สิ้นแสงสุริยา ตอนที่ 21

กระทู้สนทนา
“  ครับ ถ้าอย่างนั้นผมขอมารบกวนอยู่กับท่านสักระยะ ผมสงสารจันทร์ ”
“  ดูๆก็น่าเวทนา หัวอ่อนสอนง่าย ไม่น่าเกิดมาเป็นลูกของทุติยะเลย น่าเสียดายจริงๆ เดี๋ยวกินข้าวเสร็จเธอเข้าไปคุยกับฉันที่ห้องทำงานหน่อย ฉันมีอะไรจะคุยกับเธอ ”
“  ครับท่าน ”

เมื่อกินอาหารเสร็จ ตะวันก็เดินตามท่านอุเทนเข้าไปที่ห้องทำงานของท่าน ท่านนายพลเปิดลิ้นชักโต๊ะทำงานหยิบรูปถ่ายสองใบเอามาวางตรงหน้าชายหนุ่ม

“  เอา ดูซะนี่รูปพี่สาวสองคนของเธอ คนที่นั่งพับเพียบน่ะเป็นพี่คนโตชื่อเพ็ญพักต์  แล้วนั่นเพียงโพยม เมื่อเธอมาปรากฏตัวอย่างนี้ พี่สาวของเธอสองคนนี่คงไม่ปลอดภัยแน่ ”

“  เพราะอะไรครับ ”
“  ก็เขาจะเป็นผู้ที่จะได้รับมรดกในส่วนของที่เป็นของเธอโดยธรรมน่ะสิ เธอลองคิดดู ถ้าทุติยะคิดจะฆ่าเธอเพื่อชิงมรดกของเธอ สองคนนี่จะรอดไหม ”

ตะวันสว่างวาบในความคิด ใช่ ไอ้ทุติยะรอบคอบมันต้องทำอะไรอย่างมีขั้นตอน อย่างน้อยมันก็ต้องทำลายส่วนที่มันคิดว่าจะขัดขวางหนทางของมัน ถ้าเช่นนั้นเขาก็จะช้าไม่ได้

“  สุรียา จะให้ดีนะ ตอนนี้เธอควรจะมีคนคอยคุ้มครองเธอบ้างนะ ชีวิตของเธอจะเสี่ยงเกินไปถ้าไปไหนมาไหนโดยไม่มีคนคุ้มกัน ฉันจะให้ ท ส เก่าของฉันคอยตามดูแลเธอจนกว่าจะแน่ใจว่า ทุติยะมันรามือแล้ว อย่างน้อยสักระยะหนึ่งก่อนก็ยังดี ”
“  ครับ ผมตั้งใจว่า ให้อะไรมันเข้าที่เข้าทางเรียบร้อยแล้ว ผมจะพาจันทร์ไปคลอดลูกที่เมืองนอก ”
“  ดี เป็นความคิดที่ดี ที่นั่นจะเป็นที่ที่ปลอดภัยที่สุด เมื่อลูกของเธอเกิดมาอะไรๆมันคงจางลง มันไม่กล้าฆ่าหลานในไส้ของมันที่ออกมาลืมตาดูโลกแล้วแน่ ”

ตะวันเดินทางมาอัมพวาตามที่อยู่ที่ท่านอุเทนบอกเขา สันติ  ประพต   ท .ส.ของท่านอุเทนเดินทางมากับชายหนุ่มด้วย ทั้งสามมาถึงบ้านหลังใหญ่ที่พี่สาวทั้งสองของเขาอาศัยอยู่ บ้านสวนทรงโบราณที่ใหญ่โตแสดงว่าฐานะเดิมของคุณหญิงเพียงเพ็ญร่ำรวยไม่ใช่น้อย

“  คุณมาหาใครคะ ”

เด็กสาวคนหนึ่งออกมาถามเมื่อทั้งสามเข้ามาถึงบ้าน

“  ผมมาขอพบคุณเพ็ญพักต์ กับคุณเพียงโพยมไม่ทราบว่าเธออยู่ไหม ”

“  อยู่ค่ะ อยู่ทั้งสองคนเลย คุณนั่งรอสักครู่นะคะหนูจะไปเรียนเธอให้ค่ะ  ”

หญิงสาวคนนั้นหายเข้าไปมานานสตรีงดงามสองคนก็เดินออกมาตะวันใจเต้นแรงเมื่อเห็นพี่สาวสองคนของเขา ชายหนุ่มยกมือไหว้เพียงโพยมและเพ็ญพักต์มองคนทั้งสามอย่างแปลกใจทั้งสองนั่งลง

