เหนือมนตรา ตอนที่ 2

กระทู้สนทนา
นักขวราชกำลังนั่งเขียนหนังสือโดยมีนางกำนัลคอยถวายงานอยู่ใกล้ๆพระนางวางดินสอลงทันทีเมื่อเห็นพระเจ้าหัตถากานต์เสด็จเข้ามา

“ รดี  เจ้าเก็บหนังสือบนโต๊ะนี่เถอะข้าจะไปพักผ่อนแล้ว ”

นักขวราชลุกขึ้นจะเดินหนีเข้าห้องบรรทมแต่พระเจ้าหัตถากานต์ทรงเรียกสุรเสียงเข้ม

“ เดี๋ยวสิน้องพี่  พอเห็นพี่มาเจ้าก็จะหนีหน้าพี่เชียวหรือ ”
“ เปล่าเพคะ ”
“ เปล่ารึ  ที่เจ้าลุกขึ้นทำท่าเดินหนีพี่เจ้าจะบอกว่าเปล่า  หรือเจ้าจะรีบมาต้อนรับพี่ ”

สุรเสียงเยาะๆทำให้องค์เทวีเชิดพระพักตร์อย่างถือดี

“ หม่อมฉันคงไม่บังอาจไม่ถวายการต้อนรับเจ้าพี่หรอกเพคะ  เพราะจะทำให้ทรงเคืองขุ่นไม่พอพระทัยเสียเปล่าๆ ”
“ ดี  ไหนเจ้าทำให้พี่สุขสำราญเบิกบานใจหน่อยเป็นไร ”

พระเจ้าหัตถากานต์เสด็จประทับลงบนตั่งและหันไปสั่งนางกำนัลให้ออกไป

“ พวกเจ้าออกไปให้พ้นหน้าข้า ”
“ เจ้าพี่  ไฉนต้องขับไล่คนของข้าออกไป ”
“ พวกมันขวางหูขวางตาพี่  และพี่ก็ต้องการให้เจ้าทำให้พี่สำราญใจแต่เพียงผู้เดียว  เจ้าลืมไปแล้วหรือว่าครั้งหนึ่งเราเคยอยู่ด้วยกันตามลำพังโดยไม่มีผู้ใดมาขวางหูขวางตา  เราเที่ยวเล่นชมนกชมไม้ด้วยกัน  พี่มีความสุขที่สุด ”
“ หยุดตรัสเถอะเพคะ  พี่ชายที่แสนดีของหม่อมฉันพระองค์นั้นทรงจากหม่อมฉันไปแล้วทุกอย่างมันจบลงไปแล้ว ”
“ จบหรือ  จบเพราะเจ้าเป็นผู้ทำลายมัน  เจ้าทำลายมันจนไม่เหลือแล้ว ”
“ ใครกันแน่เพคะที่เป็นผู้ทำลาย  เจ้าพี่โหดร้ายเห็นแก่ตัว  เจ้าพี่ต่างหากที่เป็นผู้ทำลายเจ้าพี่พระทัยร้ายอำมหิตที่สุด ”
“ หยุดเดี๋ยวนี้นะนักขวราช  ตาบอด  เจ้ามันลุ่มหลงจนตามืดบอด เจ้ามองพี่เป็นผู้โหดร้ายแล้วสิ่งที่เจ้ากับมันร่วมมือกันทำนั่นเจ้าไม่โหดร้ายกว่าหรือ เจ้าย่ำยีศักดิ์ศรีของพี่ทำลายความรักที่พี่มอบให้กับเจ้า เจ้ายังไม่สำนึกคอยโหยหาไปเถอะ ในเมื่อเจ้าพอใจที่จะทุกข์ทรมาน เจ้าก็จะต้องทรมานไปตลอดชีวิต ”
“ หม่อมฉันทุกข์เพราะรอคอยความหวังจากรัก แต่เจ้าพี่สิทุกข์เพราะพ่ายแพ้ ผู้แพ้อย่างเจ้าพี่ชาตินี้จะไม่มีวันได้รู้จักกับคำว่ารัก ไม่มีวัน ”
“ นักขวราช  เจ้าไปนะ ไปให้พ้นหน้าของพี่ ใจของเจ้ามันมืดบอด เจ้าออกไป ออกไป ”

