[CR] - Japan 8 bit : 11 วันในคันโตกับชีวิตมึนๆ -

บทนำ

ช่วงปิดภาคเรียนของเด็กมัธยมปลายที่จะขึ้นมหาวิทยาลัยนี้มันช่างยาวนานจริงครับ การไปเที่ยวเมืองนอกด้วยตัวเองจึงเป็นอะไรที่ชวนฝันและท้าทายสำหรับเด็กวัยนี้  ใช่ครับ และผมก็ทำมันได้จริงๆครับ

“Mungครับ ไปญี่ปุ่นกันไหม”
“อืม ไปดิ”
“ฮะ.....Mungเอาจริงดิ”
“อืม”

บทสนทนาที่เกิดขึ้นในร้านบะหมี่หมายเลขแปดสาขาหนึ่งในห้างสรรพสินค้าย่านสยามสแควร์ ที่ทำให้ผมอึ้งเล็กน้อย ว่าการชวนเพื่อนสักคนไปเที่ยวเมืองนอกนี่มันง่ายขนาดนี้ มันจะง่ายเกินไปไหม แต่นั่นแหละครับ ผมก็ต้องขอบใจมันจริงๆ ถ้ามันไม่เอ่ยปากตอบรับในวันนั้น ผมก็คงไม่ได้มาถึงจุดนี้
เริ่มต้นด้วยแพลนทริปที่ผมวางเอาไว้อย่างดีในตอนแรก คือเราจะบินไปลงที่คิวชูเที่ยวฟุกุโอกะ คุมาโมโตะ เที่ยวฟุยุรินแล้วบินกลับมาโตเกียว ซื้อของนั่นนี่จากนั้นค่อยกลับสยามประเทศ แต่สุดท้ายมันก็พังครับ เพราะเกินงบที่ตั้งไว้ ผมเลยแพลนใหม่เป็นว่าเที่ยวในเขตคันโต แล้วไปปีนภูเขาฟูจิกัน ซื้อKanto pass เอา จะได้สะดวกและถูกดี (ฤดูร้อนสามารถปีนขึ้นไปถึงยอดได้ครับ เนื่องจากหิมะละลายหมดแล้ว จะเป็นช่วงกรกฎาคม – กันยายนของทุกปีที่จะเปิดให้ขึ้นไปได้)  
แต่แล้วไอความฝันว่าจะได้ปีนฟูจินี่ก็ล่มอีกเช่นกันครับ เพราะปัญหาเรื่องที่พัก การเดินทางและสภาพอากาศครับ สุดท้ายทริปนี้ก็กลายเป็นแค่ทริปแช่ออนเซ็นและช๊อปปิ้งของลดราคาในโตเกียวแบบง่อยๆ  


“Guวางแผนหาที่เที่ยวไปมากมายเพื่ออะไรวะ”


แต่ไม่เป็นไรครับ อย่างน้อยก็ยังมีอะไรที่เป็นไฮไลท์บ้าง เพราะผมก็แพลนให้วันที่เราไปนั้นตรงกับวันทานาบาตะ (ตรงกับวันที่ 7 เดือน 7ครับ หากต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติมก็ Googleได้เลยครับ) จะมีจัดงาน ประดับโคมและออกร้านรวงตามวัดและถนนคนเดินต่างๆเอาไว้แล้วครับ ถือว่าไปแล้วจะได้ไม่เสียเที่ยว ฮ่าๆ




หมายเหตุ : นี่เป็นกระทู้แรกของผมครับ ขอบพระคุณท่านผู้อ่านด้วยครับ แล้วก็ กระทู้นี้ผมขอเน้นเล่าเรื่องมากกว่าลงภาพนะครับ เนื่องจากความรีบมาขึ้นเครื่องบินแต่เช้า ทำให้ผมลืมกล้องฟิล์มYashica ของผมไว้หน้าโต๊ะทำงานครับ  หากท่านผู้อ่านต้องการพบกับภาพสวยๆงามๆ ชิคๆ สโลวไลฟ์สไตล์เจแปน ผมกราบขออภัยมา ณ ที่นี้ก่อนเลยนะครับ ภาพทุกภาพที่ลงไว้ได้มาจาก Iphone 5s ครับ

