Good morning, ladies and gentlemen
สวัสดีค่ะเพื่อนๆชาวพันทิพ ก่อนอื่นเราขอเกริ่นนำก่อนนะคะว่าเราเรียนจบเอกภาษาอังกฤษจากมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง
ฮั่นแน่ พอเราบอกว่าเราเป็นเด็กอิ้ง ทุกคนก็คงคาดหวังว่าเราต้องเก่งภาษาอังกฤษมาก
พูดภาษาอังกฤษเป็นไฟแลบเลย ใช่มั๊ยหละคะ ความจริงอันแสนโหดร้ายคือ เด็กอิ้งไม่ได้เก่งกันทุกคนนะคะ
ทักษะการฟังพูดของเรา เรียกว่ากากมาก กอไก่ล้านตัว เมื่อเทียบกับเด็กอิ้งด้วยกัน
มันไม่ได้ผิดที่ใครหรอกค่ะ มันเพราะเราเองที่เป็นคนไม่มีความมั่นใจในตัวเอง และ ไม่ค่อยได้ใช้ทักษะการฟังพูดของเราสักเท่าไหร่ เราไม่เคยกล้าบอกใครเลยว่าเราจบอิ้งมา เพราะเรากลัวคนอื่นจะมองว่า เด็กอิ้งได้เท่านี้เองหรอ
ดังนั้นนี่เป็นสาเหตุที่เราตัดสินใจ หาที่เรียนฟังพูด เพื่อที่เราจะได้เก่งสมเป็นเด็กอิ้งแบบคนอื่นเขาบ้าง
แต่ คำถามคือเรียนที่ไหน เราทำงานแล้ว ไม่ว่างเลยอะ(แต่มีเวลาเล่นพันทิพนะ55)
อยากเรียนที่ไหนก็ได้ที่ให้เราเลือกเวลาของเราเองได้ เดินทางสะดวกจะได้ไม่ต้องกลับบ้านดึกๆ
เอาหละ เราจะมานั่งคิดอย่างเดียวไม่ได้ค่ะ เราเริ่มเสิร์ชหาที่เรียน จนเราเจอสถาบันสอนภาษาอังกฤษ Rian English
ที่นี่รับสอนภาษาอังกฤษผ่านแอพพลิเคชั่น Skype ซึ่งมันตรงกับความต้องการของเรามากเลยพวกเธอ
คือ เราสามารถเลือกอาจารย์ผู้สอนและเวลาเรียนเองได้ แถมมีให้เลือกเรียนได้ตั้งแต่ 6 โมงเช้าจนถึงเที่ยงคืนเลยยย //ปรบมือ ยังไม่พอแค่นั้น ราคาค่าเรียนคอร์สนึงเริ่มต้นที่สองพันต้นๆเอง เรียกว่าราคาน่าคบหามาก
ในตอนแรกสิ่งเดียวที่ติดคือ อาจารย์ของที่นี่จะเป็นอาจารย์ที่มาจากหมู่เกาะซึ่งใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาราชการ
นั่นก็คือ ประเทศฟิลิปปินส์ค่ะ ด้วยความที่เราเรียนกับอาจารย์ที่เป็นเจ้าของภาษามาโดยตลอด
พอเจออาจารย์ที่ไม่ใช่เจ้าของภาษาก็ไม่ค่อยมั่นใจ เกิดความลังเลเหมือนกันนะคะ
ปรึกษาเพื่อน เพื่อนๆก็บอก ฟิลิปปินส์สำเนียงไม่เป๊ะนะแก เรียนกับเจ้าของภาษาดีกว่า
ตอนแรกกำลังจะกดออกแล้ว แต่หางตาเจ้ากรรมมันดั๊นนนน ไปมองเห็นคำว่า "ฟรี" อุ๊ตะ ของฟรีเค้าชอบบบบบบ
นี่เลยค่ะในกรอบแดงๆ เห็นคำว่าฟรีมั๊ย ฟรีค่ะ ฟรี ของฟรี /น้ำตาไหล
