ตอนที่ 1
http://pantip.com/topic/33939572
เรื่องราวเกิดขึ้นเมื่อเจ็ดปีที่แล้ว สมัยนั้นรตรีเรียนอยู่ปีสองที่มหาวิทยาลัยรัฐชื่อดังแห่งหนึ่ง ด้วยความที่เป็นคนสะสวย เธอจึงมีหนุ่มๆแวะเวียนมาขายขนมจีบด้วยอยู่ไม่ขาด เนื่องจากรตรีเมื่อเจ็ดปีก่อน ไม่ใช่คนเดียวกับรตรีคนปัจจุบัน เธอไม่ได้ให้ความสำคัญกับความรัก ไม่ใช่ว่าเธอปิดกั้นตัวเองจากมัน เธอเพียงแค่ไม่เห็นค่าของมันเท่านั้นเอง เปรียบกับคนที่ใช้เงินสุรุ่ยสุร่าย มองไม่เห็นค่าของเงิน เธอก็เป็นคนแบบนั้น ต่างกันที่ว่าสิ่งที่เธอไม่เห็นค่าไม่ได้มีแค่เงินตรา แต่รวมไปถึงคนด้วย ใช่แล้ว เธอใช้คนที่เข้ามารักเธอ หรือที่เธอเรียกว่า "เล่น" นั่นเอง
พงษ์ศักดิ์ตอนนั้นกำลังอยู่ชั้นปีสี่ เขาเป็นชายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่ง โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับเพื่อนผู้ชายในวัยเดียวกัน ถึงแม้จะไม่ได้หล่อเหลาเข้าขั้นนายแบบ แต่เขาก็จัดว่าหน้าตาไม่เลวเลยทีเดียว ช่วงแรกเขาก็เป็นอีกคนหนึ่งที่หลงเข้าไปในกับดักของรตรี สาวสวยรุ่นน้องที่เป็นที่โปรดปรานของหนุ่มๆหลายๆคน แต่เนื่องจากเขาและเธออยู่ต่างคณะกัน ทำให้เขาได้แต่แอบมองเธออยู่ห่างๆ จนกระทั่งได้มารู้จักเธอจริงๆในชมรมของมหาวิทยาลัย
“สวัสดีครับน้องรตรี พี่ชื่อพงษ์ศักดิ์ ชื่อเล่นชื่อศักดิ์ครับ อยู่ปีสี่" หลังจากแนะนำตัวเสร็จเรียบร้อย รตรีซึ่งไม่ได้มีท่าทีขวยเขินแต่อย่างใด เธอคงชินเสียแล้วกับพูดคุยกับเพศตรงข้าม ตอบอย่างฉะฉานว่า "ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ" เธอยิ้มอย่างเป็นกันเอง โดยที่ไม่ต้องแนะนำตัวอะไรมาก เธอรู้ดีว่าหลายๆคนที่นี่รู้ว่าเธอเรียนคณะอะไร ชั้นปีที่เท่าไร แต่เนื่องจากวันนี้เป็นวันแรกๆของการเปิดเรียน เธอก็มีโอกาสแนะนำตัวกับรุ่นน้องปีหนึ่ง เห็นได้ชัดว่ารุ่นน้องบางคนออกอาการปลื้มรุ่นพี่คนนี้ไม่มากก็น้อย
ไม่ช้าชื่อ "รตรี" ก็เป็นที่รู้จักกันในวงกว้าง เพราะนอกจากเธอจะเป็นคนหน้าตาจัดว่าสะสวยแล้ว เธอยังเป็นเด็กกิจกรรมตัวยง นอกจากกิจกรรมชมรมอาสาสมัครที่เธอทำเป็นประจำแล้ว เธอก็ยังเป็นผู้นำเชียร์ของคณะ หรือที่ใครๆมักเรียกว่าเชียร์ลีดเดอร์ และเพราะเหตุนี้ด้วยกระมังที่ทำให้เธอและอ้อมใจเป็นเพื่อนสนิทกันได้ เพราะอ้อมใจก็เป็นคนลุยๆพอสมควร ดูจะมากกว่ารตรีด้วยซ้ำ เธอต่างจากรตรีตรงที่เธอไม่ใช่คนสวย เธอเป็นผู้หญิงหน้าตาธรรมดาๆ แต่ใครๆก็มักชมเธอว่าเป็นผู้หญิงที่มีเสน่ห์ และหากจะเปรียบเทียบความสนิทสนมระหว่างผู้หญิงสองคนนี้ คงหนีไม่พ้นคำพังเพยเช่นปาท่องโก๋ซึ่งรตรีไม่ค่อยชอบมันเท่าใดนัก ด้วยเห็นว่าปาท่องโก๋ถูกฉีกออกจากกันง่ายเกินไป
เย็นวันหนึ่งหลังรตรีเลิกเรียน เธอเดินไปยังล็อกเกอร์เพื่อเก็บของ เธอก็เห็นกระดาษโน็ตเล็กๆ พร้อมกับดอกทิวลิปสีขาวดอกหนึ่งแปะไว้ที่ประตูล็อกเกอร์ เธอบรรจงแกะเทปใสที่แปะอยู่ตรงก้านของดอกไม้ออก แล้วหยิบกระดาษขึ้นมาอ่าน "จากคนที่แอบชอบเธออยู่" เธอรู้สึกดี แต่ไม่ได้ตื่นเต้นอะไรมากนัก เธอชินเสียแล้วกับการได้รับของกำนัลจากเพศตรงข้าม เมื่ออ่านเสร็จเธอก็เก็บกระดาษแผ่นเล็กไว้ในแฟ้มเอกสาร ส่วนดอกทิวลิปเธอเอาใส่ไว้ในล็อกเกอร์ ไว้กลับมาหยิบหลังเสร็จกิจกรรมชมรม เธอเดาว่าคนๆนั้น จะต้องเป็นรุ่นพี่ในชมรมแน่ๆ และเธอเองก็เดาไม่ผิดเลย
“ไอ้ศักดิ์ น้องรตรีแกเดินมาแล้ว" เสียงแว่วๆออกมาจากห้องสันทนาการ พงษ์ศักดิ์รีบหันหน้าหลบสายตารตรีด้วยความเขิน รตรีไม่ทันเห็นเพื่อนตัวแสบของเขา เพราะเมื่อเธอเดินเข้ามาในห้อง พวกนั้นก็เผ่นวับออกไป ทิ้งไว้แค่เพียงเขาและเธอให้ยืนสบตากันเล่นๆ และเนื่องจากมีคนอื่นอยู่ด้วยในห้อง แม้จะยังไม่มากนัก ความเคอะเขินของชายหนุ่มก็เพิ่มขึ้น เพราะเขารู้ว่าเรื่องแบบนี้ปิดไว้ไม่มิด "สวัสดีครับน้องรตรี โทษทีนะครับ พวกเพื่อนของผมไม่ค่อยสุภาพเท่าไร" เขาเอาฝ่ามือทั้งสองถูกันไปมาแก้เขิน เขาแอบหวังลึกๆว่าเธอจะพูดอะไรเกี่ยวกับของขวัญเล็กๆน้อยๆของเขา และเธอก็ไม่ได้ทำให้เขาผิดหวัง "ขอบคุณนะคะ สำหรับดอกทิวลิป รตรีชอบดอกไม้มากโดยเฉพาะดอกไม้สีขาว" ชายหนุ่มยิ้มกว้าง ตอบเธอว่า "ดีใจจังเลยที่น้องชอบ เดี๋ยวไว้คราวหน้าพี่จะหามาให้อีกนะ" ทันใดนั้นเสียงหัวหน้าชมรมก็เรียกให้ทุกคนไปรวมตัว เขาซึ่งเป็นรุ่นพี่ต้องออกไปทำหน้าที่ดูแลรุ่นน้องที่เพิ่งเข้ามาใหม่ เขาบอกตัดบทรตรีด้วยความเสียดาย 'รตรีน่าจะมาเร็วกว่านี้' เขานึกในใจ
