สวัสดีค่า นี่เป็นกระทู้แรกของ จขกท. เลยยย เขินจัง
วันนี้จะมารีวิวทริปสิงคโปร์ที่ไปมาเมื่อวันที่ 11-13 มิ.ย ค่ะ ต้นเดือนมิถุนา นี้เอง ;))
ออกตัวเลยว่า นี่เป็นทริปสามสาวพาวเวอร์พัพเกิร์ลค่ะ อิอิ
การจัดทริป ก็ดูว่าอันไหนต้องไป อันไหนตัวเองชอบ อันไหนเพื่อนอยากไป แล้วก็ดูๆลอกๆจากกระทู้และเพจของคนอื่น!
ดูว่าแต่ละที่อยู่ตรงไหน แล้วจัดทริปด้วยสุดยอดกูรู google map กับแผนที่กระดาษที่มี
แล้วก็วงจุดในแผนที่กระดาษไว้ ว่าอะไรอยู่ตรงไหน
วางแผนว่าจะไปที่ไหนวันไหนช่วงไหน จะกรุ๊ปที่เที่ยวใกล้ๆกันไว้ด้วยกัน ไปทีเดียวไม่เสียเวลา
และจขกท.เพิ่งไปสิงคโปร์มาเมื่อปีที่แล้วจ้า ฉะนั้น จะไม่มียูนิเวอร์แซลในกระทู้นี้ค่ะ ตัดออกที่แรกเลยจ้า ไม่ค่อยปลื้ม มันไม่ว้าวขนาดนั้น ส่วนเพื่อนอีก 2 คนก็ไม่ได้อินกับสวนสนุกเท่าไหร่ เวลามีจำกัด อิอิ ตัดออกแบบสวยๆ แฮ่ :3
รูปถ่ายในทริปนี้ ใช้ Fujifilm Xm-1 เลนส์ 35 mm ค่ะ (ใช้เลนส์ kit ด้วยนิดหน่อย)
มาเริ่มเที่ยวกันเลยยยย ดีกว่า ^^
จาก กทม. บางกอก สู่สิงคโปร์
จขกท.จองตั๋วของ air asia ค่ะ ซื้อเป็นแพคเกจของ airasiago ซื้อตั๋วเครื่องบินพร้อมโรงแรม
ได้ตั๋วไปกลับ ที่พัก 2 คืน ที่ Hotel 81 Heritage แถวสถานี lavender รวมค่าใช้จ่ายส่วนนี้ 5,700 บาทค่ะ
ตอนจองไม่รู้ว่ามันตรงกับช่วงซีเกมส์อะ ToT กลับวันที่บอลไทยแข่งพอดีเลย ไม่ได้ไปดู อดดดดด เสียจายยยยยยยย
วันไป ไปไฟล์ท 6.20น เช้ามากกกกกกกกกกกกก ง่วงมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก ZzzZzzz
ขึ้นเครื่องไปก็หลับค่ะ แต่ความโชคร้ายคือ ที่นั่งด้านหลังมีเด็กน้อยร้องไห้เสียงดัง หลับๆตื่นๆเป็นพักๆตลอด 2 ชั่วโมงกว่าๆ ฮือออออออ
พอไปถึง ก็เดินไปผ่านตม. แล้วก็เปลี่ยนรถไฟไปอีก terminal เพื่อนั่งรถไฟเข้าเมืองกัน
อันนี้รูปในรถไฟที่ไปอีก terminal นึง น่ารักเนอะ
จขกท.นั่งรถไฟเกือบทั้งทริป อาศัยแผนที่กระดาษที่มีทั้งแผนที่รถไฟและแผนที่ถนน ใช้มาตั้งแต่ครั้งที่แล้ว
นั่งรถไฟจากสนามบิน มาสถานี lavender ก่อนเลยเพื่อไปโรงแรม ไปถึงยังเชคอินไม่ได้ ก็เลยฝากกระเป๋าไว้แล้วก็ไปเที่ยวกันเลย
