คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 3
การจะสึกพระนั้น ถ้าเจ้าตัวไม่สึก ใครจะไปจับเขาสึกได้หรือ
แต่เขามีกฎมีขั้นตอนในการพิจารณาความทางพระธรรมวินัย ถ้าพระประพฤติผิดพระธรรมวินัย ก็ต้องว่ากันไปตามความผิดอาบัติที่ได้ปฏิบัติล่วงละเมิด แล้วลงโทษไปตามนั้น
แต่ธัมมชโย และพุทธอิสระนั้น ต่างก็มีข้อครหาทางกฎหมายบ้านเมือง และทางพระธรรมวินัยด้วยกันทั้งคู่
ต้องพิจารณาว่ากันด้วยรายละเอียด ข้อกล่าวหา พร้อมหลักฐานและเหตุผลในการแสดงข้อกล่าวหา แล้วทั้งสองท่าน จะต้องแสดงรายละเอียดพร้อมหลักฐานและเหตุผลในการแก้ข้อกล่าวหาทั้งปวง
สำหรับธัมมชโยนั้น กระบวนการพิสูจน์ในชั้นศาลเกือบครบถ้วน ด้วยการสืบพยานนับร้อยปาก เหลือสืบพยานอีก 2 ปาก ก็เป็นอันเสร็จสิ้นกระบวนการพิจารณาทางศาล
แต่ธัมมชโยยอมแก้ผ้าเอาหน้ารอดด้วยการชิงโอนทรัพย์สินที่ดินและเงินสดทั้งปวงคืนให้วัดพระธรรมกาย เพื่อให้อัยการถอนฟ้อง ทั้ง ๆ ที่ตัวเองต่อสู้คดีความด้วยกระบวนการทางศาล หวังที่จะพิสูจน์ว่า ทรัพย์สินทั้งหลายทั้งปวงทั้งเงินฝาก ทั้งที่ดินที่เป็นชื่อตัวเองและเป็นชื่อไวยวัจกรนั้นเป็นของตัวเองทั้งหมด
สืบพยานมานับร้อยปากใช้เวลายาวนาน 7 ปี เหลือพยานอีก 2 ปาก แต่รอสืบไม่ไหว ชิงโอนทรัพย์สินเงินทองทีดินคืนให้วัดพระธรรมกายทำไมกันเล่า ทำไมไม่รอสืบพยานอีก 2 ปาก ให้มันรู้แล้วรู้รอดไปว่า ที่จริงแล้วทรัพย์สินเหล่านั้น มันเป็นของธัมมชโยกับไวยาวัจกรจริง ๆ หรือไม่ ?
ถ้าจะโอนให้วัด จริง โดยไม่มีไถยจิตคิดจะเอาเป็นของตนเองแล้วไซร้ ทำไมไม่รีบโอนตั้งแต่ตอนที่เจ้าพระคุณสมเด็จพระสังฆราชมีพระลิขิตออกมาแต่แรก ๆ ฉบับที่ 1 ที่ 2 ก็ควรจะรีบโอนซะให้จบ ๆ กันไป แต่นี่เล่นสู้คดีเพื่อหวังพิสูจน์ว่า ทรัพยสินเหล่านั้นเป็นของตัวเองแท้ ๆ แล้วจะมาร้องแรกแหกกะเฌอทำไม เพราะการพยายามสืบพยานทางศาลนั้น เป็นการแสดงให้เห็นว่า ธัมมชโย ยืนยันเจตนาที่จะเอาทรัพย์สินเหล่านั้นเป็นของตนเองอย่างชัดแจ้ง
ซึ่งแตกต่างไปจากกรณีของพุทธอิสระ ที่การดำเนินคดีต่าง ๆ นั้น ยังไม่แล้วเสร็จ อยู่ระหว่างการดำเนินการของเจ้าหน้าที่ จากการติดตามข่าวสารที่ผ่าน ๆ มา พุทธอิสระนั้น ก็โดนแจ้งความดำเนินคดีไว้มากมายเช่นกัน ทั้งหมดก็ว่ากันไปตามกระบวนการยุติธรรม และดำเนินการไปตามกระบวนการทางพระธรรมวินัย
ใครผิดพระธรรมวินัยข้อไหน ก็ว่า กันไปตามบทพระธรรมวินัยบัญญัติที่ระบุไว้ ใครผิดกฎหมายทางบ้านเมือง ไม่ว่า จะกฎหมายแพ่ง กฎหมายอาญา ก็ว่ากันไปตามกระบวนการยุติธรรมของบ้านเมือง
ไม่มีประเทศไหนในโลก และไม่มีศาสนาไหนในโลก ที่จะเอามายื่นหมูยื่นแมวกันอย่างนี้ว่า ถ้าเอ็งสึก ข้าก็จะสึกด้วย
แต่เขามีกฎมีขั้นตอนในการพิจารณาความทางพระธรรมวินัย ถ้าพระประพฤติผิดพระธรรมวินัย ก็ต้องว่ากันไปตามความผิดอาบัติที่ได้ปฏิบัติล่วงละเมิด แล้วลงโทษไปตามนั้น
