[CR] (SecondTrip)...นครปฐมการพบกันของเพื่อนเก่า...

เพื่อนเก่า ที่ไม่เคยเก่าตามกาลเวลา...
แม้ไม่ได้เจอไม่ได้คุยกันนานแค่ไหน แต่พอเจอกันอีกครั้งก็สามารถพูดคุยได้ทุกๆเรื่องเหมือนกับช่วงเวลาที่เราไม่ได้เจอกันนั้นไม่มีอยู่จริง.

แค่มีความคิดอยากนั่งรถไฟอีกครั้ง เวลาว่างตรงกันกับเพื่อนพอดีและไม่ได้เจอกันนานเเล้วก็เลยมีความคิดพากันเอาตัวเองไปลำบากกันที่ไหนสักแห่ง...สถานที่ที่เลือกคือ "นครปฐม"



19/07/2558 8:45 น. ณ สถานีรถไฟหัวลำโพง เราจะมาพบกันหลังจากไม่ได้พบกันมาเกือบ1ปี ...

จุดเริ่มแรกการเดินทางของเราคือ 'ท่าเรือเภตรา' ข้ามฝั่งไป 'ท่าน้ำพระประแดง' แล้วรอรถเมล์สาย 82 ไปลงรร.ศึกษานารีแล้วกระโดดขึ้นสาย 21 อีกครั้งเพื่อไปยังจุดนัดพบ...



8:12 น. ถึงก่อนเวลานัดหมายแต่เพื่อนเรามาถึงก่อนเรานานแล้ว และในที่สุดเราก็ได้เจอกันอีกครั้ง...

ยื่นบัตรปชช.ขอร่วมใช้รถไฟฟรีที่จะพาเราไปหาประสบการณ์อีกครั้ง...รถไฟฟรีแน่นอนมันไม่ได้สะดวกสบายอยู่แล้ว แต่มันก็ทำให้เราถึงที่หมายได้เหมือนกันแม้จะใช้เวลามากกว่าก็ตาม...




9:32 น. ในขณะที่รถไฟกำลังขยับล้ออย่างช้าๆ ในความเชื่องช้านั้น ทำให้เราได้เห็นคณะนักศึกษาปี1จากมหา'ลัยแห่งหนึ่งที่รุ่นพี่กำลังพาไปทำกิจกรรม ก็ทำให้เราหวนระลึกคิดถึงตอนที่เรายังอยู่ในจุดนั้นเหมือนกัน ตอนที่เราเป็นน้องต้องเข้ากิจกรรมต่างๆสนุกบ้าง เบื่อบ้าง เศร้าบ้างแต่เราก็ผ่านมาแล้วคิดแล้วก็อดอมยิ้มในใจไม่ได้.
ได้ฟังสิ่งต่างๆจากป้าคนนั้นที่บ่นเรื่องลูกชายพร้อมกับแนะนำที่เที่ยวที่ป้าแกเคยไปมา บางสถานที่เราก็เคยไปแต่มันนานจนเกือบลืมไปแล้วอยู่ในลิ้นชักความทรงจำที่ลึกมากเหมือนป้าแกมาเคาะฝุ่นลิ้นชักนั้น ก็ต้องขอบคุณป้าในจุดๆนี้แม้จะบ่นเรื่องลูกชายมากกว่าที่เที่ยวก็ตาม.



11:00 น. รถไฟไทย(บางวัน)ก็นิสัยคล้ายคนไทย(บางคน)...ไม่ตรงเวลา...แต่ก็ถึงนครปฐมสมใจหมายแล้ว เดินลงรถไฟใจมุ่งไปหาข้าวกิน...หิว
ข้าวหมูกรอบที่นี่เหมือนพ่อค้ากำลังอินเลิฟหวานปานน้ำตาลครึ่งโลแต่ก็กินจนหมดนะ เติมพลังแล้วก็พากันจ้ำตรงไปจุดหมายหลักที่มาที่นี่แล้วต้องไป











"พระปฐมเจดีย์" ท่ามกลางอากาศที่ร้อนและแดดจอนเที่ยงแบบเมืองไทย ไม่ควรเลยที่จะไปกระดี้กระด้าถ่ายรูปหรือเซลฟี่แต่ก็ทำไปแล้วน่ะสิ ขึ้นบันไดเข้าเขตวัดแล้วต้องสงบเสงียมตามมารยาทพื้นฐานที่ได้รับการอบรมมาอย่างดี ควักเงินทำบุญตามแรงศรัทธาอธิษฐานกับพระร่วงซึ่งประดิษฐ์สถานให้ฝูงชนมาสักการะ ขอพักจากการเบียดเสียดผู้คนแปปนึงแล้วเดินชมรอบพระเจดีย์อีกสักนิดท่ามกลางการทำงานอย่างแข็งขันของพระอาทิตย์ยามเที่ยงวัน เดินลงมามุ่งหน้าขาเดินไปจุดหมายที่สอง