เธอมาได้ตรงเวลาพอดี อย่างกับรู้ใจ พอดีเลยค่ะ ช่วงนี้กำลังมีโปรโมชั่นสมัครสมาชิกกับทางสถาบันแล้วได้เรียนฟรี 2 ครั้ง จัดไปค่ะ ของแบบนี้มันต้องลอง สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น สิบตาเห็นไม่เท่าสองมือลูบคลำ เอ๊ย ไม่เท่ามือคลำค่ะ >///<
ในเมื่อของมันฟรี ก็ไม่ต้องกลัวอะไร ถูกใจก็เรียนต่อ ไม่ถูกใจก็จบ จริงมั๊ยคะ เอาล่ะ ช้าอยู่ใย จิ้มสมัครจึกๆ
(ต้องมีไอดีสไกป์ด้วยนะจ๊ะ) ใครยังไม่มี จิ้มโหลดเลยจ๊ะ ให้ไว
http://skype.th.softonic.com/download
พอสมัครเสร็จก็ทำการล็อกอินเข้าไปเลือกทีชเชอร์และเวลาเรียน
เราซูมให้นะ มันจะมีให้จองเวลาเรียน เราก็กดจองเลย เรากดจองวันนี้เลย เพราะเรารีบ 555

วิธีเลือกทีชเชอร์ของเราคือ เลื่อนหาทีชเชอร์ที่หน้าตาดีๆค่ะ แหม่ ไม่มีทีชเชอร์ผู้ชายเลยเสียดายจัง55
ที่นี่มีทีชเชอร์สาวชาวตากาล็อกให้เลือกทั้งหมด 10 ท่านค่ะ หลังจากที่เราคัดหน้าตาทีชเชอร์จนหนำใจแล้วนั้น
เราก็ถูกอกถูกใจทีชเชอร์เจนคนสวยค่ะ อันดับแรกของเราคือกดฟังคลิปเสียงของทีชเชอร์ค่ะ
เพราะเราอยากเลือกสำเนียงที่เราชอบด้วย หลังจากสำเนียงถูกใจ ก็เข้าไปอ่านโปรไฟล์ทีชเชอร์ค่ะ วิธีก็แค่คลิ๊กที่รูปทีชเชอร์เลย
สำหรับเราแล้วเราถูกใจทีชเชอร์เจนที่สุดแล้ว เอาหละหลังจากที่เจออาจารย์ที่ใช่แล้ว ก็ต้องดูเวลาที่ทีชเชอร์ว่างด้วยนะคะ
ถ้าทีชเชอร์ไม่ว่างตรงกับเราก็แห้วค่ะ แฮชแท็กความรักก็เช่นกัน อิอิ
วิธีดูว่าทีชเชอร์ว่างหรือไม่ก็คือ ไอปุ่มเขียวๆที่ว่างนี่แหละค่ะ (อันนี้เราตัดแปะมาให้นะ)
ความจริงคือครั้งแรกเราเลือกเรียนตอนหนึ่งทุ่มค่ะ (เรียนครั้งละ25นาที)
กดยืนยันเลยค่ะ กดเลยยยยยย
เสร็จแล้วจะเด้งมาหน้าแรก ก็จะมีตารางนัดค่ะ ซึ่งถ้าแบบว่าอยู่ดีๆเกิดอยากจะทิ้งทีชเชอร์ไว้กลางทาง
คือจะยกเลิกนัดก็แค่กดลบตรงรูปถังขยะค่ะ
เอาล่ะค่ะ ต่อไปก็คือรอเวลา ครั้งแรกก็ไม่ตื่นเต้นเท่าไหร่ค่ะ แค่นั่งหน้าสไกป์ตั้งแต่หกโมง นั่งแต่งหน้ารอเรียน 55
สถานที่เรียนเราก็คือ ห้องนอน บนเตียงเลยค่ะ
รอไปสักพักก็สงสัยอยู่ในใจว่า เอ๋ เราต้องทำไง เราต้องโทรไป หรือรอทีชเชอร์โทรมา
ทีชเชอร์ต้องโทรมาสิ เจ้าโง่ ก็เรายังไม่มีไอดีทีชเชอร์เลย
สักพักก็มีคนแอดมาค่ะ อ๋อ ทีชเชอร์เจนคนสวยนี่เอง สวยจริงๆค่ะ
รักแรกพบมีอยู่จริงค่ะ >///< เราขอทีชเชอร์แล้วนะคะว่าจะขอมาเขียนรีวิว
เซลฟี่หน่อยค่ะทีชเชอร์ แชะ น่ารักกกกกกกกก
เรามาดูบทเรียนในวันแรกที่ทีชเชอร์สอนเรากันนะคะ ก่อนอื่นก็คือทีชเชอร์จะถามคำถามเกี่ยวกับตัวเราค่ะ
