คดีนี้อัยการยื่นฟ้อง นายชินวัฒน์ หาบุญพาด อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย และแกนนำประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. และ นายธีรวัฒน์ บุญพา ฐานร่วมกันมีใช้ ซึ่งเครื่องวิทยุคมนาคม จัดตั้งสถานีวิทยุคมนาคมโดยไม่ได้รับอนุญาตและจงใจกระทำให้เกิดการรบกวนหรือขัดขวางต่อการวิทยุคมนาคม
จากกรณีเมื่อวันที่ 9 มกราคม ถึง 13 เมษายน 2552 นายชินวัฒน์ และ นายธีรวัฒน์ ร่วมกันมีและใช้เครื่องวิทยุคมนาคมที่ไม่ปรากฏหมายเลขทะเบียน คลื่นความถี่ใช้งานภาคส่งที่คลื่นวิทยุ 107.5 เมกะเฮิรตซ์ ที่อาคารเอ็มพี ทาวเวอร์ เขตดินแดง โดยไม่ได้รับอนุญาต จงใจกระทำให้เกิดการรบกวนความถี่วิทยุของทางสถานีวิทยุกระจายเสียง กรมการขนส่งทางน้ำและพาณิชยนาวี
สำหรับนายชินวัฒน์ จำเลยที่ 1 ก่อนหน้านี้ศาลอาญามีคำสั่งให้จำหน่ายคดีออกสารบบความ เนื่องจากหลบหนีระหว่างพิจารณาคดี และให้ออกหมายจับไว้แล้ว ศาลจึงอ่านคำพิพากษาในส่วนของนายธีรวัฒน์ จำเลยที่ 2
ซึ่งศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่ามีพยานเบิกความว่า นายธีรวัฒน์ เป็นผู้ทำสัญญาเช่าพื้นที่ ให้นายชินวัฒน์ จัดตั้งสถานีวิทยุและออกอากาศ จึงถือเป็นตัวการร่วมในการกระทำความผิดตามพระราชบัญญัติวิทยุคมนาคม พ.ศ. 2498 พิพากษาจำคุกนายธีรวัฒน์ 3 ปี แต่การนำสืบเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาคดี ลดโทษ 1 ใน 3 เหลือจำคุกนายธีรวัฒน์ 24 เดือน
ขอบคุณข่าวจาก มติชน
เอาลิงค์เพื่อให้คนอีกกลุ่มรู้ว่า "ความจริง ก็คือ ความจริง"
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1437622559
ศาลพิพากษาจำคุก 2 ปี ธีรวัฒน์ บุญพา ส่วนจำเลยร่วม ชินวัตร หาบุญพาด แกนนำ นปช. ศาลสั่งออกหมายจับเนื่องจากหลบหนี
จากกรณีเมื่อวันที่ 9 มกราคม ถึง 13 เมษายน 2552 นายชินวัฒน์ และ นายธีรวัฒน์ ร่วมกันมีและใช้เครื่องวิทยุคมนาคมที่ไม่ปรากฏหมายเลขทะเบียน คลื่นความถี่ใช้งานภาคส่งที่คลื่นวิทยุ 107.5 เมกะเฮิรตซ์ ที่อาคารเอ็มพี ทาวเวอร์ เขตดินแดง โดยไม่ได้รับอนุญาต จงใจกระทำให้เกิดการรบกวนความถี่วิทยุของทางสถานีวิทยุกระจายเสียง กรมการขนส่งทางน้ำและพาณิชยนาวี
สำหรับนายชินวัฒน์ จำเลยที่ 1 ก่อนหน้านี้ศาลอาญามีคำสั่งให้จำหน่ายคดีออกสารบบความ เนื่องจากหลบหนีระหว่างพิจารณาคดี และให้ออกหมายจับไว้แล้ว ศาลจึงอ่านคำพิพากษาในส่วนของนายธีรวัฒน์ จำเลยที่ 2
ซึ่งศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่ามีพยานเบิกความว่า นายธีรวัฒน์ เป็นผู้ทำสัญญาเช่าพื้นที่ ให้นายชินวัฒน์ จัดตั้งสถานีวิทยุและออกอากาศ จึงถือเป็นตัวการร่วมในการกระทำความผิดตามพระราชบัญญัติวิทยุคมนาคม พ.ศ. 2498 พิพากษาจำคุกนายธีรวัฒน์ 3 ปี แต่การนำสืบเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาคดี ลดโทษ 1 ใน 3 เหลือจำคุกนายธีรวัฒน์ 24 เดือน
ขอบคุณข่าวจาก มติชน
เอาลิงค์เพื่อให้คนอีกกลุ่มรู้ว่า "ความจริง ก็คือ ความจริง"
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1437622559