สวัสดีค่ะ

ก่อนอื่นต้องบอกเลยว่าเราไม่ไดมีเซ็นท์แล้วก็ไม่ได้เจอแบบน่ากลัวขนาดนั้น
แต่ว่าวันนี้กลับไปคิดถึงเรื่องที่เคยเจอมาก็อยากจะเอามาเล่าให้ทุกคนฟังค่ะ
เพราะบางครั้งที่ไปเจอก็เป็นตำนานโรงเรียน บางครั้งที่ไปเจอก็เป็นเรื่องเล่าในจังหวัด
ตอนนี้เราต้องไปจากจังหวัดที่เราอยู่แล้วในอีกไม่กี่วัน จู่ๆก็คิดถึงเรื่องพวกนี้มาซะงั้น 55555
ครั้งที่1
ตอนนี้เราถือว่าเป็นครั้งที่เห็นจังๆและน่ากลัวที่สุดที่เคยเจอมาค่ะ
เป็นตอนที่เราอยู่ม.1ค่ะ วันนั้นไปนอนบ้านพี่สาว เพราะพ่อแม่ไม่อยู่บ้าน
พี่สาวเราอายุประมาณ 20 กว่าๆ ตอนนั้นประมาณ 5 ทุ่ม เราก็ยังไม่นอนค่ะ จู่ๆพี่สาวก็มาสะกิดแล้วบอกว่าหิว ไปเซเว่นเป็นเพื่อนหน่อย
เราก็เออออกับเขา ไปก็ไปดิ อยากกินขนมเหมือนกัน เราเลยนั่งมอไซต์ซ้อนไปกับนางทั้งชุดนอนนั่นแหละค่ะ
เซเว่นกับบ้านพี่สาวไม่ไกลกันมาก แค่ 10 นาทีก็ถึง แต่ระหว่างทางตอนนั้นค่อนข้างเป็นซอยเล็กๆเปลี่ยวๆไม่มีรถผ่านเลยค่ะ
แต่เราชินแล้วเพราะมาบ่อย ขาไปก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นค่ะ ทุกอย่างเรีบยร้อยปกติสุขดี เราซื้อสเลอปี้มาแก้วนึง พอกรุบกริบ
แต่พอขากลับ ประสบการ์ณช้างเ-็ดก็เกิดขึ้น.
ข้างทางทางไปบ้านพี่สาวจะมีที่ดินว่างเล็กๆอยู่ที่นึง แต่แถวนั้นชาวบ้านจะชอบเอาขยะมาทิ้ง แล้วข้างหน้าที่ดินก็มีถังขยะเต็มไปหมด
ตอนแรกเรามองผ่านๆไม่ได้สนใจ แต่มีบางอย่างที่ทำให้ต้องหันกลับไปมองอย่างรวดเร็วปานสายฟ้าแลบตรงกองขยะตรงนั้น
เราเห็นผู้หญิงคนนึง ใส่ชุดกระโปรง นั่งยองๆโยกตัวไปมาอยู่ข้างๆถังขยะที่อยู่ไม่ไกลไปจากรถพี่สาว
แวบแรกเราคิดว่าเป็นคนบ้าจริงๆค่ะ แต่พอคิดเท่านั้นแหละ ผู้หญิงคนนั้นเงยหน้าขึ้นมามองเราทันที
แล้วเขาก็ลุกขึ้นมาแล้ววิ่งแบบ...วิ่งสับขาฉับๆมาที่เรา คือบอกเลยว่าท่าวิ่งยิ่งกว่านักวิ่งสี่คูณร้อยในโอลิมปิกอีกค่ะ
คือนางวิ่งเต็มสปีดมาที่เราเลยค่ะ ตอนนั้นพี่ขับอยู่ประมาณ 40กม./ชม. แต่นางวิ่งฉับเดียวมาถึงตามรถเรามาติดๆ แล้วคือหน้าแทบจะชนกับเราอยู่แล้วเพราะเรานั่งแบบหันข้าง นางวิ่งมาเฉยๆ หน้านางไม่มีเลือด ไม่ได้เละ ไม่ได้ซีดนะคะ
แต่นางแค่ไม่มีตาขาวแค่นั้นแหละ (แค่?)
