10 Tips ดีๆแด่ First Jobber

กระทู้สนทนา
สวัสดีค่ะทุกคน
วันนี้พักการเขียนกระทู้ท่องเที่ยวไว้แป๊ปปปป เปลี่ยนมาเป็นกระทู้สาระน่ารู้กันบ้าง ฮ่า หลังจากทำงานมา 3ปีนิดๆ ก็จับจุดที่น่าสนใจที่อยากแชร์กับทุกคนออกมาได้ 10ข้อ ขอแบ่งเป็นด้าน WORK กับ LIFE นะคะ ไปเลย เริ่ม!


// WORK //

1.  TIMING – การตรงต่อเวลาสำคัญที่สุด



โดยพื้นฐานคนทุกคนควรเป็นคนที่ตรงต่อเวลา ทั้งในเรื่องการประชุม พรีเซนต์งานกับลูกค้า หรือแม้กระทั่งการส่งชิ้นงานต่างๆค่ะ หากเราตรงเวลาทุกคนก็จะไว้วางใจให้เรารับผิดชอบงานต่างๆ และมั่นใจว่าเราจะส่งได้ตรงเวลา

ข้อแนะนำ ง่ายๆ แบบง่ายมากๆเลยคือ การจด ค่ะ ใครสะดวกจดในแอพปฏิทินในมือถือก็ดีค่ะตั้งเตือนเวลาได้ แต่เราชอบจดในสมุดค่ะ หาซื้อสมุดปฏิทินแบบน่ารักๆได้ที่ Loft หรือถ้าอยากได้แบบเรียบง่ายก็แนะนำที่ MUJI ค่ะ เราซื้อ 35บาทเอง ก็จะจดเป็นรายวันไปเลย ว่าวันไหนมีนัดอะไร งานไหนต้องส่งภายในวันไหน จดเลยค่ะ แล้ววางไว้ที่โต๊ะทำงานนี่แหละเปิดดูบ่อยๆ เสาร์อาทิตย์เราก็จะพกกลับบ้านด้วย เพราะนอกจากจดเรื่องงานแล้ว เรื่องอื่นๆก็จดได้ค่ะ เช่น หนังที่อยากดูกำลังจะเข้าโรงอาทิตย์นี้แล้ว อะไรแบบนี้ (จดบนปฏิทินตั้งโต๊ะก็ได้นะคะ ^^)


2. ACTIVE – กระตือรือร้น พร้อมตอบทุกสถานการณ์



เจ้านายสั่ง 1 2 3... คิดไปเลยค่ะ 1 2 3 4 5 6.... Options ต่างๆสำหรับงานนั้นๆ รวมทั้งปัญหาที่อาจจะเกิด แล้วจะแก้ปัญหายังไง อย่านั่งรอรับคำสั่งอย่างเดียว เวลาว่างๆก็ลองถามดูค่ะ ว่ามีอะไรให้ทำบ้าง หรือบางช่วงที่มันไม่มีอะไรจริงๆ ควรหาความรู้เข้าตัวค่ะ อ่านหนังสือ อ่านบทความ อ่านข่าวประจำวัน รับรองว่าความรู้เล็กๆน้อยๆเหล่านี้จะทำให้เรา ก้าวไปมากกว่าคนอื่น 1ก้าวค่ะ

ข้อแนะนำ ไปกดไลค์เพจข่าวต่างประเทศในเฟสบุคไว้บ้างก็ดีค่ะ ข่าวจะไวกว่าข่าวไทยที่แปลมาอีกที หรือแนะนำเว็ป feedly ค่ะ เข้าไปสมัครไว้ แล้วก็ฟอลโล่วสำนักข่าวต่างๆไว้ค่ะ เช่น Business Insider, Forbes หรือถ้าเป็นสายงานโฆษณาแบบเราก็แนะนำ Mashable หรือ Campaign Asia เว็ปนี้จะรวบรวมข่าวไว้ในหน้า Feed คล้ายๆ เฟสบุค ทวิตเตอร์ค่ะ แต่ถ้าใครมีปัญหากับภาษาอังกฤษ ก็ลองติดตามจากเว็ปไทยก็ถือเป็นเรื่องดีดีมีความรู้ค่ะ


