สวัสดีคร๊าบบบบ ท่านผู้อ่านพันทิพย์และเพื่อนๆคนอื่นๆ กระทู้นี้เป็นกระทู้เขียนรีวิวครั้งแรก อาจจะมีการใช้ภาษา
คำพูดที่ดูติดๆขัดๆ หรือการใช้ภาษาเพื่อจะสื่อถึงอารมณ์บ้างในบางกรณี ถ้าไม่เหมาะสมหรือผิดพลาดประการใด
ก็ต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะครับ


โดยส่วนตัวเป็นคนที่บรรยายอะไรไม่ค่อยเก่ง จะว่ากระทู้นี้เป็นกระทู้รีวิวก็คงไม่ 100% เพราะข้อมูลก็ไม่ได้แน่นพอ
แต่จะเขียนกระทู้ไปในแนวของการบอกต่อ เล่าประสบการณ์ประทับใจ สนุกแบบฮาๆ ลุ้นๆ ละกันครับ
รูปภาพที่ใช้ประกอบ อาจจะไม่มากพอ เพราะมัวแต่ตื่นเต้นกับสมุยครั้งแรก เลยถ่ายแต่ภาพแนว Portait ซะส่วนใหญ่
ทริปนี้เริ่มจากการที่คุยๆกับเพื่อนว่า อยากไปเที่ยวกับเพื่อนมหาลัยสักครั้งนึง (ปกติเที่ยวกับเพื่อนสมัยมัธยมมาตลอด)
แล้วทีนี้ นัดกันไม่เคยลงตัว จะต้องมีคนใดคนหนึ่งติดภารกิจ หรือไม่ก็มีเหตุจำเป็นทำให้ทริปล่มไป
จากที่นอยด์ๆมาเป็นปี จึงรื้อฟื้นโครงการที่ต้องการจะไปเที่ยวมาใหม่ โดยเงื่อนไขมีอยู่ว่า ต้องเป็นสถานที่
ที่คนส่วนมาก(ในกลุ่ม)ไม่เคยไป และประหยัดงบ สบายกระเป๋า แต่ให้ได้ความคุ้มค่ามากที่สุด เหมาะเจาะพอดีกับ
เพื่อนคนหนึ่งมีบ้านอยู่ที่สมุย และค่อนข้างได้รับสิทธิพิเศษต่างๆมากมาย จึงตกลงจะไปที่นี้
วางแผนนานไหม ? : คุยกันตกลงสถานที่เสร็จ จองตั๋วสามวันถัดมาเลยจ้า ไม่ได้วางแผนเลยว่าจะไปที่ไหนยังไง
รู้แค่ว่า ต้องไปสมุยให้ได้ พวกเราต้องไปให้ได้ หลังจากจองตั๋ว ถึงมีการวางแผนทริป ว่าจะไปที่ไหน ก่อน- หลัง
ค่าใช้จ่ายได้เท่าไหร่หลังจากหักส่วนลดนู้นนี่นั่น ค่ากิน ค่าเดินทาง ตอนแรกๆก็มีปัญหากัน
(ส่วนมากเป็นเราที่เป็นตัวปัญหา 55555)
ทริปนี้สรุปมีผู้ร่วมชะตากรรมทั้งสิ้น 7 คนรวมเราชะนี้ล้วนๆ
มีเราเป็นผู้ชายที่ไม่แมนทั้งแท่ง ติดสอยห้อยตามไปหนึ่งคน

เราไปช่วงวันที่ 10-12 ก.ค. โดยสายการบิน Thai Lion Air
วันที่ 10 ก.ค.
เราออกเดินทางจากหอย่าน ม.รังสิต เวลา 6.30AM ไปยังสนามบินดอนเมืองใช้เวลาเดินทางไม่ถึง 1 ชั่วโมง
เมื่อถึงสนามบิน เนื่องจากเราทำการ Check In Online และเลือกที่นั่งไว้ก่อนวันเดินทางแล้ว
จึงแค่ไปขอ Re-Print Boarding Pass และ โหลดกระเป๋ากับทางสายการบิน
(ตอนนี้ Thai Lion Air โหลดกระเป๋าฟรี 15กก. และเลือกที่นั่งฟรีอยู่นะจ๊ะ ใครสนใจก็รีบๆกันละ)
สัมภาระของเราพวกเรา 7 ชีวิตบางส่วนวันนี้นะฮ้ะ แบกบ้านได้แบก แบกรถได้ก็จะแบก !