เริ่มที่แรก ไป Red Dot Traffic กันลงสถานี Tanjong Pagar สายสีเขียว เดินจากสถานีไปนิดหน่อยก็จะเจอกับ Red dot traffic เป็นตึกยาวๆ สีแดงๆค่ะ
ซึ่งตึกตรงนี้ เป็นทั้งพิพิธภัณฑ์แล้วก็สำนักงานของพวกบริษัทด้านครีเอทีฟค่ะ
แวะแค่ถ่ายรูปด้านนอกสวยๆใสๆ ไม่ได้เข้าไป อิอิ เดี๋ยวเสียเงิน
จาก Red Dot traffic เดินไปอีกนิดก็จะเจอกับ Maxwell Food Center ค่ะ
ซึ่งที่นี้มีร้านข้าวมันไก่ร้านดังอยู่ ชื่อร้าน Tian Tian
ปีที่แล้ว จขกท. ก็มากินค่ะ ส่วนตัว(ณ ตอนนั้น) อาจจะไม่ใช่แนวที่จขกท.ชอบ แถมจขกท.สั่งมาแล้วไม่ได้หนังไก่เลย เนื้อเพียวๆ
ปีนี้ก็มาใหม่อีกรอบ พาเพื่อนมากิน ตอนสั่ง จขกท.ก็บอกว่าขอหนังไก่ด้วย(คือชอบมากจริงๆ) แล้วก็สั่งผักราดน้ำมันหอยมากินด้วย
ข้าวมันไก่จานละ SG$5 ส่วนผักจากละ SG$4 ค่ะ หน้าตามันเป็นอย่างนี้
น้ำจิ้มรสชาติคล้ายน้ำจิ้มซีฟู๊ด ตอนกินก็กำลังดี แต่พอหยุดกินนี่รู้สึกได้ถึงความเผ็ดมากกกก
โดยรวม ชอบข้าวมันไก่ที่ไทยมากกว่า แห่ะๆ คงถูกปากคนไทยอย่างเราๆมากกว่า เนอะ
ของคาวแล้วมาต่อของหวาน ร้าน Lao Bun Beancurd อยู่ใน Maxwell Food center ที่เดียวกับ Tian Tian เนี่ยละ
เป็นพุดดิ้งน้ำเต้าหู้ มีรส original กับ almond หรือจะสั่งเป็นน้ำเต้าหู้ หรือ Herbal jelly ก็แล้วแต่ที่อยากกินเลย
จขกท.สั่งเป็นพุดดิ้ง Original ค่ะ หน้าตาจะเป็นแบบนี้ รูปไม่ค่อยสวย ต้องขออภัย ราคาอยู่ที่ SG$1.5
รสชาติคือน้ำเต้าหู้นั่นละ แต่มาในรูปแบบพุดดิ้ง อร่อยมากกกกก รสน้ำเต้าหู้ธรรมชาติเนื้อเด้งดึ๋ง ถ้วยก็ใหญ่
อากาศร้อนๆที่สิงคโปร์เจอพุดดิ้งเย็นๆเข้าไป ฟินนนนนน อ่า เต็มพลังในร่างกายที่สุด! >,<
และอย่างที่บอก อากาศที่สิงคโปร์ร้อนมาก แล้ว Food Center มันไม่มีแอร์ เลยดูแผนที่หาที่เย็นๆไปพักก่อน ว่าแล้วเลยเดินไป Singapore City Gallery อยู่ข้าง food center แค่ซอยกั้น ก็เข้าไปเข้าห้องน้ำ นั่งตากแอร์ แล้วก็ดูบรรยากาศชั้น 1 นิดหน่อยๆ
ตรงชั้น 1 มีโมเดลอาคารบ้านเรือนไว้ให้ชมกัน แล้วก็มีพวกงานดีไซน์ตั้งโชว์ ใครชอบงานศิลปะ มาที่นี้น่าจะถูกใจ
พอนั่งตากแอร์กันสบายใจแล้ว ก็ไปเดินเล่นดูบรรยากาศแถว China Town กัน