สุรเสียงที่สั่นอย่างควบคุมพระสติตนเองอย่างเต็มที่แต่กระนั้นดัชนีที่ชี้ออกไปยังสั่นระริกอย่างพิโรจน์สุดขีด นักขวราชวิ่งกรรแสงออกไปอย่างผู้ที่เจ็บช้ำเหลือเกิน  พระเจ้าหัตถากานต์ยืนนิ่งขึงพระหัตถ์กำแน่นพระเนตรวาวโรจน์แรงโทสะบวกกับความเจ็บปวดในหทัยอย่างแสนสาหัสทำให้เจ้าบาดาลกลายร่างกลับเป็นพญานาคองค์มหึมาเลื้อยแล่นออกจากบาดาลนครทิพย์ทันที

“ ตูม ๆ ๆ ๆ โครม ๆ ๆ ๆ ”

แผ่นน้ำที่ราบเรียบแตกกระจายด้วยแรงโทสะ เสียงดังสนั่นหวั่นไหว เมฆและลมอื้ออึงเหมือนจะช่วยระบายความแค้นที่สุมแน่นในอกของเจ้านครบาดาล


****


“ ตื่นแต่เช้าเลยนะครับนายชั่ง ”

ลุงจาบภารโรงเข้ามาทักภควัตเมื่อเห็นเขาลงมาเดินเล่นแต่เช้าตรู่

“ ครับ  แต่ก็ยังช้ากว่าลุงนะ ”
“ เมื่อคืนนอนหลับสบายไหมครับ ”
“ ก็หลับครับ  แต่ยังไม่ค่อยเต็มที่เท่าไหร่  มันหลับๆตื่นๆ ”
“ อย่างนี้แหละครับเพราะยังไม่ชินกับสถานที่  แต่เดี๋ยวก็ชิน ”
“ เมื่อคืนผมรู้สึกว่าลมแรงแล้วฝนจะตก ”
“ ในป่าก็อย่างนี้แหละครับ  ลม ฝนเกิดได้ทุกเวลา ผมขอตัวก่อนนะครับต้องไปทำความสะอาดต่อ ”
“ ครับ ”


****


“ กลุ่มวิศวกรสำรวจเอาแผนที่ออกมากางดูแนวเขตที่จะใช้ก่อสร้างเขื่อนกันอีกครั้ง

“ ดูตามแผนที่  บึงนี้ทอดยาวไปจรดแม่น้ำ  มีสันเขาโอบล้อมอยู่เกือบคล้ายอ่างเก็บน้ำตามธรรมชาติ ”
“ นี่แหละเขาให้คงสภาพบึงธรรมชาตินี้เอาไว้ให้มากที่สุดถ้าเป็นปได้การก่อสร้างจะต้องไม่กระทบกระเทือนอ่างธรรมชาติมากนัก ”
“ ทัศนียภาพสวยจังเลยนะครับ ”

ภควัตชมเพราะความงดงามแห่งบึงใหญ่นี้ชั่งงดงามประทับใจเขาเหลือเกิน

“ นี่เพิ่งสามโมงกว่าๆเองผมว่าเราเดินเข้าไปที่ริมบึงกันดีกว่าไหม ”
“ จะไหวหรือคุณ  มองด้วยสายตาก็ว่ามันใกล้นะ แต่ขนาดนี้ลองเดินกันจริงๆผมว่าไปกลับเป็นชั่วโมงเหมือนกันนะคุณ ”
“ ทางชันแบบนี้ขับรถลงไปคงไม่ได้  เดี๋ยวลงไปแล้วเกิดขึ้นไม่ได้เดี๋ยวจะยุ่ง ”
“ อย่างนั้นก็เอาไว้คราวหน้า เราเตรียมตัวมากันให้พร้อมชวนคนงานมาด้วยเผื่อจะได้หาปลากัน ปลาในบึงนี่เขาว่าชุมนัก ดีไหม ”
“ ดีเลย  ผมเห็นด้วยกับคุณลือ ”