ถามเสร็จพอเราตอบ ทีชเชอร์ก็จะพิมส่งตามกลับมาให้ว่าถามอะไรเราไปบ้าง เราตอบอะไร ขออนุญาตตัดส่วนที่เป็นชื่อกับวันเกิดและอายุนะคะ
ก็มีถามชื่อ อายุ วันเกิด เรียนภาษาอังกฤษมานานแค่ไหนแล้ว และ ครอบครัวมีกี่คน
ทีชเชอร์น่ารักมากค่ะ เขารู้ว่าเราเขิน เขาก็ชวนเราคุยตลอด เราก็ทั้งเขิน นั่งหัวเราะกับทีชเชอร์เหมือนคนเมากัญชาเลย ฮ่าๆ
บทที่สองคือฟังประโยคที่ทีชเชอร์พูดและเราต้องพูดทวนซ้ำในสิ่งที่ทีชเชอร์พูดค่ะ
บทนี้ทำให้รู้ว่าเราทักษะฟังห่วยแตกมาก เราตายประโยค The ambulance rushed the patient to the hospital. เพราะคำว่า ambulance คำเดียวเลยค่ะ
เราไม่รู้จักคำศัพท์ เราเลยถามทีชเชอร์ว่า ไอคำว่า แอมแอมไรนี่คือไรหรอคะ สะกดไง
(คุยเป็นภาษาอังกฤษหมดนะคะ) เขาก็อธิบายให้เราฟัง พร้อมหารูปประกอบให้ดู
ลืมแคปตอนทีชเชอร์หาภาพให้ดู ขอโทษนะคะ
สรุปมันคือคำว่า รถพยาบาลค่ะ //เอาหัวโขกกำแพง ไม่น่าเป็นเด็กอิ้งเลย ฮือออ
ตามเคย พูดเสร็จ ทีชเชอร์ก็พิมส่งมาให้ดู นอกจากนี้บทนี้ยังมีการถามเราด้วยว่า
patient กับ patience ต่างกันยังไง นี่ก็เดาจ้า noun กับ adj หรอคะทีชเชอร์
มันก็ใช่นะ แต่ความหมายก็ต่างอยู่ดี ถ้าเทียบ noun กับ noun ด้วยกัน
ทีชเชอร์เลยอธิบายให้ฟังว่าอะไรแปลว่าอะไร พร้อมพิมส่งมาให้ดูหลังพูดจบ
บทที่สาม คือทีชเชอร์จะให้คำมา แล้วเราก็แต่งประโยคค่ะ อันนี้ทีชเชอร์ไม่ได้พิมส่งมาให้เยอะ
เลยไม่ได้เอาภาพมาให้ดู ตัวอย่างก็เช่น ทีชเชอร์ให้คำว่า memorable มา เราก็แต่งประโยคค่ะ
อันนี้ไม่ยากมาก
บทที่สี่ เป็นบทที่เราอยากเอาหัวโขกกำแพงแล้วตายไป คือทีชเชอร์จะพูดประโยคคล้ายๆ สำนวนภาษาอังกฤษมา
แล้วให้เราอธิบายความหมายค่ะ เช่น It's raining cats and dogs. เราก็ต้องอธิบายว่ามันแปลว่า heavy rain
เรียกว่าเรามั่วสุดๆไปเลย 555 ดีที่บางอันเคยเรียนมาบ้างแล้ว เลยพอมั่วๆไปได้
พอจบบทนี้ก็ ถึงเวลาเซย์กึ๊ดบายค่ะ เรารู้สึกว่าเวลามันผ่านไปไวมากเลย เรายังอยากเรียนต่ออยู่เลย TT
เอาหละค่ะ ถ้าถามคะแนนที่ให้กับ Rian English เราให้ 9 เต็ม 10 นะ หักที่ เรียนครั้งนึง 25 นาทีเอง แต่จริงๆคอร์สที่เรียน 50 นาทีต่อวันมันก็มีนะ
