•• ต้องออกตัวก่อนเลยว่า ปกติผมเป็นคนไม่ค่อยได้อ่านกระทู้ในพันทิปเท่าไหร่ •• หากเพื่อนไม่ส่งให้อ่านหรือหัวข้อไม่น่าสนใจ และยังไม่เคยตั้งกระทู้แบบจริงจังเลยสักครั้ง •• ที่ผมต้องออกมารีวิวหรือตั้งกระทู้ในวันนี้ เกิดจากสาเหตุ 2 สาเหตุหลักด้วยกัน •• ซึ่งเพื่อนๆพี่ๆน้องๆ ที่เล่นสื่อออนไลน์เป็นประจำก็จะทราบดีว่ามีการแชร์กระทู้จากพันทิปเยอะมากและบ่อยมาก •• หัวข้อที่ผมสนใจในช่วงนี้ที่จะคลิกเข้าไปดู คือการท่องเที่ยวต่างประเทศ หรือพวกแนว Backpacker •• เมื่ออ่านรีวิวหรือรูปของเจ้าของกระทู้ทั้งหมดแล้ว จะเกิดคำถามสองคำถามตามมาเสมอ คือ
1. ทำไมรูปรีวิวสวยจัง ?
2. ราคาที่รีวิวมา นี่ถูกแล้วเหรอ ?
•• ผมยอมรับนะครับว่า ข้อสงสัยของผมในข้อสองนั้น ผมใส่อคติลงไปพอสมควร •• เนื่องจากว่า ค่าใช้จ่ายรวมของผมถูกกว่ามาก •• อีกอย่างผมเชื่อว่า "เหนือฟ้ายังมีฟ้า" •• ผมเชื่อเสมอว่าจะต้องมีคนที่ใช้จ่ายในราคาที่ถูกกว่าผมแน่นอน •• แค่ผมอยากจะแชร์ทริปนี้เพื่อเป็นแรงบันดาลใจให้กับหลายๆคนที่อยากไปเที่ยวต่างประเทศ แต่ยังมีความกลัวในจิตใจอยู่ เช่น กลัวเรื่องค่าใช้จ่าย กลัวเรื่องภาษา กลัวเรื่องอาหารการกิน และอีกสารพัดความกลัว ••
•• ผมเป็นคนนึงที่ชอบเดินทาง มีความฝันว่าอยากไปเที่ยวต่างประเทศ •• เมื่อตอนผมอายุ 25 ปี ผมตั้งกรอบความฝันของผมในแคบลง •• โดยการกำหนดว่า ภายใน 5 ปีนี้ หรือก่อนอายุถึง 30 ปี ต้องไปเที่ยวต่างประเทศอย่างน้อย 10 ประเทศ •• ซึ่ง ณ วันนี้ผมอายุ 27 ปี เดินทางตามเป้าหมายแล้ว 7 ประเทศ เหลืออีก 3 ประเทศ ในระยะเวลา 3 ปี ก็จะสำเร็จตามเป้าหมายของตนเอง •• และก่อนหน้าทริปฮ่องกงในครั้งนี้ •• ผมได้มีโอกาสเดินทางไปแล้ว 2 ประเทศ คือ ฟิลิปปินส์ และ สิงคโปร์ •• โดยทั้งสองครั้งเป็นการศึกษาดูงานของทั้งระดับปริญญาตรีและปริญญาโทของสถาบันการศึกษาของตัวผมเอง ••
•• สำหรับฮ่องกงครั้งนี้ มีความพิเศษกว่าสองครั้งที่ผ่านมา •• เนื่องจากเป็นครั้งแรกที่ต้องจัดการทุกอย่างเองหมด ทุกอย่างจริงๆ •• ทั้ง ตั๋วเครื่องบิน โรงแรมที่พัก ซิมการ์ด ตั๋วสถานที่ท่องเที่ยว การแลกเงิน และการวางแผนเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ •• โดยผมกำหนดขั้นตอนง่ายๆ 5 ขั้นตอน เพื่อเป็นแนวทางสำหรับนักท่องเที่ยวมือใหม่ทั้งหลาย คือ
•• ขั้นตอนแรก : เลือกประเทศ ••
•• ขั้นตอนที่สอง : จองตั๋วเครื่องบิน ••
•• ขั้นตอนที่สาม : จองโรงแรมที่พัก ••
•• ขั้นตอนที่สี่ : เตรียมอุปกรณ์ ••
•• ขั้นตอนสุดท้าย : วางแผนการเดินทาง ••
เกริ่นนำ