ตอนนั้นเราตกใจมากรีบตีหลังพี่ว่าให้ขับเร็วๆ พูดไม่เป็นภาษาเลยค่ะ ตอนนั้นยังเด็กน้อยนัก
พูดได้แต่ "พี่ๆๆๆ...ขับๆๆๆ ผีๆๆๆ" ตอนนั้นกลัวจริงจังแทบจะเป็นลมตกรถ
พี่เรานางก็รีบเร่งเครื่องขับให้ถึงนางจะไม่รู้เรื่องก็เถอะ เพราะนางได้แต่ถามว่า "อะไรๆๆ"
ตอนนั้นเพิ่งถึงประมาณครึ่งทาง เราตัดสินใจเอาหน้าซุกไปที่หลังพี่ ไม่อยากจะรับรู้อะไรนอกจากกลิ่นสบู่ของพี่สาว
ส่วนสเลอปี้ที่ซื้อมาเมื่อกี้หายไปไหนแล้วไม่รู้ น่าจะหลงปาทิ้งตั้งแต่นางพุ่งมาใส่
เราหลับตาปี๋ ได้ยินแต่เสียงฝีเท้าวิ่งไล่ตามมาติดๆ อยากบอกนางว่าเหนื่อยก็พักบ้างนะ แต่คือพูดไม่ออก
คราวนี้พอถึงซอยเข้าบ้านพี่สาว พี่สาวก็เลี้ยวเข้า เราได้ยินเสียงฝีเท้าหยุดลงเลยตัดสินใจเงยหน้าหันหลังไปมอง ก็ไม่เห็นอะไรแล้ว
โคตรโล่งใจ จะเห็นกลับมองพี่สาว ตอนนั้นแหละค่ะคุณผู้ชม.
หน้าผู้หญิงคนนั้นกำลังเอาคางเกยไหล่พี่สาวเราอยู่ แล้วจ้องมาที่เรา
นางยิ้มอ่อนเบาๆที่เราตกใจจนแทบสิ้นสติ ถ้านางขี้เล่นกว่านี้หน่อยนางคงจะบอกเราว่า "Surprise Motherf*cker"
เรากรี๊ดอย่างรุนแรงดังประมาณรถบรรทุก 30 คันบีบแตรพร้อมกัน พี่สาวเราก็เอาแต่ถามว่า อะไรๆๆ
คือถ้าเราจะบอกว่า 'ผีเอาคางเกยไหล่พี่อยู่' เราคงกลายเป็นผีเช่นกัน เราเลยรีบหลับตาปี๋ แล้วบอกพี่สาวแค่ รีบกลับบ้านๆๆๆๆ
พอถึงบ้าน พี่สาวจอดรถแล้วหันมาดูเรา เราก็ค่อยๆลืมตาขึ้น มองไปรอบๆเขาไม่อยู่แล้ว เราเลยรีบวิ่งเข้าบ้าน เล่าให้พี่สาวฟัง
นางก็บอกนางไม่เห็นอะไรเลย (ถ้านางเห็นคงกลับไม่ถึงบ้าน)
ตอนเช้าเราก็เล่าเรื่องนี้ให้น้าเจ้าของบ้านฟัง น้าแกบอกว่า ที่ดินตรงนั้นเป็นที่ดินร้าง แล้วมีคนบ้าคนนึงใช้ตรงนี้เป็นที่นอน เอาของที่คนทิ้งขยะไว้มากิน
พอแกตาย แกก็ตายอยู่ตรงนั้น ไม่มีคนมาสนใจหรือมาทำบุญให้ พอเห็นคนผ่านไปมาตอนดึกแล้วเห็นว่าเราเห็นแก ก็เลยน่าจะอยากเรียกร้องความสนใจ
....เรานี่คิดในใจ ถ้าอยากให้สนใจทีหลังโบกมือให้เบาๆก็พอค่ะ....