ถ้าถามว่าเราจะเรียนต่อไหม สำหรับเรา เราเรียนต่อค่ะ เพราะว่า อย่างน้อยวันละนิดละหน่อยก็ช่วยพัฒนาทักษะฟังพูดของเราได้ เราได้เรียนรู้คำศัพท์ใหม่ และการเลือกเรียนกับทีชเชอร์ที่ต่างกันไปเรื่อยๆ จะทำให้เรามั่นใจในการพูดกับชาวต่างชาติมากขึ้นค่ะ ส่วนเรื่องสำเนียงที่เรากังวลในตอนแรก พอมาเรียนก็ต่างจากที่คิดไว้นะคะ เพราะทีชเชอร์ถือว่าสำเนียงดีกว่าคนฟิลิปปินส์ที่เรารู้จักมากเลยค่ะ
ถ้าพูดถึงเรื่องข้อดีในการเรียนภาษาอังกฤษกับชาวฟิลิปปินส์เมื่อเทียบกับเจ้าของภาษาแล้ว ก็ดีกว่าตรงที่เขาเข้าใจเรา
และเขาจะช่วยเช็คเรื่องแกรมม่าด้วย อีกอย่างคือด้วยความที่เป็นคนเอเชียด้วยกัน ทำให้วัฒนธรรมคล้ายคลึงกัน
ตอนที่เรียนบางครั้งเราก็ได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับทีชเชอร์เจน ซึ่งความคิดเห็นเรากับทีชเชอร์เจนคล้ายคลึงกันมาก จากที่เราสัมผัสคนฟิลิปปินส์มาคือนิสัยคล้ายๆคนไทยค่ะ ใจดี ยิ้มเก่ง และ อัธยาศัยดี เลยทำให้การเรียนกับคนฟิลิปปินส์ไม่เกร็งเลย ออกจะวางตัวสบายๆด้วยซ้ำค่ะ
ก่อนจะลากันไปก็อยากให้เพื่อนๆลองดูค่ะ ช่วงนี้มันฟรีสองครั้ง มันก็ไม่เสียหายที่จะลอง ไม่ถูกใจก็จบ จริงมั๊ยคะ
ลองเรียนฟรีดูก่อน แล้วถูกใจทีชเชอร์คนไหน มาเม้นบอกเราบ้างนะคะ วันนี้ขอแปะโปรไฟล์ทีชเชอร์เจนคนสวยไว้ตอนท้ายแล้วกันค่ะ
Have a nice day. Thank you. Good Bye ลาก่อนค่ะ อิอิ
[CR] เรียนภาษาอังกฤษด้วยวิธีใหม่
สวัสดีค่ะเพื่อนๆชาวพันทิพ ก่อนอื่นเราขอเกริ่นนำก่อนนะคะว่าเราเรียนจบเอกภาษาอังกฤษจากมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง
ฮั่นแน่ พอเราบอกว่าเราเป็นเด็กอิ้ง ทุกคนก็คงคาดหวังว่าเราต้องเก่งภาษาอังกฤษมาก
พูดภาษาอังกฤษเป็นไฟแลบเลย ใช่มั๊ยหละคะ ความจริงอันแสนโหดร้ายคือ เด็กอิ้งไม่ได้เก่งกันทุกคนนะคะ
ทักษะการฟังพูดของเรา เรียกว่ากากมาก กอไก่ล้านตัว เมื่อเทียบกับเด็กอิ้งด้วยกัน
มันไม่ได้ผิดที่ใครหรอกค่ะ มันเพราะเราเองที่เป็นคนไม่มีความมั่นใจในตัวเอง และ ไม่ค่อยได้ใช้ทักษะการฟังพูดของเราสักเท่าไหร่ เราไม่เคยกล้าบอกใครเลยว่าเราจบอิ้งมา เพราะเรากลัวคนอื่นจะมองว่า เด็กอิ้งได้เท่านี้เองหรอ
ดังนั้นนี่เป็นสาเหตุที่เราตัดสินใจ หาที่เรียนฟังพูด เพื่อที่เราจะได้เก่งสมเป็นเด็กอิ้งแบบคนอื่นเขาบ้าง
แต่ คำถามคือเรียนที่ไหน เราทำงานแล้ว ไม่ว่างเลยอะ(แต่มีเวลาเล่นพันทิพนะ55)
อยากเรียนที่ไหนก็ได้ที่ให้เราเลือกเวลาของเราเองได้ เดินทางสะดวกจะได้ไม่ต้องกลับบ้านดึกๆ
เอาหละ เราจะมานั่งคิดอย่างเดียวไม่ได้ค่ะ เราเริ่มเสิร์ชหาที่เรียน จนเราเจอสถาบันสอนภาษาอังกฤษ Rian English
