สวัสดีค่ะ นี่ก็เป็นกระทู้แรกของเราเลย วันนี้จะมารีวิวทริปวันเดย์ไปดอยขุนตาลค่ะ
เรื่องของเรื่องคือ ว่างและเวิ่นมาก เพิ่งเรียนจบ อยากหาเรื่องเที่ยว
วันที่ 4 ก.ค. ที่ผ่านมาเลยตัดสินใจกันตอนกลางคืนกับเพื่อนว่า แกๆ พรุ่งนี้ไปเที่ยวดอยขุนตาลกัน!
ก็อ่านรีวิวในพันทิปคร่าวๆ นัดกันตอน 6 โมงเช้าที่สถานีรถไฟเชียงใหม่ ซื้อตั๋วรถไฟไปขุนตาน
พี่พนักงานให้ตั๋วเชียงใหม่-ลำปาง แต่บอกให้ลงสถานีขุนตานได้เลยค่ะ
ปล1. ออกตัวก่อนว่า เพิ่งเป็นมือใหม่หัดสะพายกล้อง รูปไม่สวยขออภัยมา ณ ที่นี้นะคะ / กราบงามๆ

กล้อง : Canon EOS700D , iPhone5S
ปล2. สถานีรถไฟ 'ขุนตาน' แต่ดอยเรียกดอย 'ขุนตาล' นะคะ ไม่ทราบเหมือนกันว่าทำไม

ได้ตั๋วรถไฟฟรีมา ขบวน 102 ค่ะ
รถไฟมีกำหนดออกตอน 06.30 น. แต่ก็อย่างว่าแหละโน๊ะ เลทไปครึ่งชั่วโมงแบบงงๆ ก็เลยออกจากสถานีประมาณ 07.00 น. ค่ะ

รถไฟมาแล้ววว

วิวข้างทาง น่าจะแถวๆอำเภอแม่ทา ลำพูนค่ะ

ผ่านสะพานขาวๆมา ถ่ายไม่ทัน ฮ่าๆๆ
จากนั้น นั่งรถไฟมาประมาณ 1 ชั่วโมง พอ 9 โมง ก็มาถึงสถานีที่หมายของเราแล้วค่า

แพรววี่ เพื่อนร่วมทริปอิฉันเอง อิอิ

ตอนไปถึงเป็นช่วงเวลารถไฟรอสับรางผ่านอุโมงค์ขุนตานพอดีค่ะ

อุโมงค์ขุนตาน มืดมากมาย บรื๋ออออ~~~
จากนั้น ก็ถึงเวลาที่ไปยังจุดหมายของจริงแล้วค่ะ ถามทางพี่ๆที่สถานีก็บอกให้ขึ้นไปทางนี้เลย
ปล. หมาที่สถานีนี้ดุมากจริงๆ ตามที่คนอื่นๆเคยรีวิวไว้เลย และมีจำนวนเยอะด้วย
แต่ดันมีหมา 2 ตัวที่เดินนำเราไปยังอุทยาน แรกๆก็กลัวนะ หลังๆนี่รักเลย อิอิ
อยากจะบอกคุณผู้ชายที่จะมาว่า หมาที่นี่เป็นมิตรเฉพาะกับสุภาพสตรีนะคะ ฮ่าๆ

เพื่อนร่วมทางอีกสองชีวิต ขอตั้งชื่อให้ว่า ปีเตอร์ และน้ำตาล

ทางเดินขึ้นไปยังที่ทำการอุทยานแห่งชาติดอยขุนตาล มีคุณลำปางและคุณลำพูนยืนเด่นเป็นสง่าอยู่

ทางเดินไปยังที่ทำการอุทยาน เดินเท้าไประยะทาง 1200 เมตรค่ะ วิวรอบๆเป็นธรรมชาติสุดๆ

เดินไปเรื่อยๆ เหมือนจะไม่เหนื่อยนะ แต่แอบเหนื่อยเบาๆ ฮ่าๆๆ

และแล้วก็มาถึงทางเข้าอุทยานค่า สวยงาม

แวะจ่ายค่าบัตรที่ทางเข้า ใช้สิทธิ์นักศึกษาในราคา 10 บาทต่อคน
ถ้าวันธรรมดา จ-ศ จะลดอีกครึ่งราคาเชียวนะ คุ้มสุดยอด