****


“ นายช่างจะไปหาปลากันที่บึงหรือครับ ”
“ ใช่  เมื่อวานไปสำรวจลู่ทางกันมาแล้วตรงด้านที่ติดชายป่าน้ำน่าจะไม่ลึกมาก  เล่นน้ำก็ได้หาปลาก็ได้ใช่ไหม ”
“ แต่มันเข้าไปลำบากนะครับย่านนั้นน่ะ  รถน่ะเข้าไปไม่ได้แน่นอนต้องเดินเท้าเข้าไปอย่างเดียว ”
“ พวกเราตั้งใจจะเดินกันเข้าไปอยู่แล้ว  แต่จะหาแนวร่วมเข้าไปจับปลากัน  เห็นว่าปลาชุมนัก ”
“ ครับ  ปลาชุมมาก แต่งูก็ชุมด้วยนะครับ ”
“ ป่าก็ต้องมีงูเป็นธรรมดา  พวกเราไปกันเป็นโขยงงูมันได้ยินเสียงวก็เผ่นไปถึงไหนๆแล้ว  ไม่มาอยู่ไล่กัดพวกเราหรอกน่า ”

สมโชคพูดอย่างคึกคะนองอยากไปจับปลา

“ ป่าแถวนั้นจริงๆแล้วไม่ค่อยมีใครอยากเข้าไปหรอกครับ  มันมีงูชุกชุมแถมปลิงทากก็ชุมด้วย ”
“ หวา  งูน่ะพอไหวแต่ปลิงนี่ผมกลัว ”

บุญลือทำท่าสยอง

“ กลัวอะไรกับปลิงเล่า  เอายากันทากทาปลิงมันก็ไม่มายุ่งกับเราแล้ว  ไปนะชวนคุณเบียลไปด้วย  ไปดูความอุดมสมบูรณ์ของป่าบึงบ้านเราจะได้รู้ว่าที่นี่ก็ไม่แพ้ป่าอเมซอนเหมือนกันนะ ”
“ เอาแน่นะคุณ ”
“ แน่สิ  ผมล่ะคันไม้คันมืออยากจับปลาตัวโตๆเอามาเผาเกลือแกล้มบรั่นดีมื้อเย็นแล้ว ”

และวันรุ่งขึ้นหลังจากเสร็จงานคณะประมงสมัครเล่นก็ออกเดินทางมุ่งหน้าบึงใหญ่โดยมีเครื่องมือหาปลาที่คนงานจัดหาเอามาให้ ได้ทั้งสุ่ม แก ตาข่าย ภควัตดูจะตื่นเต้นกับบึงนี้เป็นพิเศษเพราะเขารู้สึกชอบบึงใหญ่แห่งนี้อย่างบอกไม่ถูก เมื่อเรถเข้ามาจอดเพราะไปต่อไม่ได้แล้วชาวคณะประมงมือใหม่ก็เฮกันลงเดินฝาดงไม้ดงหญ้าเข้าไปยังจุดหมายปลายทาง ทางเดินเรียบแนวชายป่าที่เต็มไปด้วยมวลไม้นานาชนิด

“ ทางเดินโน้นมีน้ำตกด้วยนะครับ ”

คนงานที่นำทางบอก

“ จริงเหรอแล้วสวยไหม ”
“ สวยสิครับ  สวยมากเลยเป็นน้ำตกที่สูงมากตกลงมาจากภูเขาลูกนั้น  น้ำใสสะอาดทั้งตาปีไม่เคยแห้ง ”
“ น่าแวะเข้าไปดูกันนะ ”