ปล.ทำไมต้องใช้ชื่อกระทู้ว่า Japan 8 bit หรอครับ ก็เพราะว่าทริปนี้ของผมนั้นมันช่างโง่ๆง่อยๆเหมือนกับเกม8bit ไงล่ะครับ ภาพก็ไม่สวย ระบบก็งั้นๆ นั่นแหละครับที่มาของชื่อ

*edit: แก้คำผิดครับ



บทที่หนึ่ง

ณ Narita Airport Terminal 2 : 19.15 น. วันที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

ตอนนี้มนุษย์ไทยวัยรุ่นสองคนกำลังรีบวิ่งไปซื้อตั๋วรถไฟที่ตู้กดตั๋วครับ เราเลือกนั่งรถไฟของ Keisei สาย Access Express มาลงที่Ueno แล้วเปลี่ยนสายไปAsakusaครับ ราคารวมนี่จำไม่ได้ละครับ แต่จากนาริตะมาอูเอโนนี่ 1100กว่าเยนมั้งครับ ( หากผู้ใดรู้ก็แก้ให้ด้วยนะครับฮ่าๆ )

“Mungครับรีบเร็วครับ เดี๋ยวไปเช็คอินโรงแรมไม่ทัน”
“เออๆๆๆๆ ก็รีบอยู่นี่ไง”
“พอดีเลย รถไฟมาแล้ว”

ครื่น...... เสียงรถไฟผ่านหน้าไปพร้อมผมหน้าม้าที่ปลิวตาม

“ไอ@#^)%_(%@&$%) ทำไมMungไปจอดตรงนู้นนนนนนนนน”
“ShipหายละMung หน้าหมาละตอนนี้ รถขบวนต่อไปอีกนานไหม”
“แปปเดียวๆ”
.
.
.

.
.
.

“อาซากุสะ อาซากุสะ”

เสียงประกาศในรถไฟบอกให้รู้ครับว่าเรามาถึงแล้ว เหลือเวลาไม่ถึง15นาทีครับ ก่อนจะหมดเวลาเช็คอินโรงแรม เราสองคนรีบวิ่งออกมาจากสถานีครับ แต่มันจะง่ายกว่านี้มากหากไม่มีกระเป๋าเดินทางใบบะเอ้ง ขนาดของมันสามารถใส่ศพเด็กอายุ 3ขวบ 2คนลงไปได้ และเนื่องจากการที่จะขึ้นไปสู่พื้นดินด้านบนได้นั้นมีอยู่2วิธีครับ วิธีแรกคือ ลิฟต์ (ค่อนข้างเป็นแรร์ไอเทม)  ซึ่งถ้าออกถูกทางก็จะมีให้ครับ แต่นี่เราออกมาอีกทาง ดังนั้นเราจึงใช้วิธีที่2 คือบันไดครับ (ตายยยยยย) ออกตัวก่อนเลยครับว่าในชีวิตไม่เคยรีบอะไรขนาดนี้มาก่อน ขนาดไปสอบGAT/PAT ผมยังไม่รีบเท่านี้เลยครับ เราวิ่งไปตามทางเท้า จากสถานี Asakusa ของ Toei ไปที่โรงแรม ระยะทางเกือบ 1กิโลเมตร มันเป็น 1กิโลเมตรที่ยาวนานมาก

“Check in, please. This is my passport.”
“Thank you”

มีที่นอนแล้ว.....ผมทำได้แล้วครับพ่อ

โรงแรมที่เรามาพักในคืนนี้คือ “Hotel MyStays Asakusa” ครับ จองผ่าน Booking.com ครับ นอนกัน 2คน ราคา 8,450 เยน/คืน (ได้ราคาโปรฯครับ) ครับ **เรทเงินอยู่ที่ 100เยนต่อ 28บาทครับ**
หลังจากนั้นเราก็โทรหาเพื่อนอีกคนที่มาอยู่ที่โตเกียวก่อนเราครับ เราชวนกันออกไปหาอะไรกินอะไรดื่มให้หายเหนื่อยแถวๆย่านอาซากุสะครับ ระหว่างเดินไปหาเพื่อนที่นัดกันไว้ เราก็กะว่าจะไปเดินดูไฟดูงานวันทานาบาตะสักหน่อย ถ่ายภาพลงIGไรงี้ครับ แล้วผมก็พบว่า “แx่งเก็บร้านหนีGuหมดแล้ว” ก็นี่มัน4ทุ่มจะครึ่งอยู่แล้วครับ เขาก็ปิดร้านกันหมดแล้ว ร้านอาหารยังไม่มีเปิดเลย เข้าไปดูงานวันทานาบาตะในวัดเซ็นโซจิก็เกลี้ยงครับ เหลือแต่เสาซุ้มต่างๆ อุส่าแพลนมาอย่างดี เนี่ยนะลงเครื่องเสร็จก็มาเดินดูไฟ ถ่ายรูปอวดชาวบ้านกัน มาไม่ทันพังครับพัง