ตอนนี้ผ่านไป 6 ปีที่ดินตรงนั้นกลายเป็นร้านก๋วยเตี๋ยวไปแล้ว ผ่านไปเห็นร้านนั้นทีไรเรานี่อยากจะยิ้มอ่อนให้ลูกค้า
"ขอให้ทานให้อร่อยนะคะ" เรายังไม่ได้ไปกินร้านนั้นจนถึงตอนนี้ แล้วคิดว่าชาตินี้คงจะไม่ไปกิน 5555
เรื่องแรกก็เป็นฉะนี้แล เราเคยเจอมาทั้งหมด 4 ครั้ง
ครั้งต่อไปเป็นเรื่องของตำนานในรร.ชื่อดังของจังหวัดอุบล (เอาซะเดากันไม่ถูกเลย 55555)
เดี๋ยวกลับมาเล่าใหม่ค่ะ พอดีเพื่อนอยากอ่านแล้ว 555555
เปิดโต๊ะ เล่าเรื่องผีที่เคยเจอมากับตัวเองทั้งชีวิต
ก่อนอื่นต้องบอกเลยว่าเราไม่ไดมีเซ็นท์แล้วก็ไม่ได้เจอแบบน่ากลัวขนาดนั้น
แต่ว่าวันนี้กลับไปคิดถึงเรื่องที่เคยเจอมาก็อยากจะเอามาเล่าให้ทุกคนฟังค่ะ
เพราะบางครั้งที่ไปเจอก็เป็นตำนานโรงเรียน บางครั้งที่ไปเจอก็เป็นเรื่องเล่าในจังหวัด
ตอนนี้เราต้องไปจากจังหวัดที่เราอยู่แล้วในอีกไม่กี่วัน จู่ๆก็คิดถึงเรื่องพวกนี้มาซะงั้น 55555
ครั้งที่1
ตอนนี้เราถือว่าเป็นครั้งที่เห็นจังๆและน่ากลัวที่สุดที่เคยเจอมาค่ะเป็นตอนที่เราอยู่ม.1ค่ะ วันนั้นไปนอนบ้านพี่สาว เพราะพ่อแม่ไม่อยู่บ้าน
พี่สาวเราอายุประมาณ 20 กว่าๆ ตอนนั้นประมาณ 5 ทุ่ม เราก็ยังไม่นอนค่ะ จู่ๆพี่สาวก็มาสะกิดแล้วบอกว่าหิว ไปเซเว่นเป็นเพื่อนหน่อย
เราก็เออออกับเขา ไปก็ไปดิ อยากกินขนมเหมือนกัน เราเลยนั่งมอไซต์ซ้อนไปกับนางทั้งชุดนอนนั่นแหละค่ะ
เซเว่นกับบ้านพี่สาวไม่ไกลกันมาก แค่ 10 นาทีก็ถึง แต่ระหว่างทางตอนนั้นค่อนข้างเป็นซอยเล็กๆเปลี่ยวๆไม่มีรถผ่านเลยค่ะ
แต่เราชินแล้วเพราะมาบ่อย ขาไปก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นค่ะ ทุกอย่างเรีบยร้อยปกติสุขดี เราซื้อสเลอปี้มาแก้วนึง พอกรุบกริบ
แต่พอขากลับ ประสบการ์ณช้างเ-็ดก็เกิดขึ้น.
ข้างทางทางไปบ้านพี่สาวจะมีที่ดินว่างเล็กๆอยู่ที่นึง แต่แถวนั้นชาวบ้านจะชอบเอาขยะมาทิ้ง แล้วข้างหน้าที่ดินก็มีถังขยะเต็มไปหมด
ตอนแรกเรามองผ่านๆไม่ได้สนใจ แต่มีบางอย่างที่ทำให้ต้องหันกลับไปมองอย่างรวดเร็วปานสายฟ้าแลบตรงกองขยะตรงนั้น
เราเห็นผู้หญิงคนนึง ใส่ชุดกระโปรง นั่งยองๆโยกตัวไปมาอยู่ข้างๆถังขยะที่อยู่ไม่ไกลไปจากรถพี่สาว
แวบแรกเราคิดว่าเป็นคนบ้าจริงๆค่ะ แต่พอคิดเท่านั้นแหละ ผู้หญิงคนนั้นเงยหน้าขึ้นมามองเราทันที
แล้วเขาก็ลุกขึ้นมาแล้ววิ่งแบบ...วิ่งสับขาฉับๆมาที่เรา คือบอกเลยว่าท่าวิ่งยิ่งกว่านักวิ่งสี่คูณร้อยในโอลิมปิกอีกค่ะ
คือนางวิ่งเต็มสปีดมาที่เราเลยค่ะ ตอนนั้นพี่ขับอยู่ประมาณ 40กม./ชม. แต่นางวิ่งฉับเดียวมาถึงตามรถเรามาติดๆ แล้วคือหน้าแทบจะชนกับเราอยู่แล้วเพราะเรานั่งแบบหันข้าง นางวิ่งมาเฉยๆ หน้านางไม่มีเลือด ไม่ได้เละ ไม่ได้ซีดนะคะ
แต่นางแค่ไม่มีตาขาวแค่นั้นแหละ (แค่?)
