ดิฉันและสามีแต่งงานมาแล้วประมาณ 3 ปีค่ะ ตั้งแต่ปีแรกที่แต่งงานสามีเราย้ายทะเบียนบ้านมาบ้านดิฉัน
แล้วเริ่มมีจดหมายทวงหนี้มาจากบริษัทรับทวงหนี้ ครั้งแรกที่ได้เป็นของพาวเวอร์บาย
ดิฉันจึงสอบถามสามีว่าเป็นหนี้ดังกล่าวจริงหรือไม่ เค้าก็บอกว่าน่าจะจริงเพราะเค้าเคยใช้ผ่อนของเมื่อประมาณ 13 ปีที่แล้ว
แล้วย้ายไปทำงานต่างประเทศ จึงไม่ได้ชำระต่อ ตอนนั้นเจอครั้งแรกดิฉันก็ตกใจจึงโทรไปและตกลงชำระหนี้ไปเรียบร้อยแล้ว
(ชำระเป็นก้อนครั้งเดียวค่ะ)
หลังจากนั้น มีจดหมายมาทวงอีกจากบริษัททวงหนี้ เป็นหนี้ของอีซี่บายค่ะ
ดิฉันสอบถามสามี เค้าบอกว่าจำไม่ได้แต่คิดว่าจำนวนเงินนั้นไม่ถูกต้องแน่นอน (38,761.-)
ดิฉันจึงโทรสอบถามบริษัทที่ส่งจดหมายมาเพื่อขอสัญญาเงินกู้ หรือข้อมูลหนี้ เพราะในจดหมายไม่ได้ระบุชัดเจน
แต่ทางบริษัทรับทวงหนี้ดังกล่าวบอกว่าไม่มีเพราะรับซื้อหนี้มาอีกที ดิฉันจึงไม่จ่ายหนี้ก้อนดังกล่าวเพราะข้อมูลไม่ชัดเจน
จากนั้นประมาณ 6 เดือน บริษัททวงหนี้ใหม่ แต่ชื่อผู้ติดต่อที่ทิ้งไว้ท้ายจดหมายคนเดิมส่งมาอีก เป็นหนี้อีซี่บายก้อนเดิม
แต่ครั้งนี้ดิฉันปรึกษาเพื่อนที่เป็นทนาย เพื่อนบอกว่าถ้าไม่มีเลขสัญญาก็ไม่ต้องสนใจ ดิฉันจึงปล่อยไป
จนกระทั่งวันนี้ 24/7/58 มีจดหมายจากบริษัทใหม่มาเพื่อทวงหนี้ก้อนดังกล่าว คราวนี้มีเลขสัญญาค่ะ
ดิฉันและสามีก็ไม่สบายใจในหนี้ก้อนดังกล่าว ใจจริงอยากจะผ่อนชำระให้หมดไปค่ะ
จึงอยากขอคำปรึกษา และแนะนะจากทุกท่านในพันทิพค่ะ
- ดิฉันจะสามารถรู้ได้ไหมคะว่าหนี้ดังกล่าวเงินต้นจริงๆ เท่าไหร่กันแน่
- จากที่ดิฉันปรึกษาเพื่อนที่เป็นทนายแนะนำว่ารอให้ฟ้องไปค่ะ แต่มันรำคาญใจและไม่สบายใจค่ะ
เพราะเค้าก็ขายหนี้ให้ต่อๆ กันแล้วทวงมาเรื่อยๆ อย่างนี้ไม่ยอมฟ้องค่ะ
- ในจดหมายบอกว่า บริษัททวงหนี้ดังกล่าวได้มีการทวงถามหนี้มาแล้วทางเราเพิกเฉย จึงแจ้งมาให้ชำระหนี้ภายใน 25/7/58
ซึ่งข้อเท็จจริงคือเราไม่เคยได้รับการติดต่อหรือจดหมายใดๆ จากบริษัทดังกล่าวมาก่อน ตรงนี้คือเค้านับจากอะไรคะ
จากบริษัทเก่าที่เคยทวงมาหรือคะ?