ระหว่างรอโหลดกระเป๋าคนก็แน่น เลยขอถ่ายรูปซักแชะสองแชะ
Boarding Pass ไม่ได้ถ่ายเดี๋ยวนั้น พึ่งถ่ายเมื่อกี้สดๆเลยนึกเสียดายทำไมตอนนั้นไม่ถ่ายนะ
ขาไปเราจองไฟท์ 08.55 เวลาเรียกบอร์ด 08.25
พอจัดการโหลดกระเป๋าเสร็จมีเวลาเหลือเกือบๆ 30 นาที เราก็ตรงดิ่งเข้าไปหาอะไรกินใน Gate รอเรียก
พอ 8.30 เราก็ขึ้นเครื่อง คนยังคงเต็มลำเหมือนเดิม
ก่อนเครื่องจะออก ก็ขออีกซักแชะ รูปนี้ขอเซนเซอร์เถอะ ไม่ไหวจริงๆ 55555
ไฟท์ขาไปตรงเวลาดี พอถึงเวลาเครื่องก็ออก
กำลัง Taxi ไปยัง RW21R รู้สึกวันนี้ถ้าจำไม่ผิดจะ Take Off ขึ้นจาก Runway ดังกล่าว
หลังจากเครื่องไต่ระดับจนสัญญาณรัดเข็มขัดดับลง ก็ได้เวลาถ่ายรูปกันรัวๆ
ท้องฟ้าวันนี้เป็นใจ เหมือนจะรู้ว่าเราจะไปเยือนสมุย หลังจากถ่ายรูปกันหนำใจก็ถึงเวลาพักผ่อน
หลับกันยาว Zzzz

ปล.ขัดใจ กระจกขุ่นมาก ไฟท์ขาไปถ่ายรูปท้องฟ้ายังไงก็ไม่สวย !
ตื่นขึ้นมาอีกที กัปตันประกาศเครื่องจะลงแล้ว เห้ยย ทำไมมันเร็วแบบนี้ ใช้เวลาไม่ถึงชั่วโมง
เครื่องก็เตรียม Landing ที่สนามบินนานาชาติสุราษฏร์ธานี
หลังจากเครื่องลงก็ขอเก็บภาพไว้ซักหน่อย
Mission Complete แล้วเว้ยยยย !! (ยัง !! พึ่งจะถึงสุราษฏร์เอง เอ็งต้องต่อรถไปอีกนะเว่ย)
หลังจากลงจากเครื่องเสร็จก็ไปรับกระเป๋า พอรับกระเป๋าเสร็จครบทุกคน
ความนอยด์ ความซวยที่หนึ่งมาเยือนจ้า ห ห ห เห้ยยยยกระเป๋าเพื่อนซิบแตกหว่ะ
สงสัยน่าจะเกิดจากการโยนตอนโหลดกระเป๋าแหละ (เป็นกระเป๋าสะพายหลัง)
แว่น Rayban หายไป 1 อัน ตอนแรกไม่ได้ตรวจสอบอะไร มารื้อๆของในรถ ถึงรู้ว่า Rayban หาย
เพื่อนเลยเดินกลับไปดูจุดที่รับกระเป๋ากันสองคน เผือหล่นอยู่ในสนามบิน
สรุป มันหายไปอย่างไร้ร่องรอยจ้า

ทำให้การเดินทางจากสนามบินฯไปยังท่าเรือล่าช้า กว่าจะออกจากสนามบินก็เกือบๆ 11.00
ท่าเรือที่เราจะข้ามไปสมุยนั้น คือท่าเรือดอนสัก
การเดินทางจากสนามบินสุราษฏร์ฯไปยังท่าเรือนั้น เราใช้วิธีการเหมารถตู้ ติดต่อได้จากทั้งในสนามบิน
หรือติดต่อจาก Internet จากคนท้องถิ่น ส่วนเราให้เพื่อนติดต่อจากคนท้องถิ่นได้ในราคา 1750 บาท
เป็นราคาปกติ(มั้ง)(อันนี้เป็นราคาที่เราจ่ายกันจริงๆ และพอดีไปเห็นราคานี้ที่ท่าเรือก่อนข้ามไปสมุยด้วย)