•• ปัจจุบันผมอายุ 27 ปี ทำงานเป็นพนักงานของสถาบันการศึกษาเอกชนแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ •• อย่างที่ทราบกัน คือ เวลาเมื่ออ่านเห็นรีวิวท่องเที่ยวต่างประเทศ ก็จะเริ่มที่กรุงเทพฯ หรือดอนเมืองเสมอ •• น้อยมากหรือแทบไม่มีเลย ที่จะมีผู้ที่เริ่มต้นเดินทางจากเชียงใหม่มารีวิว •• ผมจำเป็นต้องเกริ่นก่อนว่า "ทริปฮ่องกง" ทริปนี้ •• ผมกับแฟนได้เดินทางท่องเที่ยวเมื่อกลางปีที่แล้ว 2 คน ระหว่างวันที่ 4 - 7 กรกฎาคม พ.ศ.2557 •• ประเทศฮ่องกงไม่ใช่เป็นประเทศแรกที่ผมได้ไปมา และก็ไม่ใช่ประเทศแรกที่แฟนผมไปมาเช่นกัน •• แต่ฮ่องกงเป็นทริปต่างประเทศทริปแรกของเราที่ได้มีโอกาสเดินทางไปท่องเที่ยวด้วยกัน ••
•• ก็ต้องยอมรับว่า "ทริปฮ่องกง" เป็นอะไรที่ใหม่สำหรับผมมาก •• ขั้นตอนต่างๆ ทั้งเรื่อง การจองตั๋วเครื่องบิน การจองโรงแรมที่พัก การซื้อตั๋วสถานที่สำคัญล่วงหน้า การแลกเงิน การศึกษาเส้นทาง หรือแม้กระทั่งการวางแผนเดินทาง •• ทุกอย่างมันเสมือนเป็นครั้งแรกหมดเลย •• ฉะนั้นผมยอมรับว่าทริปนี้ไม่ใช่ทริปที่ถูกวางแผนอย่างดีที่สุด •• แต่ทริปนี้เป็นทริปที่มีการใช้เงินอย่างประหยัดที่สุดเลยก็ว่าได้ •• เนื่องจากผมยังมีความกลัวอยู่อย่างหนึ่ง คือ กลัวว่าเงินที่เตรียมไปจะหมดก่อนวันเดินทางกลับ •• ซึ่งเราทั้งสองคนก็ต่างเตรียมเงินไปไม่มากนัก •• เนื่องจากผมคิดว่า เราใช้จ่ายในส่วนสำคัญๆ ไปเรียบร้อยหมดแล้ว ••
ขั้นตอนแรก : เลือกประเทศ
•• แน่นอนว่าสำหรับนักท่องเที่ยวแล้ว การเลือกประเทศปลายทางนั้น ไม่ได้มีอะไรยากมากมาย •• แต่จุดหมายปลายทางที่ออกมามักจะไม่เหมือนกัน •• บางคนเลือกเพราะเหตุผล
ความชอบส่วนตัว •• บางคนเลือกเพราะมีญาติอยู่ที่นั่น
อาจจะได้ที่พักฟรี •• บางคนอาจเลือกเพราะ
อยากไปให้ได้สักครั้งในชีวิต •• แต่สำหรับผมแล้ว หากผมทำงานหรืออาศัยอยู่ที่ กทม. คงเลือกปลายทางได้ไม่ยากนัก •• เพราะมีเส้นทางของสายการบินโลว์คอสต์ให้เลือกมากมาย •• แต่การที่อยู่เชียงใหม่ จึงมีข้อจำกัดในการเลือกเส้นทางพอสมควร •• ณ ตอนนั้น เวลานั้น สายการบินโลว์คอสต์ มีอยู่ให้เลือกไม่มากนัก เช่น สายการบินแอร์เอเซีย สาบการบินไทเกอร์แอร์ สายการบินวีแอร์ สายการบินไทยไลอ้อนแอร์ สายการบินนกแอร์ •• ปลายทางก็จะมี สิงคโปร์ มาเก๊า ฮ่องกง กัวลาลัมเปอร์ ไต้หวัน หางโจว •• เส้นทางที่เหลือจะเป็นการต่อเครื่อง (Fly Thru) ทั้งหมด ซึ่งราคาจะสูงขึ้นมาก •• หวยจึงไปตกที่ "ฮ่องกง" อย่างไม่มีข้อสงสัย ซึ่งแฟนผมเองก็เห็นด้วย •• สำหรับผมเอง เมื่อทราบจุดหมายปลายทาง อย่างแรกที่ต้องทำคือ ซื้อหนังสือ •• เพื่อศึกษาว่าเราควรเตรียมอะไรบ้าง •• ผมซื้อเพียงเล่มเดียว เพราะงบประมาณมีน้อย •• ที่เหลือก็ศึกษาในอินเทอร์เน็ต เพราะข้อมูลเพียบ •• ผมเลือกซื้อหนังสือของ Thinknet ชื่อหนังสือว่า "เที่ยวล่าสุด