'เพื่อน'ที่ต้องเจอชีวิตมัธยม

สวัสดีชาวพันทิปทุกคนวันนี้ จขกท.อยากจะมาแชร์ประสบการณ์"เพื่อน"ในชีวิตมัธยมของจขกท.ให้ทุกคนได้รับรู้และอยากจะให้เพื่อนๆช่วยแสดงความคิดเห็นกัน
- ม.4 จขกท.เป็นเด็กที่ย้ายเข้ามารร.ใหม่เลยต้องทำความรู้จักเพื่อนใหม่ทั้งหมด แล้ววันนึงจขกท.ได้เจอกับผู้หญิงคนหนึ่งชื่อเอ (นามสมมติ) นางเป็นผู้หญิงที่คิดว่าตัวเองเด่นดังหรืออย่างไรจขกท.ไม่ทราบแต่เมื่อนางมาเจอกับจขกท.ครั้งแรก นางพูดขึ้นมาว่า "ๆชื่ออะไรหน่ะ" เราก็ตกใจมาก รู้จักกันครั้งแรกถามแบบนี้เลยหรอ เราก็เริ่มไม่ชอบแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกไป แล้วมันบังเอิญมากที่เรากับเอต้องอยู่กลุ่มเดียวกันเหมือนฟ้ากลั่นแกล้ง เราเลยเลี่ยงที่จะเดินกับนางเสมอไม่ใช่ว่าเกลียด แต่เราคิดว่าเอกับเรานั้นคงเคมีไม่ตรงกันเท่าไรและเรากับผองเพื่อนก็สามารถใช้ชีวิตมาจนจบม.4ได้ โดยที่เอมีวีรกรรมมากมายที่ทำให้เพื่อนไม่ชอบเยอะแยะ ทั้งในห้องนอกห้องและอื่นๆอีกมากมาย
- ม.5 มันเหมือนฟ้ากลั่นแกล้งอีกรอบเพราะรร.ของเราสั่งแยกห้อง โดยจับเพื่อนๆคละห้องใหม่แล้วเรากับผองเพื่อนก็แยกกันไปเป็นคู่ๆ แต่ทำไมเราถึงต้องมาอยู่ห้องเดียวกับเอ ตอนที่เรารู้ เราถึงกับช้อคไปพักนึงเลยทีเดียว แต่เราก็คิดในแง่ดีนะว่าอาจจะเข้ากันได้ แต่แล้วก็เกิดเรื่องขึ้นจนได้ เราเป็นคนที่จริงจังกับงานมาก งานทุกๆอย่างไม่ว่าจะงานคู่งานกลุ่มเราคู่กับเอมาเสมอ นานๆทีที่เอจะยื่นมือเข้ามาช่วย เราก็ทนมาเรื่อยๆแต่ก็บ่นมาเรื่อยๆเช่นกัน แต่เราก็ไม่สามารถทนต่อไปได้อีกแล้วเนื่องจากเราเรียนสายวิทย์และต้องงานวิจัย1ชิ้นเราเลือกวิจัยที่เป็นสำรวจ งานนี้เราเป็นหัวหน้ากลุ่มในกลุ่มมี3คน เราก็แบ่งงานให้เพื่อนในกลุ่มเท่าๆกันแต่เราจะเป็นคนรับงานหนักกว่าเพราะด้วยความที่เป็นหัวหน้ากลุ่ม แต่เพื่อนๆก็คงจะรู้ว่าชีวิตเด็กสายวิทย์คงไม่ง่าย นอกจากงานวิจัยก็มีงานอื่นๆอีกเยอะพวกรายงาน พรีเซนต์อีกเยอะแยะแล้วบังเอิญมี1งานที่เราต้องแยกกลุ่มกับเอ เราก็ไม่ได้ไปยุ่งกับกลุ่มของเอจนมีวันนึงที่คนในกลุ่มเอเขาทนไม่ไหวบอกว่าเอไม่ทำงานเลย