ใช้เวลาเดินทางจากสนามบินฯไปยังท่าเรือดอนสักประมาณ 1 ชั่วโมง แล้วแต่เท้าคนขับรถ
ของเราจำไม่ได้ว่าขึ้นเรือรอบไหน ถ้าจำไม่ผิดน่าจะรอบ 12.00 ดูจากเวลาถ่ายภาพบนเรือในกล้องมาอีกที
เราใช้บริการเรือจากบริษัทซีทรานเฟอร์รี่นะครับบบ
หลังจากขึ้นเรือมาแล้ว ก็รอเวลาเรือออก
บรรยากาศบนเรือก่อนเรือออก
หลังจากรอเวลาไม่นาน เรือก็ออกจากท่าเรือดอนสัก วันนี้ลมไม่ค่อยแรง คลื่นเลยไม่ค่อยมี
(เพื่อนบอกมา)
หลังเรือออกไม่นาน เพื่อนก็ขอผันตัวมาเป็นนางแบบให้ลองกล้อง ถ่ายภาพเก็บไปเรื่อยๆ
หลังจากเก็บภาพกันเรียบร้อยก็ถึงเวลาพักผ่อนกันตามอัธยาศัย
เนื่องจากเราต้องอยู่บนเรือนี้ไปอีก 1 ชั่วโมง 30 นาทีเต็มๆ (นั่งกว่านานเครื่องจากกรุงเทพมาสุราษฏร์อีก)
บนเรือจะมีข้าวกล่องขาย ข้าวหมูกระเทียม ข้าวคลุกกระปิ แต่รสชาติก็อย่าไปคาดหวังอะไร
ถ้าอยากถูกปากทุกที่ทุกเวลาก็มาม่า บนเรือก็มีขาย กดน้ำร้อนเอาตามสะดวก ส่วนน้ำก็มีทั้งน้ำเปล่า
น้ำอัดลม เครื่องดื่มนานาชนิด ขนมคบเคี้ยว พอประทังชีวิตอยู่ได้กับเวลา 1.30 ชั่วโมง ไม่อดอยากปากแห้งแน่นอน
ส่วนเรื่องราคาสำหรับเรายังรับได้อยู่ ยกเว้นไส้กรอกกับขนมจีบ - - แพงกว่าเซเว่นอีกอะ รสชาติก็ห่วยกว่า
หลังจากพักผ่อนนอนหลับไปงีบนึง ก็ใกล้ถึงท่าเรือหน้าทอนกันแล้ว ก็เลยตื่นขึ้นมาถ่ายรูปกันอีกซักเซ็ทหนึ่ง
ประเดิมรูปด้วยสามเสือสาว
สองคนบ้าง
ภาพเซ็ทต่อไปเลือกไม่ถูก ลงหมดเลยละกัน
หลังจากเรือเทียบท่าเรียบร้อย ก็มีคนมารอรับเรา โดยคุณตาของเพื่อนเราส่งคนมารับถึงท่าเรือนั่นเอง
(ขอกราบงามๆเอาไว้ ณ ทีนี้ด้วยคร๊าบบบบ

) หลังจากขนของขึ้นรถ พวกเราก็ออกเดินทางไปยัง
บ้านของคุณตาเพื่อน และก็ไปกราบสวัสดี แล้วก็ทะยอยไปเยี่ยมพ่อแม่และญาติๆของเพื่อนตามลำดับ
(ภาพส่วนนี้ไม่ขอเอาลง เพราะกลัวว่าจะโดนติเตียนเรื่องสถานที่ของเจ้าของสถานที่)
หลังจากทำการเยี่ยมบ้านเพื่อนเรียบร้อย เราก็พร้อมลุย
ขอ Selfie ซักรูป
การเดินทางนั้นเราได้รับอภินันทนาการ (ใช้คำนี้ถูกไหมนะ) จากคุณตาเพื่อน ให้ยืม Toyota Fortuner
พร้อมน้ำมันเต็มถัง ให้ยืมใช้ขับเที่ยวรอบเกาะ ระหว่างวันที่เรามาพัก