ภควัตชวนอย่างสนใจ

“ อย่าเลยครับ ”
“ อ้าว  ทำไมล่ะ ก็ไหนว่าสวยน้ำก็ใสแล้วทำไมไม่อยากให้เข้าไปล่ะ ”
“ งูสิครับ  งูชุมมากเขาบอกว่าบางตัวใหญ่เท่าขาสะโพก ”
“ งูเหลือมน่ะสิ  ไม่เห็นจะต้องกลัวงูเหลือมมันไม่ทำร้ายคนหรอก ”
“ บ้าน่ะสิคุณลือ  งูเหลือมน่ะมันกินทุกอย่างที่ขวางหน้านะคุณ ยิ่งตัวเท่าขาสะโพกล่ะมันกินคุณได้สบายเลย ”
“ แหมคุณพูดยังกับงูมันคอยจ้องจะจับกินคนอย่างนั้นแหละ  งูในป่าใหญ่ๆมันขี้ตกใจง่ายแค่ได้ยินเสียงคนมันก็ไม่อยู่รอกินใครแล้วล่ะ ”

คณะพรานปลาเมื่อมาถึงที่หมายก็ลงมือล่าปลากันทันทีอย่างสนุกสนานเดี๋ยวฮือเดี๋ยวฮากันเมื่อจับปลาได้บ้างเจอเอาปลิงบ้างหรือแม้แต่งูตัวเล็กๆให้เป็นหวาดเสียวน้อยๆกัน ภควัตเดินเลี่ยงออกจากกลุ่มลุยน้ำเหยียมทรายอ่อนๆที่นุ่มเท้าไปเรื่อยๆหูก็ได้ยินเสียงเพื่อนๆนักล่าปลาหัวเราะกันอย่างครื้นเครง ชายหนุ่มยืนมาหยุดยืนอยู่ปากทางลำธารที่ไหลมาสู่บึงแห่งนี้ มองสายน้ำที่ไหลเอื่อยมาตามโขดหินเป็นแนวกว้าง ภควัตได้ยินเสียงน้ำตกดังอยู่ไม่ไกลนักเขาจึงเดินทวนกระแสน้ำไปเพื่อจะไปที่น้ำตก สายน้ำเย็นฉ่ำจนรู้สึกยะเยือกไปทั้งตัว ความร่มครึ้มของป่าทำให้บรรยากาศรอบกายเงียบจนรู้สึกว่าเสียงของน้ำตกเท่านั้นที่ดังซ่านซ่าอยู่ ไม่มีสำเนียงเสียงของสัตว์ป่ากู่ร้องดังเช่นในป่าทั่วไป ทั่วอาณาบริเวณก็ไม่พบเห็นนกหนูหรือสัตว์ใดๆสักตัวเดียวทั้งๆที่ป่า ณ ที่นี้อุดมสมบูรณ์ไปด้วยไม้ดอกไม้ผลหลากหลายชนิด ดอกไม้ป่าและกล้วยไม้ป่าชูช่อออกดอกบานสพรั่งไปทั่ว ภควัตชื่นชมพรรณไม้ดอกไม้อย่างตื่นเต้น มันช่างงดงามเหมือนอยู่ท่ามกลางสวนไม้ดอก ยิ่งมาถึงน้ำตกต้นเสียงซ่านซ่าภควัตยิ่งตื่นตะลึงกับความงดงามที่ซ่อนตัวอยู่ในป่า ช่างงดงามอะไรเช่นนี้ น้ำตกที่ไหลลดหลั่นลงมาจากยอดเขาสูงไล่ระดับลงมาเหมือนถูกจัดแต่งให้ได้ระดับของความงดงาม สายน้ำใสขาวดังเกล็ดแก้วที่ตกกระจายยาวร่วงสู่พื้นเถาวัลย์ที่ห้อยย้อยลงมาเหมือนชิงช้าเชือกที่ผูกเอาไว้เหนือพื้นดินที่มวลดอกไม้ออกดอกสีขาวแดงเหลืองสลับปะปนกันอย่างงดงามดารดาษไปทั่วพื้น เหมือนสวนสวรรค์ เหมือนอุทยานเทพ ทำไมที่แห่งนี้จึงได้งดงามเช่นนี้  ภควัตก้าวเดินชมความงามแห่งสถานที่จนมาถึงสายน้ำที่ไหลซ่านมาจากชั้นบน เขามองผ่านม่านน้ำเข้าไปจึงรู้ว่าหลังม่านนั้นเป็นถ้ำ มีถ้ำอยู่หลังม่านน้ำภควัตก็อยากเข้าไปสำรวจ ชายหนุ่มก้าวเหยียบบนโขดหินเพื่อจะเข้าไปในถ้ำแต่ต้องถึงกับชะงักตัวชาวาบอย่างตกตะลึง งูจงอางขนาดใหญ่ที่ซ่อนตัวอยู่หลังโขดหินผงาดตัวขึ้นตั้งตรงอยู่เบื้องหนาภควัตห่างกันไม่เกินสองเมตรเป็นระยะทำการของมันพอดี ดวงตาสีแดงสดของมันจ้องผู้บุกรุกอย่างเอาแน่ ภควัตเย็นยะเยือกไปทั้งร่างความกลัวแล่นไปทั่วทุกขุมขนใจสั่นระริกทำอะไรไม่ถูกและก่อนที่เจ้าอสรพิษร้ายจะพุ่งตัวเข้าฉกกัดศัตรูที่มันมาดหมาย เสียงหนึ่งที่ทรงอำนาจก็ตวาดขึ้น