นัดเพื่อนไว้แต่ก็ไม่มาทำให้เพื่อนทำงานกันแค่2คนจาก3คนงานนี้เป็นงานที่ยากพอสมควรต้องช่วยกันทำแต่เอก็ไม่มาช่วยกันทำ จนทำให้เพื่อนในกลุ่มงานของเอไม่คุยกับเอ เอก็แก้ตัวว่ามารอแล้วแต่ไม่เจอเพื่อนรอจนตี1-2 เราก็ไม่สามารถช่วยอะไรได้เพราะไม่ใช่กลุ่มของเรา เราเห็นเอร้องไห้เพราะเพื่อนไม่คุยด้วยแต่เราไม่ได้ไปปลอบหรือเกลี้ยกล่อมให้หยุดร้องเพราะเราไม่สนิทและไม่ค่อยจะถูกกับเอ(ก็รู้ว่าผิดนะแต่ถ้าเป็นเพื่อนๆจะทำยังไง ถ้ามีกันในกลุ่ม3คน ทำงานกันแค่2คนมาตลอดทั้งปีโดยที่อีกคนนอนรอเกรดเฉยๆ) หลายวันต่อมาเอก็ไม่มารร.เป็นอาทิตย์จนครูมาถามแต่เราก็ไม่ทราบและไม่อยากรู้ด้วย  แล้ววันต่อมาครูงานวิจัยก็เรียกเราไปพบ เราก็ไม่รู้ว่าเรื่องอะไรแต่พอมาพบครูเราก็กระจ่างทันที ครูงานวิจัยได้ถามเราว่า แบ่งงานกันยังไง เราก็ตอบไปต่อหน้าเพื่อนๆหลายคน แล้วครูก็บอกว่าเราไปใช้เอทำงานหนักจนเพื่อนป่วยมารร.ไม่ได้ เราก็ไม่เข้าใจทำไมเป็นแบบนั้น เพื่อนของเราอีกหลายคนก็มองหน้าเรา เราไม่ได้อยากยอตัวเองนะแต่ส่วนมากเราเป็นคนทำเกือบทั้งหมดเพื่อนๆก็สามารถเป็นพยานให้เราได้ด้วย มันทำให้เราหงุดหงิดมาก เราเลยขึ้นมาบนห้องแล้วเจอเอเราก็พูดเสียงดังว่า "กูใช้งานหนักมากจนป่วยเลยหรอวะ" แล้วคำที่เอตอบเรากับมามันทำให้เราไม่อยากคุยกับเออีกเลยคือ "แม่กูมโนอย่าไปเชื่อเขา" เราอึ้งกับคำตอบมากทำไมพูดถึงแม่แบบนี้(ไม่ได้อยากโลกสวยนะแต่นั่นแม่ปะ) นับจากนั้นเราก็ไม่คุยกับเออีกเลย ถามคำตอบคำแบบไม่ใส่ใจ จนเอทนไม่ไหวออกไปโทรหาแม่ให้มารับกลับบ้าน เราก็ไม่สนใจนะเพราะเราก็เหนื่อยเหมือนกันขาดเอไปซักคนงานเราก็สามารถเสร็จได้เพราะเอไม่เคยยื่นมือเข้ามาช่วยเลยซักนิด หลังจากนั้นเอก็ไม่รร.เป็นอาทิตย์จนครูที่ปรึกษาต้องไปรับมาจากบ้านเพื่อให้มาเรียน ครูที่ปรึกษาก็เรียกเรากับเพื่อน2-3คนไปเคลียร์กับเอเพราะเขาคงรู้เรามีปัญหากับเอ แล้วตอนที่เรานั่งเคลียร์กันอยู่ครูงานวิจัยก็มาเห็นเลยเข้ามานั่งฟังด้วย เราก็แบบพูดออกไปตามจริง เอคงรับไม่ได้หรืออะไรไม่ทราบจึงร้องไห้ต่อหน้าครู ครูที่ปรึกษาก็ปลอบเรากับเพื่อนก็แบบมองหน้ากันแต่ไม่พูดอะไรออกไป แต่เราก็แอบขำนิดนึงตอนที่ครูงานวิจัยพูดกับเอว่า "หนูอ่อนไหวง่ายไปไหมลูก" หลังจากนั้นครูที่ปรึกษาก็บอกให้เรากับเพื่อนขอโทษเอ เราก็ขอโทษออกไปตามที่ครูสั่งแบบไม่อิดออด แต่เอก็เหมือนเดิมไม่มารร.