ก่อนอื่นต้องขออธิบายก่อนนะครับ เรื่องนี้เกิดขึ้นกับแฟนผม และตัวผมอยู่ในเหตุการณ์ด้วยกันตลอด
เป็นกระทู้แรก มาแชร์ให้อ่านกัน เพื่อเป็นประสบการณ์ จะได้ระวังตัวกันครับ
วันที่21กค.58 ตอนเช้า ได้รับจดหมายจากธนาคารที่โลโก้มีสีเขียวสาขาห้างใหญ่ย่านลาดพร้าว
ระบุชื่อผู้รับหน้าซองเป็นชื่อแฟนผม เปิดอ่านดูข้างในระบุ เป็นหนังสือจากกองบังคับคดีล้มละลาย ????
แจ้งให้อายัดบัญชีเงินฝากของท่าน และต้องนำส่งเงินในบัญชี เพื่อชำระหนี้คงค้างตามคำสั่งของหน่วยงานราชการ
ทั้งสิ้นเป็นจำนวน 3,702,786.20 บาท (สามล้านเจ็ดแสนสองพันเจ็ดร้อยแปดสิบหกบาทยี่สิบสตางค์...)
รวมถึงเงินเพิ่มตามกฎหมาย (ถ้ามี) .... ตามรูปครับ
มีตราประทับ และเซ็นรับรองโดย ผจก. สาขาเรียบร้อย ....หนี้เยอะขนาดนี้มาได้ยังไง ใครไปก่ออะไรไว้ตอนไหน เครียดกันทั้งบ้าน
แต่มีจุดผิดสังเกตุนิดนึง ในจดหมายว่า เรียน.... (ซึ่งเป็นชื่อนามสกุลของใครไม่รู้จัก)
แต่ว่าชื่อบัญชีและหมายเลขบัญชีที่อายัดเงิน นั้นเป็นของเรา
ได้ยกเลิกงานในวันนั้นทั้งหมด และรีบไปติดต่อธนาคารทันที ไปถึงเวลาประมาณ 15.00 น. ได้ยื่นเอกสารให้ดู
และเชิญให้ไปนั่งที่โต้ะ ได้พบกับพนักงานท่านหนึ่ง เป็นผู้ชาย ขาวสูง ใส่แว่นตา ท่าทางอ่อนหวานเรียบร้อย
*** ต่อไปเป็นบทสนทนาเท่าที่จำได้นะครับ และขอรับรองว่าทุกอย่างเป็นความจริงทุกประการ ***
พนักงานชาย : อ้าว มาไวจังเลย เพิ่งจะส่งจดหมายไปเมื่อวานนี้เอง และยิ้ม
ผม : ครับ จดหมายนี่มันคืออะไรครับ
พนักงานชาย : ไม่รู้เหนือนกัน ยังไม่ได้อ่านเหมือนกันเลย แปปนึงนะ ??????????? และได้หยิบแฟ้มขึ้นมา
ภายในมีจดหมายอีกฉบับ น่าจะเป็นเอกสารของทางราชการ อ่านอยู่พักหนึ่งก็ เงียบไม่ได้พูดอะไรเลย
แฟน : ขออ่านได้ไหมค่ะ และได้รับอนุญาติก่อนหยิบมาอ่าน
(((( เนื้อหาภายในนะครับ คือมาจากกรมสรรพากร ไม่ใช่จากกรมบังคับคดีล้มละลายแต่อย่างใด ยอดเงินก็ไม่ตรงกัน ?????????
ระบุให้ไปจ่ายภาษีย้อนหลังที่ค้างไว้1เดือน จาก หจก.ที่เปิดไว้จริง และเป็นยอด 26,711.64 บาท เท่านั้น
ก่อนหน้านี้2อาทิตย์ทางเราได้รับจดหมายแจ้ง และได้ติดต่อไปเพื่อนัดวันชำระกับทางกรมสรรพากร เขตนนทบุรีไปแล้ว ))))
แฟน : อันนี้จากกรมสรรพากรนี่ค่ะ ไม่ใช่บังคับคดีล้มละลาย และยอดก็ไม่ตรงกันด้วย
พนักงานชาย : อ่านเอกสารอีกรอบ แล้วลุกเดินไปเดินมาซักพักนึงและกลับมานั่ง
แฟน : อันนั้นทราบเรื่องไปแล้วนะค่ะ ได้รับแจ้งไปแล้ว แล้วยอด 3.7 ล้านบาท นี่คืออะไร?
ผม : ตกลงว่าคือยังไงครับ?