ที่นี่รับสอนภาษาอังกฤษผ่านแอพพลิเคชั่น Skype ซึ่งมันตรงกับความต้องการของเรามากเลยพวกเธอ
คือ เราสามารถเลือกอาจารย์ผู้สอนและเวลาเรียนเองได้ แถมมีให้เลือกเรียนได้ตั้งแต่ 6 โมงเช้าจนถึงเที่ยงคืนเลยยย //ปรบมือ ยังไม่พอแค่นั้น ราคาค่าเรียนคอร์สนึงเริ่มต้นที่สองพันต้นๆเอง เรียกว่าราคาน่าคบหามาก
ในตอนแรกสิ่งเดียวที่ติดคือ อาจารย์ของที่นี่จะเป็นอาจารย์ที่มาจากหมู่เกาะซึ่งใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาราชการ
นั่นก็คือ ประเทศฟิลิปปินส์ค่ะ ด้วยความที่เราเรียนกับอาจารย์ที่เป็นเจ้าของภาษามาโดยตลอด
พอเจออาจารย์ที่ไม่ใช่เจ้าของภาษาก็ไม่ค่อยมั่นใจ เกิดความลังเลเหมือนกันนะคะ
ปรึกษาเพื่อน เพื่อนๆก็บอก ฟิลิปปินส์สำเนียงไม่เป๊ะนะแก เรียนกับเจ้าของภาษาดีกว่า
ตอนแรกกำลังจะกดออกแล้ว แต่หางตาเจ้ากรรมมันดั๊นนนน ไปมองเห็นคำว่า "ฟรี" อุ๊ตะ ของฟรีเค้าชอบบบบบบ
นี่เลยค่ะในกรอบแดงๆ เห็นคำว่าฟรีมั๊ย ฟรีค่ะ ฟรี ของฟรี /น้ำตาไหล
เธอมาได้ตรงเวลาพอดี อย่างกับรู้ใจ พอดีเลยค่ะ ช่วงนี้กำลังมีโปรโมชั่นสมัครสมาชิกกับทางสถาบันแล้วได้เรียนฟรี 2 ครั้ง จัดไปค่ะ ของแบบนี้มันต้องลอง สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น สิบตาเห็นไม่เท่าสองมือลูบคลำ เอ๊ย ไม่เท่ามือคลำค่ะ >///<
ในเมื่อของมันฟรี ก็ไม่ต้องกลัวอะไร ถูกใจก็เรียนต่อ ไม่ถูกใจก็จบ จริงมั๊ยคะ เอาล่ะ ช้าอยู่ใย จิ้มสมัครจึกๆ
(ต้องมีไอดีสไกป์ด้วยนะจ๊ะ) ใครยังไม่มี จิ้มโหลดเลยจ๊ะ ให้ไว http://skype.th.softonic.com/download
พอสมัครเสร็จก็ทำการล็อกอินเข้าไปเลือกทีชเชอร์และเวลาเรียน
เราซูมให้นะ มันจะมีให้จองเวลาเรียน เราก็กดจองเลย เรากดจองวันนี้เลย เพราะเรารีบ 555
วิธีเลือกทีชเชอร์ของเราคือ เลื่อนหาทีชเชอร์ที่หน้าตาดีๆค่ะ แหม่ ไม่มีทีชเชอร์ผู้ชายเลยเสียดายจัง55
ที่นี่มีทีชเชอร์สาวชาวตากาล็อกให้เลือกทั้งหมด 10 ท่านค่ะ หลังจากที่เราคัดหน้าตาทีชเชอร์จนหนำใจแล้วนั้น
เราก็ถูกอกถูกใจทีชเชอร์เจนคนสวยค่ะ อันดับแรกของเราคือกดฟังคลิปเสียงของทีชเชอร์ค่ะ
เพราะเราอยากเลือกสำเนียงที่เราชอบด้วย หลังจากสำเนียงถูกใจ ก็เข้าไปอ่านโปรไฟล์ทีชเชอร์ค่ะ วิธีก็แค่คลิ๊กที่รูปทีชเชอร์เลย
สำหรับเราแล้วเราถูกใจทีชเชอร์เจนที่สุดแล้ว เอาหละหลังจากที่เจออาจารย์ที่ใช่แล้ว ก็ต้องดูเวลาที่ทีชเชอร์ว่างด้วยนะคะ
