อีกหนึ่งกรณี ที่เป็นข้อพิสูทธ์ได้เป็นอย่างดี
ถึงการทำงานของสำนักพุทธฯ กับเถรสมาคมฯ ไทย
ที่ไร้ประสิทธิภาพ....จะมีไว้ทำไมล่ะแบบนี้ ?
เรื่องเล็กๆยังทำไม่ได้ แล้วเรื่องใหญ่กรณีธรรมกาย
ไม่ต้องพูดถึง คาราคาซังอีกนานแสนนาน
เป็นไงล่ะ!!!สุดท้าย ชาวบ้านต้องทำเอง!!!
ชาวบ้านสุดทน!! ปิดวัดขับไล่ "พระอวดอุตริ"? เหงื่อ-เลือดไหลเป็นพระธาตุ พ้นวัดแล้ว!
ชาวบ้านต.วังอ่าง นครศรีธรรมราช สุดทนพฤติกรรม พระอวดอ้างเลือด-เหงื่อกลายเป็นพระธาตุ รวมตัวชุมนุมปิดล้อมวัดขับไล่ออกจากวัด เผยตั้งแต่อยู่มาสร้างแต่เรื่องฉาว ขณะฝ่ายพระยื้อขอเวลาถึงสิ้นปี แต่ชาวบ้านไม่ยอม
จากกรณีที่บนโลกออนไลน์มีการนำรูปภาพพระเลือดออกกลายเป็นพระธาตุและเหงื่อของพระที่ออกมาก็มีลักษณะเป็นเกล็ด มาแชร์กัน อย่างแพร่หลาย เรียกเสียงฮือฮาจำนวนมากได้ในชั่วข้ามคืน ซึ่งระบุว่าพระรูปดังกล่าวคือพระอาจารย์ชา มีตำแหน่งเป็นเจ้าอาวาสวัด อยู่ที่อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช
ล่าสุดเมื่อวานนี้ 21 ก.ค.58 ที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีชาวบ้านกว่า 500 คนมารวมตัวชุมนุมประท้วงและมีเหตุชุลมุนวุ่นวาย ที่วัดวังหอมพุทธาราม หรือวัดวังหอน หมู่ 5 ต.วังอ่าง อ.ชะอวด ส่วนหนึ่งปิดล้อมด้านนอก ส่วนหนึ่งเข้ารื้อคอกม้าที่สร้างไว้ข้างเมรุวัดที่ชาวบ้านอ้างว่า มีการนำม้ามาให้ชาวบ้านต่างถิ่นปฏิบัติธรรมกับม้าแบบพิสดาร ไม่ใช่วิธีการบำเพ็ญเพียรหรือวิปัสสนาตามแนวทางของศาสนาพุทธ และเจ้าหน้าที่พยายามเข้าควบคุมสถานการณ์ แต่กลับตึงเครียดหนักขึ้น จึงประสานกำลังจากเจ้าหน้าที่ทหารเข้าร่วมควบคุมสถานการณ์
นายชัยรัตน์ เทพจันทร์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 5 วังอ่าง หนึ่งในแกนนำชาวบ้าน เผยว่า ตั้งแต่พระอาจารย์ชามาจำวัดและเป็นเจ้าอาวาสอยู่ที่วัดนี้ก็ได้สร้างความเสื่อมเสียมาสู่วัด,หมู่บ้าน และท้องถิ่น มาโดยตลอด เพราะมีพฤติกรรมอวดอุตริ อ้างว่าระลึกชาติได้ มีญาณวิเศษติดต่อเทพเจ้าต่างๆได้ แล้วพยายามชักชวนประชาชนที่ไม่ใช่คนท้องถิ่นมาทำบุญ นั่งวิปัสสนาแบบแปลกประหลาด จนทางคณะสงฆ์จังหวัดนครศรีธรรมราช ได้มีมติตัดพระรูปนี้ออกจากการเป็นพระในปกครองไปเมื่อปีที่แล้ว แต่พระรูปนี้กลับไม่สำนึกหรือเลิกพฤติกรรมดังกล่าว แล้วยังสร้างเรื่องไม่หยุด