จากนั้น จะพลาดสถานที่สุดฮิตได้ยังไง ที่ที่ใครมาก็ต้องถ่าย
เส้นแบ่งระหว่างจังหวัดลำปาง และลำพูนนั่นเองค่า

ก่อนจะออกเดินทางก็แวะหาข้อมูลที่ที่ทำการอุทยานก่อน

พี่เจ้าหน้าที่เค้าทำหน้าที่ดีสุดๆ อธิบายแต่ละจุดท่องเที่ยวละเอียดถี่ยิบเลย
ต้องบอกก่อนว่า ตอนแรกที่ตัดสินใจจะมากันกับเพื่อน คิดว่าจะเดินขึ้นไปทั้ง 4 ย. (ย. ย่อมาจากจุดยุทธศาสตร์นะคะ ไม่ใช่ยอด)
แต่พอมาถึงที่อุทยานก็ปาเข้าไปเกือบจะสิบโมงแล้ว และจะกลับรถไฟเที่ยวเกือบบ่ายสองโมง
พี่เจ้าหน้าที่เลยบอกว่า คงขึ้นไปได้ถึงแค่ ย.2 เพราะระยะทางระหว่าง ย.2 กับ ย.3 นี่หลายกิโลเลยนะเออ
ก็เลยตัดสินใจกันว่า คงขึ้นถึงแค่ ย.2 ละกัน
แต่สำหรับคนที่อยากไปจนสุดทาง ที่อุทยานมีที่พักให้นะคะ สามารถสอบถามได้จากทางเว็บไซต์ของอุทยานเลย
ว่าแล้วก็เริ่มออกเดินทางกัน!
วิวดีสุดๆ

เห็นแอ่งแม่ทานั่นไหม อิอิ

ตลอดเส้นทางเค้าทำทางเดินไว้ดีมากค่ะ ไม่ลำบากเลย

มีคนพยายามจะเป็นฮิปสเตอร์ ฮ่าๆๆ

ตลอดทางก็มีจุดชมวิวเป็นระยะๆค่ะ พักเหนื่อยบ้างอะไรบ้าง

เดินจากที่ทำการมาประมาณ 1 กิโล ก็จะเจอทางขึ้น ย. ค่ะ

เจ้าน้ำตาลก็ยังคงเดินมาพร้อมกับเรา

เดินเข้าไป
แล้วก็มาโผล่ที่ ย.1 ค่ะ เป็นบ้านพักซึ่งเป็นที่ประทับแรมของกรมพระยากำแพงเพชรอัครโยธิน
ตอนที่ท่านเสด็จมาเป็นแม่งานก่อสร้างอุโมงค์ขุนตานค่ะ

ชักภาพกันซักนิด

จากนั้นก็ออกเดินทางไป ย.2 กัน

แวะชมวิวเป็นระยะ

ค่อยๆเดินไป สบายๆ

ใครไม่สน ลูกสนเอง

แล้วก็มาถึงลานสน ที่ ย.2 ค่ะ

เธอเห็นหัวใจนั่นไหม

พักจนหายเหนื่อยแล้วก็ลงค่ะ

จากนั้นก็แวะเข้าไปชมที่ ย.2
ย.2 นี้เป็นพื้นที่ของหม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ ปราโมช ค่ะ
มีสวนแล้วก็บ้านพัก แต่นอนพักที่นี่ไม่ได้นะคะ ถ้าจะนอนก็นอนได้ที่ลานกางเต็นท์

ร่มรื่น น่ารักมากมาย
จากนั้นก็ถึงเวลาเดินลงของจริงแล้วค่ะ ตอนนั้นก็เกือบจะบ่ายแล้ว เดี๋ยวลงไปไม่ทันรถไฟ