3. ACTIVITY – งานดี กิจกรรมเด่น



ในหลายๆบริษัทอาจจะมีกิจกรรมประจำปี เช่น กิจกรรมพัฒนาทีมเวิร์ค หรือ กีฬาสี อยากแนะนำให้ เข้าร่วม หรือ เป็นตัวแทนสำหรับกิจกรรมต่างๆค่ะ แน่นอนว่าในชีวิตการทำงานไม่ได้มีเพียงการนั่งทำงานเงียบๆแค่นั้น เราต้องเป็นเหมือนเหรียญที่มีสองด้านค่ะ ตัวแทนสีออกไปแข่งกีฬามหาสนุก หรือ อาสาเป็นพิธีกรในงานต่างๆ หรือ แต่งตัวแฟนซีขึ้นประกวด

ลองนึกดูสิคะ คนอื่นเขาจะชื่นชมขนาดไหนถ้ารู้ว่าคุณทำงานก็ดี กิจกรรมก็เด่น เพราะฉะนั้น จัดไปอย่าให้เสียค่ะ เราเคยเป็นพิธีกร เคยแต่งตัวแฟนซีเป็นตัวแทนทีมมาแล้ว ฮ่าๆๆๆ ไม่ได้ได้รางวัลอะไรเลย แต่ สนุกดีค่ะ ถือเป้นประสบการณ์ที่ดี และได้สร้างปฏิสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงานด้วย ไม่ยากอย่างที่คิดค่ะ


4. ENGLISH – ภาษาอังกฤษย๊ากยาก


ภาพจาก www.keepcalm-o-matic.co.uk


อาจจะยากก็จริงค่ะ แต่เราควรพยายามฝึกฝนเล็กๆน้อยๆนะคะ หากมีหัวหน้าหรือเพื่อนร่วมงานที่คุยกันได้ อยากให้ลองปรึกษาดูค่ะ ว่าเราขอเขียนอีเมล์หรืองานเป็นภาษาอังกฤษได้ไหม เพื่อเป็นการพัฒนาตัวเองค่ะ แต่ต้องบอกเขาล่วงหน้านะว่าเราอยากฝึกฝน เดี๋ยวเขียนงูๆปลาๆไปแล้วเขาจะงง ฮ่าๆ

หรือถ้ามีเพื่อนร่วมงานต่างชาติ ลองคุยเลยค่า เราเคยมีเพื่อนร่วมงานชาวเกาหลีที่เก่งภาษาอังกฤษมากๆ เราก็คุยกับเขาทุกวันเลยค่ะ บางคำนึกไม่ออกก็บอกให้เขาช่วยคิด แบบ อันนี้อะไรนะๆๆๆ พร้อมทำภาษามือไปด้วย เขาก็ช่วยตอบให้ค่ะ สนุกดี เรื่องเล็กๆน้อยๆจะทำให้เราจำคำศัพท์ไปตลอดเลยค่ะ เราพูดอังกฤษไม่เก่งก็เหมือน ฝรั่งพูดไทยไม่ชัดหรือไม่ค่อยเข้าใจ เราก็ออกจะเอ็นดูเนอะ อยากฟังอยากช่วยเขาซะมากกว่าที่จะทับถมเขา


5. SICK LEAVE – ลาป่วย.. ป่วยจริง ป่วยปลอม?



บางคนบางที่อาจจะเคร่งเรื่องการลาป่วย ว่าป่วยจริงป่วยปลอมกันแน่นะ

ข้อแนะนำของเราคือ ถ้าไปไหวก็ไปค่ะ เช่น ท้องเสีย ปวดแขน ปวดขา ไปให้เขาเห็นว่าเราพยายามนะ ไม่ใช่นิดๆหน่อยก็ลาป่วย ลาป่วยบ่อยๆ แบบนี้แหละน่าจะเป็นปัญหา แต่!!..... ถ้าเป็นไข้หวัด ไอ จาม แบบนี้ ลาไปเลยจ้า การพักผ่อนสำคัญที่สุด เรา work from home ก็ได้เนอะ แต่โทรแจ้งหัวหน้าด้วย ถ้าฝืนไปทำงาน คนที่ทำงานเขาไม่คิดว่าเราขยันหรอกค่ะ เขาจะคิดว่าเราไปแพร่เชื้อซะมากกว่า เราต้องเกรงใจเขาด้วย เอาให้หายดีก่อนแล้วค่อยไปทำงานที่ออฟฟิศ อย่าลืมยื่นใบรับรองแพทย์นะ ^^