“  คุณมาหาฉันหรือคะ ”

เพ็ญพักต์ถาม

“  ครับ  ”
“  ขอโทษนะคะฉันไม่เคยรู้จักคุณมาก่อน ไม่ทราบว่าคุณมีธุระอะไรกับฉันสองคน ”
“  ผมชื่อ สุรียา สุรียาบดีครับ ผมมากราบคุณพี่ทั้งสอง ”

ทั้งเพ็ญพักต์และเพียงโพยมตกตะลึงพวกเธอจ้องหน้าตะวันเขม็ง

“  คุณเอาอะไรมาพูด ”
“  ใช่  น้องชายของฉันเขาหายสาบสูญไปตั้งยี่สิบกว่าปีแล้ว นี่พวกคุณจะมาเล่นตลกอะไรกับพวกฉัน ”
“  คุณพี่ครับ ผมคือสุรียาจริงๆ ที่ผมมาหาคุณพี่ถูก เพราะท่านนายพลอุเทนให้ที่อยู่ของคุณพี่กับผมมา ”
“  เพ็ญพักต์กับเพียงโพยมหันมองหน้ากันเธอจ้องมองน้องชายต่างมารดาอย่างไม่แน่ใจ ”
“  ผมกลับมาเอาสุรียาบดีของเราคืนจากอาทุติยะและป้าทาทอง ”
“  นี่เป็นเธอจริงๆหรือ สุรียา ”

ตะวันเล่าเรื่องทุกอย่างให้พี่สาวทั้งสองฟังสองสาวจับมือน้องชายบีบแน่นน้ำตาซึมอย่างดีใจ

“  พี่คิดว่าชาตินี้คงไม่ได้เห็นหน้าเธอแล้ว พี่กับสุรียาบดีไม่เคยไปมาหาสู่กันเลยตั้งแต่คุณพ่อตายพี่ก็กลับมาอยู่กับคุณยาย และไม่ได้เหยียบย่างไปที่นั่นอีกยี่สิบกว่าปีแล้ว เรื่องของสุรียาบดีพี่ก็ไม่เคยรับรู้ พี่ไปเรียนกันที่เมืองนอกเพิ่งกลับมาเมื่อต้นปี ไม่นึกว่าจะกลับมาเจอเธอนะสุรียา ”
“  ใช่ พี่คิดว่าเธอตายไปแล้ว คุณยายบอกว่าเธอคงไม่รอดหรอกเพราะเป็นลูกชายของคุณพ่อ เป็นคนที่จะสืบทอดสุรียาบดี อาทุติยะต้องไม่ปล่อยเธอแน่ กับพี่ พี่ก็ใช่ว่าจะปลอดภัย คุณน้าพาพี่ไปอยู่มาเลเซียจนเกือบสิบปีแล้วส่งพี่ไปอยู่ออสเตเรีย ”
“  แสดงว่าพี่พี่ก็รู้ถูกพวกอาทุติยะหมายปองชีวิต ”
“  เราต้องเผื่อเอาไว้ จนกระทั่งคุณลุงอุเทนมาบอกกับคุณยายว่าคุณพ่อทำพินัยกรรมยกทรัพย์สินทั้งหมดให้กับเธอและพินัยกรรมมีผลถึงสามสิบปีช่วงนี้พวกเราเลยรู้ว่าปลอดภัย แต่นั่นหมายถึงเธอยังไม่ปรากฏตัว ”
“  เช่นนั้นคุณพี่ก็รู้สิครับว่าผมมาทำไม ”
“  จ่ะ  พี่รู้  ”
“  สุรียา กับพี่พี่น่ะเธอไม่ต้องเป็นห่วง เรามีที่ที่ปลอดภัย แต่เธอสิ อาทุติยะคงไม่ปล่อยเธอหรอก ยิ่งเธอยึดบริษัทคืนอย่างนี้เขาคงแทบกระอักเลือด ยิ่งตอนนี้เขาเป็นรัฐมนตรี อิทธิพลของเขาใหญ่คับฟ้าเธอต้องระวังตัวให้มากนะ  บริษัทของคุณพ่อมีมูลค่าเป็นหมื่นล้าน เธออย่ายอมให้เขาเอากลับไปได้นะ ”
“  ครับ แล้วคุณพี่จะทำอย่างไร ”
“  พี่จะกลับออสเตเรียถ้าหากเป็นแบบนี้เธอจะได้ไม่ต้องกังวล ”