The Guide Book" (ผมไม่มีส่วนได้ส่วนเสียกับบริษัทเจ้าของลิขสิทธิ์หนังสือใดๆทั้งสิ้น) •• เนื่องจากหนังสือมีรายละเอียดในการเดินทางดีมาก และมีแผนที่สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ (Landmarks) ต่างๆ มีร้านอาหารแนะนำ และส่วนของโรงแรมในพื้นที่ต่างๆ รวมถึงแผนที่การเดินทางด้วยรถไฟฟ้าอีกด้วย ผมจึงเลือกที่จะแนะนำหนังสือเล่มนี้ •• ซึ่งอย่างน้อยเราจำเป็นต้องมีหนังสือพกพาหนึ่งเล่มในระหว่างที่เราเที่ยวอยู่ในฮ่องกง
ปกหนังสือ "เที่ยวล่าสุด The Guide Book"
ขั้นตอนที่สอง : จองตั๋วเครื่องบิน
•• หลายๆคนที่เลือกไปเที่ยงฮ่องกง ก็จะล่องเรือไปเที่ยวมาเก๊าด้วย •• เนื่องจากสองประเทศนี้อยู่ใกล้กันมาก และประเทศขนาดเล็กทั้งคู่ สามารถเดินทางโดยทางเรือ ไปมาหากันได้ในเวลาเพียงไม่เกิน 2 ชั่วโมง •• สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญก็สามารถเที่ยวได้ในระยะเวลาอันสั้น •• หรือพูดง่ายๆว่า "ไม่กี่วันก็หมดก็เที่ยวหมดประเทศ •• ดังนั้นบางคนเลือกที่จะลงสนามบินอีกประเทศ แล้วบินกลับจากสนามบินของกลับอีกประเทศ ซึ่งสามารถทำได้ •• อย่างที่บอก สำหรับผมแล้ว มันเป็นอะไรที่ใหม่ ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรกับคนอื่นเค้า •• กลัวว่าจะเข้าประเทศอีกประเทศไม่ได้ กลัวเรื่องพาสสปอร์ต วีซ่า ไม่ผ่าน กลัวเรื่องที่พัก กลัวเรื่องการย้ายของ •• สุดท้ายก็เลือกที่จะเที่ยวฮ่องกงเพียงที่เดียว ส่วนมาเก๊าไว้โอกาสหน้า ••
เคล็ดลับในการจองตั๋วเครื่องบิน
1)
ร่างแผนงานทั้งปี : โดยปกติผมจะร่างแผนงานล่วงหน้าทั้งปีของผมเอง ลงใน Google Calendar เนื่องจากมันมีประโยชน์มหาศาล ทั้งเตือนความจำ และบอกให้เราทราบว่าวันไหนมีงานอะไร วันไหนวันหยุด ซึ่งทำให้สามารถวางแผนที่จะหยุดได้ยาวๆ ในช่วงเวลาที่เหมาะสม
2)
สมัครสมาชิกสายการบิน : เป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่งสำหรับการสมัครสมาชิก (Members) เนื่องจากคุณจะได้รับข่าวสารของสายการบินก่อนคนอื่นทางอีเมล์ โดยข่าวสารที่สำคัญของสายการบินคือโปรโมชันของเส้นทางปลายทางที่เราจะเดินทางไป เนื่องด้วยราคาโปรโมชันของสายการบินบางเจ้านั้น ราคาลดกระหน่ำซัมเมอร์เซลล์ เหมือนยอมให้ในราคาเท่าทุน แต่ที่นั่งโปรโมชันสังเกตได้ว่าจะมีไม่เยอะต่อหนึ่งไฟลต์ หากคุณสามารถจองได้เร็ว นั่นถือว่าคุ้มค่าในเรื่องของค่าตั๋วเครื่องบินแล้ว
3)
เวลาการจอง : ช่วงเวลาที่เหมาะสมและราคาพอเหมาะกับโปรโมชัน คือ จองก่อนเดินทางเป็นเวลา 3 - 6 เดือน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแต่ละสายการบินด้วย
4)