แถวนี้จะเน้นอาคารตึกแถวสไตล์เก่าๆ แต่ดูสวย มีร้านตั้งแต่จีนๆ ไปจนถึงโมเดิร์นชิคๆและยังมีวัดสำคัญๆตั้งอยู่
เดินไปเรื่อยๆ เห็นไอติม SG$1 ค่ะ เป็นไอติมตัด จะกินแต่ไอติมก็ได้ หรือจะห่อด้วยขนมปังหรือแผ่นเวเฟอร์ก็ได้(แต่เพิ่มอีก SG$0.2)
เป็นไอติมที่หาได้ทั่วไปตามท้องถนนที่สิงคโปร์ ก็มีเพื่อนจัดมาค่ะ เนื่องจากหิวและร้อน มากกกกกกกก
จริงๆว่าจะเดินดูนู้นนี่นั้นไปเรื่อยๆ และตั้งใจจะไปแถวถนน everton
แต่เนื่องจากสภาพแต่ละคนเหนื่อยล้าจากการที่นอนกันมาน้อย เลยนั่งรถไฟไป Suntec City อยู่สถานี Promenade สายสีส้ม
ซึ่งตึกนี้มี Fountain of Wealth อยู่ น้ำพุนี้มีรอบเวลาเปิดปิดนะคะ เช็ครอบกันด้วยยยย
ปีที่แล้วตอนไปไม่รู้ ไปถึงอีกห้านาทีจะปิดรอบนั้น วิ่งกันหน้าตั้งเลยจ้า
ตามธรรมเนียม เอามือแตะน้ำ เดินวน 3 รอบตามเข็มนาฬิกา อธิษฐานในใจ เป็นอันเรียบร้อย
ก่อนจะออกมา ฝนตกหนัก เลยนั่งตากแอร์รอฝนหยุด พอฝนหยุด ก็เลยกลับโรงแรมไปเช็คอินแล้วนอนพักก่อน
-ต่อที่คอมเม้นนะคะ-
[CR] [แบกกล้องเที่ยวสิงคโปร์] 3 วัน 2 คืน ฉบับสาวออฟฟิต
สวัสดีค่า นี่เป็นกระทู้แรกของ จขกท. เลยยย เขินจัง
วันนี้จะมารีวิวทริปสิงคโปร์ที่ไปมาเมื่อวันที่ 11-13 มิ.ย ค่ะ ต้นเดือนมิถุนา นี้เอง ;))
ออกตัวเลยว่า นี่เป็นทริปสามสาวพาวเวอร์พัพเกิร์ลค่ะ อิอิ
การจัดทริป ก็ดูว่าอันไหนต้องไป อันไหนตัวเองชอบ อันไหนเพื่อนอยากไป แล้วก็ดูๆลอกๆจากกระทู้และเพจของคนอื่น!
ดูว่าแต่ละที่อยู่ตรงไหน แล้วจัดทริปด้วยสุดยอดกูรู google map กับแผนที่กระดาษที่มี
แล้วก็วงจุดในแผนที่กระดาษไว้ ว่าอะไรอยู่ตรงไหน
วางแผนว่าจะไปที่ไหนวันไหนช่วงไหน จะกรุ๊ปที่เที่ยวใกล้ๆกันไว้ด้วยกัน ไปทีเดียวไม่เสียเวลา
และจขกท.เพิ่งไปสิงคโปร์มาเมื่อปีที่แล้วจ้า ฉะนั้น จะไม่มียูนิเวอร์แซลในกระทู้นี้ค่ะ ตัดออกที่แรกเลยจ้า ไม่ค่อยปลื้ม มันไม่ว้าวขนาดนั้น ส่วนเพื่อนอีก 2 คนก็ไม่ได้อินกับสวนสนุกเท่าไหร่ เวลามีจำกัด อิอิ ตัดออกแบบสวยๆ แฮ่ :3
รูปถ่ายในทริปนี้ ใช้ Fujifilm Xm-1 เลนส์ 35 mm ค่ะ (ใช้เลนส์ kit ด้วยนิดหน่อย)
มาเริ่มเที่ยวกันเลยยยย ดีกว่า ^^