อีกแล้ว ครูที่ปรึกษาจึงพาเรากับเพื่อนอีกคนไปบ้านเอแล้วไปคุยกับเอที่บ้าน พอเราเจอเอที่บ้านเราก็มองหน้าเอนะ เวลามันเล่าอะไรเราก็มองหน้าเอตลอด แต่เอไม่คิดจะมองหน้าเราเลย ทำให้เราไม่รู้ว่าที่เอพูดอะจริงใจหรือป่าว จนมาถึงวันที่จะขึ้นม.6 เราก็มาทราบจากครูว่าเอลาออก เราก็แบบอ๋อค่ะ หนูไม่รู้เรื่องเลย
- ม.6 เราไม่เจอเอแล้วเราก็แอบดีใจนะ55555 (ทำไมเราแลร้ายจัง) เป็นปีที่เราโชคดีมากเจอครูที่ปรึกษาใจดี มีวันนึงที่เอไลน์เข้ามาในห้องว่า"เพื่อนๆเป็นยังไงบ้างเรียนหนักมั้ย" คือไม่รู้ว่าคิดไปเองหรือป่าวที่คิดว่าเอมาเยาะเย้ยเพราะสายวิทย์นั้นเรียนหนักอยู่แล้วเพราะเอได้ย้ายไปอยู่สายอื่น เราก็เลยไลน์ตอบไปว่า "ก็สบายดี โชคดีมีที่ปรึกษาใจดี เรียนไม่ยากเท่าไรเพื่อนๆในห้องก็ดีนะมีน้อยดีห้องโล่งไปเยอะเลย" หลังจากนั้นเอก็เปลี่ยนไลน์ไปเลย เราก็ไม่ได้ไปตามติดชีวิตเอ จนมีวันนึงนางโพสต์ว่า "รำคานอีนั่นมากๆเลย เอามันไปไกล" ด้วยความที่มีอคติกันอยู่ เราเลยคิดว่าเป็นตัวเอง เราก็โพสต์หน้าเฟสเราว่า "ถ้าอยากจะโพสต์ด่าเราช่วยแท็กชื่อเราหน่อยจะได้รู้ว่าด่าใคร เราไม่อยากคิดไปเอง"  พอเราโพสต์เสร็จเอก็ลบโพสต์นั้นออกไป มันทำให้เราเข้าใจหลายๆอย่าง แล้วเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมานี้ เราก็เพิ่งได้รู้ว่าเวลาเอโพสต์ทุกอย่างหน้าเฟส เอจะตั้งค่าไม่ให้เราเห็นโพสต์นั้น เราเลยขอยืมเฟสเพื่อนไปดูแล้วเอามาเปรียบเทียบกับของเราซึ่งมันก็จริงอย่างที่เราคิด ที่ทำให้เราไม่พอใจคือเอโพสต์ว่า "ใครว่าเรียนที่ไหนก็เหมือนกันแค่เพื่อนก็ไม่เหมือนแล้ว" ทำไมนางต้องเหน็บเรา เราไม่เข้าใจเลย เรานำความจริงมาพูดล้วนๆถ้าหากไม่เชื่อก็ไม่ว่ากันเพราะต่างคนต่างความคิด อยากให้เพื่อนๆแสดงความคิดเห็นกัน เราเป็นเด็กที่เรียนนะแต่ไม่ค่อยจะเรียบร้อยซักเท่าไร
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่