คนของทุติยะกลับมารายงานทุติยะว่า ไม่สามารถหาตัวเพ็ญพักต์และเพียงโพยมพบ

“  ไอ้บ้าเอ้ย ทำไมหาไม่เจอวะ ก็มันอยู่ที่อัมพวา ”
“  บ้านที่อัมพวาไม่มีใครอยู่ครับ อยู่แต่พวกญาติๆของคุณเพ็ญกับคุณเพียง ”
“  แล้วตัวพวกมันไปไหน ทำไมถึงไม่สืบมาให้รู้เรื่อง ”
“  พวกในบ้านบอกว่าเธอสองคนเดินทางไปทั่ว ไปพม่า ไปมาเลเซีย ไปบรูไน ”
“  มันทำอะไรของมันถึงได้อยู่ไม่เป็นที่ ”
“  พวกเธอเป็นนักข่าวอิสระครับท่าน ทำข่าวไปทั่ว ”
“  หะ  นักข่าวหรือ ”

ทุติยะอึ้งนักข่าว นี่เพ็ญพักกับเพียงโพยมเป็นนักข่าว เขาต้องไม่ทำอะไรผลีผลามแน่ เพราะถ้าพลาดอาชีพอย่างเขาจะเละเป็นโจ้กซะเอง ใครๆก็รู้ว่านักข่าวกับนักการเมืองศรศิลปะไม่ค่อยจะกินกันสักเท่าไหร่ เห็นทีเรื่องนี้ชักจะไม่ง่ายอย่างที่คิดเสียแล้ว
ตะวันมาที่บริษัทในฐานะประธานไม่ใช่พนักงานบัญชี เขาเข้าไปนั่งทำงานในห้องของประธาน โดยไม่แวะเข้าไปดูจามจุรีเลย สร้างความเจ็บช้ำให้หญิงสาวนัก ตะวันเรียกประชุมพนักงานระดับหัวหน้ารวมทั้งผู้จัดการฝ่ายบุคคลด้วย เขานั่งที่หัวโต๊ะประชุมกวาดสายตามองทุกคนที่นั่งอยู่ในที่ประชุม จามจุรีนั่งคอแข็งแต่เขาไม่สนใจ

“  ที่ผมเรียกประชุมหัวหน้าฝ่ายและผู้จัดการฝ่ายทุกคนในวันนี้เพราะต้องการจะเปลี่ยนแปลงและเพิ่มเติมตำแหน่งบางตำแหน่งให้เหมาะสมกับงาน ผมต้องการผู้จัดการฝ่ายบัญชีเพิ่มขึ้นหนึ่งตำแหน่งและผู้ช่วยฝ่ายบัญชีอีกหนึ่งตำแหน่ง สองตำแหน่งนี้เราจะจ้างเข้ามาใหม่ คุณจามจุรีคุณเป็นผู้จัดการฝ่ายบุคคลคุณรับเรื่องไปจัดการ ”
“  ค่ะ ”
“  ผมจะย้ายชาตรีไปเป็นผู้ช่วยผู้จัดการโรงงาน เพราะเขามีความสามารถและคล่องตัวไม่ควรจะมาหมกตัวอยู่กับงานบัญชี หน้าที่นี้หาคนใหม่เข้ามาทำแทน  ส่วนกุลธิดาให้มาอยู่ในตำแหน่งผู้ช่วยเลขาของผม พนักงานต่อโทรศัพท์ภายใน ไม่มีความจำเป็น ทั้งหมดวันนี้มีเท่านี้ คุณจามจุรีไปดำเนินการด่วนเลยนะ ”

ตะวันปิดประชุม เขาอยู่เซ็นเอกสารอีกพักใหญ่จึงออกไปจากบริษัท ชาตรีดีใจมากที่ตะวันเลื่อนตำแหน่งให้เขา

“  ผมไม่นึกเลยนะคุณกุลว่าท่านประธานจะเลื่อนตำแหน่งให้ผม ”
“  กุลก็เหมือนกันจากพนักงานต่อโทรศัพท์ได้ไปเป็นผู้ช่วยเลขาของท่านประธาน นับว่าโชคดีจริงๆ ”
“  ท่านประธานคงไม่ได้เล่นเส้นหรอกนะ ท่านให้ทำงานในตำแหน่งที่เหมาะสม คุณชาตรีเก่งและคล่อง ท่านเลยให้ไปเป็นผู้ช่วยผู้จัดการโรงงาน ”

