CTH พร้อมบิดสู้ “พรีเมียร์” เชื่อยอดไม่พุ่ง ของเดิมยังลุ้นกำไร-ขาดทุน
เชิดศักดิ์ กู้เกียรตินันท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีทีเอช จำกัด (มหาชน) ในฐานะเจ้าของลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดศึกฟุตบอล พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ ประจำประเทศไทย พร้อมสู้ในการยื่นประมูลสิทธิ์ครั้งใหม่ พร้อมเชื่อยอดเงินอาจไม่สูงขึ้นกว่าครั้งที่ผ่านมา แย้มกำลังลุ้นซีซันสุดท้ายว่าจะทำกำไรได้หรือไม่
บริษัท ซีทีเอช จำกัด (มหาชน) ผู้ชนะประมูลคว้าลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสด ศึกฟุตบอล พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ ประจำประเทศไทย ครั้งที่แล้ว ภายใต้งบประมาณที่คาดกันว่าสูงถึง 9,000 ล้านบาท กำลังจะครบสัญญา 3 ฤดูกาล ในซีซัน 2015/2016 เป็นปีสุดท้าย
ล่าสุด เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน ที่ผ่านมา เชิดศักดิ์ กู้เกียรตินันท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของซีทีเอช ยืนยันว่า พร้อมสู้ประมูลในครั้งใหม่แน่นอน “การเปิดประมูลครั้งใหม่คงจะทราบรายละเอียดเบื้องต้นหลังจากฤดูกาลนี้เปิดไปแล้ว 4 - 5 สัปดาห์ ก่อนจะมีการประมูลกันในราวเดือนตุลาคม ซึ่งผมเชื่อว่าแม้ยอดประมูลของต่างประเทศจะสูงขึ้น แต่ในประเทศไทยคงจะไม่สูงขึ้นกว่าที่ผ่านมาแน่นอน ส่วนคู่แข่งคงจะมีเจ้าหลักในประเทศ 2 - 3 รายตามเดิม และบริษัทจากต่างประเทศอีก 1 - 2 ราย จึงมีโอกาสที่หลายแห่งจะเข้าร่วมมือกัน สำหรับซีทีเอชตอนนี้มีพันธมิตรแล้ว 2 - 3 ราย ซึ่งเราเป็นแชมป์อยู่ และแม้ค่าลิขสิทธิ์จะสูงขึ้นกว่าเดิมเราก็ต้องป้องกันแชมป์”
พร้อมกันนี้ เชิดศักดิ์ ยอมรับว่า ยังลุ้นผลประกอบการในฤดูกาลใหม่ “เรื่องผลประกอบการนั้น ปีแรกอาจจะน้อย แต่ปีที่สองเริ่มมาครึ่งทาง ดังนั้น ต้องลุ้นว่าปีที่สามจะออกมาเป็นอย่างไร ซึ่งต้องรอเปิดฤดูกาลไปสักพักจึงจะรู้คำตอบ”
http://www.manager.co.th/Sport/ViewNews.aspx?NewsID=9580000084794
ต่อไปนี้เป็นความเห็นส่วนตัวที่อาจจะไม่ตรงกับบางคน
คิดว่าผู้ประมูลในประเทศ ต่างประเทศที่จะประมูล อาจจะพอเดาได้กันว่าใคร ส่วนตัวยังอยากให้ประมูลได้มากกว่าอีกเจ้า ถึงมันจะห่วยยังไงก็ตามในหลายๆด้าน แต่ก็ยังทำแพ็คเก็จได้ถูกใจกว่าอีกค่าย แล้วอยากให้มีการแข่งขันมากกว่าการผูกขาดแบบเดิมๆ (เพราะไม่มีพรีเมียร์จะเอาอะไรไปสู้ได้) แล้วก็ยังดีกว่าต้องจ่ายให้อีกเจ้าเพื่อดูบองพรีเมียร์กับรายการต่างประเทศยอดฮิตอื่นๆเดือนละ พันห้า สองพันบาท