“ อย่า ”

ภควัตตาเบิกค้างเขาจ้องมองเจ้างูพิษที่หยุดชะงักและค่อยๆลดตัวลงราบกับพื้น แล้วมันก็เลื้อยผ่านเขาไปในถ้ำหลังม่านน้ำนั้น ภควัตใจสั่นระริกมือเท้าเย็นเฉียบเขากลืนน้ำลายลงคออย่ายากเย็นแล้วหันมองเจ้าของเสียงที่สามารถหยุดมัจจุราชตนนั้นได้ ร่างสูงสง่าที่ยืนเด่นอยู่เหนือโขดหินใหญ่จ้องมองภควัต สายตาที่มองมานั้นภควัตไม่ทันสังเกตว่าวาววับชิงชังผู้ถูกมองเหลือเกิน

“ ขอบคุณครับ  ขอบคุณ ”

น้ำเสียงที่ขอบคุณยังสั่นเพราะเพิ่งผ่านความหวาดกลัวมาอย่างสุดขีด ผู้ที่ยืนเด่นยิ้มเยาะหยันทั้งสายตา

“ กลัวมันมากรึ ”

น้ำเสียงกังวานเย็นเยือก

“ ครับ  ผมเพิ่งเจออะไรที่น่าสยดสยองที่สุดก็วันนี้ มันสุดจะบรรยายเลยครับ ”
“ คุณวัตครับ คุณวัต ”

เสียงตะโกนเรียกของบุญลือ ภควัตหันมองเพื่อนแล้วรีบกระโดดลงจากโขดหินไปหาเพื่อนที่ตามมาหาทันที

“ ผมนึกแล้วเชียวว่าคุณต้องมาที่น้ำตกนี่ พวกเรากำลังจะกลับกันแล้ว ”

ภควัตยังหน้าซีดไม่หายจนบุญลือทักที่เห็นเขาหน้าขาวซีดจนผิดตา

“ ทำไมหน้าคุณซีดจัง ไม่สบายหรือเปล่าครับ ”
“ เปล่า  แต่พบเจองู  งูจงอางตัวใหญ่มากมันเกือบจะกัดผมแล้วถ้าคุณคนนั้น  อ้าว ”
“ มองหาอะไรครับ  หาไอ้งูตัวนั้นเหรอ ”
“ ไม่ ”

ภควัตยังจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว  เขาไม่สนใจว่าชายคนที่ช่วยชีวิตของเขานั้นหายไปไหนแล้ว ชายหนุ่มรีบออกเดินจ้ำอ้าวออกไปจากที่ตรงนั้นอย่างอกสั่นขวัญแขวน จนบุญลือต้องรีบเดินตาม








...พิมพ์พิลาสฒ์...
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่