Up In The Air (2009) – คนข้าง ๆ นั้น สำคัญไฉน
- ได้ฤกษ์หยิบหนังเรื่องนี้มาดูสักที จำได้ลาง ๆ ว่าเคยดูในบิ๊กซีนีม่า แต่ตอนนั้นไม่ได้ตั้งดูเท่าไหร่ แต่ด้วยความที่หลาย ๆ คนบอกว่ามันดีนักดีหนา เลยต้องลองวนกลับมาดูแบบจริงจังซักรอบ
- หนังเล่าถึง “ไรอัน บิงแฮม” ชายโสดผู้ซึ่งทำงานรับจ้างไล่คนออก ( ไม่ยักรู้ว่ามีงานแบบนี้อยู่บนโลก 55555 ) ซึ่งต้องย้ายตัวเองไปตามเมืองโน้นเมืองนี้ไปเรื่อย ๆ เพื่อบอกข่าวร้ายกับพนักงาน และระหว่างการเดินทางและการทำงานนั้น ทำให้เขาได้พบกับ นาตาลี และ อเล็กซ์ ซึ่งจะทำให้ชีวิตของเขาเปลี่ยนไป ( รึเปล่า ? )
- บท - เอาเข้าจริง ผมว่าพล็อตเรื่องนี้ดีนะ แปลกดี กับการใช้อาชีพรับจ้างไล่ออกมาเป็นตัวเดินเรื่อง แต่ในหนังพล็อตเรื่องจริง ๆ ก็ไม่ได้หวือหวา หรือดูแล้วรู้สึกแปลกใหม่อะไรขนาดนั้น เหมือนกัน อ๋อ เออมีอาชีพนี้ด้วย แปลกดี ก็แค่แค่นั้น แต่ที่เด็ดจริง ๆ มันอยู่ที่บทพูดเลยครับ บทพูดเรื่องนี้เยี่ยมมาก มีการใช้คำพูดสื่ออกมาได้ชาญฉลาดมาก และน่าทึ่งมาก ทุกครั้งที่พูดจะมีอะไรแฝงให้คิดอยู่เรื่อย ๆ ผมชอบการพูดของพระเอกในเรื่อง การแบกเป้ ที่เปรียบเป็นนัย ๆ ว่าการไม่มีภาระให้คอยห่วง ทำให้เดินหน้าต่อไปได้เร็วขึ้น สะดวกขึ้น ง่ายขึ้น ทำให้เข้าใจตัวพระเอกเลยว่าทำไมเขาถึงโสดมาจนถึงปัจจุบัน ส่วนการเดินเรื่องนั้น เดินเรื่องได้ค่อนข้างเรียบ ไม่หวือหวา และทั้งเรื่องบทพูดค่อนข้างเยอะ แต่ไม่รู้สึกขัดเลย เพราะหนังดีงามในแง่ความหมายที่หนังต้องการสื่อออกมามาก หนังเปิดมาได้น่าสนใจ และปิดได้สวยงามมาก
- นักแสดง - จอร์จ คลูนี่ ที่รับบท ไรอัน นั้น แสดงได้ดีมาก ตามคาแร็กเตอร์แล้วต้องเป็นคนเหงา ที่ไม่เหงา แต่ก็แอบเหงา ซึ่งจอร์จแสดงออกมาได้ถึงตัวละครไรอันมาก ส่วนวีร่า ฟาร์มิก้า ซึ่งรับบท อเล็กซ์ นั้น ก็แสดงได้ดีเช่นกัน ดูเป็นธรรมชาติ แต่ตอนจบร้ายไปนะ 55555 ส่วนนาตาลี ซึ่งรับบทโดยแอนนา เค็นดริกซ์นั้น ก็แสดงได้ดีเช่นกัน ดูจริงจังกับงาน แต่ดูง้องแง้งในเรื่องส่วนตัวดี แต่เสียดายที่ออกมาแค่ครึ่งแรก แล้วก็ไปโผล่อีกทีก็ตอนเกือบจบเลย
- องค์ประกอบหนัง - ผมชอบการตัดต่อในช่วงแรก ที่มีการรูดบัตร การเช็คอินไฟลท์ การตรวจสัมภาระ ดูเป็นขั้นเป็นตอน รู้สึกเหมือนกับเราได้เตรียมตัวเดินทางไปพร้อมกับตัวละคร เรื่องภาพนั้นก็สวยงามดี ส่วนเรื่องเพลงสกอร์นั้น ค่อนข้างเพราะและเข้ากับอารมณ์หนังทุกช่วง แอบมีเพลงซาวน์แทร็คเพราะ ๆ แทรกมาเป็นระยะ ๆ ด้วย
- สรุป - ชอบมากครับ แนะนำให้ดู แต่สำหรับคนที่ไม่ชอบหนังที่มีบทพูดเยอะ ๆ แนะนำให้ข้ามครับ เพราะอาจจะเบื่อ เพราะพล็อตเรื่องก็ไม่ได้สนุกมาก หนังตั้งใจจะนำเสนอในแง่ชีวิต คน และแฝงแง่คิดต่าง ๆ ไว้มากกว่า
ให้คะแนน: A
.
.