จาก กทม. บางกอก สู่สิงคโปร์
จขกท.จองตั๋วของ air asia ค่ะ ซื้อเป็นแพคเกจของ airasiago ซื้อตั๋วเครื่องบินพร้อมโรงแรม
ได้ตั๋วไปกลับ ที่พัก 2 คืน ที่ Hotel 81 Heritage แถวสถานี lavender รวมค่าใช้จ่ายส่วนนี้ 5,700 บาทค่ะ
ตอนจองไม่รู้ว่ามันตรงกับช่วงซีเกมส์อะ ToT กลับวันที่บอลไทยแข่งพอดีเลย ไม่ได้ไปดู อดดดดด เสียจายยยยยยยย
วันไป ไปไฟล์ท 6.20น เช้ามากกกกกกกกกกกกก ง่วงมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก ZzzZzzz
ขึ้นเครื่องไปก็หลับค่ะ แต่ความโชคร้ายคือ ที่นั่งด้านหลังมีเด็กน้อยร้องไห้เสียงดัง หลับๆตื่นๆเป็นพักๆตลอด 2 ชั่วโมงกว่าๆ ฮือออออออ
พอไปถึง ก็เดินไปผ่านตม. แล้วก็เปลี่ยนรถไฟไปอีก terminal เพื่อนั่งรถไฟเข้าเมืองกัน
อันนี้รูปในรถไฟที่ไปอีก terminal นึง น่ารักเนอะ
จขกท.นั่งรถไฟเกือบทั้งทริป อาศัยแผนที่กระดาษที่มีทั้งแผนที่รถไฟและแผนที่ถนน ใช้มาตั้งแต่ครั้งที่แล้ว
นั่งรถไฟจากสนามบิน มาสถานี lavender ก่อนเลยเพื่อไปโรงแรม ไปถึงยังเชคอินไม่ได้ ก็เลยฝากกระเป๋าไว้แล้วก็ไปเที่ยวกันเลย
เริ่มที่แรก ไป Red Dot Traffic กันลงสถานี Tanjong Pagar สายสีเขียว เดินจากสถานีไปนิดหน่อยก็จะเจอกับ Red dot traffic เป็นตึกยาวๆ สีแดงๆค่ะ
ซึ่งตึกตรงนี้ เป็นทั้งพิพิธภัณฑ์แล้วก็สำนักงานของพวกบริษัทด้านครีเอทีฟค่ะ
แวะแค่ถ่ายรูปด้านนอกสวยๆใสๆ ไม่ได้เข้าไป อิอิ เดี๋ยวเสียเงิน
จาก Red Dot traffic เดินไปอีกนิดก็จะเจอกับ Maxwell Food Center ค่ะ
ซึ่งที่นี้มีร้านข้าวมันไก่ร้านดังอยู่ ชื่อร้าน Tian Tian
ปีที่แล้ว จขกท. ก็มากินค่ะ ส่วนตัว(ณ ตอนนั้น) อาจจะไม่ใช่แนวที่จขกท.ชอบ แถมจขกท.สั่งมาแล้วไม่ได้หนังไก่เลย เนื้อเพียวๆ
ปีนี้ก็มาใหม่อีกรอบ พาเพื่อนมากิน ตอนสั่ง จขกท.ก็บอกว่าขอหนังไก่ด้วย(คือชอบมากจริงๆ) แล้วก็สั่งผักราดน้ำมันหอยมากินด้วย
ข้าวมันไก่จานละ SG$5 ส่วนผักจากละ SG$4 ค่ะ หน้าตามันเป็นอย่างนี้
น้ำจิ้มรสชาติคล้ายน้ำจิ้มซีฟู๊ด ตอนกินก็กำลังดี แต่พอหยุดกินนี่รู้สึกได้ถึงความเผ็ดมากกกก
โดยรวม ชอบข้าวมันไก่ที่ไทยมากกว่า แห่ะๆ คงถูกปากคนไทยอย่างเราๆมากกว่า เนอะ
