เล่าประสบการณ์ กว่าจะได้มา ซึ่ง line sticker ... เผื่อใครกำลังวางแผนที่จะทำนะครับ

*** ทู้แรกโดนลบไปเรียบร้อย เพราะดันไปเผลอโพส์ลิงค์ไปยังหน้า download แหะๆ
ต้องขออภัยทุกท่านด้วยครับ.... จะขอเล่าแต่ขั้นตอนและปัญหาต่างที่ประสบพบเจอก็พอ ***

ไหนๆก็ได้มี sticker เป็นของตัวเองแล้ว (ตั้ง 1 อัน) เลยอยากจะมาเล่าประสบกรณ์ และอุปสรรค์ที่ได้พบได้เจอให้เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ได้อ่านกันนะครับ
เผื่อใครกำลังหาข้อมูลในการทำบ้าง ^_^

เผื่อสมาชิกท่านใด มี คห ชี้แนะ จะยินดีมากๆ เลยครับ.. (จะได้ไปปรับปรุงในครั้งถัดไป )

# ที่มาของแรงบันดาลใจ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
1. ก่อนอื่นของเล่าที่มาของแรงบันดาลใจในการทำ sticker ครั้งนี้นะครับ
อันที่จริงแล้ว ผมคิดๆไว้ตั้งนานละว่าอยากจะลองทำขายดูบ้าง เผื่อจะเป็น passive income ให้ได้บ้างไม่มากก็น้อย
คิดไว้ตั้งแต่ตอนเริ่มเปิด line creator ใหม่ๆแหนะ แต่ทว่า คิดไปคิดมา

จำนวน creator sticker ปัจจุบัน ปาเข้าไป 128,xxx อันแล้ว!!
อันที่เรากำลังจะทำก็คงจะเป็นเหมือนฝุ่นเล็กๆท่ามกลางผืนทรายในประเทศอียิปสินะ - -'
2. กอรปกับที่ line ได้ออกนโยบายใหม่สำหรับส่วนแบ่งจากการขาย (ได้น้อยลงกว่าเดิม)
เลยคิดว่า ต้องเริ่มแล้วแหละ!
3. เคยอ่านมู้ของท่านอื่นๆในพันทิบ ครวญกันว่าทางทีมงานของ line ใช้เวลาในการ review นานมั๊กๆ
ให้เตรียมใจไว้เลย 2 เดือนอย่างต่ำ!
งั้นเราต้องรีบทำส่งละ ยิ่งเริ่มช้า ก็ยิ่งยืดเวลาออกไปอีก กว่าจะได้ขาย
4. เคยเห็น sticker invisible man กะ sticker รูปหมา ที่คนญี่ปุ่นทำออกมา ที่ใช้ google translate แปลเป็นไทย แล้วขาย

ดิบขายดี
เฮ้ย.. งี้เราก็ทำได้เหมือนกันดิ (ช่วยเพิ่มแรงบันดาลใจได้ดีมาก)

เหตุผลเกิน 3 ข้อละ
งั้นก็ไปลุยกันเลยดีกว่า

---

# ศึกษาข้อมูล ข้อกำหนด
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ผมก็ใช้เวลาศึกษาข้อมูลไม่นานครับ ส่วนใหญ่ก็ไม่มีอะไรซับซ้อนเลย หลักๆก็คือขนาดของภาพ sticker แต่ละภาพ (กว้างx

สูง) โดยการจะทำ sticker ขายแต่ละชุด ต้องมีจำนวนทั้งหมด 40 ภาพ (ลองไปเลื่อนๆดูครับ มี 5 หน้า หน้าละ 8 ภาพ)

แล้วภาพสำหรับหน้าปก 1 กับภาพที่ใช้แสดงตรง tab อีก 1 รวม 42 ภาพ
ส่วนข้อกำหนดอื่นๆ ทั่วๆไป ก็พอจะเดาได้ครับ เช่น ห้าม copy ของชาวบ้านคนอื่นมาเป็นของตัวเองนะ อะไรอย่างนี้เป็นต้น