CTH พร้อมบิดสู้ “พรีเมียร์” เชื่อยอดไม่พุ่ง ของเดิมยังลุ้นกำไร-ขาดทุน
เชิดศักดิ์ กู้เกียรตินันท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีทีเอช จำกัด (มหาชน) ในฐานะเจ้าของลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดศึกฟุตบอล พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ ประจำประเทศไทย พร้อมสู้ในการยื่นประมูลสิทธิ์ครั้งใหม่ พร้อมเชื่อยอดเงินอาจไม่สูงขึ้นกว่าครั้งที่ผ่านมา แย้มกำลังลุ้นซีซันสุดท้ายว่าจะทำกำไรได้หรือไม่
บริษัท ซีทีเอช จำกัด (มหาชน) ผู้ชนะประมูลคว้าลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสด ศึกฟุตบอล พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ ประจำประเทศไทย ครั้งที่แล้ว ภายใต้งบประมาณที่คาดกันว่าสูงถึง 9,000 ล้านบาท กำลังจะครบสัญญา 3 ฤดูกาล ในซีซัน 2015/2016 เป็นปีสุดท้าย
ล่าสุด เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน ที่ผ่านมา เชิดศักดิ์ กู้เกียรตินันท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของซีทีเอช ยืนยันว่า พร้อมสู้ประมูลในครั้งใหม่แน่นอน “การเปิดประมูลครั้งใหม่คงจะทราบรายละเอียดเบื้องต้นหลังจากฤดูกาลนี้เปิดไปแล้ว 4 - 5 สัปดาห์ ก่อนจะมีการประมูลกันในราวเดือนตุลาคม ซึ่งผมเชื่อว่าแม้ยอดประมูลของต่างประเทศจะสูงขึ้น แต่ในประเทศไทยคงจะไม่สูงขึ้นกว่าที่ผ่านมาแน่นอน ส่วนคู่แข่งคงจะมีเจ้าหลักในประเทศ 2 - 3 รายตามเดิม และบริษัทจากต่างประเทศอีก 1 - 2 ราย จึงมีโอกาสที่หลายแห่งจะเข้าร่วมมือกัน สำหรับซีทีเอชตอนนี้มีพันธมิตรแล้ว 2 - 3 ราย ซึ่งเราเป็นแชมป์อยู่ และแม้ค่าลิขสิทธิ์จะสูงขึ้นกว่าเดิมเราก็ต้องป้องกันแชมป์”
พร้อมกันนี้ เชิดศักดิ์ ยอมรับว่า ยังลุ้นผลประกอบการในฤดูกาลใหม่ “เรื่องผลประกอบการนั้น ปีแรกอาจจะน้อย แต่ปีที่สองเริ่มมาครึ่งทาง ดังนั้น ต้องลุ้นว่าปีที่สามจะออกมาเป็นอย่างไร ซึ่งต้องรอเปิดฤดูกาลไปสักพักจึงจะรู้คำตอบ”
http://www.manager.co.th/Sport/ViewNews.aspx?NewsID=9580000084794
ต่อไปนี้เป็นความเห็นส่วนตัวที่อาจจะไม่ตรงกับบางคน
คิดว่าผู้ประมูลในประเทศ ต่างประเทศที่จะประมูล อาจจะพอเดาได้กันว่าใคร ส่วนตัวยังอยากให้ประมูลได้มากกว่าอีกเจ้า ถึงมันจะห่วยยังไงก็ตามในหลายๆด้าน แต่ก็ยังทำแพ็คเก็จได้ถูกใจกว่าอีกค่าย แล้วอยากให้มีการแข่งขันมากกว่าการผูกขาดแบบเดิมๆ (เพราะไม่มีพรีเมียร์จะเอาอะไรไปสู้ได้) แล้วก็ยังดีกว่าต้องจ่ายให้อีกเจ้าเพื่อดูบองพรีเมียร์กับรายการต่างประเทศยอดฮิตอื่นๆเดือนละ พันห้า สองพันบาท