ระหว่างที่สมาชิกในชมรมกำลังง่วนอยู่กับการศึกษารายละเอียดของชมรมในเอกสารที่พี่ชมรมเป็นคนแจก พงษ์ศักดิ์ก็แอบชำเลืองมองรตรีผู้ซึ่งกำลังพลิกหน้าเอกสารไปมาท่าทางงุนงง เขาก็ไม่รอช้ารีบฉวยโอกาสในการเก็บแต้มทันที "รตรีอันนี้เป็นรายละเอียดตารางงานของชมรมครับ จะมีการจัดนิทรรศการ สัมมนา และเลี้ยงสังสรรค์ทั่วไป" เขากล่าวอย่างเป็นการเป็นงาน "อันนี้น้องสามารถเลือกได้ครับว่าจะทำงานตำแหน่งไหน" รตรีพยักหน้า จริงๆเธอเธอเข้าใจรายละเอียดตั้งแต่แรกแล้ว เพียงแต่เธอไม่อยากจะทำให้เขาเสียหน้าที่อ่านภาษากายเธอผิดเท่านั้นเอง "ขอบคุณมากค่ะ พี่ศักดิ์" เธอตอบสุภาพ "รตรีว่าจะลองทำฝ่ายนิทรรศการ เพราะชอบทำงานกับคนเยอะๆค่ะ" และในวันนี้พงษ์ศักดิ์ก็ได้รู้เกี่ยวกับเธอมากขึ้นนอกจากเรื่องที่เธอชอบดอกไม้สีขาวแล้ว เธอยังเป็นสาวสังคมอีกด้วย
นั่นคือจุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์ทั้งสอง หรือถ้าจะเรียกให้ถูกก็คือจุดเริ่มต้นของความหวังของพงษ์ศักดิ์ เพราะจะว่าไปแล้วรตรีเฉยๆกับพี่คนนี้มาโดยตลอด เพียงแค่ว่าเธอไม่เคยปฏิเสธ หรือยอมรับซะที เธอชอบความรู้สีกกึ่งกลางแบบนี้ เพราะอะไรเธอก็บอกไม่ได้เหมือนกัน พี่ศักดิ์เองก็ไม่ระย่อพยายามจีบน้องรตรีคนสวยไปเรื่อยๆอย่างมีความหวังอยู่เสมอ แม้เขาเองจะไม่รู้ว่ามันจะเป็นจริงได้หรือไม่ เขาพยายามทุกวิถีทางเพื่อชนะใจเธอ และอีกวิธีหนึ่งก็คือการทำความรู้จักกับเพื่อนสาวคนสนิท อ้อมใจนั่นเอง
“สวัสดีน้องอ้อมใจ วันนี้มาเรียนแต่เช้านะ" เขากล่าวทักทายอย่างเป็นกันเอง แม้ว่าครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่เขาได้พูดคุยกับเธอ
“ใช่แล้วค่ะพี่ มีเรียนเช้าค่ะ แต่รตรียังไม่มาหรอกนะคะ" เธอตอบอย่างรู้ทัน แล้วเธอก็รีบเดินขึ้นตึกเรียนไป "ขอโทษค่ะพี่ หนูกำลังจะสายแล้ว"
“อ่อ ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวค่อยคุยกันใหม่" เขาตะโกนไล่หลังไป แต่กระนั้นอ้อมใจก็หายลับไปที่มุมตึกแล้ว
แม้คำตอบที่ได้จะห้วนไปบ้าง แต่กระนั้นเขาก็ถือว่าเขาได้รุกเข้าไปอีกก้าวหนึ่งแล้ว เมื่อตกเย็นเขาก็รีบปรี่ไปที่หน้าห้องเล็คเชอร์ เพื่อไปดักรอรตรีที่กำลังนั่งเก็บของอยู่ข้างใน ปฏิกิริยาของรตรีเมื่อเห็นว่ามีหนุ่มรุ่นพี่คนเดิมมารับถึงหน้าห้องดูไม่ค่อยยินดียินร้ายเท่าใดนัก เธอเดินออกมาพร้อมกับถือแฟ้มและชีทงานต่างๆแนบไว้ที่อก ยังไม่ทันออกมาจากห้องดี พงษ์ศักดิ์ก็รีบเข้าไปช่วยสาวน้อยถือของทันที "ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวผมช่วยถือให้" เขายิ้มให้เธออย่างผู้มีความหวัง "อ่อ รตรีไม่อยากรบกวนค่ะ ให้รตรีถือเองเถอะ" เธอกล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจัง ดูท่าเธอจะไม่อยากให้เขามาช่วยจริงๆ ชายหนุ่มมีแววตาผิดหวังอยู่เล็กน้อย แต่เขาก็ไม่ใช่พวกชอบตื้อ ดันทุรัง เมื่อเธอพูดแบบนี้เข้า เขาก็ยังอุตส่าห์เดินเป็นเพื่อนเธอไปที่ล็อกเกอร์เก็บของ "เรียนยากไหมครับ น้องรตรี" เขาถามลอยๆ แต่รตรีก็ตอบเขาอย่างเป็นกันเอง เธออยากให้มีการสนทนาเกิดขึ้น มากกว่าแค่เดินไปด้วยกันอย่างเงียบๆ เพราะมันทำให้เธอรู้สึกอึดอัด จากนั้นทั้งสองก็ไปเข้ากิจกรรมชมรมที่ทั้งคู่ต่างก็เป็นสมาชิก เมื่อเข้าไปในห้องชม รม รตรีก็รีบเดินผละออกจากเขาไปรวมกลุ่มกับเพื่อนๆของเธอ โดยไม่ลืมที่จะหันกลับมากล่าวกับเขาว่า "ขอบคุณค่ะ พี่ศักดิ์ ไว้พบกันใหม่นะคะ" รอยยิ้มหวานๆและแววตาเปล่งประกายของรตรีทำให้พงษ์ศักดิ์รู้สีกใจชื้นขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก วันนั้นเขากลับบ้านไปด้วยหัวใจที่อิ่มเอม
ที่มา:
https://plus.google.com/collection/8sPoh
เมื่อเส้นขนานมาบรรจบ ตอนที่ 2
เรื่องราวเกิดขึ้นเมื่อเจ็ดปีที่แล้ว สมัยนั้นรตรีเรียนอยู่ปีสองที่มหาวิทยาลัยรัฐชื่อดังแห่งหนึ่ง ด้วยความที่เป็นคนสะสวย เธอจึงมีหนุ่มๆแวะเวียนมาขายขนมจีบด้วยอยู่ไม่ขาด เนื่องจากรตรีเมื่อเจ็ดปีก่อน ไม่ใช่คนเดียวกับรตรีคนปัจจุบัน เธอไม่ได้ให้ความสำคัญกับความรัก ไม่ใช่ว่าเธอปิดกั้นตัวเองจากมัน เธอเพียงแค่ไม่เห็นค่าของมันเท่านั้นเอง เปรียบกับคนที่ใช้เงินสุรุ่ยสุร่าย มองไม่เห็นค่าของเงิน เธอก็เป็นคนแบบนั้น ต่างกันที่ว่าสิ่งที่เธอไม่เห็นค่าไม่ได้มีแค่เงินตรา แต่รวมไปถึงคนด้วย ใช่แล้ว เธอใช้คนที่เข้ามารักเธอ หรือที่เธอเรียกว่า "เล่น" นั่นเอง
พงษ์ศักดิ์ตอนนั้นกำลังอยู่ชั้นปีสี่ เขาเป็นชายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่ง โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับเพื่อนผู้ชายในวัยเดียวกัน ถึงแม้จะไม่ได้หล่อเหลาเข้าขั้นนายแบบ แต่เขาก็จัดว่าหน้าตาไม่เลวเลยทีเดียว ช่วงแรกเขาก็เป็นอีกคนหนึ่งที่หลงเข้าไปในกับดักของรตรี สาวสวยรุ่นน้องที่เป็นที่โปรดปรานของหนุ่มๆหลายๆคน แต่เนื่องจากเขาและเธออยู่ต่างคณะกัน ทำให้เขาได้แต่แอบมองเธออยู่ห่างๆ จนกระทั่งได้มารู้จักเธอจริงๆในชมรมของมหาวิทยาลัย
