ทริป ภูทับเบิก – เขาค้อ 18-19-20 ก.ค. 58
สวัสดีค่ะ กระทู้นี้เป็นกระทู้แรกเลยที่มารีวิว ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ
พอดีมีโอกาสได้หยุดไปเที่ยวช่วงวันเกิดมาค่ะ เลยเกิดทริปภูทับเบิก – เขาค้อ 2 คืน 3 วันขึ้น เป็นทริปที่ประทับใจมาก เลยถือโอกาสมารีวิวให้เพื่อนๆที่กำลังตัดสินใจไปเที่ยวดูค่ะ
เราเป็นคนจังหวัดลพบุรีค่ะ ออกเดินทางจาก อ.บ้านหมี่ จ.ลพบุรี ประมาณ 9 โมงครึ่งตลอดทางวันนี้อากาศครึ้มๆค่ะ แดดไม่ค่อยมีเลย ไม่รู้ว่าข้างหน้าจะเป็นยังไง ต้องลุ้นเอา
13.00 น. โดยประมาณ ถึงเวลาหาอาหารกลางวันรองท้องค่ะ ซึ่งตอนนี้ก็ถึง อ.วิเชียรบุรี แล้วจะเป็นอาหารอย่างอื่นไปไม่ได้ นอกจาก “ไก่ย่างวิเชียรบุรี” เราเลือกตามร้านแนะนำเลยค่ะ “ร้านไก่ย่างบัวตอง” ร้านนี้เปิดพี่กูก็เจอค่ะ เป็นร้านไก่ย่างชื่อดังพอสมควร เขาว่ากันว่าเป็นร้านอยู่มาดั้งเดิมเลยนะคะ
เมนูก็ง่ายๆค่ะ
-ไก่ย่างแบบแห้ง (ครึ่งตัว)
-ต้มยำไก่ใบมะขามอ่อน
-ส้มตำทอดกรอบ
-ข้าวเหนียวห่อใบตอง
โดยรวมนี่โอเคเลยนะคะ อาหารรสชาดอร่อย ร้านกว้างขวางดี ที่จอดรถก็เพียบค่ะ ที่สำคัญห้องน้ำน่าเข้ามาก เรางี้อดใจไม่ไหวถ่ายรูปเก็บไว้ด้วยค่ะ ใครเดินทางผ่านมาทางนี้ ลองมาแวะชิมกันดูนะคะ
ก่อน 14.00 น. เราก็ออกเดินทางต่อกันค่ะ จาก อ.วิเชียรบุรี ยาวๆไปจนถึง แยก อ.หล่มสัก / อ.หล่มเก่า ก็จะตัดสู่ถนนหมายเลข 12 ค่ะ Route 12 ในตำนาน 5555 เว่อไปนิด หลังจากนั้นเราก็จะเลี้ยวขวาเข้าสู่เส้นทางขึ้นภูทับเบิกค่ะ
ก่อนหน้านี่เราสอบถามเพื่อนๆเคยมากัน บอกว่าเส้นทางขึ้นภูทับเบิกนี่อันตรายค่ะ ให้เช็ครถดีๆ ใครไม่เคยขับรถขึ้นเขานี่ไม่แนะนำเลย แต่ด้วยความที่สามีเรา ผ่านมาหลายเขา หลายโค้งแล้ว ก็ค่อนข้างไว้ใจค่ะ
พอถึงทางขึ้นเขาจริงๆจากที่กลัวพอมองธรรมชาติ 2 ข้างทางนี่ความกลัวลดลงไปเยอะค่ะ ทางสวยมาก ป่าเขาลำเนาไพร ทางสูงชันลัดลดคดเคี้ยวเลี้ยวไปมา มีหมอกกระจายบางๆตลอดทาง เปิดหน้าต่างขับรับลมเย็นๆหนาวเลยค่ะ แต่ช่วงที่น่ากลัวก็มีนะ แอบนั่งเกร็งบ้าง ช่วยสามีเหยียบเบรก 5555 มีโค้งหักสอกบ้าง โค้งตัว S บ้าง มากันให้เต็ม แต่ในชั่วระยะเวลาอึดใจ ไม่เกิน 1 ชม. เราก็ถึงที่ๆเรียกว่า “ภูทับเบิก” แล้วค่ะ
