ในยามนี้
“ฝ่าย Anti-Thaksin Activist จนนำไปสู่การเป็น Anti-Democracy” ทุกถ้วนหน้า ต่างมีความสุข สมหวัง ปลื้มใจ เริงร่า และสาใจ อย่างเป็นเอกฉันท์ ที่ได้เห็นฝ่าย
“Pro-Thaksin@Yingluck Activist จนนำไปสู่การเป็น Pro-Democracy” ถูกหมายหัว กากบาทแดง เรียกตัวขึ้นศาล ตัดสิทธิ์ ฟ้องร้องคดีเป็นว่าเล่น ถูกเล่นงานสารพัด ในขณะที่ฝ่ายตนเอง สามารถทำอะไรก็ได้..โดยไม่มีใครขัดขวาง
แต่ในขณะเดียวกัน ฝ่าย Anti-Thaksin Activist ฯ เหล่านั้น ภายในก็มีความคิดแตกแยกเป็น 2 กลุ่มด้วยเช่นกัน คือกลุ่มหนึ่งอยากให้มีการเลือกตั้งตามที่คณะ คสช.เคยสัญญาไว้ เพราะเห็นว่าสามารถกำหราบทักษิณได้อยู่หมัดแล้ว เป็นโอกาสอันดีที่ตัวเองหรือพวกตนเองจะได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งเสียที แต่อีกกลุ่มหนึ่งกลับมองว่า ยังไม่สมควรรีบเลือกตั้งในตอนนี้ เพราะดูท่าแล้วฝ่ายตรงข้าม แค่นิ่งเงียบ รอดูสถานการณ์ ยังไม่ได้รุกคืบอะไรมากมาย..ต่างความคิด
จากความเห็นขัดแย้งกันดังกล่าวนี้ ทำให้เกิดสภาวะ
“เครียดถึงกึ๋นส์” กลืนไม่เข้าคายไม่ออก ในกลุ่มของ Anti-Thaksin Activists ด้วยกันเอง เป็นความขัดแย้งกันทางความคิดชนิดสาหัสสากรรจ์ ที่สามารถจะพิพาทกันได้ภายในครอบครัว ในกลุ่ม ในองค์กร พ่อผู้เกลียดทักษิณอาจทะเลาะกับแม่ผู้เกลียดทักษิณ เพราะอยากให้แช่แข็งประเทศอยู่อย่างนี้ไปก่อน เจ้านายผู้เกลียดทักษิณอาจทะเลาะกับลูกน้องผู้เกลียดทักษิณเพราะพิษเศรษฐกิจที่ซบเซากำลังเล่นงาน ซึ่งเป็นเหตุการณ์คล้ายๆกันก่อนจะมีสีเหลือง-สีแดงปี 49 แต่ตอนนั้นเป็นการทะเลาะกันของฝ่ายชอบทักษิณ กับฝ่ายเกลียดทักษิณเท่านั้น..แต่นี่ พวกเดียวกัน !
สภาวะ “เครียดถึงกึ๋นส์” สามารถเห็นได้จากการใช้คำพูด วิธีการคิด การใช้ตรรกะ ตลอดจนการสื่อสารที่สื่อออกมา ทั้ง 2 ฝ่ายได้เกิดปะทะทางความคิด และปะทะอารมณ์กันบ้างแล้วพอหอมปากหอมคอ แต่ก็ยังพอรู้สำนึกว่าตนเองเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้มาถึงวันนี้ หรือเป็นพวกเดียวกัน จึงทนเก็บกดลงกึ๋นส์ไว้ก่อน ทั้งคอยสงวนท่าทีไว้ เพราะต่างฝ่ายต่างมีความเชื่อว่าเหตุการณ์จะต้องเป็นไปตามที่ตนเองคิดไว้แน่นอน..ต่างคาดหวัง
ความฮึกเหิมในชัยชนะของพวก Anti-Thaksin Activist ฯ ที่สามารถ “คว่ำคู่ต่อสู้” หรือ “หยุดประชาธิปไตย”ไว้ชั่วคราว และมุ่งหวังจะให้การปฏิรูปครั้งนี้ เป็นไปในแนวทางความคิดของฝั่งตนเอง จึงเป็นความน่าสนใจที่ต้องคอยจับตาดูว่า จะมีพัฒนาการระหว่าง 2 กลุ่มนี้ไปในทิศทางใด เมื่อกลุ่มหนึ่งรู้ว่าอาจไม่เป็นไปตามความมุ่งหวังของกลุ่มตน เกิดขัดผลประโยชน์ระหว่างขั้ว ต่างคนต่างไม่ยอม อะไรจะเกิดขึ้น แน่นอนว่า มันต้องเป็นไปทางใดทางหนึ่งเท่านั้น จึงอาจเป็นหนังยาว "สงครามระหว่างเผ่า"ก็ได้..ต้องคอยดูกันต่อไป !!!
