ปิยะพงศ์ อินทรปาน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้http://www.settrade.com/blog/Tradetory/2015/04/27/1558
##########
Question : พี่ครับมีวิธีการที่ใช้เเล้วสามารถทำกำไรได้ในตลาด TFEX ไหมครับ …
Ans : มีครับ …. วิธีการที่สามารถทำกำไรสม่ำเสมออะมีเเน่ๆ เเต่วิธีการที่สามารถจะทำกำไรได้ตลอดไปนั้นไม่มี…. ถ้ายังไม่ชัด..ขอพิมพ์ให้ดูอีกรอบหนึ่ง …
“วิธีการที่สามารถทำกำไรสม่ำเสมออะมีเเน่ๆ เเต่วิธีการที่สามารถจะทำกำไรได้ตลอดไปนั้นไม่มี”
- เพราะว่า ตลาดนั้นมีการเปลี่ยนเเปลงอยู่ตลอดเวลา ถ้าเราหยุดนิ่ง หยุดพัฒนา คิดว่าโอ้วววว เราเจอ Holy Grail เเล้ว นั่นคือ เราตกหลุม!! เข้าอย่างจังๆเลยล่ะครับ เพราะวันนึงวิธีการของเราจะเริ่มให้กำไรน้อยลง จะเริ่ม Draw Down มากขึ้นเเละอาจจะใช้ไม่ได้ในที่สุด …. วิธีที่จะเเก้ไข คือเราต้องรู้เเละเข้าใจในวิธีการของเราอย่างดี พร้อมปรับเปลี่ยนไปตามสถานการณ์ ที่เปลี่ยนไป
-ตั้งเเต่วันเเรกที่เป็น Prop trader มาจนถึงปัจจุบัน วิธีการของผมเปลี่ยนเเปลงไปเรื่อยๆครับ ตามสภาพที่เปลี่ยนเเปลงไปของตลาดครับ เพราะว่า หลายๆวิธีการที่เคยทำกำไรได้ในช่วงเเรกๆ มันใช้ไม่ได้เเล้ว หรือบางครั้ง ออกไปในทางตรงข้ามซะด้วยซ้ำ เเต่ตลาดนั้นมันไม่ได้เปลี่ยนทันที เพราะตลาดคือที่ๆคนมาอยู่รวมกัน นิสัยคนไม่ได้เปลี่ยนเเปลงทันทีฉันท์ใด ตลาดก็ไม่ได้เปลี่ยนเเปลงทันทีฉันท์นั้น … ดังนั้นถ้าเราเทรดอยู่ในตลาดเเละเข้าใจมันอย่างจริงๆ เราจะรู้ได้ถึงความเปลี่ยนเเปลงเเละปรับตัวตามมันไปครับ
-สมัยก่อนที่ผมจะเข้ามาเป็น Prop Trader ผมเคยทดสอบระบบมากมาย มันมีหลายระบบง่ายๆ ที่ใช้ได้
-พอมาเป็น Prop Trader ผมกลับพัฒนาได้ช้าในช่วงเเรก เพราะมัวไปยึดติดกับ ระบบที่เป็นเหตุเป็นผลมากเกินไป จนต้องพยามล้างความเชื่อที่เรียนมา หลายอย่างออกไป เหมือนกับล้างสมองใหม่ เเล้วเข้าสู่โลกใหม่ที่เรียกว่า ” Day trading” โลกเเห่งการเทรดสั้น โลกเเห่งการเก็งกำไรที่สมบูรณ์เเบบ … ที่เเห่งนี้คือที่เเห่งการปรับตัวเพื่อการอยู่รอดอย่างเเท้จริง….. นั่นทำให้ผมเปลี่ยนตัวเองจาก System trade สู่ Discretionary trade เเบบเต็มตัว
-ผมเริ่มสนใจเรื่องวิธีการเข้าออกน้อยลง หันมาสนใจกับ Reward/Risk มากขึ้น โดยการมองเป็น ช๊อตๆ ไป จังหวะไหนที่ Reward / Risk สวยๆ ผมถึงจะเข้า โดยผมมักจะมองไปที่ Risk ก่อนเสมอ ผมจะรู้จุดออกก่อนที่จะเข้าซะอีก >>>> อันนี้คือหัวใจของการเทรดเลยนะครับ .
-ผมขอย้ำอีกที ผมมองเห็นจุดออก>>>>คำนวณ Reward / Risk >>>> มองจุดเข้า>>>>> เเล้วตัดสินใจ ไม่ใช่ผ่าน ถ้าใช่ กด!!! (กระบวนการดังกล่าวนี้วันนึงเกิดขึ้นมากมาย นับร้อยครั้ง ) ผ่านไปเป็นเดือน… เป็นปี พอไป 1 ปีทุกอย่างเป็นอัตโนมัติ มันเกิดขึ้นเสี้ยววิ คือมองปุ๊บรู้เลยว่าจะกดหรือไม่กด ถ้ากด เเล้วจำนวนเท่าไหร่ดี ใส่เพิ่มอีกไหม เเล้วผิดทำไง ออกก่อนบางส่วนดีไหม ถ้ากดเเล้วถูกทำยังไงต่อ …… คำถามพวกนี้ทุกอย่างต้องเป็นอัตโนมัติ ถ้าเราอยู่ในสนาม Day trade เพราะถ้าเรามัวเเต่คิดเราจะคีย์ไม่ทันเเน่นอน ….