วิวก็ยังคงสวยเหมือนเดิม

ก่อนกลับก็แวะลาพี่ๆที่อุทยาน แล้วก็เดินกลับทางเดินไปที่สถานีขุนตานค่ะ
ระหว่างรอรถไฟมา (ซึ่งเหมือนเดิมค่ะ เลทเกือบหนึ่งชั่วโมง) ก็ไปนั่งทานข้าวเที่ยง (บ่าย) ที่สถานี
แล้วฝนก็ตก นั่งรอรถไฟมา ตั๋วขากลับก็เหมือนเดิมค่ะ รถไฟฟรี แต่คราวนี้นั่งขบวน 407 กลับ

รถไฟมาแล้วจ้า

วิวขากลับ
สรุปทริปนี้ วันเดย์ ไปกลับ ไม่นอนค้าง เลยไปได้ถึงแค่ ย.2 ค่ะ
สำหรับใครที่อยากไปจนถึง ย.4 แนะนำให้นอนค้างนะคะ
บ้านพักของอุทยานมีทั้งหมด 26 หลัง ราคาในวันธรรมดาลดหลายสิบเปอร์เซนต์ แต่จำไม่ได้ว่าเท่าไหร่ ฮ่าๆ
มีลานกางเต็นต์ที่ ย.2 หรือบ้านพักที่ ย.3 ติดต่อที่มหาวิทยาลัยพายัพค่ะ
สิริรวมค่าใช้จ่ายของทริปนี้
ค่าเดินทาง (รถไฟ) - 0 บาท
ค่าเข้าอุทยาน - 10 บาท
นอกนั้นก็ค่าอาหาร ค่าน้ำ รวมๆแล้วไม่เกิน 70-80 บาทแน่นอนค่ะ
สำหรับใครที่อยากหาที่เที่ยว ดอยขุนตาลเป็นอีกที่หนึ่งที่ควรได้ลองไป
ได้ออกกำลังขา ได้ชมวิวสวยๆ แถมค่าใช้จ่ายยังถูกแสนถูกอีกต่างหาก
หวังว่ารีวิวน้อยๆนี้จะเป็นประโยชน์นะคะ ><''
พลอยใส.