ตอนนั้นเราตกใจมากรีบตีหลังพี่ว่าให้ขับเร็วๆ พูดไม่เป็นภาษาเลยค่ะ ตอนนั้นยังเด็กน้อยนัก
พูดได้แต่ "พี่ๆๆๆ...ขับๆๆๆ ผีๆๆๆ" ตอนนั้นกลัวจริงจังแทบจะเป็นลมตกรถ
พี่เรานางก็รีบเร่งเครื่องขับให้ถึงนางจะไม่รู้เรื่องก็เถอะ เพราะนางได้แต่ถามว่า "อะไรๆๆ"
ตอนนั้นเพิ่งถึงประมาณครึ่งทาง เราตัดสินใจเอาหน้าซุกไปที่หลังพี่ ไม่อยากจะรับรู้อะไรนอกจากกลิ่นสบู่ของพี่สาว
ส่วนสเลอปี้ที่ซื้อมาเมื่อกี้หายไปไหนแล้วไม่รู้ น่าจะหลงปาทิ้งตั้งแต่นางพุ่งมาใส่
เราหลับตาปี๋ ได้ยินแต่เสียงฝีเท้าวิ่งไล่ตามมาติดๆ อยากบอกนางว่าเหนื่อยก็พักบ้างนะ แต่คือพูดไม่ออก
คราวนี้พอถึงซอยเข้าบ้านพี่สาว พี่สาวก็เลี้ยวเข้า เราได้ยินเสียงฝีเท้าหยุดลงเลยตัดสินใจเงยหน้าหันหลังไปมอง ก็ไม่เห็นอะไรแล้ว
โคตรโล่งใจ จะเห็นกลับมองพี่สาว ตอนนั้นแหละค่ะคุณผู้ชม.
หน้าผู้หญิงคนนั้นกำลังเอาคางเกยไหล่พี่สาวเราอยู่ แล้วจ้องมาที่เรา
นางยิ้มอ่อนเบาๆที่เราตกใจจนแทบสิ้นสติ ถ้านางขี้เล่นกว่านี้หน่อยนางคงจะบอกเราว่า "Surprise Motherf*cker"
เรากรี๊ดอย่างรุนแรงดังประมาณรถบรรทุก 30 คันบีบแตรพร้อมกัน พี่สาวเราก็เอาแต่ถามว่า อะไรๆๆ
คือถ้าเราจะบอกว่า 'ผีเอาคางเกยไหล่พี่อยู่' เราคงกลายเป็นผีเช่นกัน เราเลยรีบหลับตาปี๋ แล้วบอกพี่สาวแค่ รีบกลับบ้านๆๆๆๆ
พอถึงบ้าน พี่สาวจอดรถแล้วหันมาดูเรา เราก็ค่อยๆลืมตาขึ้น มองไปรอบๆเขาไม่อยู่แล้ว เราเลยรีบวิ่งเข้าบ้าน เล่าให้พี่สาวฟัง
นางก็บอกนางไม่เห็นอะไรเลย (ถ้านางเห็นคงกลับไม่ถึงบ้าน)
ตอนเช้าเราก็เล่าเรื่องนี้ให้น้าเจ้าของบ้านฟัง น้าแกบอกว่า ที่ดินตรงนั้นเป็นที่ดินร้าง แล้วมีคนบ้าคนนึงใช้ตรงนี้เป็นที่นอน เอาของที่คนทิ้งขยะไว้มากิน
พอแกตาย แกก็ตายอยู่ตรงนั้น ไม่มีคนมาสนใจหรือมาทำบุญให้ พอเห็นคนผ่านไปมาตอนดึกแล้วเห็นว่าเราเห็นแก ก็เลยน่าจะอยากเรียกร้องความสนใจ
....เรานี่คิดในใจ ถ้าอยากให้สนใจทีหลังโบกมือให้เบาๆก็พอค่ะ....
ตอนนี้ผ่านไป 6 ปีที่ดินตรงนั้นกลายเป็นร้านก๋วยเตี๋ยวไปแล้ว ผ่านไปเห็นร้านนั้นทีไรเรานี่อยากจะยิ้มอ่อนให้ลูกค้า
"ขอให้ทานให้อร่อยนะคะ" เรายังไม่ได้ไปกินร้านนั้นจนถึงตอนนี้ แล้วคิดว่าชาตินี้คงจะไม่ไปกิน 5555
เรื่องแรกก็เป็นฉะนี้แล เราเคยเจอมาทั้งหมด 4 ครั้ง
ครั้งต่อไปเป็นเรื่องของตำนานในรร.ชื่อดังของจังหวัดอุบล (เอาซะเดากันไม่ถูกเลย 55555)
เดี๋ยวกลับมาเล่าใหม่ค่ะ พอดีเพื่อนอยากอ่านแล้ว 555555