ในจุดนี้ ถ้ามากันไม่เกิน 5 คน จะเช่ารถเก๋งหรือรถมอไซต์ซัก 3 คันก็ได้ แล้วแต่งบประมาณของเรา จุดนี้
เราถือว่าเราประหยัดเงินไปได้อีกมาก ถ้าเช่ารถเก๋งก็สามารถหาเช่าได้ตามสนามบินกับเอเจนฯหรือกับท้องถิ่นก็ได้
เราเคยหาข้อมูลเหมือนของท้องถิ่นจะราคาถูกกว่า แต่ต้องถามเงื่อนไขว่าใช้เงินมัดจำเท่าไหร่ อายุผู้ขับเท่าไหร่
เพราะถ้าเป็นบริษัทรับเช่ารถส่วนมากจะกำหนดอายุคนขับไว้ 20+
(ตอนเรามากังวลเรื่องรถเหมือนกัน แต่พอมีแบบนี้ก็หมดกังวลไปได้) ของเรามา 7 คนใช้ Fortuner 1 คัน
ถือว่าตอบโจทย์ได้ตรงทีเดียว
ขอเพิ่มเติมในส่วนเช่ารถตรงนี้อีกนิด ถ้าคิดจะเช่ารถเราว่าเช่าจากสนามบินสุราษฏร์มาเลยดีกว่า แล้วขับข้ามเกาะ
(ไม่รู้ว่าบริษัทเช่ารถจะยอมให้ทำแบบนั้นไหมนะ) ค่าใช้จ่ายในการเช่ารถเก๋งราคาพอๆกับเหมารถตู้จากสนามบินมาท่าเรือ
แต่ถ้าเราเช่ารถเราจะได้รถไว้ใช้บนเกาะด้วย 1 วัน ค่าข้ามเรือตกคันละ 420/เที่ยว รวมคนขับ (ดูจากหน้าเว็บของซีทราน)
การขับรถบนสมุยนั้น เพื่อนเราบอกไม่ยาก ถนนมันเป็นวงกลม วิ่งเส้นนอกจะเป็นถนนรอบเกาะ วิ่งยังไงมันก็วนมาที่เดิม
แต่รถที่นี่ค่อนข้างขับกันเร็ว ใครไม่คุ้นเส้นทางก็ควรหลีกทางให้เจ้าถิ่นเขาหน่อย
พอถึงจุดแวะจุดแรกเพื่อนก็แอบโชว์สวีทใส่กัน เรามันโสดมาคนเดียวก็มีมองค้อน
จุดแรกหลังออกจากบ้านเรามาแวะกันที่ (ดูตามภาพเอาละกัน เราไม่แน่ใจว่าชื่ออะไร ลืม)
หลังจากเราแวะถ่ายรูปกันที่จุดดังกล่าว เราก็เดินทางกันต่อ ไปยังเฉวง ซึ่งคือที่พักของเรา
ที่พักของเรานั้นก็ได้อภินันทนาการ (อีกแล้ว) จากคุณลุงของเพื่อน โดยเราจะพักกันที่
The Ville By Samui Development เป็นบ้านของลุงเพื่อนเรานะฮ้าฟฟฟฟ ขอบพระคุณมากๆคร๊าบ
หลังจากขนของเก็บของกันเรียบร้อย พ่อเพื่อนโทรมาถามว่า สนใจขี่เจ็ทสกีไหม เดี๋ยวพาไป
มีหรอจะพลาด เราก็เซย์เยสกันเลย เลยรีบกันบึ่งรถไปยังหาดเฉวง
[CR] {For The First Time : My Samui Lover} สมุยครั้งแรกและจะมีครั้งต่อๆไป
สวัสดีคร๊าบบบบ ท่านผู้อ่านพันทิพย์และเพื่อนๆคนอื่นๆ กระทู้นี้เป็นกระทู้เขียนรีวิวครั้งแรก อาจจะมีการใช้ภาษา
คำพูดที่ดูติดๆขัดๆ หรือการใช้ภาษาเพื่อจะสื่อถึงอารมณ์บ้างในบางกรณี ถ้าไม่เหมาะสมหรือผิดพลาดประการใด