ความประทับใจแรกที่เห็นคือ ภูทับเบิกเป็นเมืองเล็กๆ ค่อนข้างสงบ ยังไม่บอบช้ำค่ะ เป็นเพราะว่าช่วงที่เรามาไม่ใช่ high season ด้วยมั้ง คนส่วนใหญ่เป็นม้ง พูดชัดไม่ชัดคละๆกันไป เส้นทางบนหมู่บ้านเป็นทางเขาสลับกัน บ้าน/ที่พักต่างๆปลูกสร้างตามไหล่เขาคล้ายๆนาขั้นบันได ลานกางเต็นท์ซึ่งเมื่อถึงหน้าเทศกาลคนกลับแน่นขนัดเต็มไปด้วยรถและเต็นท์มากมาย เราถือว่าโชคดีมากเลยค่ะที่ไม่ได้มาช่วงนั้น
คืนนี้เราฝากชีวิตไว้ที่ “เดอะม้ง รีสอร์ท” ค่ะ เป็นรีสอร์ทของคนชาวม้ง น่าจะนะคะ ตอนเราโทรไปจองน่ารักมาก ไลน์มาบอกขนาดห้อง ส่งรูปมามากมาย จนเราตัดสินใจได้ที่พักเป็นหลัง ใหม่อยู่ค่ะ มีห้องน้ำในตัวด้วย/พร้อมน้ำอุ่น (จำเป็นอย่างยิ่ง)
ที่พักเป็นบ้านหลังค่ะ คล้ายๆบ้านน็อคดาวมาต่อเพิ่มห้องน้ำ ขนาดกำลังดี มีเตียง 6 ฟุต 1 เตียง / เตียง 3 ฟุต 1 เตียง ซึ่งเราไปกันแค่ 2 คน ก็เลยนอนเตียงใหญ่และก็เอาของวางไว้เตียงเล็กค่ะ ที่พักไม่มีพัดลม ไม่มีแอร์ แต่ขอบอก ผ้าห่มนี่แย่งกันแล้วแย่งกันอีกค่ะ ใครจะไปหน้าหนาวนี่เตรียมตัวให้พร้อมเลย
วันนี้มีฝนปรอยตลอดค่ะ คุยกับชาวบ้านบอกว่าช่วงนี้เป็นช่วงพายุเข้า โอกาสเจอทะเลหมอกน้อยมาก ฮื่อๆ เศร้าแปบ
หลังจากเก็บของเรียบร้อย ถึงเวลาสำรวจค่ะ แต่ด้วยความหิวโหย อีกแล้ว เราก็ได้เดินหาร้านขายอาหารกันก่อน เนื่องจากเราไม่อยากขยับรถออกจากที่พักแล้ว ก็เลยต้องพึ่ง 2 ฝ่าเท้านี่แหละค่ะ เดินถ่ายรูปหาของกินในละแวกใกล้ๆ ในที่สุดเราก็ไปฝากท้องไว้ที่ร้านอาหารเล็กๆ เป็นร้านของทางรีสอร์ทนึงค่ะจำชื่อไม่ได้ สั่งกับข้าว 3 อย่าง ข้าวเปล่า 30จาน เป็นเงิน 350 บาท ราคาแอบโหดนิดนึงเมื่อเทียบกับหน้าตาอาหาร แต่เพราะอยู่ที่สูง จึงให้อภัยกันได้ค่ะ ฮ่ะๆ
เมื่อท้องอิ่มก็ถึงเวลาหาทำเลชักภาพกันแล้ว จุดที่เราไปคือ จุดชมวิวหน่วยทับเบิก และก็ จุดชมวิวอาคารหอดูดาวและจุดวัดอุณหภูมิภูทับเบิก ตอนแรกว่าจะไปภูแผงม้าด้วย อดค่ะ เพราะฝนปรอยตลอด หลังจากถ่ายรูปเสร็จแล้ว เวลาผ่านไปช้ามาก เพิ่ง 5-6 โมงเย็นไม่แน่ใจ บวกกับฝนตก เรา 2 คนจึงเข้ากระท่อมหลังน้อยของเรา และนอนพักกันค่ะ
วิวจากจุดชมวิวอาคารหอดูดาวและจุดวัดอุณหภูมิภูทับเบิก
วิวจากจุดชมวิวหน่วยทับเบิก
วิวจากหน้าบ้านที่พักค่ะ
