
หากใครเป็นลูกค้าธนาคารกสิกรหรือมีธุรกรรมเกี่ยวกับธนาคารกสิกร สุดสัปดาห์ที่ผ่านมาก็คงทราบข่าวเกี่ยวกับการปิดระบบครั้งใหญ่ เรียกว่า Shut down ระบบทั้งหมดยกเว้นบริการบัตรเครดิตเพียงอย่างเดียว หากไม่คิดอะไรมากก็อาจจะเป็นเรื่องปกติ แต่การปิดระบบครั้งนี้ของ Kbank ในเชิงการบริหารจัดการเรื่องไอที หรือดิจิตอลแบงก์กิ้งไม่ธรรมดาครับตามแนวคิดของ CEO แบงก์เจ้าสัวบัณฑูร ล่ำซำ
ที่แน่ ๆ ผมลองของเรื่อง 028888888 หรือ Call Center เดิมผมโทรไปเสียเงินเพื่อรอสายและฟังเพลง เพื่อจะคุยกับพนักงานที่มีชีวิต จนท้อ แต่คราวนี้ไม่รู้ว่าเกี่ยวกับปิดระบบหรือเปล่า ได้คุยกับตัวเป็น ๆ ง่ายขึ้น ไม่มีเสียงว่าพนักงานกำลังปฏิบัติงานแล้วให้เรารออีก
เอาเป็นว่าเจ้าสัวออกได้ชี้แจงการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ว่า ธนาคารกสิกรไทยได้เปลี่ยนระบบไอทีหลัก (Core Banking) เป็นระบบใหม่เพื่อให้ระบบฐานข้อมูลลูกค้าของธนาคารฯให้มีความเสถียร ถูกต้องแม่นยำ และเชื่อมต่อกันในทุกช่องทางยิ่งขึ้น พร้อมสู่ยุคเศรษฐกิจดิจิทัลอย่างเต็มตัว
เจ้าสัวบัณฑูรระบุว่า การเปลี่ยนแปลงสำคัญที่จะได้เห็นต่อไป คือ จะขยายยอดผู้ใช้ และธุรกรรมด้านดิจิทัล แบงกิ้ง แบบไร้ขีดจำกัดเรื่องเวลา สถานที่ ผ่านอุปกรณ์ใช้งานเทคโนโลยีทุกรูปแบบ รองรับการเปิดการค้าเสรีเออีซีตลอดจนการค้าข้ามประเทศทุกระดับ สามารถรายงานข้อมูลทางการเงินของลูกค้าได้แบบเรียลไทม์ พร้อมดูแลความถูกต้องปลอดภัยของข้อมูลลูกค้า
โดยก่อนหน้านั้นธนาคารได้ออกข่าวว่าได้ทุ่มงบลงทุนพัฒนาไอทีไปแล้วกว่า 1,472 ล้านบาท เพื่อสนองยุทธศาสตร์ที่จะผลักดันให้ กสิกรไทยเป็น “Main Operating Bank” ด้วยพันธกิจ “Tomorrow Comes Today เรานำวันพรุ่งนี้ มาให้คุณก่อนใคร”
ดังนั้นที่แน่ ๆ กสิกรกำลังจะเร่งให้ลูกค้าสู่ On-Mobile Platform ซึ่งทำให้ลูกค้าผู้ประกอบการสามารถบริหารจัดการบัญชีส่วนตัวและบัญชีนิติบุคคลบนช่องทางเดียวกันได้ และ On-Cloud Platform เพื่อลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพทางด้านการเงินของลูกค้าที่เป็ฯส่วนธุรกิจ องค์กรเพิ่มขึ้น
ที่สำคัญคือระบบ การบริหารจัดการความมั่นคงปลอดภัยในการทำธุรกรรม เพื่อป้องกันกลุ่มมิจฉาชีพ ตั้งทีม 24 ชั่วโมง โดยตั้งฝ่ายบริหารความเสี่ยงด้านปฏิบัติการและจัดการการทุจริต หรือ ทีม Fraud Management และมีทีม Call Center คอยให้ความช่วยเหลือ ให้คำปรึกษา และรับเรื่องร้องเรียนจากลูกค้าแบบทันท่วงที
แน่นอนครับเวลาเป็นตัวพิสูจน์ว่า ยุทธศาสตร์และกลยุทธ์ที่กำหนดจะสำเร็จหรือไม่ ด้วยตัวเร่งปัจจุบันคือเทคโนโลยีด้านการสื่อสาร 4 ด้าน ได้แก่ 1) ความแพร่หลายของ Social Media 2) Smart Phone 3) รูปแบบการเก็บข้อมูลที่เรียกว่า Cloud 4) ปริมาณข้อมูลขนาดใหญ่หรือ Big Data บนเครือข่ายสังคมออนไลน์ ซึ่งคิดว่าเป็นการปรับตัวของธุรกิจภาคการเงินหนึ่งที่เห็นได้ชัดเจนก่อนที่จะเปิด AEC ส่วนการบริการแต่ละส่วนหลังปรับลองมาช่วงประเมินกันครับหากใครเป็นลูกค้าธนาคารแบรนด์สีเขียวแห่งนี้