เลือกวันเวลาเดินทาง : ขั้นตอนนี้ก็ขึ้นอยู่กับแต่ละท่านเลยครับ ถึงแม้ว่าสายการบินหลายสายนั้น การบินวันหยุดนักขัตฤกษ์ บินตรงวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ ราคาจะแพงกว่าวันปกติก็ตาม แต่หากคุณเลือกดีๆ ก็จะสามารถประหยัดวันลาไปได้ ในทริปนี้ ผมเลือก ศุกร์-เสาร์-อาทิตย์-จันทร์ เพราะลาจริงๆ แค่สองวัน แต่ได้เที่ยวถึง 4 วัน สำหรับบางคนที่วางแผนดีๆ ก็จะได้วันหยุดนักขัตฤกษ์ อาจจะได้มากกว่า 4 วันด้วยซ้ำ รวมแล้วผมจะเที่ยวเป็นเวลา 3 คืน 4 วัน ที่สำคัญที่สุดของการเลือกวันเดินทางของผม คือ ราคาค่าตั๋วเครื่องบิน ต้องถูกและได้ราคาโปรโมชันด้วย ซึ่งก็ได้ช่วงเดินทางระหว่างวันที่ 4 - 7 กรกฎาคม 2557 ซึ่งเชียงใหม่-ฮ่องกง มีไฟลต์เดียวต่อวันอยู่แล้ว ฉะนั้นคงไม่สามารถเลือกเวลาเดินทางได้ แต่เท่าที่มี ถือว่าโอเคเลยทีเดียว ไปช่วงเช้า กลับช่วงสายๆ ของสายการบินหางแดง ซึ่งโปรโมชันเร้าใจมาก ราคาอยู่เกณฑ์ที่เรายอมจ่าย
5)
เลือกที่นั่ง-อาหาร-น้ำหนักกระเป๋า : โดยปกติผมจะไม่ใส่ใจกับที่นั่ง เพราะสายการบินไหนเป็นระบบ Auto Assigned ก็จะไปขอพนักงานภาคพื้นดินที่เคาน์เตอร์เช็คอิน ทำหน้าตาอ้อนนิดๆ ก็ได้ที่นั่งริมหน้าต่างได้เลยทีเดียว แต่หากสายการบินไหนสามารถระบุที่นั่งได้ แล้วเวลาเดินทางช่วงเช้าแบบนี้ ก็จะระบุที่นั่งเอง อาจจะเสียเงินเพิ่มเล็กน้อย แต่มันก็คุ้มที่จะมองพระอาทิตย์ขึ้นในตอนเช้า ส่วนเรื่องน้ำหนักกระเป๋า หากเป็นคุณผู้หญิงแนะนำให้เลือกโหลดตามสัมภาระของตนเอง ยิ่งตอนขากลับ จะมีน้ำหนักมากกว่าขามา ยิ่งเป็นขาช็อปควรยอมจ่ายส่วนนี้ แต่หากเป็นผู้ชายอย่างผม จะไม่เลือกโหลด เนื่องจากราคาแพงมาก ยิ่งบินต่างประเทศยิ่งราคาแพง ส่วนเรื่องอาหารนั้น หมดสิทธิ์ได้เงินผม ให้ยัดให้อิ่มก่อนขึ้นเครื่อง และเวลาเดินทางไม่ได้ใช้เวลามากนัก เพราะค่าอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง ราคาจะแพงกว่าปกติ 2 - 3 เท่าเลยทีเดียว
6)
เลือกวิธีจ่ายเงิน : หากเราพอใจในราคาแล้ว ก็เลือกวิธีจ่ายเงิน โดยสายการบินส่วนมากจะมีการหักบัตรเครดิตซึ่งค่าธรรมเนียมสูง สำหรับผมเลือกที่จะหักบัญชีธนาคารโดยตรง ซึ่งมีค่าธรรมเนียมเพียงเล็กน้อย ถูกกว่าค่าธรรมเนียมบัตรเครดิตหลายเท่า ขั้นตอนนี้หากใครสะดวกชำระแบบใดก็เลือกเอาตามความสะดวกของเราเอง
ค่าตั๋วเครื่องบินของผมสองคนกับแฟน รวมค่าที่นั่ง ทั้งขาไป-ขากลับ ราคารวมอยู่ที่
5,860 บาท หรือตกคนละ
2,930 บาท ถือว่าเป็นราคาที่ถือว่าผมรับได้ และได้บินตรงจากเชียงใหม่ด้วย (อย่างที่บอกไปข้างต้น หากผมไม่เลือกที่นั่ง จะประหยัดไปอีก 400 บาท เลยทีเดียว)
ตอนนี้ยอดค่าใช้จ่ายรวมอยู่ที่ 2,930 บาท / คน
[CR] [รีวิว] แค่หมื่นเดียวก็เที่ยวฮ่องกงได้
1. ทำไมรูปรีวิวสวยจัง ?