ถ้าทีชเชอร์ไม่ว่างตรงกับเราก็แห้วค่ะ แฮชแท็กความรักก็เช่นกัน อิอิ
วิธีดูว่าทีชเชอร์ว่างหรือไม่ก็คือ ไอปุ่มเขียวๆที่ว่างนี่แหละค่ะ (อันนี้เราตัดแปะมาให้นะ)
ความจริงคือครั้งแรกเราเลือกเรียนตอนหนึ่งทุ่มค่ะ (เรียนครั้งละ25นาที)
กดยืนยันเลยค่ะ กดเลยยยยยย
เสร็จแล้วจะเด้งมาหน้าแรก ก็จะมีตารางนัดค่ะ ซึ่งถ้าแบบว่าอยู่ดีๆเกิดอยากจะทิ้งทีชเชอร์ไว้กลางทาง
คือจะยกเลิกนัดก็แค่กดลบตรงรูปถังขยะค่ะ
เอาล่ะค่ะ ต่อไปก็คือรอเวลา ครั้งแรกก็ไม่ตื่นเต้นเท่าไหร่ค่ะ แค่นั่งหน้าสไกป์ตั้งแต่หกโมง นั่งแต่งหน้ารอเรียน 55
สถานที่เรียนเราก็คือ ห้องนอน บนเตียงเลยค่ะ
รอไปสักพักก็สงสัยอยู่ในใจว่า เอ๋ เราต้องทำไง เราต้องโทรไป หรือรอทีชเชอร์โทรมา
ทีชเชอร์ต้องโทรมาสิ เจ้าโง่ ก็เรายังไม่มีไอดีทีชเชอร์เลย
สักพักก็มีคนแอดมาค่ะ อ๋อ ทีชเชอร์เจนคนสวยนี่เอง สวยจริงๆค่ะ
รักแรกพบมีอยู่จริงค่ะ >///< เราขอทีชเชอร์แล้วนะคะว่าจะขอมาเขียนรีวิว
เซลฟี่หน่อยค่ะทีชเชอร์ แชะ น่ารักกกกกกกกก
เรามาดูบทเรียนในวันแรกที่ทีชเชอร์สอนเรากันนะคะ ก่อนอื่นก็คือทีชเชอร์จะถามคำถามเกี่ยวกับตัวเราค่ะ
ถามเสร็จพอเราตอบ ทีชเชอร์ก็จะพิมส่งตามกลับมาให้ว่าถามอะไรเราไปบ้าง เราตอบอะไร ขออนุญาตตัดส่วนที่เป็นชื่อกับวันเกิดและอายุนะคะ
ก็มีถามชื่อ อายุ วันเกิด เรียนภาษาอังกฤษมานานแค่ไหนแล้ว และ ครอบครัวมีกี่คน
ทีชเชอร์น่ารักมากค่ะ เขารู้ว่าเราเขิน เขาก็ชวนเราคุยตลอด เราก็ทั้งเขิน นั่งหัวเราะกับทีชเชอร์เหมือนคนเมากัญชาเลย ฮ่าๆ
บทที่สองคือฟังประโยคที่ทีชเชอร์พูดและเราต้องพูดทวนซ้ำในสิ่งที่ทีชเชอร์พูดค่ะ
บทนี้ทำให้รู้ว่าเราทักษะฟังห่วยแตกมาก เราตายประโยค The ambulance rushed the patient to the hospital. เพราะคำว่า ambulance คำเดียวเลยค่ะ
เราไม่รู้จักคำศัพท์ เราเลยถามทีชเชอร์ว่า ไอคำว่า แอมแอมไรนี่คือไรหรอคะ สะกดไง
(คุยเป็นภาษาอังกฤษหมดนะคะ) เขาก็อธิบายให้เราฟัง พร้อมหารูปประกอบให้ดู
ลืมแคปตอนทีชเชอร์หาภาพให้ดู ขอโทษนะคะ
สรุปมันคือคำว่า รถพยาบาลค่ะ //เอาหัวโขกกำแพง ไม่น่าเป็นเด็กอิ้งเลย ฮือออ
ตามเคย พูดเสร็จ ทีชเชอร์ก็พิมส่งมาให้ดู นอกจากนี้บทนี้ยังมีการถามเราด้วยว่า
patient กับ patience ต่างกันยังไง นี่ก็เดาจ้า noun กับ adj หรอคะทีชเชอร์
มันก็ใช่นะ แต่ความหมายก็ต่างอยู่ดี ถ้าเทียบ noun กับ noun ด้วยกัน