“สวัสดีครับน้องรตรี พี่ชื่อพงษ์ศักดิ์ ชื่อเล่นชื่อศักดิ์ครับ อยู่ปีสี่" หลังจากแนะนำตัวเสร็จเรียบร้อย รตรีซึ่งไม่ได้มีท่าทีขวยเขินแต่อย่างใด เธอคงชินเสียแล้วกับพูดคุยกับเพศตรงข้าม ตอบอย่างฉะฉานว่า "ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ" เธอยิ้มอย่างเป็นกันเอง โดยที่ไม่ต้องแนะนำตัวอะไรมาก เธอรู้ดีว่าหลายๆคนที่นี่รู้ว่าเธอเรียนคณะอะไร ชั้นปีที่เท่าไร แต่เนื่องจากวันนี้เป็นวันแรกๆของการเปิดเรียน เธอก็มีโอกาสแนะนำตัวกับรุ่นน้องปีหนึ่ง เห็นได้ชัดว่ารุ่นน้องบางคนออกอาการปลื้มรุ่นพี่คนนี้ไม่มากก็น้อย
ไม่ช้าชื่อ "รตรี" ก็เป็นที่รู้จักกันในวงกว้าง เพราะนอกจากเธอจะเป็นคนหน้าตาจัดว่าสะสวยแล้ว เธอยังเป็นเด็กกิจกรรมตัวยง นอกจากกิจกรรมชมรมอาสาสมัครที่เธอทำเป็นประจำแล้ว เธอก็ยังเป็นผู้นำเชียร์ของคณะ หรือที่ใครๆมักเรียกว่าเชียร์ลีดเดอร์ และเพราะเหตุนี้ด้วยกระมังที่ทำให้เธอและอ้อมใจเป็นเพื่อนสนิทกันได้ เพราะอ้อมใจก็เป็นคนลุยๆพอสมควร ดูจะมากกว่ารตรีด้วยซ้ำ เธอต่างจากรตรีตรงที่เธอไม่ใช่คนสวย เธอเป็นผู้หญิงหน้าตาธรรมดาๆ แต่ใครๆก็มักชมเธอว่าเป็นผู้หญิงที่มีเสน่ห์ และหากจะเปรียบเทียบความสนิทสนมระหว่างผู้หญิงสองคนนี้ คงหนีไม่พ้นคำพังเพยเช่นปาท่องโก๋ซึ่งรตรีไม่ค่อยชอบมันเท่าใดนัก ด้วยเห็นว่าปาท่องโก๋ถูกฉีกออกจากกันง่ายเกินไป
เย็นวันหนึ่งหลังรตรีเลิกเรียน เธอเดินไปยังล็อกเกอร์เพื่อเก็บของ เธอก็เห็นกระดาษโน็ตเล็กๆ พร้อมกับดอกทิวลิปสีขาวดอกหนึ่งแปะไว้ที่ประตูล็อกเกอร์ เธอบรรจงแกะเทปใสที่แปะอยู่ตรงก้านของดอกไม้ออก แล้วหยิบกระดาษขึ้นมาอ่าน "จากคนที่แอบชอบเธออยู่" เธอรู้สึกดี แต่ไม่ได้ตื่นเต้นอะไรมากนัก เธอชินเสียแล้วกับการได้รับของกำนัลจากเพศตรงข้าม เมื่ออ่านเสร็จเธอก็เก็บกระดาษแผ่นเล็กไว้ในแฟ้มเอกสาร ส่วนดอกทิวลิปเธอเอาใส่ไว้ในล็อกเกอร์ ไว้กลับมาหยิบหลังเสร็จกิจกรรมชมรม เธอเดาว่าคนๆนั้น จะต้องเป็นรุ่นพี่ในชมรมแน่ๆ และเธอเองก็เดาไม่ผิดเลย