บ๊ายบาย
[CR] หนึ่งวันใสใส จับรถไฟไป 'ดอยขุนตาล'
เรื่องของเรื่องคือ ว่างและเวิ่นมาก เพิ่งเรียนจบ อยากหาเรื่องเที่ยว
วันที่ 4 ก.ค. ที่ผ่านมาเลยตัดสินใจกันตอนกลางคืนกับเพื่อนว่า แกๆ พรุ่งนี้ไปเที่ยวดอยขุนตาลกัน!
ก็อ่านรีวิวในพันทิปคร่าวๆ นัดกันตอน 6 โมงเช้าที่สถานีรถไฟเชียงใหม่ ซื้อตั๋วรถไฟไปขุนตาน
พี่พนักงานให้ตั๋วเชียงใหม่-ลำปาง แต่บอกให้ลงสถานีขุนตานได้เลยค่ะ
ปล1. ออกตัวก่อนว่า เพิ่งเป็นมือใหม่หัดสะพายกล้อง รูปไม่สวยขออภัยมา ณ ที่นี้นะคะ / กราบงามๆ
กล้อง : Canon EOS700D , iPhone5S
ปล2. สถานีรถไฟ 'ขุนตาน' แต่ดอยเรียกดอย 'ขุนตาล' นะคะ ไม่ทราบเหมือนกันว่าทำไม
ได้ตั๋วรถไฟฟรีมา ขบวน 102 ค่ะ
รถไฟมีกำหนดออกตอน 06.30 น. แต่ก็อย่างว่าแหละโน๊ะ เลทไปครึ่งชั่วโมงแบบงงๆ ก็เลยออกจากสถานีประมาณ 07.00 น. ค่ะ
รถไฟมาแล้ววว
วิวข้างทาง น่าจะแถวๆอำเภอแม่ทา ลำพูนค่ะ
ผ่านสะพานขาวๆมา ถ่ายไม่ทัน ฮ่าๆๆ
จากนั้น นั่งรถไฟมาประมาณ 1 ชั่วโมง พอ 9 โมง ก็มาถึงสถานีที่หมายของเราแล้วค่า
แพรววี่ เพื่อนร่วมทริปอิฉันเอง อิอิ
ตอนไปถึงเป็นช่วงเวลารถไฟรอสับรางผ่านอุโมงค์ขุนตานพอดีค่ะ
อุโมงค์ขุนตาน มืดมากมาย บรื๋ออออ~~~
จากนั้น ก็ถึงเวลาที่ไปยังจุดหมายของจริงแล้วค่ะ ถามทางพี่ๆที่สถานีก็บอกให้ขึ้นไปทางนี้เลย
ปล. หมาที่สถานีนี้ดุมากจริงๆ ตามที่คนอื่นๆเคยรีวิวไว้เลย และมีจำนวนเยอะด้วย
แต่ดันมีหมา 2 ตัวที่เดินนำเราไปยังอุทยาน แรกๆก็กลัวนะ หลังๆนี่รักเลย อิอิ
อยากจะบอกคุณผู้ชายที่จะมาว่า หมาที่นี่เป็นมิตรเฉพาะกับสุภาพสตรีนะคะ ฮ่าๆ
เพื่อนร่วมทางอีกสองชีวิต ขอตั้งชื่อให้ว่า ปีเตอร์ และน้ำตาล
ทางเดินขึ้นไปยังที่ทำการอุทยานแห่งชาติดอยขุนตาล มีคุณลำปางและคุณลำพูนยืนเด่นเป็นสง่าอยู่
ทางเดินไปยังที่ทำการอุทยาน เดินเท้าไประยะทาง 1200 เมตรค่ะ วิวรอบๆเป็นธรรมชาติสุดๆ
เดินไปเรื่อยๆ เหมือนจะไม่เหนื่อยนะ แต่แอบเหนื่อยเบาๆ ฮ่าๆๆ
และแล้วก็มาถึงทางเข้าอุทยานค่า สวยงาม
แวะจ่ายค่าบัตรที่ทางเข้า ใช้สิทธิ์นักศึกษาในราคา 10 บาทต่อคน
ถ้าวันธรรมดา จ-ศ จะลดอีกครึ่งราคาเชียวนะ คุ้มสุดยอด
จากนั้น จะพลาดสถานที่สุดฮิตได้ยังไง ที่ที่ใครมาก็ต้องถ่าย
เส้นแบ่งระหว่างจังหวัดลำปาง และลำพูนนั่นเองค่า
ก่อนจะออกเดินทางก็แวะหาข้อมูลที่ที่ทำการอุทยานก่อน
พี่เจ้าหน้าที่เค้าทำหน้าที่ดีสุดๆ อธิบายแต่ละจุดท่องเที่ยวละเอียดถี่ยิบเลย
ต้องบอกก่อนว่า ตอนแรกที่ตัดสินใจจะมากันกับเพื่อน คิดว่าจะเดินขึ้นไปทั้ง 4 ย. (ย. ย่อมาจากจุดยุทธศาสตร์นะคะ ไม่ใช่ยอด)
แต่พอมาถึงที่อุทยานก็ปาเข้าไปเกือบจะสิบโมงแล้ว และจะกลับรถไฟเที่ยวเกือบบ่ายสองโมง