2. ราคาที่รีวิวมา นี่ถูกแล้วเหรอ ?
•• ผมยอมรับนะครับว่า ข้อสงสัยของผมในข้อสองนั้น ผมใส่อคติลงไปพอสมควร •• เนื่องจากว่า ค่าใช้จ่ายรวมของผมถูกกว่ามาก •• อีกอย่างผมเชื่อว่า "เหนือฟ้ายังมีฟ้า" •• ผมเชื่อเสมอว่าจะต้องมีคนที่ใช้จ่ายในราคาที่ถูกกว่าผมแน่นอน •• แค่ผมอยากจะแชร์ทริปนี้เพื่อเป็นแรงบันดาลใจให้กับหลายๆคนที่อยากไปเที่ยวต่างประเทศ แต่ยังมีความกลัวในจิตใจอยู่ เช่น กลัวเรื่องค่าใช้จ่าย กลัวเรื่องภาษา กลัวเรื่องอาหารการกิน และอีกสารพัดความกลัว ••
•• ผมเป็นคนนึงที่ชอบเดินทาง มีความฝันว่าอยากไปเที่ยวต่างประเทศ •• เมื่อตอนผมอายุ 25 ปี ผมตั้งกรอบความฝันของผมในแคบลง •• โดยการกำหนดว่า ภายใน 5 ปีนี้ หรือก่อนอายุถึง 30 ปี ต้องไปเที่ยวต่างประเทศอย่างน้อย 10 ประเทศ •• ซึ่ง ณ วันนี้ผมอายุ 27 ปี เดินทางตามเป้าหมายแล้ว 7 ประเทศ เหลืออีก 3 ประเทศ ในระยะเวลา 3 ปี ก็จะสำเร็จตามเป้าหมายของตนเอง •• และก่อนหน้าทริปฮ่องกงในครั้งนี้ •• ผมได้มีโอกาสเดินทางไปแล้ว 2 ประเทศ คือ ฟิลิปปินส์ และ สิงคโปร์ •• โดยทั้งสองครั้งเป็นการศึกษาดูงานของทั้งระดับปริญญาตรีและปริญญาโทของสถาบันการศึกษาของตัวผมเอง ••
•• สำหรับฮ่องกงครั้งนี้ มีความพิเศษกว่าสองครั้งที่ผ่านมา •• เนื่องจากเป็นครั้งแรกที่ต้องจัดการทุกอย่างเองหมด ทุกอย่างจริงๆ •• ทั้ง ตั๋วเครื่องบิน โรงแรมที่พัก ซิมการ์ด ตั๋วสถานที่ท่องเที่ยว การแลกเงิน และการวางแผนเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ •• โดยผมกำหนดขั้นตอนง่ายๆ 5 ขั้นตอน เพื่อเป็นแนวทางสำหรับนักท่องเที่ยวมือใหม่ทั้งหลาย คือ
•• ขั้นตอนแรก : เลือกประเทศ ••
•• ขั้นตอนที่สอง : จองตั๋วเครื่องบิน ••
•• ขั้นตอนที่สาม : จองโรงแรมที่พัก ••
•• ขั้นตอนที่สี่ : เตรียมอุปกรณ์ ••
•• ขั้นตอนสุดท้าย : วางแผนการเดินทาง ••
เกริ่นนำ
•• ปัจจุบันผมอายุ 27 ปี ทำงานเป็นพนักงานของสถาบันการศึกษาเอกชนแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ •• อย่างที่ทราบกัน คือ เวลาเมื่ออ่านเห็นรีวิวท่องเที่ยวต่างประเทศ ก็จะเริ่มที่กรุงเทพฯ หรือดอนเมืองเสมอ •• น้อยมากหรือแทบไม่มีเลย ที่จะมีผู้ที่เริ่มต้นเดินทางจากเชียงใหม่มารีวิว •• ผมจำเป็นต้องเกริ่นก่อนว่า "ทริปฮ่องกง" ทริปนี้ •• ผมกับแฟนได้เดินทางท่องเที่ยวเมื่อกลางปีที่แล้ว 2 คน ระหว่างวันที่ 4 - 7 กรกฎาคม พ.ศ.2557 •• ประเทศฮ่องกงไม่ใช่เป็นประเทศแรกที่ผมได้ไปมา และก็ไม่ใช่ประเทศแรกที่แฟนผมไปมาเช่นกัน •• แต่ฮ่องกงเป็นทริปต่างประเทศทริปแรกของเราที่ได้มีโอกาสเดินทางไปท่องเที่ยวด้วยกัน ••