เพื่อนๆเข้ามาแสดงความยินดีและออกความคิดเห็นกัน
ทุติยะถูกฝ่ายค้านยื่นอภิปรายไม่วางใจ เขาจึงวิ่งวุ่นไม่มีเวลามาจัดการเรื่องของบริษัทในตอนนี้ ต้องปล่อยให้ตะวันจัดการเปลี่ยนแปลงชื่อของบริษัทและโยกย้ายตำแหน่งสำคัญ โดยเฉพาะคนของเขาถูกตะวันสับเปลี่ยนตำแหน่งซะหมดเขี้ยวเล็บ ในเวลาเดือนเศษๆตะวันก็สามารถเปลี่ยนชื่อบริษัทจากทุติยะเอ็นจิเนียไปเป็นสุรียาบดีอิควิปเมนท์ได้ ชื่อบริษัทขนาดใหญ่ตั้งเด่นเป็นสง่าเห็นแต่ไกล ทุติยะกับทาทองเหมือนอกจะระเบิด

“  มันเหยียบหน้าผมจนย่อยยับแล้วนะพี่ทอง ไอ้ผีนรกนั่นมันเปลี่ยนชื่อบริษัทไปแล้ว ”
“  เถอะน่า ยังไงใครเขาก็ไม่รู้หรอก มันเปลี่ยนเป็นสุรียาบดีไม่ผิดปกติในสายตาคนภายนอกหรอก ”
“  แต่ที่มันทำนี่มันประกาศออกมาชัดเจนแล้วนะพี่ว่ามันมาเอาสุรียาบดีของมันคืน ”
“  นี่เธอสนใจตำแหน่งรัฐมนตรีของเธอก่อนเถอะ อภิปรายคราวนี้เธอจะหลุดจากตำแหน่งไหม ”
“  ผมก็ยังไม่แน่ใจ ไอ้พวกฝ่ายค้านไม่รู้ไปเอาข้อมูลมาจากไหน ขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจผม ”
“  แล้วท่านนายกว่าอย่างไรบ้าง ”
“  ท่านเรียกผมเข้าไปปรึกษาสองครั้งแล้ว คงต้องรอให้ถึงวันอภิปราย ดูว่าฝ่ายค้านได้ข้อมูลมามากแค่ไหน ”
“  เธอเตรียมตัวรับมือให้ดีก็แล้วกัน นี่รีสอร์ทที่เชียงรายใกล้จะเปิดแล้วพี่ต้องขึ้นไปดูแลใกล้ชิดตอนนี้ยายจามก็ขึ้นไปดูอยู่ รายนั้นพักนี้ทำงานเหมือนคนไม่มีหัวใจเหม่อๆหมองๆเหลือเกิน ให้สวาทเพลาๆงานสังคมมาคอยปลอบใจลูกบ้าง ”
“  จะไปปลอบใจมันทำไมมันไม่ตายหรอกนังลูกไม่รักดีนั่นน่ะ ถ้าเป็นลูกจันทร์ผมจะไม่ว่าสักนิด เพราะลูกจันทร์หัวอ่อนไม่ทันเล่ห์เหลี่ยมคน แต่มันคล่องตัวทุกอย่างแล้วดูที่มันทำ ไอ้ที่ยิ้มขนาดนี้ไอ้นรกนั่นได้ไปถึงขนาดนั้นก็เพราะมัน ”
“  ตายะ พอได้แล้ว เลิกโทษจามมันได้แล้ว ไอ้สุรียามันวางแผนมาดี เธอต้องยอมรับในข้อนี้สิ ”
“  นังจามมันก็มีส่วน ถ้ามันไม่หลงมันจนเอาหุ้นไปให้มัน มันจะทำได้ขนาดนี้หรือ คิดแล้วแค้นใจจริงๆ ”

จันทราท้องได้เกือบสามเดือนแล้ว หน้าท้องของหญิงสาวเริ่มมีแล้ว ตะวันนอนเอามือลูบที่หน้าท้องของภรรยาอย่างแสนรัก จันทราจับมือของเขาไว้