พนักงานชาย : คือแบบฟอร์มเอกสารมันผิดไป ไม่มีอะไร
ผม : ไม่มีอะไรหรอครับ อยู่ๆเช้ามา ได้รับจดหมายแจ้งว่าเป็นหนี้ 3.7ล้าน ตกใจกันทั้งบ้านเลย
พนักงานชาย : ไม่ต้องตกใจๆ ไม่มีอะไร
ผม : และถ้าเป็นคุณล่ะ ได้รับจดหมายแจ้งแบบนี้ ไม่ตกใจหรือ? นี่ไม่ตลกกันเลยนะ ...ใครที่เป็นคนพิมพ์เอกสารฉบับนี้?
พนักงานชาย : นี่เป็นคนพิมพ์เองแหละ งานมันเยอะนิดนึงก็เลยมีผิดพลาดไปบ้าง...
ผม : พูดแบบนี้ไม่ได้หรอกนะคุณ งานเยอะก็เข้าใจ ผมก็มีงานเยอะ ทุกคนก็มีงานทั้งนั้น นี่ก็เสียงานเพื่อมา เครียดไม่เป็นอันทำงานกันเลย
แฟน : นี่ถ้ามีคนแก่อายุมากมาอ่าน แล้วหัวใจวายไปจะทำยังไง ยอดไม่ใช่น้อยเลย ... (( ตอนนี้มีพนักงานหญิงเดินเข้ามาช่วยดู ))
ผม : คุณลองดูสิ เอกสารมันผิด ทั้งตัวเลข ตัวอักษรบอกจำนวนเงิน ผิดหมดเลย
พนักงานหญิง : ต้องขอโทษด้วยนะค่ะ พร้อมทั้งช่วยกันร่าง จดหมายใหม่ให้ถูกต้อง พิมพ์และประทับตราใหม่
พนักงานชาย : เดินเอาไปในห้องผู้จัดการ ให้เซ็นและเดินกลับออกมา
แฟน : สรุปคือใบนั้นผิดแล้วปล่อยเซ็นออกมาได้ยังไงค่ะ
พนักงานชาย : คือคุณแม่เค้าไม่ได้อ่านก่อนอ่ะ ?????
แฟน : อย่าให้มีแบบนี้เกิดขึ้นอีกเลยนะค่ะ ขอร้องล่ะ ไม่ดีเลย นี่ที่บ้านเค้าเครียดกันมากเลยนะ
พนักงานชาย : ต้องขอโทษด้วยจริงๆ (((( เป็นครั้งแรกและครั้งเดียวที่เอ่ยคำขอโทษออกมา ตั้งแต่นั่งคุยกันมาเกือบครึ่ง ชม. ))))
ผม : เรื่องใหญ่มากนะคุณ เงินมากขนาดนี้ มันไม่โอเคเลยที่เจอกับเหตุการณ์อย่างนี้ พูดตำหนิด้วยวาจาสุภาพทั้งหมดนะครับ
พนักงานชาย : เอานิ้วมาอุดหู ????????????????????????? ประมาณว่าพอแล้ว ไม่อยากฟังอีกแล้ว ....
อยากถามมาตราฐานของธนาคารหน่อยครับ ผิดพลาดกันได้ขนาดนี้เลยหรือ หนี้ 3.7ล้านนะครับ
แถมมาจากกรมบังคับคดี ล้มละลายด้วย มีวันละเป็นร้อยๆเคสเลยหรือครับ เคสอย่างนี้ ผมมองว่าไม่น่าพลาดง่ายๆแบบนี้เลย
แล้วถ้าเคสเล็กกว่านี้ละครับ จะไม่ยิ่งผิดพลาดมากกว่านี้หรือ ต่อไปจะเอาความเชื่อมั่นที่ไหน ?
คนทำเอกสาร คนเซ็นรับรอง และคนส่ง หลายๆต่อเลย ปล่อยให้ผ่านมาได้ยังไง หรือไม่มีการตรวจสอบซ้ำกันเลย
มาถึงก็เซ็นแล้วก็ส่งเลย ที่สำคัญไม่มีการออกมาแสดงความรับผิดชอบ หรือกล่าวขอโทษในหน้างานตรงนั้นเลยแม้แต่นิดเดียว
ตอนนี้ได้ร้องเรียนเรื่องที่เกิดผ่านทาง Call center และทาง Facebook ของธนาคารไปแล้วครับ
ไม่ได้ติดใจเอาความอะไรครับ แต่อยากเตือนให้ระวังกันให้มากกว่านี้
บอกตรงๆว่าวินาทีที่อ่านจดหมาย ตอนนี้ยังตกใจอยู่เลย ก็เงินตั้ง 3.7 ล้าน นะครับ
อยากให้ทุกๆคนที่ได้อ่านระวังกันไว้ด้วยนะครับ บางคนที่ไม่ยอมอาจจะฟ้องร้องเอาเรื่องก็เป็นไปได้
อย่าให้มีกรณีแบบนี้เกิดอีกเลยครับ .... ขอบคุณที่อ่านกันนะครับ
เมื่ออยู่ๆได้รับหมายแจ้งล้มละลาย พร้อมหนี้ 3.7ล้านบาท ที่ไม่ได้ก่อ จากความผิดพลาดของธนาคารแห่งหนึ่ง
เป็นกระทู้แรก มาแชร์ให้อ่านกัน เพื่อเป็นประสบการณ์ จะได้ระวังตัวกันครับ
วันที่21กค.58 ตอนเช้า ได้รับจดหมายจากธนาคารที่โลโก้มีสีเขียวสาขาห้างใหญ่ย่านลาดพร้าว
ระบุชื่อผู้รับหน้าซองเป็นชื่อแฟนผม เปิดอ่านดูข้างในระบุ เป็นหนังสือจากกองบังคับคดีล้มละลาย ????