แต่สุดท้ายเราก็หาร้านอาหารได้ครับ เป็นอาหารทะเลย่าง ร้านเปิด24ชม มีหลายสาขามากครับ ของก็สดมากๆ ชื่อร้านอะไรสักอย่างนี่แหละครับจำไม่ได้จริงๆ เพราะอ่านไม่ออก แต่ร้านนี้มีหลายสาขาครับ ผมรู้จักร้านนี้ก็เพราะเปิดPantipนี่แหละครับ

พอได้โต๊ะนั่งเราก็กระหน่ำสั่งเลยครับ กุ้ง หอย หมู ปู หมึก สั่งหมดครับ ตามภาพ





หอยใหญ่ไหมล่ะคุณ



ปลาหมึกนี่อร่อยมากครับ แต่กินไม่ทันเพื่อน ผมคุยไลน์กับแม่แปปเดียวเพื่อนล่อไปหมดแล้วครับ

มันคือความฟินจริงๆครับ หอยนี่สดและหวานสุดๆ หมึกก็สด ราคาก็ปานกลาง คุ้มจริงๆครับ ตอนย่างเราก็ย่างไม่เป็นครับ เอาไปวางไว้บนเตาเฉยๆ แล้วเอาโชยุราด จนพี่พนง.ในร้านดูจะทนไม่ไหว แกเลยเดินมาทำวิธีที่ถูกต้องให้ดูครับ (รู้สึกอายเบาๆ)
แล้วเราก็มาถึงเมนูไฮไลท์ ครับ มันคือหอยที่ผมไม่ทราบชื่อของมันครับ แต่ว่าเคยเห็นในรายการพาชิมอาหารของญี่ปุ่น แล้วก็ในโดราเอม่อนครับ โนบิตะบอกเอาไว้ว่าอร่อยมากๆครับ เราก็เชื่อโนบิตะนะ พอย่างเสร็จ แล้วก็กิน

...
“ไอsus นี่มันหอยkhee”
...

**ขออภัยที่ไม่สามารถบรรยายรสชาติของมันออกมาได้จริงๆครับ**

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

...

คืออออออ คือรสชาติมันโคตรไม่ถูกปากเลยครับ พลิกมาดูราคาต่อตัวนี่ตัวละ700เยน คือแพง เพื่อนผมนี่เซย์โนว์กันตั้งแต่ได้กลิ่นกับเห็นกายหยาบของมันแล้ว ส่วนผมก็อยากลอง + เสียดายตังครับ และเพราะยังเชื่อมั่นในโนบิตะอยู่ พอเคี้ยวๆไปนี่บอกเลยครับว่ากลืนไม่ลง ต้องคายออกแล้วแอบยัดใส่เปลือกมันเหมือนเดิม จุดนั้นคืออยากเอาหนังสือโดราเอม่อนมาเผาทิ้งทั้งหมดมาก MungหลอกGu แต่เมนูอื่นนี่อร่อยสุดๆไปเลยครับ โดยเฉพาะมันปู ย่างแล้วหอมสุดครับ ถ้ามีโอกาสก็แนะนำให้ลองครับ ค่าเสียหายประมาน 6000กว่าเยนครับ หารสามก็พอได้อยู่ (แค้นหอยKheeสุด)



จากนั้นพวกเราก็แยกย้ายกันกลับที่พักครับ เพราะวันต่อไปเราต้องไปค้างกันที่เมือง Maebashi จังหวัด Gunma กันครับ
ชื่อสินค้า:   Japan , Tokyo , Kawagoe , Gunma , Yokohama
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ  บันทึกนักเดินทาง เที่ยวต่างประเทศ เที่ยวญี่ปุ่น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่