แต่ธัมมชโย และพุทธอิสระนั้น ต่างก็มีข้อครหาทางกฎหมายบ้านเมือง และทางพระธรรมวินัยด้วยกันทั้งคู่
ต้องพิจารณาว่ากันด้วยรายละเอียด ข้อกล่าวหา พร้อมหลักฐานและเหตุผลในการแสดงข้อกล่าวหา แล้วทั้งสองท่าน จะต้องแสดงรายละเอียดพร้อมหลักฐานและเหตุผลในการแก้ข้อกล่าวหาทั้งปวง
สำหรับธัมมชโยนั้น กระบวนการพิสูจน์ในชั้นศาลเกือบครบถ้วน ด้วยการสืบพยานนับร้อยปาก เหลือสืบพยานอีก 2 ปาก ก็เป็นอันเสร็จสิ้นกระบวนการพิจารณาทางศาล
แต่ธัมมชโยยอมแก้ผ้าเอาหน้ารอดด้วยการชิงโอนทรัพย์สินที่ดินและเงินสดทั้งปวงคืนให้วัดพระธรรมกาย เพื่อให้อัยการถอนฟ้อง ทั้ง ๆ ที่ตัวเองต่อสู้คดีความด้วยกระบวนการทางศาล หวังที่จะพิสูจน์ว่า ทรัพย์สินทั้งหลายทั้งปวงทั้งเงินฝาก ทั้งที่ดินที่เป็นชื่อตัวเองและเป็นชื่อไวยวัจกรนั้นเป็นของตัวเองทั้งหมด
สืบพยานมานับร้อยปากใช้เวลายาวนาน 7 ปี เหลือพยานอีก 2 ปาก แต่รอสืบไม่ไหว ชิงโอนทรัพย์สินเงินทองทีดินคืนให้วัดพระธรรมกายทำไมกันเล่า ทำไมไม่รอสืบพยานอีก 2 ปาก ให้มันรู้แล้วรู้รอดไปว่า ที่จริงแล้วทรัพย์สินเหล่านั้น มันเป็นของธัมมชโยกับไวยาวัจกรจริง ๆ หรือไม่ ?
ถ้าจะโอนให้วัด จริง โดยไม่มีไถยจิตคิดจะเอาเป็นของตนเองแล้วไซร้ ทำไมไม่รีบโอนตั้งแต่ตอนที่เจ้าพระคุณสมเด็จพระสังฆราชมีพระลิขิตออกมาแต่แรก ๆ ฉบับที่ 1 ที่ 2 ก็ควรจะรีบโอนซะให้จบ ๆ กันไป แต่นี่เล่นสู้คดีเพื่อหวังพิสูจน์ว่า ทรัพยสินเหล่านั้นเป็นของตัวเองแท้ ๆ แล้วจะมาร้องแรกแหกกะเฌอทำไม เพราะการพยายามสืบพยานทางศาลนั้น เป็นการแสดงให้เห็นว่า ธัมมชโย ยืนยันเจตนาที่จะเอาทรัพย์สินเหล่านั้นเป็นของตนเองอย่างชัดแจ้ง
ซึ่งแตกต่างไปจากกรณีของพุทธอิสระ ที่การดำเนินคดีต่าง ๆ นั้น ยังไม่แล้วเสร็จ อยู่ระหว่างการดำเนินการของเจ้าหน้าที่ จากการติดตามข่าวสารที่ผ่าน ๆ มา พุทธอิสระนั้น ก็โดนแจ้งความดำเนินคดีไว้มากมายเช่นกัน ทั้งหมดก็ว่ากันไปตามกระบวนการยุติธรรม และดำเนินการไปตามกระบวนการทางพระธรรมวินัย
ใครผิดพระธรรมวินัยข้อไหน ก็ว่า กันไปตามบทพระธรรมวินัยบัญญัติที่ระบุไว้ ใครผิดกฎหมายทางบ้านเมือง ไม่ว่า จะกฎหมายแพ่ง กฎหมายอาญา ก็ว่ากันไปตามกระบวนการยุติธรรมของบ้านเมือง
ไม่มีประเทศไหนในโลก และไม่มีศาสนาไหนในโลก ที่จะเอามายื่นหมูยื่นแมวกันอย่างนี้ว่า ถ้าเอ็งสึก ข้าก็จะสึกด้วย

แสดงความคิดเห็น
หากมีตัวเลือก2ข้อนี้ จำเป็นต้องเลือกชาวพุทธจะเลือกข้อไหน
1.สึกพระธัมมชโย และให้ พระพุทธอิสระสึกด้วย
2.ถ้าพระพุทธอิสระไม่สึกด้วย พระธัมมชโยก้ไม่ต้องสึก
ส่วนตัวผมๆขอเลือกข้อหนึ่ง เพราะหากเป้นไปได้จะลดความขัดแย้งต่างในอนาคตได้เป้นอย่างดี เพราะผมมองว่าพระพุทธอิสระไม่มุ่งหวังแต่เพียงอยากให้พระธัมมชโยสึกแน่นอนคงหวังถึงการใหญ่ในอนาคตเป้นแน่