แจ้งให้อายัดบัญชีเงินฝากของท่าน และต้องนำส่งเงินในบัญชี เพื่อชำระหนี้คงค้างตามคำสั่งของหน่วยงานราชการ
ทั้งสิ้นเป็นจำนวน 3,702,786.20 บาท (สามล้านเจ็ดแสนสองพันเจ็ดร้อยแปดสิบหกบาทยี่สิบสตางค์...)
รวมถึงเงินเพิ่มตามกฎหมาย (ถ้ามี) .... ตามรูปครับ
มีตราประทับ และเซ็นรับรองโดย ผจก. สาขาเรียบร้อย ....หนี้เยอะขนาดนี้มาได้ยังไง ใครไปก่ออะไรไว้ตอนไหน เครียดกันทั้งบ้าน
แต่มีจุดผิดสังเกตุนิดนึง ในจดหมายว่า เรียน.... (ซึ่งเป็นชื่อนามสกุลของใครไม่รู้จัก)
แต่ว่าชื่อบัญชีและหมายเลขบัญชีที่อายัดเงิน นั้นเป็นของเรา
ได้ยกเลิกงานในวันนั้นทั้งหมด และรีบไปติดต่อธนาคารทันที ไปถึงเวลาประมาณ 15.00 น. ได้ยื่นเอกสารให้ดู
และเชิญให้ไปนั่งที่โต้ะ ได้พบกับพนักงานท่านหนึ่ง เป็นผู้ชาย ขาวสูง ใส่แว่นตา ท่าทางอ่อนหวานเรียบร้อย
*** ต่อไปเป็นบทสนทนาเท่าที่จำได้นะครับ และขอรับรองว่าทุกอย่างเป็นความจริงทุกประการ ***
พนักงานชาย : อ้าว มาไวจังเลย เพิ่งจะส่งจดหมายไปเมื่อวานนี้เอง และยิ้ม
ผม : ครับ จดหมายนี่มันคืออะไรครับ
พนักงานชาย : ไม่รู้เหนือนกัน ยังไม่ได้อ่านเหมือนกันเลย แปปนึงนะ ??????????? และได้หยิบแฟ้มขึ้นมา
ภายในมีจดหมายอีกฉบับ น่าจะเป็นเอกสารของทางราชการ อ่านอยู่พักหนึ่งก็ เงียบไม่ได้พูดอะไรเลย
แฟน : ขออ่านได้ไหมค่ะ และได้รับอนุญาติก่อนหยิบมาอ่าน
(((( เนื้อหาภายในนะครับ คือมาจากกรมสรรพากร ไม่ใช่จากกรมบังคับคดีล้มละลายแต่อย่างใด ยอดเงินก็ไม่ตรงกัน ?????????
ระบุให้ไปจ่ายภาษีย้อนหลังที่ค้างไว้1เดือน จาก หจก.ที่เปิดไว้จริง และเป็นยอด 26,711.64 บาท เท่านั้น
ก่อนหน้านี้2อาทิตย์ทางเราได้รับจดหมายแจ้ง และได้ติดต่อไปเพื่อนัดวันชำระกับทางกรมสรรพากร เขตนนทบุรีไปแล้ว ))))
แฟน : อันนี้จากกรมสรรพากรนี่ค่ะ ไม่ใช่บังคับคดีล้มละลาย และยอดก็ไม่ตรงกันด้วย
พนักงานชาย : อ่านเอกสารอีกรอบ แล้วลุกเดินไปเดินมาซักพักนึงและกลับมานั่ง
แฟน : อันนั้นทราบเรื่องไปแล้วนะค่ะ ได้รับแจ้งไปแล้ว แล้วยอด 3.7 ล้านบาท นี่คืออะไร?
ผม : ตกลงว่าคือยังไงครับ?