•• ก็ต้องยอมรับว่า "ทริปฮ่องกง" เป็นอะไรที่ใหม่สำหรับผมมาก •• ขั้นตอนต่างๆ ทั้งเรื่อง การจองตั๋วเครื่องบิน การจองโรงแรมที่พัก การซื้อตั๋วสถานที่สำคัญล่วงหน้า การแลกเงิน การศึกษาเส้นทาง หรือแม้กระทั่งการวางแผนเดินทาง •• ทุกอย่างมันเสมือนเป็นครั้งแรกหมดเลย •• ฉะนั้นผมยอมรับว่าทริปนี้ไม่ใช่ทริปที่ถูกวางแผนอย่างดีที่สุด •• แต่ทริปนี้เป็นทริปที่มีการใช้เงินอย่างประหยัดที่สุดเลยก็ว่าได้ •• เนื่องจากผมยังมีความกลัวอยู่อย่างหนึ่ง คือ กลัวว่าเงินที่เตรียมไปจะหมดก่อนวันเดินทางกลับ •• ซึ่งเราทั้งสองคนก็ต่างเตรียมเงินไปไม่มากนัก •• เนื่องจากผมคิดว่า เราใช้จ่ายในส่วนสำคัญๆ ไปเรียบร้อยหมดแล้ว ••
•• แน่นอนว่าสำหรับนักท่องเที่ยวแล้ว การเลือกประเทศปลายทางนั้น ไม่ได้มีอะไรยากมากมาย •• แต่จุดหมายปลายทางที่ออกมามักจะไม่เหมือนกัน •• บางคนเลือกเพราะเหตุผล ความชอบส่วนตัว •• บางคนเลือกเพราะมีญาติอยู่ที่นั่น อาจจะได้ที่พักฟรี •• บางคนอาจเลือกเพราะอยากไปให้ได้สักครั้งในชีวิต •• แต่สำหรับผมแล้ว หากผมทำงานหรืออาศัยอยู่ที่ กทม. คงเลือกปลายทางได้ไม่ยากนัก •• เพราะมีเส้นทางของสายการบินโลว์คอสต์ให้เลือกมากมาย •• แต่การที่อยู่เชียงใหม่ จึงมีข้อจำกัดในการเลือกเส้นทางพอสมควร •• ณ ตอนนั้น เวลานั้น สายการบินโลว์คอสต์ มีอยู่ให้เลือกไม่มากนัก เช่น สายการบินแอร์เอเซีย สาบการบินไทเกอร์แอร์ สายการบินวีแอร์ สายการบินไทยไลอ้อนแอร์ สายการบินนกแอร์ •• ปลายทางก็จะมี สิงคโปร์ มาเก๊า ฮ่องกง กัวลาลัมเปอร์ ไต้หวัน หางโจว •• เส้นทางที่เหลือจะเป็นการต่อเครื่อง (Fly Thru) ทั้งหมด ซึ่งราคาจะสูงขึ้นมาก •• หวยจึงไปตกที่ "ฮ่องกง" อย่างไม่มีข้อสงสัย ซึ่งแฟนผมเองก็เห็นด้วย •• สำหรับผมเอง เมื่อทราบจุดหมายปลายทาง อย่างแรกที่ต้องทำคือ ซื้อหนังสือ •• เพื่อศึกษาว่าเราควรเตรียมอะไรบ้าง •• ผมซื้อเพียงเล่มเดียว เพราะงบประมาณมีน้อย •• ที่เหลือก็ศึกษาในอินเทอร์เน็ต เพราะข้อมูลเพียบ •• ผมเลือกซื้อหนังสือของ Thinknet ชื่อหนังสือว่า "เที่ยวล่าสุด The Guide Book" (ผมไม่มีส่วนได้ส่วนเสียกับบริษัทเจ้าของลิขสิทธิ์หนังสือใดๆทั้งสิ้น) •• เนื่องจากหนังสือมีรายละเอียดในการเดินทางดีมาก และมีแผนที่สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ (Landmarks) ต่างๆ มีร้านอาหารแนะนำ และส่วนของโรงแรมในพื้นที่ต่างๆ รวมถึงแผนที่การเดินทางด้วยรถไฟฟ้าอีกด้วย ผมจึงเลือกที่จะแนะนำหนังสือเล่มนี้ •• ซึ่งอย่างน้อยเราจำเป็นต้องมีหนังสือพกพาหนึ่งเล่มในระหว่างที่เราเที่ยวอยู่ในฮ่องกง