ก็ต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะครับ
โดยส่วนตัวเป็นคนที่บรรยายอะไรไม่ค่อยเก่ง จะว่ากระทู้นี้เป็นกระทู้รีวิวก็คงไม่ 100% เพราะข้อมูลก็ไม่ได้แน่นพอ
แต่จะเขียนกระทู้ไปในแนวของการบอกต่อ เล่าประสบการณ์ประทับใจ สนุกแบบฮาๆ ลุ้นๆ ละกันครับ
รูปภาพที่ใช้ประกอบ อาจจะไม่มากพอ เพราะมัวแต่ตื่นเต้นกับสมุยครั้งแรก เลยถ่ายแต่ภาพแนว Portait ซะส่วนใหญ่
ทริปนี้เริ่มจากการที่คุยๆกับเพื่อนว่า อยากไปเที่ยวกับเพื่อนมหาลัยสักครั้งนึง (ปกติเที่ยวกับเพื่อนสมัยมัธยมมาตลอด)
แล้วทีนี้ นัดกันไม่เคยลงตัว จะต้องมีคนใดคนหนึ่งติดภารกิจ หรือไม่ก็มีเหตุจำเป็นทำให้ทริปล่มไป
จากที่นอยด์ๆมาเป็นปี จึงรื้อฟื้นโครงการที่ต้องการจะไปเที่ยวมาใหม่ โดยเงื่อนไขมีอยู่ว่า ต้องเป็นสถานที่
ที่คนส่วนมาก(ในกลุ่ม)ไม่เคยไป และประหยัดงบ สบายกระเป๋า แต่ให้ได้ความคุ้มค่ามากที่สุด เหมาะเจาะพอดีกับ
เพื่อนคนหนึ่งมีบ้านอยู่ที่สมุย และค่อนข้างได้รับสิทธิพิเศษต่างๆมากมาย จึงตกลงจะไปที่นี้
วางแผนนานไหม ? : คุยกันตกลงสถานที่เสร็จ จองตั๋วสามวันถัดมาเลยจ้า ไม่ได้วางแผนเลยว่าจะไปที่ไหนยังไง
รู้แค่ว่า ต้องไปสมุยให้ได้ พวกเราต้องไปให้ได้ หลังจากจองตั๋ว ถึงมีการวางแผนทริป ว่าจะไปที่ไหน ก่อน- หลัง
ค่าใช้จ่ายได้เท่าไหร่หลังจากหักส่วนลดนู้นนี่นั่น ค่ากิน ค่าเดินทาง ตอนแรกๆก็มีปัญหากัน
(ส่วนมากเป็นเราที่เป็นตัวปัญหา 55555)
ทริปนี้สรุปมีผู้ร่วมชะตากรรมทั้งสิ้น 7 คนรวมเราชะนี้ล้วนๆ
มีเราเป็นผู้ชายที่ไม่แมนทั้งแท่ง ติดสอยห้อยตามไปหนึ่งคน
เราไปช่วงวันที่ 10-12 ก.ค. โดยสายการบิน Thai Lion Air
เราออกเดินทางจากหอย่าน ม.รังสิต เวลา 6.30AM ไปยังสนามบินดอนเมืองใช้เวลาเดินทางไม่ถึง 1 ชั่วโมง
เมื่อถึงสนามบิน เนื่องจากเราทำการ Check In Online และเลือกที่นั่งไว้ก่อนวันเดินทางแล้ว
จึงแค่ไปขอ Re-Print Boarding Pass และ โหลดกระเป๋ากับทางสายการบิน
(ตอนนี้ Thai Lion Air โหลดกระเป๋าฟรี 15กก. และเลือกที่นั่งฟรีอยู่นะจ๊ะ ใครสนใจก็รีบๆกันละ)
สัมภาระของเราพวกเรา 7 ชีวิตบางส่วนวันนี้นะฮ้ะ แบกบ้านได้แบก แบกรถได้ก็จะแบก !