“ไอ้ศักดิ์ น้องรตรีแกเดินมาแล้ว" เสียงแว่วๆออกมาจากห้องสันทนาการ พงษ์ศักดิ์รีบหันหน้าหลบสายตารตรีด้วยความเขิน รตรีไม่ทันเห็นเพื่อนตัวแสบของเขา เพราะเมื่อเธอเดินเข้ามาในห้อง พวกนั้นก็เผ่นวับออกไป ทิ้งไว้แค่เพียงเขาและเธอให้ยืนสบตากันเล่นๆ และเนื่องจากมีคนอื่นอยู่ด้วยในห้อง แม้จะยังไม่มากนัก ความเคอะเขินของชายหนุ่มก็เพิ่มขึ้น เพราะเขารู้ว่าเรื่องแบบนี้ปิดไว้ไม่มิด "สวัสดีครับน้องรตรี โทษทีนะครับ พวกเพื่อนของผมไม่ค่อยสุภาพเท่าไร" เขาเอาฝ่ามือทั้งสองถูกันไปมาแก้เขิน เขาแอบหวังลึกๆว่าเธอจะพูดอะไรเกี่ยวกับของขวัญเล็กๆน้อยๆของเขา และเธอก็ไม่ได้ทำให้เขาผิดหวัง "ขอบคุณนะคะ สำหรับดอกทิวลิป รตรีชอบดอกไม้มากโดยเฉพาะดอกไม้สีขาว" ชายหนุ่มยิ้มกว้าง ตอบเธอว่า "ดีใจจังเลยที่น้องชอบ เดี๋ยวไว้คราวหน้าพี่จะหามาให้อีกนะ" ทันใดนั้นเสียงหัวหน้าชมรมก็เรียกให้ทุกคนไปรวมตัว เขาซึ่งเป็นรุ่นพี่ต้องออกไปทำหน้าที่ดูแลรุ่นน้องที่เพิ่งเข้ามาใหม่ เขาบอกตัดบทรตรีด้วยความเสียดาย 'รตรีน่าจะมาเร็วกว่านี้' เขานึกในใจ
ระหว่างที่สมาชิกในชมรมกำลังง่วนอยู่กับการศึกษารายละเอียดของชมรมในเอกสารที่พี่ชมรมเป็นคนแจก พงษ์ศักดิ์ก็แอบชำเลืองมองรตรีผู้ซึ่งกำลังพลิกหน้าเอกสารไปมาท่าทางงุนงง เขาก็ไม่รอช้ารีบฉวยโอกาสในการเก็บแต้มทันที "รตรีอันนี้เป็นรายละเอียดตารางงานของชมรมครับ จะมีการจัดนิทรรศการ สัมมนา และเลี้ยงสังสรรค์ทั่วไป" เขากล่าวอย่างเป็นการเป็นงาน "อันนี้น้องสามารถเลือกได้ครับว่าจะทำงานตำแหน่งไหน" รตรีพยักหน้า จริงๆเธอเธอเข้าใจรายละเอียดตั้งแต่แรกแล้ว เพียงแต่เธอไม่อยากจะทำให้เขาเสียหน้าที่อ่านภาษากายเธอผิดเท่านั้นเอง "ขอบคุณมากค่ะ พี่ศักดิ์" เธอตอบสุภาพ "รตรีว่าจะลองทำฝ่ายนิทรรศการ เพราะชอบทำงานกับคนเยอะๆค่ะ" และในวันนี้พงษ์ศักดิ์ก็ได้รู้เกี่ยวกับเธอมากขึ้นนอกจากเรื่องที่เธอชอบดอกไม้สีขาวแล้ว เธอยังเป็นสาวสังคมอีกด้วย
นั่นคือจุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์ทั้งสอง หรือถ้าจะเรียกให้ถูกก็คือจุดเริ่มต้นของความหวังของพงษ์ศักดิ์ เพราะจะว่าไปแล้วรตรีเฉยๆกับพี่คนนี้มาโดยตลอด เพียงแค่ว่าเธอไม่เคยปฏิเสธ หรือยอมรับซะที เธอชอบความรู้สีกกึ่งกลางแบบนี้ เพราะอะไรเธอก็บอกไม่ได้เหมือนกัน พี่ศักดิ์เองก็ไม่ระย่อพยายามจีบน้องรตรีคนสวยไปเรื่อยๆอย่างมีความหวังอยู่เสมอ แม้เขาเองจะไม่รู้ว่ามันจะเป็นจริงได้หรือไม่ เขาพยายามทุกวิถีทางเพื่อชนะใจเธอ และอีกวิธีหนึ่งก็คือการทำความรู้จักกับเพื่อนสาวคนสนิท อ้อมใจนั่นเอง
