หากมีตัวเลือก2ข้อนี้ จำเป็นต้องเลือกชาวพุทธจะเลือกข้อไหน

กระทู้คำถาม
ตามข่าวตามกระแสช่วงนี้ เครือข่ายชาวพุทธผลักดันกันเหลือเกินให้สึกพระธัมมชโย ผมเองก้มองว่าท่านพุทธอิสระก็กระทำการไม่เหมาะสมกับการเป็นพระภิกษุเช่นกันทั้งยุ่งกับการเมืองเหลือเกิน ฉะนั้นก้อย่าสองมาตรฐานเลย มีให้เลือก2ข้อนี้

1.สึกพระธัมมชโย และให้ พระพุทธอิสระสึกด้วย
2.ถ้าพระพุทธอิสระไม่สึกด้วย พระธัมมชโยก้ไม่ต้องสึก

ส่วนตัวผมๆขอเลือกข้อหนึ่ง เพราะหากเป้นไปได้จะลดความขัดแย้งต่างในอนาคตได้เป้นอย่างดี เพราะผมมองว่าพระพุทธอิสระไม่มุ่งหวังแต่เพียงอยากให้พระธัมมชโยสึกแน่นอนคงหวังถึงการใหญ่ในอนาคตเป้นแน่
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 3
การจะสึกพระนั้น  ถ้าเจ้าตัวไม่สึก  ใครจะไปจับเขาสึกได้หรือ

แต่เขามีกฎมีขั้นตอนในการพิจารณาความทางพระธรรมวินัย  ถ้าพระประพฤติผิดพระธรรมวินัย  ก็ต้องว่ากันไปตามความผิดอาบัติที่ได้ปฏิบัติล่วงละเมิด แล้วลงโทษไปตามนั้น


แต่ธัมมชโย และพุทธอิสระนั้น  ต่างก็มีข้อครหาทางกฎหมายบ้านเมือง และทางพระธรรมวินัยด้วยกันทั้งคู่

ต้องพิจารณาว่ากันด้วยรายละเอียด ข้อกล่าวหา พร้อมหลักฐานและเหตุผลในการแสดงข้อกล่าวหา แล้วทั้งสองท่าน จะต้องแสดงรายละเอียดพร้อมหลักฐานและเหตุผลในการแก้ข้อกล่าวหาทั้งปวง


สำหรับธัมมชโยนั้น  กระบวนการพิสูจน์ในชั้นศาลเกือบครบถ้วน  ด้วยการสืบพยานนับร้อยปาก  เหลือสืบพยานอีก 2 ปาก  ก็เป็นอันเสร็จสิ้นกระบวนการพิจารณาทางศาล

แต่ธัมมชโยยอมแก้ผ้าเอาหน้ารอดด้วยการชิงโอนทรัพย์สินที่ดินและเงินสดทั้งปวงคืนให้วัดพระธรรมกาย เพื่อให้อัยการถอนฟ้อง   ทั้ง ๆ ที่ตัวเองต่อสู้คดีความด้วยกระบวนการทางศาล หวังที่จะพิสูจน์ว่า ทรัพย์สินทั้งหลายทั้งปวงทั้งเงินฝาก ทั้งที่ดินที่เป็นชื่อตัวเองและเป็นชื่อไวยวัจกรนั้นเป็นของตัวเองทั้งหมด

สืบพยานมานับร้อยปากใช้เวลายาวนาน 7 ปี  เหลือพยานอีก 2 ปาก  แต่รอสืบไม่ไหว  ชิงโอนทรัพย์สินเงินทองทีดินคืนให้วัดพระธรรมกายทำไมกันเล่า   ทำไมไม่รอสืบพยานอีก 2 ปาก ให้มันรู้แล้วรู้รอดไปว่า ที่จริงแล้วทรัพย์สินเหล่านั้น มันเป็นของธัมมชโยกับไวยาวัจกรจริง ๆ หรือไม่ ?

ถ้าจะโอนให้วัด จริง โดยไม่มีไถยจิตคิดจะเอาเป็นของตนเองแล้วไซร้  ทำไมไม่รีบโอนตั้งแต่ตอนที่เจ้าพระคุณสมเด็จพระสังฆราชมีพระลิขิตออกมาแต่แรก ๆ ฉบับที่ 1 ที่ 2 ก็ควรจะรีบโอนซะให้จบ ๆ กันไป  แต่นี่เล่นสู้คดีเพื่อหวังพิสูจน์ว่า ทรัพยสินเหล่านั้นเป็นของตัวเองแท้ ๆ แล้วจะมาร้องแรกแหกกะเฌอทำไม  เพราะการพยายามสืบพยานทางศาลนั้น  เป็นการแสดงให้เห็นว่า ธัมมชโย ยืนยันเจตนาที่จะเอาทรัพย์สินเหล่านั้นเป็นของตนเองอย่างชัดแจ้ง


ซึ่งแตกต่างไปจากกรณีของพุทธอิสระ   ที่การดำเนินคดีต่าง ๆ นั้น ยังไม่แล้วเสร็จ  อยู่ระหว่างการดำเนินการของเจ้าหน้าที่  จากการติดตามข่าวสารที่ผ่าน ๆ มา  พุทธอิสระนั้น  ก็โดนแจ้งความดำเนินคดีไว้มากมายเช่นกัน  ทั้งหมดก็ว่ากันไปตามกระบวนการยุติธรรม และดำเนินการไปตามกระบวนการทางพระธรรมวินัย

ใครผิดพระธรรมวินัยข้อไหน ก็ว่า กันไปตามบทพระธรรมวินัยบัญญัติที่ระบุไว้  ใครผิดกฎหมายทางบ้านเมือง ไม่ว่า จะกฎหมายแพ่ง กฎหมายอาญา ก็ว่ากันไปตามกระบวนการยุติธรรมของบ้านเมือง

ไม่มีประเทศไหนในโลก และไม่มีศาสนาไหนในโลก ที่จะเอามายื่นหมูยื่นแมวกันอย่างนี้ว่า ถ้าเอ็งสึก ข้าก็จะสึกด้วย  

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่