พรุ่งนี้มาต่อ คืนนี้ฝันดีค่ะทุกคน
[CR] ทริป ภูทับเบิก - เขาค้อ 3วัน 2คืน (หน้าฝน)
สวัสดีค่ะ กระทู้นี้เป็นกระทู้แรกเลยที่มารีวิว ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ
พอดีมีโอกาสได้หยุดไปเที่ยวช่วงวันเกิดมาค่ะ เลยเกิดทริปภูทับเบิก – เขาค้อ 2 คืน 3 วันขึ้น เป็นทริปที่ประทับใจมาก เลยถือโอกาสมารีวิวให้เพื่อนๆที่กำลังตัดสินใจไปเที่ยวดูค่ะ
เราเป็นคนจังหวัดลพบุรีค่ะ ออกเดินทางจาก อ.บ้านหมี่ จ.ลพบุรี ประมาณ 9 โมงครึ่งตลอดทางวันนี้อากาศครึ้มๆค่ะ แดดไม่ค่อยมีเลย ไม่รู้ว่าข้างหน้าจะเป็นยังไง ต้องลุ้นเอา
13.00 น. โดยประมาณ ถึงเวลาหาอาหารกลางวันรองท้องค่ะ ซึ่งตอนนี้ก็ถึง อ.วิเชียรบุรี แล้วจะเป็นอาหารอย่างอื่นไปไม่ได้ นอกจาก “ไก่ย่างวิเชียรบุรี” เราเลือกตามร้านแนะนำเลยค่ะ “ร้านไก่ย่างบัวตอง” ร้านนี้เปิดพี่กูก็เจอค่ะ เป็นร้านไก่ย่างชื่อดังพอสมควร เขาว่ากันว่าเป็นร้านอยู่มาดั้งเดิมเลยนะคะ
เมนูก็ง่ายๆค่ะ
-ไก่ย่างแบบแห้ง (ครึ่งตัว)
-ต้มยำไก่ใบมะขามอ่อน
-ส้มตำทอดกรอบ
-ข้าวเหนียวห่อใบตอง
โดยรวมนี่โอเคเลยนะคะ อาหารรสชาดอร่อย ร้านกว้างขวางดี ที่จอดรถก็เพียบค่ะ ที่สำคัญห้องน้ำน่าเข้ามาก เรางี้อดใจไม่ไหวถ่ายรูปเก็บไว้ด้วยค่ะ ใครเดินทางผ่านมาทางนี้ ลองมาแวะชิมกันดูนะคะ
ก่อน 14.00 น. เราก็ออกเดินทางต่อกันค่ะ จาก อ.วิเชียรบุรี ยาวๆไปจนถึง แยก อ.หล่มสัก / อ.หล่มเก่า ก็จะตัดสู่ถนนหมายเลข 12 ค่ะ Route 12 ในตำนาน 5555 เว่อไปนิด หลังจากนั้นเราก็จะเลี้ยวขวาเข้าสู่เส้นทางขึ้นภูทับเบิกค่ะ
ก่อนหน้านี่เราสอบถามเพื่อนๆเคยมากัน บอกว่าเส้นทางขึ้นภูทับเบิกนี่อันตรายค่ะ ให้เช็ครถดีๆ ใครไม่เคยขับรถขึ้นเขานี่ไม่แนะนำเลย แต่ด้วยความที่สามีเรา ผ่านมาหลายเขา หลายโค้งแล้ว ก็ค่อนข้างไว้ใจค่ะ
พอถึงทางขึ้นเขาจริงๆจากที่กลัวพอมองธรรมชาติ 2 ข้างทางนี่ความกลัวลดลงไปเยอะค่ะ ทางสวยมาก ป่าเขาลำเนาไพร ทางสูงชันลัดลดคดเคี้ยวเลี้ยวไปมา มีหมอกกระจายบางๆตลอดทาง เปิดหน้าต่างขับรับลมเย็นๆหนาวเลยค่ะ แต่ช่วงที่น่ากลัวก็มีนะ แอบนั่งเกร็งบ้าง ช่วยสามีเหยียบเบรก 5555 มีโค้งหักสอกบ้าง โค้งตัว S บ้าง มากันให้เต็ม แต่ในชั่วระยะเวลาอึดใจ ไม่เกิน 1 ชม. เราก็ถึงที่ๆเรียกว่า “ภูทับเบิก” แล้วค่ะ