พี่เจ้าหน้าที่เลยบอกว่า คงขึ้นไปได้ถึงแค่ ย.2 เพราะระยะทางระหว่าง ย.2 กับ ย.3 นี่หลายกิโลเลยนะเออ
ก็เลยตัดสินใจกันว่า คงขึ้นถึงแค่ ย.2 ละกัน
แต่สำหรับคนที่อยากไปจนสุดทาง ที่อุทยานมีที่พักให้นะคะ สามารถสอบถามได้จากทางเว็บไซต์ของอุทยานเลย
ว่าแล้วก็เริ่มออกเดินทางกัน!
วิวดีสุดๆ
เห็นแอ่งแม่ทานั่นไหม อิอิ
ตลอดเส้นทางเค้าทำทางเดินไว้ดีมากค่ะ ไม่ลำบากเลย
มีคนพยายามจะเป็นฮิปสเตอร์ ฮ่าๆๆ
ตลอดทางก็มีจุดชมวิวเป็นระยะๆค่ะ พักเหนื่อยบ้างอะไรบ้าง
เดินจากที่ทำการมาประมาณ 1 กิโล ก็จะเจอทางขึ้น ย. ค่ะ
เจ้าน้ำตาลก็ยังคงเดินมาพร้อมกับเรา
เดินเข้าไป
แล้วก็มาโผล่ที่ ย.1 ค่ะ เป็นบ้านพักซึ่งเป็นที่ประทับแรมของกรมพระยากำแพงเพชรอัครโยธิน
ตอนที่ท่านเสด็จมาเป็นแม่งานก่อสร้างอุโมงค์ขุนตานค่ะ
ชักภาพกันซักนิด
จากนั้นก็ออกเดินทางไป ย.2 กัน
แวะชมวิวเป็นระยะ
ค่อยๆเดินไป สบายๆ
ใครไม่สน ลูกสนเอง
แล้วก็มาถึงลานสน ที่ ย.2 ค่ะ
เธอเห็นหัวใจนั่นไหม
พักจนหายเหนื่อยแล้วก็ลงค่ะ
จากนั้นก็แวะเข้าไปชมที่ ย.2
ย.2 นี้เป็นพื้นที่ของหม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ ปราโมช ค่ะ
มีสวนแล้วก็บ้านพัก แต่นอนพักที่นี่ไม่ได้นะคะ ถ้าจะนอนก็นอนได้ที่ลานกางเต็นท์
ร่มรื่น น่ารักมากมาย
จากนั้นก็ถึงเวลาเดินลงของจริงแล้วค่ะ ตอนนั้นก็เกือบจะบ่ายแล้ว เดี๋ยวลงไปไม่ทันรถไฟ
วิวก็ยังคงสวยเหมือนเดิม
ก่อนกลับก็แวะลาพี่ๆที่อุทยาน แล้วก็เดินกลับทางเดินไปที่สถานีขุนตานค่ะ
ระหว่างรอรถไฟมา (ซึ่งเหมือนเดิมค่ะ เลทเกือบหนึ่งชั่วโมง) ก็ไปนั่งทานข้าวเที่ยง (บ่าย) ที่สถานี
แล้วฝนก็ตก นั่งรอรถไฟมา ตั๋วขากลับก็เหมือนเดิมค่ะ รถไฟฟรี แต่คราวนี้นั่งขบวน 407 กลับ
รถไฟมาแล้วจ้า
วิวขากลับ
สรุปทริปนี้ วันเดย์ ไปกลับ ไม่นอนค้าง เลยไปได้ถึงแค่ ย.2 ค่ะ
สำหรับใครที่อยากไปจนถึง ย.4 แนะนำให้นอนค้างนะคะ
บ้านพักของอุทยานมีทั้งหมด 26 หลัง ราคาในวันธรรมดาลดหลายสิบเปอร์เซนต์ แต่จำไม่ได้ว่าเท่าไหร่ ฮ่าๆ
มีลานกางเต็นต์ที่ ย.2 หรือบ้านพักที่ ย.3 ติดต่อที่มหาวิทยาลัยพายัพค่ะ
สิริรวมค่าใช้จ่ายของทริปนี้
ค่าเดินทาง (รถไฟ) - 0 บาท
ค่าเข้าอุทยาน - 10 บาท
นอกนั้นก็ค่าอาหาร ค่าน้ำ รวมๆแล้วไม่เกิน 70-80 บาทแน่นอนค่ะ
สำหรับใครที่อยากหาที่เที่ยว ดอยขุนตาลเป็นอีกที่หนึ่งที่ควรได้ลองไป
ได้ออกกำลังขา ได้ชมวิวสวยๆ แถมค่าใช้จ่ายยังถูกแสนถูกอีกต่างหาก
หวังว่ารีวิวน้อยๆนี้จะเป็นประโยชน์นะคะ ><''
พลอยใส.
บ๊ายบาย
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น