“  ลูกดิ้นหรือยังจันทร์ ”
“  ยังค่ะ ”
“  จะสามเดือนแล้วยังไม่ดิ้นอีกหรือ ”
“  รู้สึกตอดตุ๊บๆแล้วค่ะเวลาเช้าๆ ”
“  จริงหรือ ผู้หญิงหรือผู้ชายนะ ลูกพ่อ ”
“  คุณอยากได้ผู้ชายใช่ไหมคะ ”
“  ผู้หญิงหรือผู้ชายก็ได้ผมรักเขาทั้งนั้น แต่ถ้าเป็นผู้ชาย สุรียาบดีก็จะยืนยาวเพราะเขาจะได้สืบสกุลต่อไป ”
“  จันทร์คิดถึงคุณพ่อ คิดถึงคุณแม่ ป่านนี้ท่านคงเป็นห่วงจันทร์มาก ”
“  อดทนหน่อยนะจันทร์ เพื่อความปลอดภัยของลูกเรา ถ้าคุณไปหาเขาในตอนนี้เขาต้องจับคุณทำแท้งแน่ ”

จันทราเสียวหัวใจวูบ แค่ได้ยินคำว่าทำแท้งเธอก็ใจจะขาดแล้ว เธอไม่ยอมให้ใครมาทำลายลูกของเธอเด็ดขาด เธอรักลูก ลูกที่กำลังก่อกำเนิดในครรภ์ของเธอ

“  ค่ะจันทร์จะทน ”
“  จันทรา ”

ตะวันกอดเธอเอาไว้จูบเบาๆอย่างแสนรัก จันทราแพ้ท้องเธอซีดเซียว เขาอยากพาเธอไปรับอากาศบริสุทธิแถวริมทะเลบ้างเพราะตลอดเวลาจันทราอยู่แต่ในบ้านและในห้องที่อุดอู้ ร่างกายของเธอที่บอบบางอยู่แล้วจึงดูอ่อนแอน่าสงสาร ตะวันเอาเรื่องนี้มาปรึกษากับท่านอุเทน

“  ไม่ได้นะสุรียา ขืนเธอพายายหนูนี่ไปชายทะเลเกิดคนของทุติยะเห็นเข้า ทีนี้เรื่องใหญ่แน่ ”
“  แต่ผมสงสารจันทร์ เธอซีดเซียวเหลือเกิน อยากให้ไปได้รับอากาศบริสุทธิ์บ้าง ”
“  ฉันก็รู้ว่าคนท้องคนไส้จะมาอุดอู้อยู่แต่ในบ้านน่ะมันไม่ดี แต่มันเสี่ยงเกินไปที่จะพากันออกไปข้างนอก ทนเอาอีกสักระยะเถอะนะ ”

ตะวันกลุ้มใจเขาทำได้แค่หาซื้อของบำรุงเอามาให้เธอกิน แต่จันทราแพ้ท้องเธอจึงทานอะไรไม่ได้มาก

“  จันทร์  กินเยอะๆนะ จันทร์จะได้แข็งแรง ลูกก็จะได้แข็งแรง ”
“  จันทร์ก็ฝืนกินเต็มที่แล้ว แต่มันไม่ไหว มันเหม็นไปหมด ”
“  แล้วจันทร์อยากกินอะไรล่ะ ผมจะหาเอามาให้ ”
“  อยากกินข้าวเหนียวเปล่าๆ ”
“  ทำไมถึงอยากกินแบบนั้นล่ะ ข้าวเหนียวเปล่าๆมันจะไปมีประโยชน์อะไร ”
“  แต่จันทร์อยากกิน อย่างอื่นจันทร์กินไม่ลง ”
“  โธ่เอ๋ยจันทร์ ”

ตะวันแสนจะสงสาร แล้วจันทราก็กินได้แต่ข้าวเหนียวนึ่งอย่างเดียวจริงๆ ตะวันเอาเรื่องนี้มาบอกกับมารดา นางสุทธินียิ้มอย่างเอ็นดูลูกชาย

“  คนแพ้ท้องนะลูก กินอะไรไม่เหมือนคนปกติหรอก ”
“  แต่จันทร์ผอมและซีดมากซีดจนผมกลัวว่าเขาจะไม่สบายไปซะก่อน ”
“  ลูกอย่าห่วงเลย มันก็จะเป็นแบบนี้ไปสักพักหนึ่งนั่นแหระ พอท้องได้สักห้าหกเดือนมันก็จะดีขึ้นเอง เชื่อแม่สิ ตอนที่แม่ท้องลูก แม่ก็เป็นแบบนี้แหละ อยากกินอะไรที่คนอื่นเขาไม่กินกัน ลูกรู้ไหมว่าแม่อยากกินอะไร ”
“  อะไรครับ ”
“  ขนุนสุกจิ้มน้ำปลา ”

ตะวันหน้าเบ้



...พิมพ์พิลาสฒ์...
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่