-ย้อนกลับมา ก่อนที่ทุกอย่างจะเป็นอัตโนมัติ …ผมเริ่มจาก “การมองหาจุดออก”…. ถ้าเพื่อนๆ อยากจะพัฒนามาเป็นเทรดเดอร์อาชีพ ที่สามารถทำกำไรสม่ำเสมอ เเล้วล่ะก็ ขั้นเเรกที่ต้องใส่ใจ คือ “การมองหาจุดออก”ครับ
สรุปวิธีการเทรดในเเนวทางของผมนะครับ
ขั้น 1. ไอเดีย…….จะมองกราฟ จะมองBid-offer จะดูข่าว จะนั่งมโนเองก็ได้ หรืออะไรก็ตามเเต่
ขั้นที่ 2… มองหาจุดออก
ขั้นที่ 3… คำนวณ Risk / Reward (คร่าวๆก็พอ)
ขั้นที่ 4.. หาจุดเข้า + ปริมาณ
– ถ้าเข้าถูก คิดต่อว่าจะใส่เพิ่มดีมั้ย ปริมาณเท่าไหร่ดี เเล้วเวลาออก จะออกเต็มจำนวนหรือทยอยออก
- ถ้าเข้าผิด คัทเลยดีมั้ย คัทหมดมือ หรือทยอยคัท
…… ทักษะเรื่องการคุมปริมาณนั้นสำคัญมากๆเลยครับ เราต้องไปเรียนรู้เองจากตลาด ว่าเเต่ละสภาวะตลาดนั้นควรใช้ปริมาณเท่าไหร่ ซึ่งเเน่นอนว่าปริมาณที่เหมาะสมในเเต่ละสภาวะตลาดนั้นไม่เท่ากันเเน่นอน เพราะมันคืองานศิลปะดีๆนี่เอง ใครอ่านทิศทางถูก + คุมปริมาณเก่ง คนนั้นก็จะได้กำไรเยอะครับ
... มีวิธีการทำกำไรใน TFEX ไหม? ...
ปิยะพงศ์ อินทรปาน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
##########
Question : พี่ครับมีวิธีการที่ใช้เเล้วสามารถทำกำไรได้ในตลาด TFEX ไหมครับ …
Ans : มีครับ …. วิธีการที่สามารถทำกำไรสม่ำเสมออะมีเเน่ๆ เเต่วิธีการที่สามารถจะทำกำไรได้ตลอดไปนั้นไม่มี…. ถ้ายังไม่ชัด..ขอพิมพ์ให้ดูอีกรอบหนึ่ง …
“วิธีการที่สามารถทำกำไรสม่ำเสมออะมีเเน่ๆ เเต่วิธีการที่สามารถจะทำกำไรได้ตลอดไปนั้นไม่มี”
- เพราะว่า ตลาดนั้นมีการเปลี่ยนเเปลงอยู่ตลอดเวลา ถ้าเราหยุดนิ่ง หยุดพัฒนา คิดว่าโอ้วววว เราเจอ Holy Grail เเล้ว นั่นคือ เราตกหลุม!! เข้าอย่างจังๆเลยล่ะครับ เพราะวันนึงวิธีการของเราจะเริ่มให้กำไรน้อยลง จะเริ่ม Draw Down มากขึ้นเเละอาจจะใช้ไม่ได้ในที่สุด …. วิธีที่จะเเก้ไข คือเราต้องรู้เเละเข้าใจในวิธีการของเราอย่างดี พร้อมปรับเปลี่ยนไปตามสถานการณ์ ที่เปลี่ยนไป
-ตั้งเเต่วันเเรกที่เป็น Prop trader มาจนถึงปัจจุบัน วิธีการของผมเปลี่ยนเเปลงไปเรื่อยๆครับ ตามสภาพที่เปลี่ยนเเปลงไปของตลาดครับ เพราะว่า หลายๆวิธีการที่เคยทำกำไรได้ในช่วงเเรกๆ มันใช้ไม่ได้เเล้ว หรือบางครั้ง ออกไปในทางตรงข้ามซะด้วยซ้ำ เเต่ตลาดนั้นมันไม่ได้เปลี่ยนทันที เพราะตลาดคือที่ๆคนมาอยู่รวมกัน นิสัยคนไม่ได้เปลี่ยนเเปลงทันทีฉันท์ใด ตลาดก็ไม่ได้เปลี่ยนเเปลงทันทีฉันท์นั้น … ดังนั้นถ้าเราเทรดอยู่ในตลาดเเละเข้าใจมันอย่างจริงๆ เราจะรู้ได้ถึงความเปลี่ยนเเปลงเเละปรับตัวตามมันไปครับ