"พระราชวังสนามจันทร์" อันที่จริงก็มีเมล์เครื่องหรือมอเตอร์ไซรับจ้างนะ แต่บอกแล้วเอาตัวเองมาลำบาก...เดินด้วยสองเท้ากับระยะ 2 กิโลเมตรนิดๆ มีผู้นำทางที่ทันสมัยก็คือกูเกิ้ลเเมปและเพื่อนผู้ที่คิดว่าตัวเองเป็นพรานป่านำทางทั้งที่ตัวเองเป็นทหารในเมืองกรุง จ้ำมาเรื่อยๆจนเห็นทางเข้าอยู่รำไรแต่ประตูล็อก...พรานป่าคงไม่ชินทางเมืองสินะ ต้องย้อนไปเข้าอีกทางที่รั้วอยู่ติดกันเลย มาที่นี่ให้เราได้เห็นคุณค่าของบัตรนศ.อีกด้วย เพราะใช้เป็นส่วนลดค่าเข้าได้จาก30บาทเป็น10บาท รู้สึกถึงความเป็นผู้ชนะอยู่แวบหนึ่ง...แล้วก็เดินต่อไป

ภายในมีพระราชตำหนักต่างๆที่สวยงามมากมาย มากมายจริงๆถ้าเดินดูทุกตำหนักขาคงไม่สามารถเดินตรงได้ แตาที่นี่มีรถกอล์ฟบริการให้เช่าขับชมภายใน และขอความร่วมมือห้ามถ่ายรูปขณะเข้าชมภายในพระตำหนักต่างๆแต่ถ่ายข้างนอกที่เป็นบริเวณสวนได้







15:00 น. ได้เวลาจ้ำเท้ากลับไปสถานีรถไฟอีกครั้งเพื่อกลับไปสู่จุดเริ่มต้นที่เราจากมา...แต่แล้วเหมือนฟ้าคงไม่อยากให้เราจากไปถึงกับร้องไห้ลงมาปอยๆ แต่เราก็ยืนยันที่ยอมฝ่าน้ำตาของท้องฟ้ากันต่อ จ้ำถึงสถานีรถไฟกันแล้วก็ยื่นบัตรปชช.เหมือนเดิมเพื่อขอร่วมเดินทางกลับไปหัวลำโพงแต่คำตอบที่ได้กลับมาคือ....รถไฟที่จะไปหัวลำโพงติดอยู่เพชรบุรีอาจจะมาถึงราวๆสองทุ่ม...

อึ้ง...เป็นวินาทีที่ช๊อคแล้วกุจะกลับกันยังไง เพื่อนแอบเห็นมีรถเมล์ไปวงเวียนใหญ่ เมื่อเรามองหน้ากัน 3 คนทำตาปริบๆ...ไม่รู้จักและจะค่ำแล้วด้วยขี้เกียจหาความลำบากเพิ่ม ตัดใจไปรถไฟขบวนที่จุดหมายปลายทางคือสถานีธนบุรีแทน เหมือนท้องฟ้าจะยังงอแงไม่เลิกคราวนี้ร้องไห้หนักมากน้ำตามาเป็นสายพร้อมลมพัดแรงเลยทีเดียว






16:20 น. มองเห็นหน้าต่างรถไฟที่ละอองฝนเกาะก็คิดถึงเหตุการณ์เมื่อสักครู่ได้ว่า "การไปยังจุดหมายปลายทางไม่ได้มีแค่วิธีเดียว" ตอนมาเรามาจากอีกที่ ตอนกลับเราไปอีกที่หนึ่ง...แต่ก็ถึงที่หมายเหมือนกัน

















17:40 น.
ถึงแล้ว"สถานีธนบุรี"ที่หมายใหม่ของเรา ได้เวลาเดินอีกครั้งลัดเลาะไปรพ.ศิริราชไปโผล่ตลาดวังหลังที่เจิ่งนองด้วยน้ำ ตอนนี้น้ำตาของท้องฟ้าก็ยังคงมีไม่ขาดสาย ขอขึ้นเรือข้ามไป"ท่ามหาราช"แหล่งนัดพบแห่งใหม่ของชาวเมืองกรุง และตอนนี้ชาวเมืองก็อัดแน่นกันอยู่ที่นี่เพื่อหลบฝนนั่นเอง


















มาถึงบรรทัดนี้...การพบกันของเพื่อนในวันนี้...กำลังจะจบลงแล้ว เมื่อเราต้องแยกจากกันเพราะจุดหมายปลายทางของเราต่างกัน โบกมือและพูดว่า"บ๊าย~เจอกันใหม่โอกาสหน้า"ไม่มีการงอแงหรือความเศร้าอะไรทั้งนั้น เพราะถึงการพบกันในวันนี้จะจบลงแต่ความเป็เพื่อนของเรายังไม่จบ โอกาสที่เราจะพบกันยังมีอีกมากมายแม้มันจะใช้เวลานานแค่ไหนก็ตาม...






ชื่อสินค้า:   นครปฐม
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่