ผู้ใหญ่บ้านกล่าวอีกว่า ล่าสุดได้ให้คนใกล้ชิดเผยแพร่ภาพที่อ้างว่าพระอาจารย์ชาเหงื่อไหลออกมาเป็นพระธาตุเป็นเกล็ดแก้ว เมื่อมีบาดแผลเลือดที่ไหลออกมาก็กลายเป็นพระธาตุหรือเกล็ดแก้วเช่นเดียวกัน ทำให้มีคนหลงเชื่อเดินทางมาทำบุญบริจาคเงิน ซึ่งชาวบ้านหมความอดทนกับพฤติกรรมดังกล่าว จึงรวมตัวกันมาขับไล่พระรูปนี้ให้ออกไปจากวัดแห่งนี้ภายในวันนี้
ขณะที่พระอนานันท์ หรือพระอาจารย์ชา เปิดเผยว่า ภาพและข้อมูลต่างๆที่มีการโพสต์และแชร์ในโลกออนไลน์ตนไม่ได้เป็นคนกระทำ แต่เป็นญาติโยมที่เลื่อมใสศรัทธาถ่ายภาพไว้และนำไปเผยแพร่ การชุมนุมขับไล่ตนเกิดจากฝ่ายที่ไม่พอใจเป็นการส่วนตัวมานาน ยุยงให้ชาวบ้านมาขับไล่
อย่างไรก็ตามนายสว่าง กัณฑ์อุไร ปลัดอำเภออาวุโส พยายามไกล่เกลี่ย แต่ฝ่ายตัวแทนชาวบ้านก็ยืนกรานให้พระอนานันท์ย้ายออกไปจากวัดภายในวันนี้ ขณะที่ฝ่ายพระต่อรองเวลาขออยู่ถึงสิ้นปีนี้ แต่ชาวบ้านก็ไม่ยอม จึงขอเวลาถึงแค่สิ้นเดือนนี้เพื่อให้งานเทศน์มหาชาติที่กำหนดจัดงานวันที่ 25 ก.ค.นี้ได้เสร็จลุล่วงไปก่อน แต่ชาวบ้านก็ไม่ยอมรับข้อเสนอ จนกระทั่งเมื่อเวลา 18.00 น.พระอนานันท์ จึงได้ยินยอมที่จะย้ายออกจากวัดภายในคืนนี้ โดยจะไปจำวัดที่วัดห้วยแหน ซึ่งเป็นวัดที่เจ้าคณะตำบลจำพรรษาอยู่เป็นการชั่วคราว ขณะชาวบ้านยังปิดล้อมวัด เพื่อรอให้พระรูปนี้เก็บข้าวของและเดินทางออกจากวัดไป
ชาวบ้านสุดทน!! ปิดวัดขับไล่ "พระอวดอุตริ"เพราะ ?
ถึงการทำงานของสำนักพุทธฯ กับเถรสมาคมฯ ไทย
ที่ไร้ประสิทธิภาพ....จะมีไว้ทำไมล่ะแบบนี้ ?
เรื่องเล็กๆยังทำไม่ได้ แล้วเรื่องใหญ่กรณีธรรมกาย
ไม่ต้องพูดถึง คาราคาซังอีกนานแสนนาน
เป็นไงล่ะ!!!สุดท้าย ชาวบ้านต้องทำเอง!!!
ชาวบ้านสุดทน!! ปิดวัดขับไล่ "พระอวดอุตริ"? เหงื่อ-เลือดไหลเป็นพระธาตุ พ้นวัดแล้ว!
ชาวบ้านต.วังอ่าง นครศรีธรรมราช สุดทนพฤติกรรม พระอวดอ้างเลือด-เหงื่อกลายเป็นพระธาตุ รวมตัวชุมนุมปิดล้อมวัดขับไล่ออกจากวัด เผยตั้งแต่อยู่มาสร้างแต่เรื่องฉาว ขณะฝ่ายพระยื้อขอเวลาถึงสิ้นปี แต่ชาวบ้านไม่ยอม
จากกรณีที่บนโลกออนไลน์มีการนำรูปภาพพระเลือดออกกลายเป็นพระธาตุและเหงื่อของพระที่ออกมาก็มีลักษณะเป็นเกล็ด มาแชร์กัน อย่างแพร่หลาย เรียกเสียงฮือฮาจำนวนมากได้ในชั่วข้ามคืน ซึ่งระบุว่าพระรูปดังกล่าวคือพระอาจารย์ชา มีตำแหน่งเป็นเจ้าอาวาสวัด อยู่ที่อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช
ล่าสุดเมื่อวานนี้ 21 ก.ค.58 ที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีชาวบ้านกว่า 500 คนมารวมตัวชุมนุมประท้วงและมีเหตุชุลมุนวุ่นวาย ที่วัดวังหอมพุทธาราม หรือวัดวังหอน หมู่ 5 ต.วังอ่าง อ.ชะอวด ส่วนหนึ่งปิดล้อมด้านนอก ส่วนหนึ่งเข้ารื้อคอกม้าที่สร้างไว้ข้างเมรุวัดที่ชาวบ้านอ้างว่า มีการนำม้ามาให้ชาวบ้านต่างถิ่นปฏิบัติธรรมกับม้าแบบพิสดาร ไม่ใช่วิธีการบำเพ็ญเพียรหรือวิปัสสนาตามแนวทางของศาสนาพุทธ และเจ้าหน้าที่พยายามเข้าควบคุมสถานการณ์ แต่กลับตึงเครียดหนักขึ้น จึงประสานกำลังจากเจ้าหน้าที่ทหารเข้าร่วมควบคุมสถานการณ์
นายชัยรัตน์ เทพจันทร์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 5 วังอ่าง หนึ่งในแกนนำชาวบ้าน เผยว่า ตั้งแต่พระอาจารย์ชามาจำวัดและเป็นเจ้าอาวาสอยู่ที่วัดนี้ก็ได้สร้างความเสื่อมเสียมาสู่วัด,หมู่บ้าน และท้องถิ่น มาโดยตลอด เพราะมีพฤติกรรมอวดอุตริ อ้างว่าระลึกชาติได้ มีญาณวิเศษติดต่อเทพเจ้าต่างๆได้ แล้วพยายามชักชวนประชาชนที่ไม่ใช่คนท้องถิ่นมาทำบุญ นั่งวิปัสสนาแบบแปลกประหลาด จนทางคณะสงฆ์จังหวัดนครศรีธรรมราช ได้มีมติตัดพระรูปนี้ออกจากการเป็นพระในปกครองไปเมื่อปีที่แล้ว แต่พระรูปนี้กลับไม่สำนึกหรือเลิกพฤติกรรมดังกล่าว แล้วยังสร้างเรื่องไม่หยุด
ผู้ใหญ่บ้านกล่าวอีกว่า ล่าสุดได้ให้คนใกล้ชิดเผยแพร่ภาพที่อ้างว่าพระอาจารย์ชาเหงื่อไหลออกมาเป็นพระธาตุเป็นเกล็ดแก้ว เมื่อมีบาดแผลเลือดที่ไหลออกมาก็กลายเป็นพระธาตุหรือเกล็ดแก้วเช่นเดียวกัน ทำให้มีคนหลงเชื่อเดินทางมาทำบุญบริจาคเงิน ซึ่งชาวบ้านหมความอดทนกับพฤติกรรมดังกล่าว จึงรวมตัวกันมาขับไล่พระรูปนี้ให้ออกไปจากวัดแห่งนี้ภายในวันนี้
ขณะที่พระอนานันท์ หรือพระอาจารย์ชา เปิดเผยว่า ภาพและข้อมูลต่างๆที่มีการโพสต์และแชร์ในโลกออนไลน์ตนไม่ได้เป็นคนกระทำ แต่เป็นญาติโยมที่เลื่อมใสศรัทธาถ่ายภาพไว้และนำไปเผยแพร่ การชุมนุมขับไล่ตนเกิดจากฝ่ายที่ไม่พอใจเป็นการส่วนตัวมานาน ยุยงให้ชาวบ้านมาขับไล่
อย่างไรก็ตามนายสว่าง กัณฑ์อุไร ปลัดอำเภออาวุโส พยายามไกล่เกลี่ย แต่ฝ่ายตัวแทนชาวบ้านก็ยืนกรานให้พระอนานันท์ย้ายออกไปจากวัดภายในวันนี้ ขณะที่ฝ่ายพระต่อรองเวลาขออยู่ถึงสิ้นปีนี้ แต่ชาวบ้านก็ไม่ยอม จึงขอเวลาถึงแค่สิ้นเดือนนี้เพื่อให้งานเทศน์มหาชาติที่กำหนดจัดงานวันที่ 25 ก.ค.นี้ได้เสร็จลุล่วงไปก่อน แต่ชาวบ้านก็ไม่ยอมรับข้อเสนอ จนกระทั่งเมื่อเวลา 18.00 น.พระอนานันท์ จึงได้ยินยอมที่จะย้ายออกจากวัดภายในคืนนี้ โดยจะไปจำวัดที่วัดห้วยแหน ซึ่งเป็นวัดที่เจ้าคณะตำบลจำพรรษาอยู่เป็นการชั่วคราว ขณะชาวบ้านยังปิดล้อมวัด เพื่อรอให้พระรูปนี้เก็บข้าวของและเดินทางออกจากวัดไป