ทีชเชอร์เลยอธิบายให้ฟังว่าอะไรแปลว่าอะไร พร้อมพิมส่งมาให้ดูหลังพูดจบ
บทที่สาม คือทีชเชอร์จะให้คำมา แล้วเราก็แต่งประโยคค่ะ อันนี้ทีชเชอร์ไม่ได้พิมส่งมาให้เยอะ
เลยไม่ได้เอาภาพมาให้ดู ตัวอย่างก็เช่น ทีชเชอร์ให้คำว่า memorable มา เราก็แต่งประโยคค่ะ
อันนี้ไม่ยากมาก
บทที่สี่ เป็นบทที่เราอยากเอาหัวโขกกำแพงแล้วตายไป คือทีชเชอร์จะพูดประโยคคล้ายๆ สำนวนภาษาอังกฤษมา
แล้วให้เราอธิบายความหมายค่ะ เช่น It's raining cats and dogs. เราก็ต้องอธิบายว่ามันแปลว่า heavy rain
เรียกว่าเรามั่วสุดๆไปเลย 555 ดีที่บางอันเคยเรียนมาบ้างแล้ว เลยพอมั่วๆไปได้
พอจบบทนี้ก็ ถึงเวลาเซย์กึ๊ดบายค่ะ เรารู้สึกว่าเวลามันผ่านไปไวมากเลย เรายังอยากเรียนต่ออยู่เลย TT
เอาหละค่ะ ถ้าถามคะแนนที่ให้กับ Rian English เราให้ 9 เต็ม 10 นะ หักที่ เรียนครั้งนึง 25 นาทีเอง แต่จริงๆคอร์สที่เรียน 50 นาทีต่อวันมันก็มีนะ
ถ้าถามว่าเราจะเรียนต่อไหม สำหรับเรา เราเรียนต่อค่ะ เพราะว่า อย่างน้อยวันละนิดละหน่อยก็ช่วยพัฒนาทักษะฟังพูดของเราได้ เราได้เรียนรู้คำศัพท์ใหม่ และการเลือกเรียนกับทีชเชอร์ที่ต่างกันไปเรื่อยๆ จะทำให้เรามั่นใจในการพูดกับชาวต่างชาติมากขึ้นค่ะ ส่วนเรื่องสำเนียงที่เรากังวลในตอนแรก พอมาเรียนก็ต่างจากที่คิดไว้นะคะ เพราะทีชเชอร์ถือว่าสำเนียงดีกว่าคนฟิลิปปินส์ที่เรารู้จักมากเลยค่ะ
ถ้าพูดถึงเรื่องข้อดีในการเรียนภาษาอังกฤษกับชาวฟิลิปปินส์เมื่อเทียบกับเจ้าของภาษาแล้ว ก็ดีกว่าตรงที่เขาเข้าใจเรา
และเขาจะช่วยเช็คเรื่องแกรมม่าด้วย อีกอย่างคือด้วยความที่เป็นคนเอเชียด้วยกัน ทำให้วัฒนธรรมคล้ายคลึงกัน
ตอนที่เรียนบางครั้งเราก็ได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับทีชเชอร์เจน ซึ่งความคิดเห็นเรากับทีชเชอร์เจนคล้ายคลึงกันมาก จากที่เราสัมผัสคนฟิลิปปินส์มาคือนิสัยคล้ายๆคนไทยค่ะ ใจดี ยิ้มเก่ง และ อัธยาศัยดี เลยทำให้การเรียนกับคนฟิลิปปินส์ไม่เกร็งเลย ออกจะวางตัวสบายๆด้วยซ้ำค่ะ
ก่อนจะลากันไปก็อยากให้เพื่อนๆลองดูค่ะ ช่วงนี้มันฟรีสองครั้ง มันก็ไม่เสียหายที่จะลอง ไม่ถูกใจก็จบ จริงมั๊ยคะ
ลองเรียนฟรีดูก่อน แล้วถูกใจทีชเชอร์คนไหน มาเม้นบอกเราบ้างนะคะ วันนี้ขอแปะโปรไฟล์ทีชเชอร์เจนคนสวยไว้ตอนท้ายแล้วกันค่ะ
Have a nice day. Thank you. Good Bye ลาก่อนค่ะ อิอิ