-สมัยก่อนที่ผมจะเข้ามาเป็น Prop Trader ผมเคยทดสอบระบบมากมาย มันมีหลายระบบง่ายๆ ที่ใช้ได้
-พอมาเป็น Prop Trader ผมกลับพัฒนาได้ช้าในช่วงเเรก เพราะมัวไปยึดติดกับ ระบบที่เป็นเหตุเป็นผลมากเกินไป จนต้องพยามล้างความเชื่อที่เรียนมา หลายอย่างออกไป เหมือนกับล้างสมองใหม่ เเล้วเข้าสู่โลกใหม่ที่เรียกว่า ” Day trading” โลกเเห่งการเทรดสั้น โลกเเห่งการเก็งกำไรที่สมบูรณ์เเบบ … ที่เเห่งนี้คือที่เเห่งการปรับตัวเพื่อการอยู่รอดอย่างเเท้จริง….. นั่นทำให้ผมเปลี่ยนตัวเองจาก System trade สู่ Discretionary trade เเบบเต็มตัว
-ผมเริ่มสนใจเรื่องวิธีการเข้าออกน้อยลง หันมาสนใจกับ Reward/Risk มากขึ้น โดยการมองเป็น ช๊อตๆ ไป จังหวะไหนที่ Reward / Risk สวยๆ ผมถึงจะเข้า โดยผมมักจะมองไปที่ Risk ก่อนเสมอ ผมจะรู้จุดออกก่อนที่จะเข้าซะอีก >>>> อันนี้คือหัวใจของการเทรดเลยนะครับ .
-ผมขอย้ำอีกที ผมมองเห็นจุดออก>>>>คำนวณ Reward / Risk >>>> มองจุดเข้า>>>>> เเล้วตัดสินใจ ไม่ใช่ผ่าน ถ้าใช่ กด!!! (กระบวนการดังกล่าวนี้วันนึงเกิดขึ้นมากมาย นับร้อยครั้ง ) ผ่านไปเป็นเดือน… เป็นปี พอไป 1 ปีทุกอย่างเป็นอัตโนมัติ มันเกิดขึ้นเสี้ยววิ คือมองปุ๊บรู้เลยว่าจะกดหรือไม่กด ถ้ากด เเล้วจำนวนเท่าไหร่ดี ใส่เพิ่มอีกไหม เเล้วผิดทำไง ออกก่อนบางส่วนดีไหม ถ้ากดเเล้วถูกทำยังไงต่อ …… คำถามพวกนี้ทุกอย่างต้องเป็นอัตโนมัติ ถ้าเราอยู่ในสนาม Day trade เพราะถ้าเรามัวเเต่คิดเราจะคีย์ไม่ทันเเน่นอน ….
-ย้อนกลับมา ก่อนที่ทุกอย่างจะเป็นอัตโนมัติ …ผมเริ่มจาก “การมองหาจุดออก”…. ถ้าเพื่อนๆ อยากจะพัฒนามาเป็นเทรดเดอร์อาชีพ ที่สามารถทำกำไรสม่ำเสมอ เเล้วล่ะก็ ขั้นเเรกที่ต้องใส่ใจ คือ “การมองหาจุดออก”ครับ
สรุปวิธีการเทรดในเเนวทางของผมนะครับ
ขั้น 1. ไอเดีย…….จะมองกราฟ จะมองBid-offer จะดูข่าว จะนั่งมโนเองก็ได้ หรืออะไรก็ตามเเต่
ขั้นที่ 2… มองหาจุดออก
ขั้นที่ 3… คำนวณ Risk / Reward (คร่าวๆก็พอ)
ขั้นที่ 4.. หาจุดเข้า + ปริมาณ
– ถ้าเข้าถูก คิดต่อว่าจะใส่เพิ่มดีมั้ย ปริมาณเท่าไหร่ดี เเล้วเวลาออก จะออกเต็มจำนวนหรือทยอยออก
- ถ้าเข้าผิด คัทเลยดีมั้ย คัทหมดมือ หรือทยอยคัท
…… ทักษะเรื่องการคุมปริมาณนั้นสำคัญมากๆเลยครับ เราต้องไปเรียนรู้เองจากตลาด ว่าเเต่ละสภาวะตลาดนั้นควรใช้ปริมาณเท่าไหร่ ซึ่งเเน่นอนว่าปริมาณที่เหมาะสมในเเต่ละสภาวะตลาดนั้นไม่เท่ากันเเน่นอน เพราะมันคืองานศิลปะดีๆนี่เอง ใครอ่านทิศทางถูก + คุมปริมาณเก่ง คนนั้นก็จะได้กำไรเยอะครับ