Kbank เปลี่ยนอะไรบ้างหลัง Shut Down ระบบครั้งใหญ่ 2 วัน
หากใครเป็นลูกค้าธนาคารกสิกรหรือมีธุรกรรมเกี่ยวกับธนาคารกสิกร สุดสัปดาห์ที่ผ่านมาก็คงทราบข่าวเกี่ยวกับการปิดระบบครั้งใหญ่ เรียกว่า Shut down ระบบทั้งหมดยกเว้นบริการบัตรเครดิตเพียงอย่างเดียว หากไม่คิดอะไรมากก็อาจจะเป็นเรื่องปกติ แต่การปิดระบบครั้งนี้ของ Kbank ในเชิงการบริหารจัดการเรื่องไอที หรือดิจิตอลแบงก์กิ้งไม่ธรรมดาครับตามแนวคิดของ CEO แบงก์เจ้าสัวบัณฑูร ล่ำซำ
ที่แน่ ๆ ผมลองของเรื่อง 028888888 หรือ Call Center เดิมผมโทรไปเสียเงินเพื่อรอสายและฟังเพลง เพื่อจะคุยกับพนักงานที่มีชีวิต จนท้อ แต่คราวนี้ไม่รู้ว่าเกี่ยวกับปิดระบบหรือเปล่า ได้คุยกับตัวเป็น ๆ ง่ายขึ้น ไม่มีเสียงว่าพนักงานกำลังปฏิบัติงานแล้วให้เรารออีก
เอาเป็นว่าเจ้าสัวออกได้ชี้แจงการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ว่า ธนาคารกสิกรไทยได้เปลี่ยนระบบไอทีหลัก (Core Banking) เป็นระบบใหม่เพื่อให้ระบบฐานข้อมูลลูกค้าของธนาคารฯให้มีความเสถียร ถูกต้องแม่นยำ และเชื่อมต่อกันในทุกช่องทางยิ่งขึ้น พร้อมสู่ยุคเศรษฐกิจดิจิทัลอย่างเต็มตัว
เจ้าสัวบัณฑูรระบุว่า การเปลี่ยนแปลงสำคัญที่จะได้เห็นต่อไป คือ จะขยายยอดผู้ใช้ และธุรกรรมด้านดิจิทัล แบงกิ้ง แบบไร้ขีดจำกัดเรื่องเวลา สถานที่ ผ่านอุปกรณ์ใช้งานเทคโนโลยีทุกรูปแบบ รองรับการเปิดการค้าเสรีเออีซีตลอดจนการค้าข้ามประเทศทุกระดับ สามารถรายงานข้อมูลทางการเงินของลูกค้าได้แบบเรียลไทม์ พร้อมดูแลความถูกต้องปลอดภัยของข้อมูลลูกค้า
โดยก่อนหน้านั้นธนาคารได้ออกข่าวว่าได้ทุ่มงบลงทุนพัฒนาไอทีไปแล้วกว่า 1,472 ล้านบาท เพื่อสนองยุทธศาสตร์ที่จะผลักดันให้ กสิกรไทยเป็น “Main Operating Bank” ด้วยพันธกิจ “Tomorrow Comes Today เรานำวันพรุ่งนี้ มาให้คุณก่อนใคร”
ดังนั้นที่แน่ ๆ กสิกรกำลังจะเร่งให้ลูกค้าสู่ On-Mobile Platform ซึ่งทำให้ลูกค้าผู้ประกอบการสามารถบริหารจัดการบัญชีส่วนตัวและบัญชีนิติบุคคลบนช่องทางเดียวกันได้ และ On-Cloud Platform เพื่อลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพทางด้านการเงินของลูกค้าที่เป็ฯส่วนธุรกิจ องค์กรเพิ่มขึ้น
ที่สำคัญคือระบบ การบริหารจัดการความมั่นคงปลอดภัยในการทำธุรกรรม เพื่อป้องกันกลุ่มมิจฉาชีพ ตั้งทีม 24 ชั่วโมง โดยตั้งฝ่ายบริหารความเสี่ยงด้านปฏิบัติการและจัดการการทุจริต หรือ ทีม Fraud Management และมีทีม Call Center คอยให้ความช่วยเหลือ ให้คำปรึกษา และรับเรื่องร้องเรียนจากลูกค้าแบบทันท่วงที
แน่นอนครับเวลาเป็นตัวพิสูจน์ว่า ยุทธศาสตร์และกลยุทธ์ที่กำหนดจะสำเร็จหรือไม่ ด้วยตัวเร่งปัจจุบันคือเทคโนโลยีด้านการสื่อสาร 4 ด้าน ได้แก่ 1) ความแพร่หลายของ Social Media 2) Smart Phone 3) รูปแบบการเก็บข้อมูลที่เรียกว่า Cloud 4) ปริมาณข้อมูลขนาดใหญ่หรือ Big Data บนเครือข่ายสังคมออนไลน์ ซึ่งคิดว่าเป็นการปรับตัวของธุรกิจภาคการเงินหนึ่งที่เห็นได้ชัดเจนก่อนที่จะเปิด AEC ส่วนการบริการแต่ละส่วนหลังปรับลองมาช่วงประเมินกันครับหากใครเป็นลูกค้าธนาคารแบรนด์สีเขียวแห่งนี้