ปล. การให้คะแนนและการรีวิวเป็นความคิดเห็นส่วนบุคคล หากทำให้ใครพอใจหรือไม่เห็นด้วย ก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยครับ
ฝากเพจด้วยนะครับ
https://www.facebook.com/MoviesEverytime
(LETTER B REVIEW): Up In The Air (2009) – คนข้าง ๆ นั้น สำคัญไฉน
- ได้ฤกษ์หยิบหนังเรื่องนี้มาดูสักที จำได้ลาง ๆ ว่าเคยดูในบิ๊กซีนีม่า แต่ตอนนั้นไม่ได้ตั้งดูเท่าไหร่ แต่ด้วยความที่หลาย ๆ คนบอกว่ามันดีนักดีหนา เลยต้องลองวนกลับมาดูแบบจริงจังซักรอบ
- หนังเล่าถึง “ไรอัน บิงแฮม” ชายโสดผู้ซึ่งทำงานรับจ้างไล่คนออก ( ไม่ยักรู้ว่ามีงานแบบนี้อยู่บนโลก 55555 ) ซึ่งต้องย้ายตัวเองไปตามเมืองโน้นเมืองนี้ไปเรื่อย ๆ เพื่อบอกข่าวร้ายกับพนักงาน และระหว่างการเดินทางและการทำงานนั้น ทำให้เขาได้พบกับ นาตาลี และ อเล็กซ์ ซึ่งจะทำให้ชีวิตของเขาเปลี่ยนไป ( รึเปล่า ? )
- บท - เอาเข้าจริง ผมว่าพล็อตเรื่องนี้ดีนะ แปลกดี กับการใช้อาชีพรับจ้างไล่ออกมาเป็นตัวเดินเรื่อง แต่ในหนังพล็อตเรื่องจริง ๆ ก็ไม่ได้หวือหวา หรือดูแล้วรู้สึกแปลกใหม่อะไรขนาดนั้น เหมือนกัน อ๋อ เออมีอาชีพนี้ด้วย แปลกดี ก็แค่แค่นั้น แต่ที่เด็ดจริง ๆ มันอยู่ที่บทพูดเลยครับ บทพูดเรื่องนี้เยี่ยมมาก มีการใช้คำพูดสื่ออกมาได้ชาญฉลาดมาก และน่าทึ่งมาก ทุกครั้งที่พูดจะมีอะไรแฝงให้คิดอยู่เรื่อย ๆ ผมชอบการพูดของพระเอกในเรื่อง การแบกเป้ ที่เปรียบเป็นนัย ๆ ว่าการไม่มีภาระให้คอยห่วง ทำให้เดินหน้าต่อไปได้เร็วขึ้น สะดวกขึ้น ง่ายขึ้น ทำให้เข้าใจตัวพระเอกเลยว่าทำไมเขาถึงโสดมาจนถึงปัจจุบัน ส่วนการเดินเรื่องนั้น เดินเรื่องได้ค่อนข้างเรียบ ไม่หวือหวา และทั้งเรื่องบทพูดค่อนข้างเยอะ แต่ไม่รู้สึกขัดเลย เพราะหนังดีงามในแง่ความหมายที่หนังต้องการสื่อออกมามาก หนังเปิดมาได้น่าสนใจ และปิดได้สวยงามมาก
- นักแสดง - จอร์จ คลูนี่ ที่รับบท ไรอัน นั้น แสดงได้ดีมาก ตามคาแร็กเตอร์แล้วต้องเป็นคนเหงา ที่ไม่เหงา แต่ก็แอบเหงา ซึ่งจอร์จแสดงออกมาได้ถึงตัวละครไรอันมาก ส่วนวีร่า ฟาร์มิก้า ซึ่งรับบท อเล็กซ์ นั้น ก็แสดงได้ดีเช่นกัน ดูเป็นธรรมชาติ แต่ตอนจบร้ายไปนะ 55555 ส่วนนาตาลี ซึ่งรับบทโดยแอนนา เค็นดริกซ์นั้น ก็แสดงได้ดีเช่นกัน ดูจริงจังกับงาน แต่ดูง้องแง้งในเรื่องส่วนตัวดี แต่เสียดายที่ออกมาแค่ครึ่งแรก แล้วก็ไปโผล่อีกทีก็ตอนเกือบจบเลย
- องค์ประกอบหนัง - ผมชอบการตัดต่อในช่วงแรก ที่มีการรูดบัตร การเช็คอินไฟลท์ การตรวจสัมภาระ ดูเป็นขั้นเป็นตอน รู้สึกเหมือนกับเราได้เตรียมตัวเดินทางไปพร้อมกับตัวละคร เรื่องภาพนั้นก็สวยงามดี ส่วนเรื่องเพลงสกอร์นั้น ค่อนข้างเพราะและเข้ากับอารมณ์หนังทุกช่วง แอบมีเพลงซาวน์แทร็คเพราะ ๆ แทรกมาเป็นระยะ ๆ ด้วย
- สรุป - ชอบมากครับ แนะนำให้ดู แต่สำหรับคนที่ไม่ชอบหนังที่มีบทพูดเยอะ ๆ แนะนำให้ข้ามครับ เพราะอาจจะเบื่อ เพราะพล็อตเรื่องก็ไม่ได้สนุกมาก หนังตั้งใจจะนำเสนอในแง่ชีวิต คน และแฝงแง่คิดต่าง ๆ ไว้มากกว่า
ให้คะแนน: A
.
.
ปล. การให้คะแนนและการรีวิวเป็นความคิดเห็นส่วนบุคคล หากทำให้ใครพอใจหรือไม่เห็นด้วย ก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยครับ
ฝากเพจด้วยนะครับ https://www.facebook.com/MoviesEverytime