ระหว่างรอโหลดกระเป๋าคนก็แน่น เลยขอถ่ายรูปซักแชะสองแชะ
Boarding Pass ไม่ได้ถ่ายเดี๋ยวนั้น พึ่งถ่ายเมื่อกี้สดๆเลยนึกเสียดายทำไมตอนนั้นไม่ถ่ายนะ
ขาไปเราจองไฟท์ 08.55 เวลาเรียกบอร์ด 08.25
พอจัดการโหลดกระเป๋าเสร็จมีเวลาเหลือเกือบๆ 30 นาที เราก็ตรงดิ่งเข้าไปหาอะไรกินใน Gate รอเรียก
พอ 8.30 เราก็ขึ้นเครื่อง คนยังคงเต็มลำเหมือนเดิม
ก่อนเครื่องจะออก ก็ขออีกซักแชะ รูปนี้ขอเซนเซอร์เถอะ ไม่ไหวจริงๆ 55555
ไฟท์ขาไปตรงเวลาดี พอถึงเวลาเครื่องก็ออก
กำลัง Taxi ไปยัง RW21R รู้สึกวันนี้ถ้าจำไม่ผิดจะ Take Off ขึ้นจาก Runway ดังกล่าว
หลังจากเครื่องไต่ระดับจนสัญญาณรัดเข็มขัดดับลง ก็ได้เวลาถ่ายรูปกันรัวๆ
ท้องฟ้าวันนี้เป็นใจ เหมือนจะรู้ว่าเราจะไปเยือนสมุย หลังจากถ่ายรูปกันหนำใจก็ถึงเวลาพักผ่อน
หลับกันยาว Zzzz
ตื่นขึ้นมาอีกที กัปตันประกาศเครื่องจะลงแล้ว เห้ยย ทำไมมันเร็วแบบนี้ ใช้เวลาไม่ถึงชั่วโมง
เครื่องก็เตรียม Landing ที่สนามบินนานาชาติสุราษฏร์ธานี
หลังจากเครื่องลงก็ขอเก็บภาพไว้ซักหน่อย
Mission Complete แล้วเว้ยยยย !! (ยัง !! พึ่งจะถึงสุราษฏร์เอง เอ็งต้องต่อรถไปอีกนะเว่ย)
หลังจากลงจากเครื่องเสร็จก็ไปรับกระเป๋า พอรับกระเป๋าเสร็จครบทุกคน
ความนอยด์ ความซวยที่หนึ่งมาเยือนจ้า ห ห ห เห้ยยยยกระเป๋าเพื่อนซิบแตกหว่ะ
สงสัยน่าจะเกิดจากการโยนตอนโหลดกระเป๋าแหละ (เป็นกระเป๋าสะพายหลัง)
แว่น Rayban หายไป 1 อัน ตอนแรกไม่ได้ตรวจสอบอะไร มารื้อๆของในรถ ถึงรู้ว่า Rayban หาย
เพื่อนเลยเดินกลับไปดูจุดที่รับกระเป๋ากันสองคน เผือหล่นอยู่ในสนามบิน
สรุป มันหายไปอย่างไร้ร่องรอยจ้า
ทำให้การเดินทางจากสนามบินฯไปยังท่าเรือล่าช้า กว่าจะออกจากสนามบินก็เกือบๆ 11.00
ท่าเรือที่เราจะข้ามไปสมุยนั้น คือท่าเรือดอนสัก
การเดินทางจากสนามบินสุราษฏร์ฯไปยังท่าเรือนั้น เราใช้วิธีการเหมารถตู้ ติดต่อได้จากทั้งในสนามบิน
หรือติดต่อจาก Internet จากคนท้องถิ่น ส่วนเราให้เพื่อนติดต่อจากคนท้องถิ่นได้ในราคา 1750 บาท