ความประทับใจแรกที่เห็นคือ ภูทับเบิกเป็นเมืองเล็กๆ ค่อนข้างสงบ ยังไม่บอบช้ำค่ะ เป็นเพราะว่าช่วงที่เรามาไม่ใช่ high season ด้วยมั้ง คนส่วนใหญ่เป็นม้ง พูดชัดไม่ชัดคละๆกันไป เส้นทางบนหมู่บ้านเป็นทางเขาสลับกัน บ้าน/ที่พักต่างๆปลูกสร้างตามไหล่เขาคล้ายๆนาขั้นบันได ลานกางเต็นท์ซึ่งเมื่อถึงหน้าเทศกาลคนกลับแน่นขนัดเต็มไปด้วยรถและเต็นท์มากมาย เราถือว่าโชคดีมากเลยค่ะที่ไม่ได้มาช่วงนั้น
คืนนี้เราฝากชีวิตไว้ที่ “เดอะม้ง รีสอร์ท” ค่ะ เป็นรีสอร์ทของคนชาวม้ง น่าจะนะคะ ตอนเราโทรไปจองน่ารักมาก ไลน์มาบอกขนาดห้อง ส่งรูปมามากมาย จนเราตัดสินใจได้ที่พักเป็นหลัง ใหม่อยู่ค่ะ มีห้องน้ำในตัวด้วย/พร้อมน้ำอุ่น (จำเป็นอย่างยิ่ง)
ที่พักเป็นบ้านหลังค่ะ คล้ายๆบ้านน็อคดาวมาต่อเพิ่มห้องน้ำ ขนาดกำลังดี มีเตียง 6 ฟุต 1 เตียง / เตียง 3 ฟุต 1 เตียง ซึ่งเราไปกันแค่ 2 คน ก็เลยนอนเตียงใหญ่และก็เอาของวางไว้เตียงเล็กค่ะ ที่พักไม่มีพัดลม ไม่มีแอร์ แต่ขอบอก ผ้าห่มนี่แย่งกันแล้วแย่งกันอีกค่ะ ใครจะไปหน้าหนาวนี่เตรียมตัวให้พร้อมเลย
วันนี้มีฝนปรอยตลอดค่ะ คุยกับชาวบ้านบอกว่าช่วงนี้เป็นช่วงพายุเข้า โอกาสเจอทะเลหมอกน้อยมาก ฮื่อๆ เศร้าแปบ
หลังจากเก็บของเรียบร้อย ถึงเวลาสำรวจค่ะ แต่ด้วยความหิวโหย อีกแล้ว เราก็ได้เดินหาร้านขายอาหารกันก่อน เนื่องจากเราไม่อยากขยับรถออกจากที่พักแล้ว ก็เลยต้องพึ่ง 2 ฝ่าเท้านี่แหละค่ะ เดินถ่ายรูปหาของกินในละแวกใกล้ๆ ในที่สุดเราก็ไปฝากท้องไว้ที่ร้านอาหารเล็กๆ เป็นร้านของทางรีสอร์ทนึงค่ะจำชื่อไม่ได้ สั่งกับข้าว 3 อย่าง ข้าวเปล่า 30จาน เป็นเงิน 350 บาท ราคาแอบโหดนิดนึงเมื่อเทียบกับหน้าตาอาหาร แต่เพราะอยู่ที่สูง จึงให้อภัยกันได้ค่ะ ฮ่ะๆ
เมื่อท้องอิ่มก็ถึงเวลาหาทำเลชักภาพกันแล้ว จุดที่เราไปคือ จุดชมวิวหน่วยทับเบิก และก็ จุดชมวิวอาคารหอดูดาวและจุดวัดอุณหภูมิภูทับเบิก ตอนแรกว่าจะไปภูแผงม้าด้วย อดค่ะ เพราะฝนปรอยตลอด หลังจากถ่ายรูปเสร็จแล้ว เวลาผ่านไปช้ามาก เพิ่ง 5-6 โมงเย็นไม่แน่ใจ บวกกับฝนตก เรา 2 คนจึงเข้ากระท่อมหลังน้อยของเรา และนอนพักกันค่ะ
พรุ่งนี้มาต่อ คืนนี้ฝันดีค่ะทุกคน
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น