เริ่มเลยนะค่ะ....
ครอบครัวเราเป็นครอบครัวเล็กๆค่ะ มีครอบครัวน้องสาวแม่ (น้า+สามี และ ลูก อีก1 คน ) และครอบครัวดิฉัน (พ่อ+แม่+พี่ชาย+ดิฉัน)
หลานชายดิฉันถูกแม่เลี้ยงตั้งแต่ 2 เดือน จนตอนนี้ อายุ 11 ปีแล้ว ตั้งแต่ เค้า ยุ ป.3 ช่วงปิดเทอมให้ หลานชายดิฉัน จะบวชภาคฤดูร้อนในวัดใกล้บ้านทุกปี
เค้าอยากบวชเองนะค่ะ...ไม่มีใครบังคับ... จนมา2 ปีที่แล้ว แม่หลานมารับ ดิฉันกับครอบครัวไปเที่ยว วัดหลวงพ่อโสธร (ตามธรรมดาคนบ้านนอกเนาะ! 55 พ่อแม่หลานทำงานอยู่สมุทรปราการค่ะ ) ตอนนั้นหลานก็ยังเป็นสามเณรนะค่ะ...ไปแบบนั้นเลย พากันไปเที่ยววัด ช่วงเช้าให้ฉันท์เช้าอยู่ที่บ้านพัก แล้วค่อยเดินทางไปวัดกัน พอไป
ถึงวัด เวลาประมาณ 10.30 ก็พากันเดินลงรถ...ทางหน้ากับแม่ ก็พากันมองหาร้านข้าว เพื่อที่จะให้สามเณรน้อย ฉันท์เพล ระหว่างรีบเดินหากันนั้น
ก็มีหลวงพ่อ เดินมาถามสามเณรน้อย ว่าฉันท์เพลรึยัง สามเณรน้อยก็ตอบทันใด ว่า "ยังครับ" แล้วท่านก็หันมาบอกทางพวกเราว่า ญาติของสามเณรอยู่ที่นี่แระ เดี๋ยวจะพาสามเณรไปฉันท์เพลด้วยกัน แล้ว ท่านก็พาหลานเดินไปอีกตึกหนึ่ง ที่อยู่ตรงข้ามทางเข้าวัด
ครอบครัวดิฉัน ยืนสตันท์ อยู่หน้าประตูวัดประมาณ 10 วิแล้วก้มองหน้ากันแบบว่าเอายังไง ต่อ คืออะไร พวกเราต้องรออยู่ตรงไหน พอทุกคนมีสติกัน เวลาผ่านไปได้ประมาณ 15 นาที
เลยพากันเดินตามไปดูทางที่หลวงพ่อพาสามเณรน้อยเดินไป
พอเดินตรงไปสุดทางเท่านั้นล่ะคะ... ทางออกอีกทาง มองออกไป นี่มันที่จอดรถนี่น่าา ทุกคนตอนนั้นงียบบ ไม่พูดอะไรแต่ในใจนี่แบบ ตายแล้วว หลานชายไปกับใครก็ไม่รู้...ทุกคนอยู่ในสภาพตกใจ กระวนกระวายสุดๆ
พอคิดได้ ว่าหลานมีโทรศัพท์ ก็รีบโทรเข้าทันที สายแรก ไม่รับ สายที่สอง ไม่รับ สายที่สาม ไม่มีสัญญาณตอบรับ ปิดเครื่อง..!!!
ทุกคนตกใจยิ่งกว่าเดิมค่ะ.......แม่กับน้า นี่ น่าซีดด กันเลยทีเดียว
หลังจากที่ลองถามคนแถวนั้นว่า เคยเห็น หลวงพ่อ รูปร่างลักษณะ แบบนี้มั้ยแต่......ทุกคนบอกไม่รุ้จัก!!!
หลังจากยืนคุยกันกำลังจะตกลงกันว่าจะเอายังไง จะแจ้งตำรวจดีมั้ย? ไม่มีหลักฐานอะไรเลย แม่กับน้าก็กำลังโทษตัวเองที่ไม่ได้ทำอะไรเลย
และตอนนั้นเองค่ะ......หลานชายก็เดินออกมาจากในอาคาร อาคารหนึ่ง แถวๆ นั้น พวกเราก็เดินไปหาทันที
คำแรกที่สามเณรน้อยพูด "โทรหาทำไมหลายสาย ฉันท์เพลอยู่ โยมที่มาถวายก็เยอะมาก กำลังให้พรอยู่เลยปิดเครื่อง..."