- กรณีอย่างนี้มีอายุความไหมคะ
ขอบพระคุณทุกท่านล่วงหน้าค่ะ
ขอปรึกษาเรื่องหนี้บัตรกดเงินสดค่ะ Easy buy
แล้วเริ่มมีจดหมายทวงหนี้มาจากบริษัทรับทวงหนี้ ครั้งแรกที่ได้เป็นของพาวเวอร์บาย
ดิฉันจึงสอบถามสามีว่าเป็นหนี้ดังกล่าวจริงหรือไม่ เค้าก็บอกว่าน่าจะจริงเพราะเค้าเคยใช้ผ่อนของเมื่อประมาณ 13 ปีที่แล้ว
แล้วย้ายไปทำงานต่างประเทศ จึงไม่ได้ชำระต่อ ตอนนั้นเจอครั้งแรกดิฉันก็ตกใจจึงโทรไปและตกลงชำระหนี้ไปเรียบร้อยแล้ว
(ชำระเป็นก้อนครั้งเดียวค่ะ)
หลังจากนั้น มีจดหมายมาทวงอีกจากบริษัททวงหนี้ เป็นหนี้ของอีซี่บายค่ะ
ดิฉันสอบถามสามี เค้าบอกว่าจำไม่ได้แต่คิดว่าจำนวนเงินนั้นไม่ถูกต้องแน่นอน (38,761.-)
ดิฉันจึงโทรสอบถามบริษัทที่ส่งจดหมายมาเพื่อขอสัญญาเงินกู้ หรือข้อมูลหนี้ เพราะในจดหมายไม่ได้ระบุชัดเจน
แต่ทางบริษัทรับทวงหนี้ดังกล่าวบอกว่าไม่มีเพราะรับซื้อหนี้มาอีกที ดิฉันจึงไม่จ่ายหนี้ก้อนดังกล่าวเพราะข้อมูลไม่ชัดเจน
จากนั้นประมาณ 6 เดือน บริษัททวงหนี้ใหม่ แต่ชื่อผู้ติดต่อที่ทิ้งไว้ท้ายจดหมายคนเดิมส่งมาอีก เป็นหนี้อีซี่บายก้อนเดิม
แต่ครั้งนี้ดิฉันปรึกษาเพื่อนที่เป็นทนาย เพื่อนบอกว่าถ้าไม่มีเลขสัญญาก็ไม่ต้องสนใจ ดิฉันจึงปล่อยไป
จนกระทั่งวันนี้ 24/7/58 มีจดหมายจากบริษัทใหม่มาเพื่อทวงหนี้ก้อนดังกล่าว คราวนี้มีเลขสัญญาค่ะ
ดิฉันและสามีก็ไม่สบายใจในหนี้ก้อนดังกล่าว ใจจริงอยากจะผ่อนชำระให้หมดไปค่ะ
จึงอยากขอคำปรึกษา และแนะนะจากทุกท่านในพันทิพค่ะ
- ดิฉันจะสามารถรู้ได้ไหมคะว่าหนี้ดังกล่าวเงินต้นจริงๆ เท่าไหร่กันแน่
- จากที่ดิฉันปรึกษาเพื่อนที่เป็นทนายแนะนำว่ารอให้ฟ้องไปค่ะ แต่มันรำคาญใจและไม่สบายใจค่ะ
เพราะเค้าก็ขายหนี้ให้ต่อๆ กันแล้วทวงมาเรื่อยๆ อย่างนี้ไม่ยอมฟ้องค่ะ
- ในจดหมายบอกว่า บริษัททวงหนี้ดังกล่าวได้มีการทวงถามหนี้มาแล้วทางเราเพิกเฉย จึงแจ้งมาให้ชำระหนี้ภายใน 25/7/58
ซึ่งข้อเท็จจริงคือเราไม่เคยได้รับการติดต่อหรือจดหมายใดๆ จากบริษัทดังกล่าวมาก่อน ตรงนี้คือเค้านับจากอะไรคะ
จากบริษัทเก่าที่เคยทวงมาหรือคะ?
- กรณีอย่างนี้มีอายุความไหมคะ
ขอบพระคุณทุกท่านล่วงหน้าค่ะ