เป็นราคาปกติ(มั้ง)(อันนี้เป็นราคาที่เราจ่ายกันจริงๆ และพอดีไปเห็นราคานี้ที่ท่าเรือก่อนข้ามไปสมุยด้วย)
ใช้เวลาเดินทางจากสนามบินฯไปยังท่าเรือดอนสักประมาณ 1 ชั่วโมง แล้วแต่เท้าคนขับรถ
ของเราจำไม่ได้ว่าขึ้นเรือรอบไหน ถ้าจำไม่ผิดน่าจะรอบ 12.00 ดูจากเวลาถ่ายภาพบนเรือในกล้องมาอีกที
เราใช้บริการเรือจากบริษัทซีทรานเฟอร์รี่นะครับบบ
หลังจากขึ้นเรือมาแล้ว ก็รอเวลาเรือออก
บรรยากาศบนเรือก่อนเรือออก
หลังจากรอเวลาไม่นาน เรือก็ออกจากท่าเรือดอนสัก วันนี้ลมไม่ค่อยแรง คลื่นเลยไม่ค่อยมี
(เพื่อนบอกมา)
หลังเรือออกไม่นาน เพื่อนก็ขอผันตัวมาเป็นนางแบบให้ลองกล้อง ถ่ายภาพเก็บไปเรื่อยๆ
หลังจากเก็บภาพกันเรียบร้อยก็ถึงเวลาพักผ่อนกันตามอัธยาศัย
เนื่องจากเราต้องอยู่บนเรือนี้ไปอีก 1 ชั่วโมง 30 นาทีเต็มๆ (นั่งกว่านานเครื่องจากกรุงเทพมาสุราษฏร์อีก)
บนเรือจะมีข้าวกล่องขาย ข้าวหมูกระเทียม ข้าวคลุกกระปิ แต่รสชาติก็อย่าไปคาดหวังอะไร
ถ้าอยากถูกปากทุกที่ทุกเวลาก็มาม่า บนเรือก็มีขาย กดน้ำร้อนเอาตามสะดวก ส่วนน้ำก็มีทั้งน้ำเปล่า
น้ำอัดลม เครื่องดื่มนานาชนิด ขนมคบเคี้ยว พอประทังชีวิตอยู่ได้กับเวลา 1.30 ชั่วโมง ไม่อดอยากปากแห้งแน่นอน
ส่วนเรื่องราคาสำหรับเรายังรับได้อยู่ ยกเว้นไส้กรอกกับขนมจีบ - - แพงกว่าเซเว่นอีกอะ รสชาติก็ห่วยกว่า
หลังจากพักผ่อนนอนหลับไปงีบนึง ก็ใกล้ถึงท่าเรือหน้าทอนกันแล้ว ก็เลยตื่นขึ้นมาถ่ายรูปกันอีกซักเซ็ทหนึ่ง
ประเดิมรูปด้วยสามเสือสาว
สองคนบ้าง
ภาพเซ็ทต่อไปเลือกไม่ถูก ลงหมดเลยละกัน
หลังจากเรือเทียบท่าเรียบร้อย ก็มีคนมารอรับเรา โดยคุณตาของเพื่อนเราส่งคนมารับถึงท่าเรือนั่นเอง
(ขอกราบงามๆเอาไว้ ณ ทีนี้ด้วยคร๊าบบบบ
บ้านของคุณตาเพื่อน และก็ไปกราบสวัสดี แล้วก็ทะยอยไปเยี่ยมพ่อแม่และญาติๆของเพื่อนตามลำดับ
(ภาพส่วนนี้ไม่ขอเอาลง เพราะกลัวว่าจะโดนติเตียนเรื่องสถานที่ของเจ้าของสถานที่)
หลังจากทำการเยี่ยมบ้านเพื่อนเรียบร้อย เราก็พร้อมลุย
ขอ Selfie ซักรูป
การเดินทางนั้นเราได้รับอภินันทนาการ (ใช้คำนี้ถูกไหมนะ) จากคุณตาเพื่อน ให้ยืม Toyota Fortuner