พวกเราทุกคนต่างโล่งใจ และดีใจที่หลานชายปลอดภัย หลังจากนั้น สามเณรน้อยก็ยังยื่น ซองปัจจัย ฝากไว้ที่แม่ "ได้ปัจจัยมาด้วยโยมข้างในถวายมา"
พอสอบถามคนติดตามหลวงพ่อที่เดินออกมาด้วย เค้าบอกว่า ท่านเป็นพระครูอยู่ที่นี่นั้นเองค่ะ
จนถึงทุกวันนี้ทั้งครอบครัวของเรา ก็ยังจดจำได้จนทุกวันนี้ค่ะ... ทั้งประทับใจและดีใจสำหรับครอบครัวดิฉัน และเป็นบทเรียนอีกอย่างหนึ่งได้เลยค่ะ
ขอบคุณสำหรับทุกคนที่อ่านจบด้วยนะค่ะ
ฝากเตือนด้วยนะค่ะ....ทุกอย่างเราต้องมีสติมากๆ ค่ะ
ใครเคยไปวัด หลวงพ่อโสธรบ้างค่ะ....ความทรงจำครั้งนั้นที่จะไม่ลืมเลยสำหรับครอบครัวเรา
ครอบครัวเราเป็นครอบครัวเล็กๆค่ะ มีครอบครัวน้องสาวแม่ (น้า+สามี และ ลูก อีก1 คน ) และครอบครัวดิฉัน (พ่อ+แม่+พี่ชาย+ดิฉัน)
หลานชายดิฉันถูกแม่เลี้ยงตั้งแต่ 2 เดือน จนตอนนี้ อายุ 11 ปีแล้ว ตั้งแต่ เค้า ยุ ป.3 ช่วงปิดเทอมให้ หลานชายดิฉัน จะบวชภาคฤดูร้อนในวัดใกล้บ้านทุกปี
เค้าอยากบวชเองนะค่ะ...ไม่มีใครบังคับ... จนมา2 ปีที่แล้ว แม่หลานมารับ ดิฉันกับครอบครัวไปเที่ยว วัดหลวงพ่อโสธร (ตามธรรมดาคนบ้านนอกเนาะ! 55 พ่อแม่หลานทำงานอยู่สมุทรปราการค่ะ ) ตอนนั้นหลานก็ยังเป็นสามเณรนะค่ะ...ไปแบบนั้นเลย พากันไปเที่ยววัด ช่วงเช้าให้ฉันท์เช้าอยู่ที่บ้านพัก แล้วค่อยเดินทางไปวัดกัน พอไป
ถึงวัด เวลาประมาณ 10.30 ก็พากันเดินลงรถ...ทางหน้ากับแม่ ก็พากันมองหาร้านข้าว เพื่อที่จะให้สามเณรน้อย ฉันท์เพล ระหว่างรีบเดินหากันนั้น
ก็มีหลวงพ่อ เดินมาถามสามเณรน้อย ว่าฉันท์เพลรึยัง สามเณรน้อยก็ตอบทันใด ว่า "ยังครับ" แล้วท่านก็หันมาบอกทางพวกเราว่า ญาติของสามเณรอยู่ที่นี่แระ เดี๋ยวจะพาสามเณรไปฉันท์เพลด้วยกัน แล้ว ท่านก็พาหลานเดินไปอีกตึกหนึ่ง ที่อยู่ตรงข้ามทางเข้าวัด
ครอบครัวดิฉัน ยืนสตันท์ อยู่หน้าประตูวัดประมาณ 10 วิแล้วก้มองหน้ากันแบบว่าเอายังไง ต่อ คืออะไร พวกเราต้องรออยู่ตรงไหน พอทุกคนมีสติกัน เวลาผ่านไปได้ประมาณ 15 นาที
เลยพากันเดินตามไปดูทางที่หลวงพ่อพาสามเณรน้อยเดินไป
พอเดินตรงไปสุดทางเท่านั้นล่ะคะ... ทางออกอีกทาง มองออกไป นี่มันที่จอดรถนี่น่าา ทุกคนตอนนั้นงียบบ ไม่พูดอะไรแต่ในใจนี่แบบ ตายแล้วว หลานชายไปกับใครก็ไม่รู้...ทุกคนอยู่ในสภาพตกใจ กระวนกระวายสุดๆ
พอคิดได้ ว่าหลานมีโทรศัพท์ ก็รีบโทรเข้าทันที สายแรก ไม่รับ สายที่สอง ไม่รับ สายที่สาม ไม่มีสัญญาณตอบรับ ปิดเครื่อง..!!!
ทุกคนตกใจยิ่งกว่าเดิมค่ะ.......แม่กับน้า นี่ น่าซีดด กันเลยทีเดียว
หลังจากที่ลองถามคนแถวนั้นว่า เคยเห็น หลวงพ่อ รูปร่างลักษณะ แบบนี้มั้ยแต่......ทุกคนบอกไม่รุ้จัก!!!
หลังจากยืนคุยกันกำลังจะตกลงกันว่าจะเอายังไง จะแจ้งตำรวจดีมั้ย? ไม่มีหลักฐานอะไรเลย แม่กับน้าก็กำลังโทษตัวเองที่ไม่ได้ทำอะไรเลย
และตอนนั้นเองค่ะ......หลานชายก็เดินออกมาจากในอาคาร อาคารหนึ่ง แถวๆ นั้น พวกเราก็เดินไปหาทันที
คำแรกที่สามเณรน้อยพูด "โทรหาทำไมหลายสาย ฉันท์เพลอยู่ โยมที่มาถวายก็เยอะมาก กำลังให้พรอยู่เลยปิดเครื่อง..."
พวกเราทุกคนต่างโล่งใจ และดีใจที่หลานชายปลอดภัย หลังจากนั้น สามเณรน้อยก็ยังยื่น ซองปัจจัย ฝากไว้ที่แม่ "ได้ปัจจัยมาด้วยโยมข้างในถวายมา"
พอสอบถามคนติดตามหลวงพ่อที่เดินออกมาด้วย เค้าบอกว่า ท่านเป็นพระครูอยู่ที่นี่นั้นเองค่ะ
จนถึงทุกวันนี้ทั้งครอบครัวของเรา ก็ยังจดจำได้จนทุกวันนี้ค่ะ... ทั้งประทับใจและดีใจสำหรับครอบครัวดิฉัน และเป็นบทเรียนอีกอย่างหนึ่งได้เลยค่ะ
ขอบคุณสำหรับทุกคนที่อ่านจบด้วยนะค่ะ
ฝากเตือนด้วยนะค่ะ....ทุกอย่างเราต้องมีสติมากๆ ค่ะ