---

# เครื่องไม้เครื่องมือ อุปกรณ์
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
1. ก่อนที่จะเริ่มทำ sticker ขายนั้น เป็นความบังเอิญมากที่ผมเพิ่งจะถอยคอมพ์เครื่องใหม่มาพอดี นั่นก็คือ Surface 3 Pro นั่นเอง
ข้อดีของคอมพ์ชุดนี้ก็คือ มันแถมปากกามาให้ด้วย 1 ด้ามครับ ซึ่งก็เหมาะมากที่จะเอามาใช้วาดรูปบนคอมพิวเตอร์
(ผมว่าวาดแบบ raster มันได้อารมณ์ดี //จริงๆอ้างเพราะไม่ถนัดทำภาพแบบ vector เท่าไร่ แหะๆ) ซื่งถ้าไม่ได้ใช้ Surface วาด ผมก็อาจจะวาดลงกระดาษก่อน แล้วค่อยใช้มือถือถ่ายเอามาแต่งสีในคอมพ์อีกที

2. ส่วนโปรแกรมก็ หาไม่ค่อยยากครับ ใน App store ของ Microsoft ก็พอมีอยู่บ้าง ที่ผมใช้ก็ได้แก่
- OneNote ตัวนี้แถมมาให้กะ Surface ใช้ง่ายดีครับ เราวาดเส้นหยักๆ เดี๋ยวมันก็ดึงให้เรียบเอง แต่ไม่เหมาะเวลาลงสี

- Fresh Paint แถมมาเหมือนกันครับ แต่ผมใช้ไม่ค่อยถนัดเลย ก็เลยข้ามไปดีกว่า

- SketchBook จาก Autodesk

ตัวนี้ก็โอเคนะครับ เสียดายที่ไม่ที Layer ให้ใช้ (ค่อนข้างจำเป็นสำหรับผมนะ เวลาที่อยากจะแยกส่วนประกอบ ฉากหนัก กับลายเส้น และการลงสี)
- Bamboo Paper ตัวสุดท้ายที่แนะนำนี้ เป็นของเจ้าดังที่ทำกระดานวาดรูป Wacom นั่นเอง

ตัวนี้ก็ใช้ง่ายดีครับ แต่ลายเส้นจะสู้ OneNote ไม่ได้เลย วาดออกมาแล้วหยักๆ อาจจะเพราะปากกาของ Surface มีปัญหาก็ได้ครับ เห็นมีคนบ่นๆอยู่ตามเว็บว่าเมื่อไร่ Microsoft จะออก update มาแก้ไขซักที
สุดท้ายผมก็ใช้ Bamboo Paper เป็นหลักครับ เพราะชอบที่มันจัดภาพมาร่วมเป็นเล่มได่ แล้วเลื่อนเปิดดู แล้วตัวปากกาที่ใช้

ลงสี มันไม่ลบหรือทับเส้นขอบด้วย

---

# ภาพร่างภาพแรก
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
พอจะเริ่มทำจริงๆจังๆแล้ว ผมก็คิดนะว่า แมมตั้ง 40 รูปแหนะ จะคิดออกไม่ฟระเนี่ย ก็เลยลองวาดๆร่างๆ ดูก่อน โดยตีตาราง

ไว้ 40 ช่อง แล้วก็ร่างๆลงไป ว่าจะเอาท่าทางอะไรบ้างดี
ร่างๆ ได้ประมาณ 10 ท่า ก็ขี้เกียจละ เลิก! - -
เดี๋ยวๆ มาล้มเลิกความตั้งใจง่ายๆ ได้ยังไงกัน //ผ่านไปอีก 2 อาทิตย์// ก็ได้มาบ้างอย่างที่เห็นเนี่ยแหละครับ - -



ระหว่างที่กำลังหมดกำลังใจอยู่นั้น ก็ลองวาดเล่นๆ ไปเรื่อยๆ ลองคิดรูปตัว character ลองลงสี ลองโปรแกรมต่างๆ ก็ดีขึ้นนะ

