ้างเช็คเฟส บ้างโทรศัพท์ บ้างนั่งหลับ บ้างนั่งกอดอกถอนหายใจดังฮื่อๆ
แต่สิ่งที่น่าสนใจกว่านั้น มีอยู่ตรงหน้านี่เอง
เจ้าหน้าที่สามคน หญิงเดี่ยวผสมชายคู่
คนแรกขวาสุดหน้าเหมือนเฮียหมูในเรื่องบางรักฯ เจนจัดในการตอบคำถามโดยไม่ต้องฟังจนจบประโยค
ทั้งที่มือยุ่งกับเอกสารกองพะเนินแต่สามารถตอบได้โดยไม่ติดขัดแต่อย่างใด
"อ๋อเตรียมสำเนาทะเบียนบ้าน บัตรประชาชน แล้วก็ฯลฯ ไปติดต่อเจ้าหน้าที่โต๊ะ...ได้เลยครับ"
"อ๋ออันนี้ต้องมีใบรับรองแพทย์ด้วยนะครับ ไปขอมาแล้วมาติดต่อใหม่นะครับ"
ถ้ามีใครอุตริไปถามว่าห้องน้ำไปทางไหน คำตอบคงเป็น
"อ๋อเตรียมสำเนาทะเบียนบ้าน บัตรประชาชน...." คงประมาณนี้เพราะพูดแนวเดิมทั้งวัน
ถัดมาคนกลาง
เป็นเจ้าหน้าที่หญิงวัยกลางคนค่อนไปทางปลาย
เธอสวมแว่นวงใหญ่พร้อมคิ้วที่ขมวดตลอดเวลา
ท่ามกลางใบหน้าที่เคร่งขรึมสงบนิ่งแทบไม่กระดิก
แต่มือและแขนทั้งสองข้างของเธอประหนึ่งของเล่นที่ไขลานจนตึง
พอปล่อยลานปั๊บ ความเร็วมหาโหดก็ถูกปลดปล่อยในทันที
ตัดนั่น แปะนี่ ฉีกนู่น ตอกโน่น เซ็นนู่น ปริ๊นนี่
ทุกข้อที่ว่า ห้าวินาทียังนานไป
ถ้าเกิดควันขึ้นนี่คงต้องรีบหาน้ำมาสาด
ป้ากินเอ็มร้อยก่อนทำงานรึไง หรือเป็นผลข้างเคียงจากกาแฟเซเว่น
ผมให้ฉายาป้า นางพญาฝ่ามือไร้เงา
คนสุดท้ายนั่งซ้ายสุด
หลังจากผ่านความเร็วนรกมาแล้ว ก็จะถูกสยบด้วยความนิ่ง เงียบ
ด้วยเจ้าหน้าที่ชายวัยดูจะอ่อนกว่าป้าฝ่ามือไร้เงา
พูดน้อย แต่มือแม่น ตอกตราปั๊มปังๆเป็นสิบแผ่นไม่มีพลาด
เสียงดังฟังชัดยังกะครูฝึกทหาร
ขานชื่อแต่ละที คนโดนเรียกแทบจะวิ่งมายืนตะเบ๊ะกันเลยทีเดียว
ชื่อในยุทธภพเขาคือ ส.พยัคฆ์คำราม
เพลินกับการทำงานของจอมยุทธทั้งสามได้ไม่นานก็ถูกเรียกไปถ่ายรูป
นั่งเก้าอี้ยังไม่ทันจะยุบเจ้าหน้าที่บอก
"เรียบร้อยครับ"
เฮ้ยๆ แล้วรูปมันจะดีเหรอ รีบถ่ายขนาดนี้
พอเดินอ้อมไปดู เออ ก็ไม่เลว นี่คงเป็นจอมยุทธอีกคน
ฉายาของเขาคือ ชัตเตอร์ตาอินทรีย์
ได้บัตรมาก็จ่ายตังค์ จับยัดใส่ซองที่เค้าให้เลือกสีเองแล้วก็เดินออกมาทางประตูเดิม
ตกใจกับนักศึกษาฝึกงานสองคนที่ยืนข้างประตู
นึกว่าหุ่นขี้ผึ้งขยับได้ ลืมไปเลยว่าตลอดสองชั่วโมงมีพวกเขาอยู่ด้วย
นักศึกษาว่างจัด เพราะเหล่าจอมยุทธทำงานเก่งเสียจนพวกเขาไม่มีอะไรทำ
ยืนเป็นหุ่นขี้ผึ้งประดับสำนักงานดีที่สุด แต่คงจะดีกว่านี้
ถ้าคอยแนะนำผู้เข้ามาติดต่อใช้บริการ ก่อนที่จะกลายเป็นสัมภเวสีเร่ร่อนหาทางไปไม่เจอ
เดินลงมาจนโผล่นอกอาคาร ฟ้ามืดครึ้มสีเทาๆดำๆ ฝนก็เริ่มโปรยปราย
ย้ายตัวเองขึ้นรถ อยากจะเอาใบขับขี่มาแปะไว้ข้างหน้ารถให้รู้แล้วรู้รอด
ทีตอนไม่มีเรียกตรวจได้ตรวจดี ทีมีแล้วไม่ยักจะสนใจ ห้าปีโดนเรียกตรวจไม่เกินสองครั้งไม่คุ้มเลยนะจ่า
เล่ามาเสียยืดยาว อยากจะบอกว่าบางทีแม้ในสถานการณ์ที่เคร่งเครียด
ลองมองดูดีๆ คุณจะพบกับความสนุกซุกซ่อนอยู่เต็มไปหมด
อยู่ที่เรามองเห็นรึเปล่าเท่านั้นเอง
ขอให้สนุกกับการทำงานในวันฟ้าครึ้มครับ
ปล.ทำงานเพลินๆ อย่าเผลอเติมแป้งให้เพื่อนร่วมงานในจินตนาการแล้วหลุดหัวเราะล่ะ เดี๋ยวเขาถามมามันจะหยุดหัวเราะไม่ได้