// LIFE //


1. SAVING - เก็บตังค์ๆๆๆ


ภาพจาก www.emaze.com


เราควรเริ่มเก็บเงินตั้งแต่แรกเริ่มทำงานเลยค่ะ เข้าใจว่าหลายๆคนมีเงินเป็นของตัวเองแล้วใช้กระหน่ำ เดือนชนเดือน แต่อยากแนะนำว่า เก็บเล็กๆน้อยๆดีกว่าไม่เก็บเลยค่ะ เริ่มเก็บเดือนละ พันสองพัน เราก็นำหน้าคนอื่นที่เขาไม่เก็บแล้วค่ะ เราก็เริ่มตั้งแต่ 1,000 บาทเนี่ยแหละ สมัยเริ่มงานใหม่ๆ ไม่เยอะเลย แต่สะสมมาเรื่อยๆ เงินเดือนเพิ่ม เราก็ใช้เท่าเดิม เก็บเพิ่มขึ้น ใครมีหัวก็ลงทุนโลด แต่เราไม่เก่งอ่ะ ได้แต่ฝากธนาคารไป

ข้อแนะนำคือ เงินเดือนออกปุ๊ป เอาออกมาฝากประจำเลยค่ะ เหมือนเป็นหน้าที่อะ เรานี่เดือนชนเดือนตลอดเหมือนกัน แต่หักเงินออมไว้ตั้งแต่ต้นเดือนแล้วไง สิ้นเดือนก็เงินหมดแบบภาคภูมิใจ ฮ่า ใครไหวก็ให้พ่อแม่ด้วยนะ จริงๆท่านไม่อยากได้หรอกแค่ให้เราเลี้ยงตัวเองได้ก็พอ สำหรับเรา ให้พ่อแม่กับเงินออม ถือเป็น fix cost ไว้เลยค่ะ เงินไม่พอใช้ปลายเดือนก็ต้องรับสภาพ กินของแพงเองช่วยไม่ได้ 5555


2. FAMILY & LOVER – อย่าทิ้งขว้างคนที่รักเราล่ะ


ภาพจาก www.npr.org


เป็น First jobber หลายๆครั้งที่อาจจะหลงแสงสี หลงชีวิตชิคๆของมนุษย์เงินเดือน ปาร์ตี้ กลับบ้านดึก ถึงบ้านขึ้นห้องนอน เสาร์อาทิตย์ไปเที่ยว.. เราควรหันมองย้อนกลับไปที่ครอบครัวหรือคนรักของเรา เขาอยู่ตรงนั้นแต่เราไม่ได้นึกถึงเขา

เคสเราดีหน่อยไลน์คุยกับแม่เรื่อยๆ ทุกวันนี้ต้องมีวันที่เลิกงานแล้วกลับเลยเพื่อให้ได้กินมื้อเย็นด้วยกัน คุยกันตามประสาแฟม ฮ่าๆ คนรักก็เช่นกัน อย่าเอาความเครียดเรื่องงานไปลงที่พวกเขา เอาเป็นว่าลองเล่าให้ฟังว่าวันๆกินขนมไปเยอะแค่ไหน น่าจะเป็นหัวข้อที่ทำให้ขำๆกันได้


3. EXERCISE – ตัวเราของเรา ดูแลกันจะได้อยู่กันไปนานๆ



เราเป็นคนหนึ่งที่ไม่เคยออกกำลังกายแบบเป็นจริงเป็นจังเลยยยยยยย แค่ตีแบตอาทิตย์ละครั้ง แต่อยากให้ทุกคนหาเวลาออกกำลังกายในทุกๆวัน หรือ วันเว้นวันก็ยังดีค่ะ เลือกทำในสิ่งที่ตัวเองชอบ เริ่มจากน้อยๆๆๆๆๆเลยก็ได้ ทำน้อยยังดีกว่าไม่ทำค่ะ