•• หลายๆคนที่เลือกไปเที่ยงฮ่องกง ก็จะล่องเรือไปเที่ยวมาเก๊าด้วย •• เนื่องจากสองประเทศนี้อยู่ใกล้กันมาก และประเทศขนาดเล็กทั้งคู่ สามารถเดินทางโดยทางเรือ ไปมาหากันได้ในเวลาเพียงไม่เกิน 2 ชั่วโมง •• สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญก็สามารถเที่ยวได้ในระยะเวลาอันสั้น •• หรือพูดง่ายๆว่า "ไม่กี่วันก็หมดก็เที่ยวหมดประเทศ •• ดังนั้นบางคนเลือกที่จะลงสนามบินอีกประเทศ แล้วบินกลับจากสนามบินของกลับอีกประเทศ ซึ่งสามารถทำได้ •• อย่างที่บอก สำหรับผมแล้ว มันเป็นอะไรที่ใหม่ ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรกับคนอื่นเค้า •• กลัวว่าจะเข้าประเทศอีกประเทศไม่ได้ กลัวเรื่องพาสสปอร์ต วีซ่า ไม่ผ่าน กลัวเรื่องที่พัก กลัวเรื่องการย้ายของ •• สุดท้ายก็เลือกที่จะเที่ยวฮ่องกงเพียงที่เดียว ส่วนมาเก๊าไว้โอกาสหน้า ••
1) ร่างแผนงานทั้งปี : โดยปกติผมจะร่างแผนงานล่วงหน้าทั้งปีของผมเอง ลงใน Google Calendar เนื่องจากมันมีประโยชน์มหาศาล ทั้งเตือนความจำ และบอกให้เราทราบว่าวันไหนมีงานอะไร วันไหนวันหยุด ซึ่งทำให้สามารถวางแผนที่จะหยุดได้ยาวๆ ในช่วงเวลาที่เหมาะสม
2) สมัครสมาชิกสายการบิน : เป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่งสำหรับการสมัครสมาชิก (Members) เนื่องจากคุณจะได้รับข่าวสารของสายการบินก่อนคนอื่นทางอีเมล์ โดยข่าวสารที่สำคัญของสายการบินคือโปรโมชันของเส้นทางปลายทางที่เราจะเดินทางไป เนื่องด้วยราคาโปรโมชันของสายการบินบางเจ้านั้น ราคาลดกระหน่ำซัมเมอร์เซลล์ เหมือนยอมให้ในราคาเท่าทุน แต่ที่นั่งโปรโมชันสังเกตได้ว่าจะมีไม่เยอะต่อหนึ่งไฟลต์ หากคุณสามารถจองได้เร็ว นั่นถือว่าคุ้มค่าในเรื่องของค่าตั๋วเครื่องบินแล้ว
3) เวลาการจอง : ช่วงเวลาที่เหมาะสมและราคาพอเหมาะกับโปรโมชัน คือ จองก่อนเดินทางเป็นเวลา 3 - 6 เดือน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแต่ละสายการบินด้วย