พนักงานชาย : คือแบบฟอร์มเอกสารมันผิดไป ไม่มีอะไร
ผม : ไม่มีอะไรหรอครับ อยู่ๆเช้ามา ได้รับจดหมายแจ้งว่าเป็นหนี้ 3.7ล้าน ตกใจกันทั้งบ้านเลย
พนักงานชาย : ไม่ต้องตกใจๆ ไม่มีอะไร
ผม : และถ้าเป็นคุณล่ะ ได้รับจดหมายแจ้งแบบนี้ ไม่ตกใจหรือ? นี่ไม่ตลกกันเลยนะ ...ใครที่เป็นคนพิมพ์เอกสารฉบับนี้?
พนักงานชาย : นี่เป็นคนพิมพ์เองแหละ งานมันเยอะนิดนึงก็เลยมีผิดพลาดไปบ้าง...
ผม : พูดแบบนี้ไม่ได้หรอกนะคุณ งานเยอะก็เข้าใจ ผมก็มีงานเยอะ ทุกคนก็มีงานทั้งนั้น นี่ก็เสียงานเพื่อมา เครียดไม่เป็นอันทำงานกันเลย
แฟน : นี่ถ้ามีคนแก่อายุมากมาอ่าน แล้วหัวใจวายไปจะทำยังไง ยอดไม่ใช่น้อยเลย ... (( ตอนนี้มีพนักงานหญิงเดินเข้ามาช่วยดู ))
ผม : คุณลองดูสิ เอกสารมันผิด ทั้งตัวเลข ตัวอักษรบอกจำนวนเงิน ผิดหมดเลย
พนักงานหญิง : ต้องขอโทษด้วยนะค่ะ พร้อมทั้งช่วยกันร่าง จดหมายใหม่ให้ถูกต้อง พิมพ์และประทับตราใหม่
พนักงานชาย : เดินเอาไปในห้องผู้จัดการ ให้เซ็นและเดินกลับออกมา
แฟน : สรุปคือใบนั้นผิดแล้วปล่อยเซ็นออกมาได้ยังไงค่ะ
พนักงานชาย : คือคุณแม่เค้าไม่ได้อ่านก่อนอ่ะ ?????
แฟน : อย่าให้มีแบบนี้เกิดขึ้นอีกเลยนะค่ะ ขอร้องล่ะ ไม่ดีเลย นี่ที่บ้านเค้าเครียดกันมากเลยนะ
พนักงานชาย : ต้องขอโทษด้วยจริงๆ (((( เป็นครั้งแรกและครั้งเดียวที่เอ่ยคำขอโทษออกมา ตั้งแต่นั่งคุยกันมาเกือบครึ่ง ชม. ))))
ผม : เรื่องใหญ่มากนะคุณ เงินมากขนาดนี้ มันไม่โอเคเลยที่เจอกับเหตุการณ์อย่างนี้ พูดตำหนิด้วยวาจาสุภาพทั้งหมดนะครับ
พนักงานชาย : เอานิ้วมาอุดหู ????????????????????????? ประมาณว่าพอแล้ว ไม่อยากฟังอีกแล้ว ....
อยากถามมาตราฐานของธนาคารหน่อยครับ ผิดพลาดกันได้ขนาดนี้เลยหรือ หนี้ 3.7ล้านนะครับ
แถมมาจากกรมบังคับคดี ล้มละลายด้วย มีวันละเป็นร้อยๆเคสเลยหรือครับ เคสอย่างนี้ ผมมองว่าไม่น่าพลาดง่ายๆแบบนี้เลย
แล้วถ้าเคสเล็กกว่านี้ละครับ จะไม่ยิ่งผิดพลาดมากกว่านี้หรือ ต่อไปจะเอาความเชื่อมั่นที่ไหน ?
คนทำเอกสาร คนเซ็นรับรอง และคนส่ง หลายๆต่อเลย ปล่อยให้ผ่านมาได้ยังไง หรือไม่มีการตรวจสอบซ้ำกันเลย
มาถึงก็เซ็นแล้วก็ส่งเลย ที่สำคัญไม่มีการออกมาแสดงความรับผิดชอบ หรือกล่าวขอโทษในหน้างานตรงนั้นเลยแม้แต่นิดเดียว
ตอนนี้ได้ร้องเรียนเรื่องที่เกิดผ่านทาง Call center และทาง Facebook ของธนาคารไปแล้วครับ
ไม่ได้ติดใจเอาความอะไรครับ แต่อยากเตือนให้ระวังกันให้มากกว่านี้
บอกตรงๆว่าวินาทีที่อ่านจดหมาย ตอนนี้ยังตกใจอยู่เลย ก็เงินตั้ง 3.7 ล้าน นะครับ
อยากให้ทุกๆคนที่ได้อ่านระวังกันไว้ด้วยนะครับ บางคนที่ไม่ยอมอาจจะฟ้องร้องเอาเรื่องก็เป็นไปได้
อย่าให้มีกรณีแบบนี้เกิดอีกเลยครับ .... ขอบคุณที่อ่านกันนะครับ