ลองดู วิ่งวันละ 30นาทีงี้ เราลองเริ่มวิ่งวันแรก 2นาทีก็แฮ่กแล้ว แต่ผ่านมาเดือนกว่าก็ทำได้ดีขึ้นๆ และจะพัฒนาต่อไปเพื่ออนาคตที่ดี 555 เห็นในเน็ตบอกว่า โอบาม่าออกกำลังกายทุกวัน วันละ 45นาทีนะ โอบาม่ายังมีเวลาออกกำลังได้ เราก็ต้องทำได้สู้ๆ


4. RELAX – เครียดไปใย ออกไปทำสิ่งที่เรารักบ้าง



ทำงานกันไปแล้ว 5วัน จาก 7วัน ควรหาอะไรที่มีความสุขตามสไตล์ของตัวเองด้วยเพื่อทำให้ชีวิตมีสมดุล กินข้าว ช้อปปิ้ง หรือ ทำบุญ ส่วนเราชอบดูหนัง มากกกกกกกกกกกก ดูเรื่องอะไรก็สนุกไปหมด ฮ่าๆ ดูหนังในโรงหนังอย่างน้อยอาทิตย์ละครั้ง เสาร์อาทิตย์ถ้าว่างก็จะดูที่บ้าน เรื่องอะไรก็ได้ที่ยูบีซีฉาย (บ่งบอกความแก่แมะ) ข้อแนะนำของการดูหนังคือ ใช้โปรค่ะ...

เดี๋ยวนี้หนังเอาแบบรอบปกติวันปกติไม่มีโปร 180-220 ไม่ไหวอะ แพง ลองเข้าไปในเว็ปโรงหนังแล้วหาดูว่ามีโปรอะไรบ้าง เช่น เราใช้ดีแทคก็จะมีร่วมกับ SF ฟรี1ที่นั่งทุกเดือน แต่ตอนนี้เปลี่ยนเป็น ที่นั่งละ70บาท แล้วก็มี True card ลด 50% ของเมเจอร์งี้ ใช้สลับๆกันไปทุกอาทิตย์ ร่วมกับการดูหนังวันพุธ สบายๆ ร้อยนึง เย่ แฮปปี้ๆๆ


5. TRAVEL – วันลายังมี ออกไปใช้ชีวิตซะบ้าง



เราชอบเที่ยวมากนะ แต่ก็ไปไม่บ่อยขนาดนั้นเพราะอยากเก็บตังค์เอาไว้สำหรับอนาคต แต่มันต้องมีบ้างแหละ สิ่งที่อยากแนะนำคือ ก่อนไปเที่ยวให้เคลียงานหน้าหลังให้เรียบร้อยซะก่อน อันไหน on process ก็ฝากเพื่อนร่วมงานไว้ให้ละเอียด

และถ้าจะไปเที่ยวต่างประเทศแนะนำให้หาตั๋วโปรเท่านั้น! ไปตามฟอลในเพจได้นะ พวกเพจ Ar-pae หรือ ติดโปร จะมีตั๋วโปรมายั่วน้ำลายตลอดเวย์ และที่สำคัญ เราต้องวางแผนเที่ยว วางแผนเงินอะไรๆๆไปให้เรียบร้อย กินเท่าไหร่ ช้อปเท่าไหร่ แล้วพยายามอย่าให้เกินจากนั้น ไม่ใช่รูดๆๆๆๆน้า

หรือถ้าไปต่างจังหวัด ก็แนะนำว่า ใช้วันลาศุกร์หรือจันทร์สัก 1วัน รวมกับเสาร์อาทิตย์ จะได้ที่พักราคาถูกในวันธรรมดา และ คนไม่เยอะมากด้วย ตามไปดูกระทู้อื่นๆของเค้าได้น้า *0*

+++ เด็กเมืองกรุงเที่ยวเมืองกาญ กับ ครึ่งชั่วโมงที่ไม่มีวันลืม. http://pantip.com/topic/33029693
+++ BKK 1 DAY TRIP - ใช้ไปไม่ถึง 150 เฉย!? http://pantip.com/topic/33547790
+++ กินอะไรดี? ที่ F U K U O K A / O S A K A http://pantip.com/topic/33637658
+++ 10 เรื่องเล่า จากเราถึงนาย #FukuokaOsaka 6 วัน 23,238 บาท http://pantip.com/topic/33806068

จบแล้ว อยากรู้อะไรเพิ่มเติม หลังไมค์มาได้นะฮะ ^^
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่