ฮะๆ

---

# ผ่านไปเดือนกว่าๆ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
โอ่ยเพิ่งจะได้แค่ 15 รูปเอง ทำไหมมันยากขนาดนี้นะ ท้อกันเลยทีเดียว ก็พยายามจะวาดต่อไปเรื่อยๆนะครับ ใช้เวลาหลังเลิกงานประจำ หาร้านชานั่ง ตาม Amazon บ้าง ร้านชานมไข่มุกบ้าง เปลี่ยนสถานที่ไปเรื่อยๆ เผื่อสมงสมองจะแล่นบ้าง ฮะๆ
ผมพยายามจะไม่ลง detail ไปใน sticker มากนัก เพราะชอบความเรียบง่ายและดูสะอาดตา เรียกว่า simple & clean concept เลยก็ได้
หลังๆผมก็หาแรงบันดาลใจจาก sticker official ชุดอื่นที่ชื้อมา เพราะชอบบางอันที่มันดูน่ารักดี ก็ดูจากหลายๆชุดมาปรับเป็น character ของตัวเอง ลองสังเกตุครับว่า เหล่าบรรดา app store ทั้งหลายจะแนะนำให้เราลองดูความสำเร็จของคนอื่นเพื่อเป็นแนวทางว่าคนส่วนใหญ่เค้าชอบอะไรกัน บางที่ sticker ค่ายตัวเอง ยังลอกรูปแบบด้วยกันเองมาเลยก็มี ผมเห็นหลายอันละ แบบเปลี่ยนแค่ตัว character และทำเพิ่มท่าทางใหม่ๆ ที่เป็นเอกลักษณ์ของ character ตัวเองลงไป
อันนี้เล่าไว้เป็นแนวทางนะครับ เผื่อว่าถ้ายังนึกอะไรไม่ค่อยออก ก็ลองดูว่าเราชอบใช้ sticker แบบไหนในชีวิตประจำวัน ก็

ทำแบบนั้นแหละครับออกมา

---

# review ครั้งที่ 1
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
และแล้ววันนี้ก็มาถึง
กดส่ง review ไปแค่ 2 วัน ตอบกลับมาละ เร็วมาก (กดส่งไปวันอาทิตย์เย็นๆ วันอังคารมีเมล์เด้งตอบกลับเข้ามาละ)
จากเคยอ่านมู้ของท่านอื่นๆที่บอกว่าใช้เวลา review นานมาก ต้องมี 2 เดือน อย่างน้อยๆ
อยากจะให้เครดิต line team ไว้ตรงนี้เลยละกันครับว่า "เค้าพัฒนาแล้ว!"

ผมกดเปิดเมล์ด้วยความตื่นเต้น และลุ้นระทึก ไม่คาดฝันว่าจะตอบกลับมาเร็วขนาดนี้
เอ๊ะ! หรือว่ามีไรผิดปกตินะ ใจตุ้มๆต่อมๆ
ปรากฏว่า....



T T

มี sticker อยู่รูปนึงที่โดน reject ครับ (นึกว่าจะรอบเดียวผ่านฉลุยแล้วเชียว) ก็เข้าไปดูที่เมนู message center ของหน้าเว็บครับ
เค้าก็บอกรายละเอียดกับเรามาว่า เหตุผลเพราะอะไรจึงถูก reject (ดังในรูปข้างต้น)

อันนี้ก็ขอยอมรับผิดแต่โดยดี เนื่องจากความมึนของผมนั่งเองครับ วาดรูปเยอะจนมึนไม่ได้เช็คก่อนว่ารูปที่เอามามันมีเจ้าของอยู่นะ ^^'
ก็เกิดจากความที่ไม่ได้ระวังจริงๆครับ นั่งดูรูปหาแรงบันดาลใจไปเรื่อยๆ แล้วก็เจอรูปนี้แล้วชอบมาก เป็นรูปตัว Totoro ถือหน้ากาก Faceless จากการ์ตูนเรื่อง Spirited Away คือ เรื่องนี้ผมเคยดูเมื่อสมัยยังเด็กๆนะครับ แต่ดันจำไม่ได้ซะนี่ ว่ามันเป็นหน้ากาก Faceless คือเห็นแล้วก็ดันไปนึกว่ามันคือหน้ากากญี่ปุ่นธรรมดาทั่วๆไปซะนี่

อยากจะบอกว่า ทีม review เค้าต้องมีข้อมูลแน่นมากเลยนะครับ จำได้ยังไง - -

---