...Anti-Thaksin Activist จนนำไปสู่การเป็น Anti-Democracy !...
แต่ในขณะเดียวกัน ฝ่าย Anti-Thaksin Activist ฯ เหล่านั้น ภายในก็มีความคิดแตกแยกเป็น 2 กลุ่มด้วยเช่นกัน คือกลุ่มหนึ่งอยากให้มีการเลือกตั้งตามที่คณะ คสช.เคยสัญญาไว้ เพราะเห็นว่าสามารถกำหราบทักษิณได้อยู่หมัดแล้ว เป็นโอกาสอันดีที่ตัวเองหรือพวกตนเองจะได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งเสียที แต่อีกกลุ่มหนึ่งกลับมองว่า ยังไม่สมควรรีบเลือกตั้งในตอนนี้ เพราะดูท่าแล้วฝ่ายตรงข้าม แค่นิ่งเงียบ รอดูสถานการณ์ ยังไม่ได้รุกคืบอะไรมากมาย..ต่างความคิด
จากความเห็นขัดแย้งกันดังกล่าวนี้ ทำให้เกิดสภาวะ “เครียดถึงกึ๋นส์” กลืนไม่เข้าคายไม่ออก ในกลุ่มของ Anti-Thaksin Activists ด้วยกันเอง เป็นความขัดแย้งกันทางความคิดชนิดสาหัสสากรรจ์ ที่สามารถจะพิพาทกันได้ภายในครอบครัว ในกลุ่ม ในองค์กร พ่อผู้เกลียดทักษิณอาจทะเลาะกับแม่ผู้เกลียดทักษิณ เพราะอยากให้แช่แข็งประเทศอยู่อย่างนี้ไปก่อน เจ้านายผู้เกลียดทักษิณอาจทะเลาะกับลูกน้องผู้เกลียดทักษิณเพราะพิษเศรษฐกิจที่ซบเซากำลังเล่นงาน ซึ่งเป็นเหตุการณ์คล้ายๆกันก่อนจะมีสีเหลือง-สีแดงปี 49 แต่ตอนนั้นเป็นการทะเลาะกันของฝ่ายชอบทักษิณ กับฝ่ายเกลียดทักษิณเท่านั้น..แต่นี่ พวกเดียวกัน !
สภาวะ “เครียดถึงกึ๋นส์” สามารถเห็นได้จากการใช้คำพูด วิธีการคิด การใช้ตรรกะ ตลอดจนการสื่อสารที่สื่อออกมา ทั้ง 2 ฝ่ายได้เกิดปะทะทางความคิด และปะทะอารมณ์กันบ้างแล้วพอหอมปากหอมคอ แต่ก็ยังพอรู้สำนึกว่าตนเองเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้มาถึงวันนี้ หรือเป็นพวกเดียวกัน จึงทนเก็บกดลงกึ๋นส์ไว้ก่อน ทั้งคอยสงวนท่าทีไว้ เพราะต่างฝ่ายต่างมีความเชื่อว่าเหตุการณ์จะต้องเป็นไปตามที่ตนเองคิดไว้แน่นอน..ต่างคาดหวัง
ความฮึกเหิมในชัยชนะของพวก Anti-Thaksin Activist ฯ ที่สามารถ “คว่ำคู่ต่อสู้” หรือ “หยุดประชาธิปไตย”ไว้ชั่วคราว และมุ่งหวังจะให้การปฏิรูปครั้งนี้ เป็นไปในแนวทางความคิดของฝั่งตนเอง จึงเป็นความน่าสนใจที่ต้องคอยจับตาดูว่า จะมีพัฒนาการระหว่าง 2 กลุ่มนี้ไปในทิศทางใด เมื่อกลุ่มหนึ่งรู้ว่าอาจไม่เป็นไปตามความมุ่งหวังของกลุ่มตน เกิดขัดผลประโยชน์ระหว่างขั้ว ต่างคนต่างไม่ยอม อะไรจะเกิดขึ้น แน่นอนว่า มันต้องเป็นไปทางใดทางหนึ่งเท่านั้น จึงอาจเป็นหนังยาว "สงครามระหว่างเผ่า"ก็ได้..ต้องคอยดูกันต่อไป !!!