“สวัสดีน้องอ้อมใจ วันนี้มาเรียนแต่เช้านะ" เขากล่าวทักทายอย่างเป็นกันเอง แม้ว่าครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่เขาได้พูดคุยกับเธอ
“ใช่แล้วค่ะพี่ มีเรียนเช้าค่ะ แต่รตรียังไม่มาหรอกนะคะ" เธอตอบอย่างรู้ทัน แล้วเธอก็รีบเดินขึ้นตึกเรียนไป "ขอโทษค่ะพี่ หนูกำลังจะสายแล้ว"
“อ่อ ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวค่อยคุยกันใหม่" เขาตะโกนไล่หลังไป แต่กระนั้นอ้อมใจก็หายลับไปที่มุมตึกแล้ว
แม้คำตอบที่ได้จะห้วนไปบ้าง แต่กระนั้นเขาก็ถือว่าเขาได้รุกเข้าไปอีกก้าวหนึ่งแล้ว เมื่อตกเย็นเขาก็รีบปรี่ไปที่หน้าห้องเล็คเชอร์ เพื่อไปดักรอรตรีที่กำลังนั่งเก็บของอยู่ข้างใน ปฏิกิริยาของรตรีเมื่อเห็นว่ามีหนุ่มรุ่นพี่คนเดิมมารับถึงหน้าห้องดูไม่ค่อยยินดียินร้ายเท่าใดนัก เธอเดินออกมาพร้อมกับถือแฟ้มและชีทงานต่างๆแนบไว้ที่อก ยังไม่ทันออกมาจากห้องดี พงษ์ศักดิ์ก็รีบเข้าไปช่วยสาวน้อยถือของทันที "ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวผมช่วยถือให้" เขายิ้มให้เธออย่างผู้มีความหวัง "อ่อ รตรีไม่อยากรบกวนค่ะ ให้รตรีถือเองเถอะ" เธอกล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจัง ดูท่าเธอจะไม่อยากให้เขามาช่วยจริงๆ ชายหนุ่มมีแววตาผิดหวังอยู่เล็กน้อย แต่เขาก็ไม่ใช่พวกชอบตื้อ ดันทุรัง เมื่อเธอพูดแบบนี้เข้า เขาก็ยังอุตส่าห์เดินเป็นเพื่อนเธอไปที่ล็อกเกอร์เก็บของ "เรียนยากไหมครับ น้องรตรี" เขาถามลอยๆ แต่รตรีก็ตอบเขาอย่างเป็นกันเอง เธออยากให้มีการสนทนาเกิดขึ้น มากกว่าแค่เดินไปด้วยกันอย่างเงียบๆ เพราะมันทำให้เธอรู้สึกอึดอัด จากนั้นทั้งสองก็ไปเข้ากิจกรรมชมรมที่ทั้งคู่ต่างก็เป็นสมาชิก เมื่อเข้าไปในห้องชม รม รตรีก็รีบเดินผละออกจากเขาไปรวมกลุ่มกับเพื่อนๆของเธอ โดยไม่ลืมที่จะหันกลับมากล่าวกับเขาว่า "ขอบคุณค่ะ พี่ศักดิ์ ไว้พบกันใหม่นะคะ" รอยยิ้มหวานๆและแววตาเปล่งประกายของรตรีทำให้พงษ์ศักดิ์รู้สีกใจชื้นขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก วันนั้นเขากลับบ้านไปด้วยหัวใจที่อิ่มเอม
ที่มา: https://plus.google.com/collection/8sPoh