4) เลือกวันเวลาเดินทาง : ขั้นตอนนี้ก็ขึ้นอยู่กับแต่ละท่านเลยครับ ถึงแม้ว่าสายการบินหลายสายนั้น การบินวันหยุดนักขัตฤกษ์ บินตรงวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ ราคาจะแพงกว่าวันปกติก็ตาม แต่หากคุณเลือกดีๆ ก็จะสามารถประหยัดวันลาไปได้ ในทริปนี้ ผมเลือก ศุกร์-เสาร์-อาทิตย์-จันทร์ เพราะลาจริงๆ แค่สองวัน แต่ได้เที่ยวถึง 4 วัน สำหรับบางคนที่วางแผนดีๆ ก็จะได้วันหยุดนักขัตฤกษ์ อาจจะได้มากกว่า 4 วันด้วยซ้ำ รวมแล้วผมจะเที่ยวเป็นเวลา 3 คืน 4 วัน ที่สำคัญที่สุดของการเลือกวันเดินทางของผม คือ ราคาค่าตั๋วเครื่องบิน ต้องถูกและได้ราคาโปรโมชันด้วย ซึ่งก็ได้ช่วงเดินทางระหว่างวันที่ 4 - 7 กรกฎาคม 2557 ซึ่งเชียงใหม่-ฮ่องกง มีไฟลต์เดียวต่อวันอยู่แล้ว ฉะนั้นคงไม่สามารถเลือกเวลาเดินทางได้ แต่เท่าที่มี ถือว่าโอเคเลยทีเดียว ไปช่วงเช้า กลับช่วงสายๆ ของสายการบินหางแดง ซึ่งโปรโมชันเร้าใจมาก ราคาอยู่เกณฑ์ที่เรายอมจ่าย
5) เลือกที่นั่ง-อาหาร-น้ำหนักกระเป๋า : โดยปกติผมจะไม่ใส่ใจกับที่นั่ง เพราะสายการบินไหนเป็นระบบ Auto Assigned ก็จะไปขอพนักงานภาคพื้นดินที่เคาน์เตอร์เช็คอิน ทำหน้าตาอ้อนนิดๆ ก็ได้ที่นั่งริมหน้าต่างได้เลยทีเดียว แต่หากสายการบินไหนสามารถระบุที่นั่งได้ แล้วเวลาเดินทางช่วงเช้าแบบนี้ ก็จะระบุที่นั่งเอง อาจจะเสียเงินเพิ่มเล็กน้อย แต่มันก็คุ้มที่จะมองพระอาทิตย์ขึ้นในตอนเช้า ส่วนเรื่องน้ำหนักกระเป๋า หากเป็นคุณผู้หญิงแนะนำให้เลือกโหลดตามสัมภาระของตนเอง ยิ่งตอนขากลับ จะมีน้ำหนักมากกว่าขามา ยิ่งเป็นขาช็อปควรยอมจ่ายส่วนนี้ แต่หากเป็นผู้ชายอย่างผม จะไม่เลือกโหลด เนื่องจากราคาแพงมาก ยิ่งบินต่างประเทศยิ่งราคาแพง ส่วนเรื่องอาหารนั้น หมดสิทธิ์ได้เงินผม ให้ยัดให้อิ่มก่อนขึ้นเครื่อง และเวลาเดินทางไม่ได้ใช้เวลามากนัก เพราะค่าอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง ราคาจะแพงกว่าปกติ 2 - 3 เท่าเลยทีเดียว
6) เลือกวิธีจ่ายเงิน : หากเราพอใจในราคาแล้ว ก็เลือกวิธีจ่ายเงิน โดยสายการบินส่วนมากจะมีการหักบัตรเครดิตซึ่งค่าธรรมเนียมสูง สำหรับผมเลือกที่จะหักบัญชีธนาคารโดยตรง ซึ่งมีค่าธรรมเนียมเพียงเล็กน้อย ถูกกว่าค่าธรรมเนียมบัตรเครดิตหลายเท่า ขั้นตอนนี้หากใครสะดวกชำระแบบใดก็เลือกเอาตามความสะดวกของเราเอง
ค่าตั๋วเครื่องบินของผมสองคนกับแฟน รวมค่าที่นั่ง ทั้งขาไป-ขากลับ ราคารวมอยู่ที่ 5,860 บาท หรือตกคนละ 2,930 บาท ถือว่าเป็นราคาที่ถือว่าผมรับได้ และได้บินตรงจากเชียงใหม่ด้วย (อย่างที่บอกไปข้างต้น หากผมไม่เลือกที่นั่ง จะประหยัดไปอีก 400 บาท เลยทีเดียว)
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น