ของคาวแล้วมาต่อของหวาน ร้าน Lao Bun Beancurd อยู่ใน Maxwell Food center ที่เดียวกับ Tian Tian เนี่ยละ
เป็นพุดดิ้งน้ำเต้าหู้ มีรส original กับ almond หรือจะสั่งเป็นน้ำเต้าหู้ หรือ Herbal jelly ก็แล้วแต่ที่อยากกินเลย
จขกท.สั่งเป็นพุดดิ้ง Original ค่ะ หน้าตาจะเป็นแบบนี้ รูปไม่ค่อยสวย ต้องขออภัย ราคาอยู่ที่ SG$1.5
รสชาติคือน้ำเต้าหู้นั่นละ แต่มาในรูปแบบพุดดิ้ง อร่อยมากกกกก รสน้ำเต้าหู้ธรรมชาติเนื้อเด้งดึ๋ง ถ้วยก็ใหญ่
อากาศร้อนๆที่สิงคโปร์เจอพุดดิ้งเย็นๆเข้าไป ฟินนนนนน อ่า เต็มพลังในร่างกายที่สุด! >,<
และอย่างที่บอก อากาศที่สิงคโปร์ร้อนมาก แล้ว Food Center มันไม่มีแอร์ เลยดูแผนที่หาที่เย็นๆไปพักก่อน ว่าแล้วเลยเดินไป Singapore City Gallery อยู่ข้าง food center แค่ซอยกั้น ก็เข้าไปเข้าห้องน้ำ นั่งตากแอร์ แล้วก็ดูบรรยากาศชั้น 1 นิดหน่อยๆ
ตรงชั้น 1 มีโมเดลอาคารบ้านเรือนไว้ให้ชมกัน แล้วก็มีพวกงานดีไซน์ตั้งโชว์ ใครชอบงานศิลปะ มาที่นี้น่าจะถูกใจ
พอนั่งตากแอร์กันสบายใจแล้ว ก็ไปเดินเล่นดูบรรยากาศแถว China Town กัน
แถวนี้จะเน้นอาคารตึกแถวสไตล์เก่าๆ แต่ดูสวย มีร้านตั้งแต่จีนๆ ไปจนถึงโมเดิร์นชิคๆและยังมีวัดสำคัญๆตั้งอยู่
เดินไปเรื่อยๆ เห็นไอติม SG$1 ค่ะ เป็นไอติมตัด จะกินแต่ไอติมก็ได้ หรือจะห่อด้วยขนมปังหรือแผ่นเวเฟอร์ก็ได้(แต่เพิ่มอีก SG$0.2)
เป็นไอติมที่หาได้ทั่วไปตามท้องถนนที่สิงคโปร์ ก็มีเพื่อนจัดมาค่ะ เนื่องจากหิวและร้อน มากกกกกกกก
จริงๆว่าจะเดินดูนู้นนี่นั้นไปเรื่อยๆ และตั้งใจจะไปแถวถนน everton
แต่เนื่องจากสภาพแต่ละคนเหนื่อยล้าจากการที่นอนกันมาน้อย เลยนั่งรถไฟไป Suntec City อยู่สถานี Promenade สายสีส้ม
ซึ่งตึกนี้มี Fountain of Wealth อยู่ น้ำพุนี้มีรอบเวลาเปิดปิดนะคะ เช็ครอบกันด้วยยยย
ปีที่แล้วตอนไปไม่รู้ ไปถึงอีกห้านาทีจะปิดรอบนั้น วิ่งกันหน้าตั้งเลยจ้า
ตามธรรมเนียม เอามือแตะน้ำ เดินวน 3 รอบตามเข็มนาฬิกา อธิษฐานในใจ เป็นอันเรียบร้อย
ก่อนจะออกมา ฝนตกหนัก เลยนั่งตากแอร์รอฝนหยุด พอฝนหยุด ก็เลยกลับโรงแรมไปเช็คอินแล้วนอนพักก่อน
-ต่อที่คอมเม้นนะคะ-