พร้อมน้ำมันเต็มถัง ให้ยืมใช้ขับเที่ยวรอบเกาะ ระหว่างวันที่เรามาพัก
ในจุดนี้ ถ้ามากันไม่เกิน 5 คน จะเช่ารถเก๋งหรือรถมอไซต์ซัก 3 คันก็ได้ แล้วแต่งบประมาณของเรา จุดนี้
เราถือว่าเราประหยัดเงินไปได้อีกมาก ถ้าเช่ารถเก๋งก็สามารถหาเช่าได้ตามสนามบินกับเอเจนฯหรือกับท้องถิ่นก็ได้
เราเคยหาข้อมูลเหมือนของท้องถิ่นจะราคาถูกกว่า แต่ต้องถามเงื่อนไขว่าใช้เงินมัดจำเท่าไหร่ อายุผู้ขับเท่าไหร่
เพราะถ้าเป็นบริษัทรับเช่ารถส่วนมากจะกำหนดอายุคนขับไว้ 20+
(ตอนเรามากังวลเรื่องรถเหมือนกัน แต่พอมีแบบนี้ก็หมดกังวลไปได้) ของเรามา 7 คนใช้ Fortuner 1 คัน
ถือว่าตอบโจทย์ได้ตรงทีเดียว
ขอเพิ่มเติมในส่วนเช่ารถตรงนี้อีกนิด ถ้าคิดจะเช่ารถเราว่าเช่าจากสนามบินสุราษฏร์มาเลยดีกว่า แล้วขับข้ามเกาะ
(ไม่รู้ว่าบริษัทเช่ารถจะยอมให้ทำแบบนั้นไหมนะ) ค่าใช้จ่ายในการเช่ารถเก๋งราคาพอๆกับเหมารถตู้จากสนามบินมาท่าเรือ
แต่ถ้าเราเช่ารถเราจะได้รถไว้ใช้บนเกาะด้วย 1 วัน ค่าข้ามเรือตกคันละ 420/เที่ยว รวมคนขับ (ดูจากหน้าเว็บของซีทราน)
การขับรถบนสมุยนั้น เพื่อนเราบอกไม่ยาก ถนนมันเป็นวงกลม วิ่งเส้นนอกจะเป็นถนนรอบเกาะ วิ่งยังไงมันก็วนมาที่เดิม
แต่รถที่นี่ค่อนข้างขับกันเร็ว ใครไม่คุ้นเส้นทางก็ควรหลีกทางให้เจ้าถิ่นเขาหน่อย
พอถึงจุดแวะจุดแรกเพื่อนก็แอบโชว์สวีทใส่กัน เรามันโสดมาคนเดียวก็มีมองค้อน
จุดแรกหลังออกจากบ้านเรามาแวะกันที่ (ดูตามภาพเอาละกัน เราไม่แน่ใจว่าชื่ออะไร ลืม)
หลังจากเราแวะถ่ายรูปกันที่จุดดังกล่าว เราก็เดินทางกันต่อ ไปยังเฉวง ซึ่งคือที่พักของเรา
ที่พักของเรานั้นก็ได้อภินันทนาการ (อีกแล้ว) จากคุณลุงของเพื่อน โดยเราจะพักกันที่
The Ville By Samui Development เป็นบ้านของลุงเพื่อนเรานะฮ้าฟฟฟฟ ขอบพระคุณมากๆคร๊าบ
หลังจากขนของเก็บของกันเรียบร้อย พ่อเพื่อนโทรมาถามว่า สนใจขี่เจ็ทสกีไหม เดี๋ยวพาไป
มีหรอจะพลาด เราก็เซย์เยสกันเลย เลยรีบกันบึ่งรถไปยังหาดเฉวง
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น